แชร์ประสบการณ์... การพบกับแฟนญี่ปุ่นที่ไทย

จะเรียกว่าอวดหลัวก็ได้นะ 5555

สำหรับเราที่อยากแชร์เพราะค่อนข้างรู้สึกว่าเป็นประสบการณ์ที่เราก็ไม่คิดว่าจะได้สัมผัสนะ เพราะคิดว่าเคสเราค่อนข้างเกิดขึ้นได้ยาก?
และคิดว่าอาจจะมีคนอยากรู้ (เหรอ?)  ถ้าใครใคร่รู้ก็อ่านต่อไปนะจ้ะ

Profile ของแฟนญี่ปุ่นเรานะจ้ะ
>> อายุน้อยกว่า 30 ปี, โสด
- หน้าตา... เราคิดว่าก็หน้าตาญี่ปุ่นๆนะ ปากบางๆเล็ก ดั้งโด่งพอดีๆ ตาชั้นเดียวแต่ก็ไม่ได้ตาเล็กจนเป็นขีด ผิวขาว (แต่อยู่ไทยนานตอนนี้คล้ำขึ้นเยอะ)หลังๆอยู่ไทยมาสักพักเริ่มถูกเข้าใจว่าเป็นคนไทย 555555
- มาทำงานที่ไทยเพราะบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นส่งมา (ระยะเวลา 3-5 ปีแล้วแต่คนนะฮะ)ซึ่งส่วนมากคนที่มาลักษณะนี้ มักจะ 40+ และมีครอบครัวแล้ว
- พูด อ่าน เขียน ภาษาไทยได้ (สื่อสารทั่วไปในชีวิตประจำวันได้) พูดภาษาอังกฤษได้ดีและคล่องมากๆ

1. เจอกันได้ยังไง?
>> ตอนนั้นเล่นแอพฝึกภาษากับเพื่อนต่างชาตินะ แล้วนางอยากเรียนภาษาไทย (ซึ่งคนญี่ปุ่นส่วนมากจะอยากฝึกภาษาอังกฤษ)
ส่วนเราอยากเรียนภาษาญี่ปุ่น  คุยๆไปมาก็คลิกกัน ก็มีการนัดเจอกันแล้วก็จีบกันมาเรื่อยๆ (เน้นไม่ใช่แอพหาแฟนนะฮะ)

2. สื่อสารกันยังไง?
>> Tri - lingual เลยฮะ.. ไทย+ญี่ปุ่น+อังกฤษ  เพราะนางอยากฝึกภาษาไทย เราอยากฝึกญี่ปุ่น ถ้าไม่เข้าใจจริงๆก็สวิชไปอังกฤษเลยจ้า
สำหรับสกิลภาษาญี่ปุ่นเรานั้นน้อยมาก แต่อ่าน hiragana และ katakana คล่องแล้วนะ แต่คันจินี้ไม่ค่อยมีในหัวเลย
สกิลภาษาไทยของแฟน พูดคุยทั่วไปและดีขึ้นเรื่อยๆ (คนสอนดี 555 ล้อเล่น)
ตอนนี้พูดคุยภาษาไทยพื้นฐานในชีวิตในประจำวันกับคนไทยได้เข้าใจ 90% (อยู่ไทยได้ไม่ถึงปี ได้ขนาดนี้ถือว่าเก่งมากสำหรับเรา)
เราและแฟนเป็นพวก self study อ่านเอง ฝึกเอง จากหนังสือ ดูหนังฟังเพลง
(ก็เลยเป็นที่มาของความประทับใจของการเจอกันในแอพฝึกภาษาเพราะว่าความที่ self study กันทั้งคู่ก็เลยแชทกันบ่อย
correct กันเองบ่อยๆด้วย เป็นจุดเริ่มต้นของความรู้สึกดีๆ)

