ติดตามรีวิวใหม่ๆ ก่อนใครได้ที่ : https://www.Facebook.com/23SCENES
feature film, action
เรื่อง: 400 นักรบขุนรองปลัดชู (เจตนิพัทธ์ สาสิงห์, 2561)
คะแนน: 6.5/10
หนังเล่าเรื่องในรัชสมัยของ สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ ก่อนการเสียกรุงฯ ครั้งที่ 2 ราว 5 ปี “พระเจ้าอลองพญา” (กษัตริย์แห่งเมืองอังวะ) ได้ส่งกองทัพรี้พลจำนวน 2 หมื่นนายยกมายึดเมืองตะนาวศรีและเมืองมะริด ซึ่งเป็นเมืองท่าที่สำคัญของอโยธยาในแถบทะเลอันดามัน หลังจากที่ทราบข่าวของข้าศึก ทางอโยธยาจึงส่งกองทัพ 2 กองเข้าสกัดเพื่อปกป้องรักษาแผ่นดิน คือกองทัพของ เจ้าพระยายมราช และ กองทัพของเจ้าพระยารัตนาธิเบศร์ ขณะเดียวกัน “ขุนรองปลัดชู” กรมการเมืองวิเศษไชยชาญ ได้รวบรวมเหล่าอาสาอาทมาฏจำนวน 400 นายให้มาร่วมทัพด้วย หลังจากนั้นเมื่อเจ้าพระยารัตนาธิเบศร์ทราบข่าวว่า ทัพของเจ้าพระยายมราชแตกพ่ายโดยกองทัพของอังวะที่กำลังเดินทัพเข้ามา จึงมอบหมายให้ขุนรองปลัดชูนำกองกำลังอาทมาฏ 400 นายไปสกัดทัพของอังวะเอาไว้ที่เมืองกุยบุรี ไม่นานนักกองทัพของ “มังระราชบุตร” และ “มังฆ้องนรธา” ก็เคลื่อนผ่านช่องด่านสิงขร และได้ประจัญหน้ากับกองทัพของไทยขวางอยู่ที่เมืองกุยบุรีจึงเกิดการต่อสู้กับขึ้น ถึงแม้ทหารของฝ่ายไทยจะมีจำนวนน้อยกว่าข้าศึกหลายเท่าตัวก็ตาม และแม้จะรู้ว่าจุดจบจะเป็นเช่นไร หาก ขุนรองปลัดชูและนักรบผู้กล้าทั้ง 400 นายก็หาได้หวาดหวั่นแม้รู้ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิตของพวกตนก็ตามที นี่คือ วีรกรรมอันกล้าหาญของบรรพชนที่ยอมเสียสละแม้กระทั่งชีวิตของตน เพื่อให้ชนรุ่นหลังได้มีแผ่นดินอยู่อาศัย แม้วีรกรรมของพวกเขาอาจจะไม่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง หากคุณงามความดีของทุกคนจะยังคงอยู่ตลอดไปตราบนานเท่านาน
ตัวหนังเล่าเรื่องได้ธรรมดา ไม่ได้น่าสนใจเท่าไหร่ ซึ่งเอาเข้าจริงๆ มันไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่หรือน่าจดจำอะไรเลยด้วยซ้ำ ซึ่งมันดีหน่อยเอาช่วงองก์สาม ที่ทำให้เราร่วมลุ้นไปกับตัวละครได้
ทั้งนี้ต้องขอชมในเรื่องของงาน design ที่ออกแบบมาสุดมากๆ เก็บรายละเอียดดี ยิ่งฉากแอคชั่นที่ดุเดือด ดิบ และมั่วๆ มึนๆ แต่รวมๆ คือเราชอบมากนะ
เป็นหนังไทยที่รวมนักแสดงหน้าใหม่ไว้เพียบ ซึ่งล้วนแล้วแต่เล่นแข็งทั้งนั้น เลยทำให้ตัวหนังดูตลก และไม่จริงจังเท่าที่มันควรจะเป็น
โดยรวมเป็นหนังประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้น่าเบื่อ แต่ก็ไม่ได้น่าติดตามอะไรขนาดนั้น ดูได้เรื่อยๆ
