#adrift #รักเธอฝ่าเฮอริเคน #พูดคุยหลังดูหนังจบ

1. เหมาะสำหรับดูกับคู่รัก หนังแนวสาวแกร่ง ฉากพระนางดูมีเคมีดีจัง อยู่ในระดับดูเพลิน แบบไม่งงเท่าไหร่

2. ชอบการคัดตัว เวลาเล่นคู่กันดูน่ารักดี นางเอกแบบสาวบ้านๆ ตามตรอกข้าวสาร แต่อารมณ์เวลาแสดงทำให้แอบอินได้นิดๆเลยนะ พระเอกก็ดูดีมีเสน่ห์ดีจัง

3. ชอบเรื่องราวความรักแบบหวานๆ (แม้ทั้งคู่จะออกแนวคู่หูคู่ลุยก็ตาม) ทำให้หนังออกแนวหนังรัก มากกว่าหนังแนวเอาชีวิตรอดเสียอีก

4. การเล่าเรื่อง ตัดสลับกับหลังเรือฝ่าพายุ และก่อนหน้าที่ทั้งสองจะได้เจอกันดั่งพรหมลิขิต แน่นอนว่าทำให้บางทีก็งง แต่ไม่มาก จริงๆก็ดีนะ ทำให้หนังไม่น่าเบื่อตลอดทั้ง 100 นาที

5. เรื่องนี้สร้าง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จากเรื่องจริง (อีกแล้ว) ปี 1984 หนังจึงเหมือนสปอยตัวเองว่า อย่างไรต้องมีคนรอดมาเล่าเรื่อง ดังนั้นอาการลุ้นๆจึงแทบไม่มี และหนังก็ฉลาด ที่เน้นไปเล่าเรื่องรักซะส่วนใหญ่แทนซะด้วย

6. งานสร้าง ก็ ok สมจริงใช้ได้ ถ่ายทำได้สวยดี ฉากฝ่าพายุน่ากลัวปานกลาง ดูสมจริง แต่ไม่เน้นแอ็คชั่นอะไรอย่างที่หวัง

7. กับบทสรุป [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ที่ก็พอเดาได้กับพิรุธเล็กๆระหว่างเรื่อง ก็แอบเซอร์ไพรส์นิดๆได้อยู่นะ แต่บางคนก็อาจแอบงง ว่ามันเริ่มตั้งแต่จุดไหนกันแน่

8. เสียดาย หนังเล่าประวัติภูมิหลัง พระเอกนางเอกน้อยไปนิด ทั้งๆที่เกริ่นมาในหนังน่าสนใจมากๆ เอามาขยายได้อีกเยอะ แต่อาจจะกลัวว่าหนังหลงประเด็น และเพิ่มต้นทุนมากเกินไป (แต่เท่าที่ฟัง อยากเผือกต่อมากๆ 555)

9. มาหาสาระจากหนัง... การมีไมตรีต่อคนแปลกหน้า บางครั้งอาจเป็นสะพานให้เจอกับอีกครึ่งชีวิตก็ได้นะ (นางเอกตักน้ำแข็งบริการโดยไม่คิดมาก แต่ได้แฟนเฉยเลย ขำๆนะ)

10. สรุป ดูเพลินๆ เป็นหนังรักกำลังดี... แต่ในแง่หนังเอาชีวิตรอด อย่าไปคาดหวังมาก ตามคำวิจารณ์ในรูปประกอบเลย เรื่องนี้เด่นเรื่องอารมณ์มากกว่าเยอะ