เป็นเรื่องราว ที่ผ่านมาจะครบ 1 ปี แล้ว พ่อได้เสียปีที่แล้วตรงกับวันเข้าพรรษา

พ่อสุขภาพไม่แข็งแรงมาแต่เด็กเป็นหัวใจโตและลิ้นหัวใจรั่ว นิ่วในไต และโรคคนแก่ความดันปกติหมอจะนัดทุก 2 เดือนเพื่อตรวจสุขภาพ ซึ่งไม่มีอะไรผิดปกติ

วันที่1  พ่อไปตรวจสุขภาพ ร่างกายปกติ ยังพาแม่ไปเดินตลาดต่อช่วงสาย
วันที่2  พ่อไม่สบายบอกว่าเหมือนร่างกายเพลีย ๆ แต่ก็ยังปกติ
วันที่3  พ่อมีอาการเหมือนเป็นไข้ เลยพาไปหมอ ความดันปกติ ไข้ไม่มี มีแค่อาการอาเจียน กินข้าวไม่ได้
วันที่4  พ่อไปหมออีกครั้ง กินข้าวไม่ได้ รอบนี้ สแกนคลื่นหัวใจ และตรวจหลาย ๆ แบบละเอียดแต่ไม่เจออะไร ได้ให้น้ำเกลือ และกลับบ้าน
วันที่5  ตอนเช้ากินยาแก้อาเจียน แต่ก็ยังทานข้าวไม่ได้ และเริ่มมีอาการตาเหลืองนิดหน่อย  จนช่วงบ่ายเห็นตัวพ่อเริ่มเหลือง เลยเรียกรถพยาบาลมารับเพราะพ่อบอกว่าร้าวช่วงหลังนั่งรถไปไม่ไหว ไปถึง รพ 16.00 แผนกฉุกเฉินดูอาการแล้วรีบส่งเป็นคนไข้วิกฤติตอนนั้นได้แต่หวังว่าอาการคงไม่หนัก เพราะมาหาหมอ 2วันติดแล้ว พอ 21.00 หมอเดินออกมา แล้วบอกกับครอบครัวเราว่า "ให้ทำใจนะ" เพราะคนไข้อาการหนักสุดใน วอร์ด อาจจะไม่พ้นคืนนี้  ตอนนั้น เราเลยถามหมอว่าพ่อเป็นโรคอะไร ทำไมถึงเร็วแบบนี้ และมาตรวจตั้ง 2 วันทำไมถึงหาไม่เจอ หมอได้ชี้แจงว่า พ่อเราป่วยเป็น   ""ตับอ่อนอักเสบแบบเฉียบพลัน""  เลยทำให้ระบบหัวใจและไตวาย  และพ่อก็จากไปในวันที่6


เมื่อมามองย้อนกลับไปที่สาเหตุ ตับอ่อน  ทำให้เรานึกขึ้นได้ว่าเมื่อก่อนพ่อนั้นมักจะกินเหล้าทุกวัน (วันละ 1 เป๊กเล็ก ๆ ประมาณ 1 อึก ) พ่อบอกว่ากินแล้วกินข้าวอร่อย  พ่อกินทุกวันจนอายุ 48 ตอนนั้นอยู่ดี ๆ เป็นความดัน ทำให้มีอาการบ้านหมุน  จึงทำให้พ่อเลิกเหล้าได้ และไม่เคยไปดื่มอีกเลย  

แต่ใครจะไปรู้ว่าสิ่งที่พ่อเคยดื่มเมื่อนานมาแล้วจะนำพาโรคมาให้ตอนอายุเริ่มมาก ( พ่อเสียตอนอายุ 63 )

***ลดได้ก็ลด  เลิกได้ก็เลิก  แต่ถ้าลดกับเลิกไม่ได้ ลองลดตอนเข้าพรรษาดูสักหน่อย เพื่อตัวเราเองและคนที่รักเรา