[CR] Movie Review : 400 นักรบขุนรองปลัดชู [6.5/10]
feature film, action
เรื่อง: 400 นักรบขุนรองปลัดชู (เจตนิพัทธ์ สาสิงห์, 2561)
คะแนน: 6.5/10
หนังเล่าเรื่องในรัชสมัยของ สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ ก่อนการเสียกรุงฯ ครั้งที่ 2 ราว 5 ปี “พระเจ้าอลองพญา” (กษัตริย์แห่งเมืองอังวะ) ได้ส่งกองทัพรี้พลจำนวน 2 หมื่นนายยกมายึดเมืองตะนาวศรีและเมืองมะริด ซึ่งเป็นเมืองท่าที่สำคัญของอโยธยาในแถบทะเลอันดามัน หลังจากที่ทราบข่าวของข้าศึก ทางอโยธยาจึงส่งกองทัพ 2 กองเข้าสกัดเพื่อปกป้องรักษาแผ่นดิน คือกองทัพของ เจ้าพระยายมราช และ กองทัพของเจ้าพระยารัตนาธิเบศร์ ขณะเดียวกัน “ขุนรองปลัดชู” กรมการเมืองวิเศษไชยชาญ ได้รวบรวมเหล่าอาสาอาทมาฏจำนวน 400 นายให้มาร่วมทัพด้วย หลังจากนั้นเมื่อเจ้าพระยารัตนาธิเบศร์ทราบข่าวว่า ทัพของเจ้าพระยายมราชแตกพ่ายโดยกองทัพของอังวะที่กำลังเดินทัพเข้ามา จึงมอบหมายให้ขุนรองปลัดชูนำกองกำลังอาทมาฏ 400 นายไปสกัดทัพของอังวะเอาไว้ที่เมืองกุยบุรี ไม่นานนักกองทัพของ “มังระราชบุตร” และ “มังฆ้องนรธา” ก็เคลื่อนผ่านช่องด่านสิงขร และได้ประจัญหน้ากับกองทัพของไทยขวางอยู่ที่เมืองกุยบุรีจึงเกิดการต่อสู้กับขึ้น ถึงแม้ทหารของฝ่ายไทยจะมีจำนวนน้อยกว่าข้าศึกหลายเท่าตัวก็ตาม และแม้จะรู้ว่าจุดจบจะเป็นเช่นไร หาก ขุนรองปลัดชูและนักรบผู้กล้าทั้ง 400 นายก็หาได้หวาดหวั่นแม้รู้ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิตของพวกตนก็ตามที นี่คือ วีรกรรมอันกล้าหาญของบรรพชนที่ยอมเสียสละแม้กระทั่งชีวิตของตน เพื่อให้ชนรุ่นหลังได้มีแผ่นดินอยู่อาศัย แม้วีรกรรมของพวกเขาอาจจะไม่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง หากคุณงามความดีของทุกคนจะยังคงอยู่ตลอดไปตราบนานเท่านาน
ตัวหนังเล่าเรื่องได้ธรรมดา ไม่ได้น่าสนใจเท่าไหร่ ซึ่งเอาเข้าจริงๆ มันไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่หรือน่าจดจำอะไรเลยด้วยซ้ำ ซึ่งมันดีหน่อยเอาช่วงองก์สาม ที่ทำให้เราร่วมลุ้นไปกับตัวละครได้
ทั้งนี้ต้องขอชมในเรื่องของงาน design ที่ออกแบบมาสุดมากๆ เก็บรายละเอียดดี ยิ่งฉากแอคชั่นที่ดุเดือด ดิบ และมั่วๆ มึนๆ แต่รวมๆ คือเราชอบมากนะ
เป็นหนังไทยที่รวมนักแสดงหน้าใหม่ไว้เพียบ ซึ่งล้วนแล้วแต่เล่นแข็งทั้งนั้น เลยทำให้ตัวหนังดูตลก และไม่จริงจังเท่าที่มันควรจะเป็น
โดยรวมเป็นหนังประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้น่าเบื่อ แต่ก็ไม่ได้น่าติดตามอะไรขนาดนั้น ดูได้เรื่อยๆ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้