3. จุดไหนที่รู้สึกว่าเขาชอบเราแน่ๆ?
>> ปกติแล้วหนุ่มญี่ปุ่นเขาจะมีความส่วนตัวสูง (เราคุยกับเพื่อนญี่ปุ่นหลายคนนะ)
ตอนแรกแฟนเราก็โลกส่วนตัวสูงแหล่ะ นานๆตอบ เคยมีบางทีหายไปเป็นอาทิตย์ พอสนิทกันแล้วก็แชทกันบ่อยๆมาก
จน voice call แล้วก็ได้ line ส่วนตัวมาจากเหตุผลว่า voice call ในไลน์น่าจะเสถียรมากกว่า (นางคิดว่าอย่างงั้น)
หลังจากนั้นก็คุยไลน์ทีสลับกับแอพนั้นที จนถึงจุดนึงที่
งงเว้ยยยยยย คุยแค่ที่เดียวได้ไหม
และตัดสินใจว่าคุยกันบ่อยๆมากๆก็ไลน์เถอะเพราะเช็คบ่อยกว่า ก็เริ่มรู้สึกว่า เออ..เขาคิดอะไรกับเราป่าววะ
แต่วันนึงนางก็บอกว่าไม่ได้คิดจะมีแฟนที่ไทย (เราก็ไม่ได้อะไรเพราะไม่ได้จะหาแฟนอยู่แล้วอ่าเนอะ)

4. จุดไหนที่นัดเจอกัน?
>> บอกก่อนว่าแฟนเราเป็นคนชวนก่อน 55 พูดเป็นนัยๆว่า ถ้าผมได้เจอกับคุณโดยตรงคงจะอธิบายให้คุณเข้าใจได้ดีกว่านี้ ...
คุณอยากไปเที่ยวที่.....ไหม เคยไปที่.....ไหมครับ
อ่าหะ หลังจากคุยกันเป็นเดือนในแอพก็โอเค ไปเที่ยวด้วยกันก็ได้ ที่เที่ยวก็ไม่เปลี่ยว ปลอดภัยแหล่ะ

5. คนนี้หล่ะใช่?
>> เจอกันครั้งแรก... first impression ของเรา....
หมอนี่หน้าตาญี่ปุ่นมากกกกกก (แน่ล่ะนางเป็นคนญี่ปุ่นนี่จะให้หน้าเหมือนฝรั่งเรอะ) แต่งตัวเรียบๆมาตราฐาน ซึ่งเราชอบนะ

- ไม่เจ้าอารมณ์ ใจเย็น ใจดีมากกกกกกก  เรื่องมีอยู่ว่า ด้วยความเป็นคนญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องตรงเวลา แน่นอนว่าไปก่อนเวลานัด 15 นาที และเราได้เตือนแล้วว่าเราเป็นคนที่เลทมาก (นิสัยไม่ดี กำลังปรับปรุงฮะ)
ตอนนั้นไปเลทกว่าที่นัด 2 ชม.ได้ (เป็นตรูโกรธตาย แถมเจอกันครั้งแรกด้วย) แถมนางก็สปิริตสูงยืนรอที่นัดไป 40 กว่านาที จนทนไม่ไหว ไปหานั่งรอร้านกาแฟแถวนั้น
พอเราไปถึง นางก็นิ่งมาก แต่ก็จิกกัดเล็กน้อยว่า ตื่นสายเหรอ ด้วยน้ำเสียงราบเรียบและหน้าตา monotone ...
แต่ก็ไม่ได้โกรธอะไรมาก (จนถึงปัจจุบันที่มาสายน้อยลง แต่ก็เลทมากสำหรับคนตรงเวลามากๆแบบนาง มาก่อนเวลาตลอด ก็ยังไม่โกรธ
และก็ช่วยเราปรับปรุงตัวเช่น ถ้านัดเวลานี้ต้องออกมาเวลานี้นะ เพราะเราเป็นคนที่กะเวลาได้แย่มากๆแถมหลงทางบ่อยๆ)

- อดทนกับความเกรียนได้... ด้วยความที่ไม่ได้คิดว่าจะให้นางมาชอบหรืออะไร คิดว่าไปกับเพื่อนธรรมดา แต่ไม่รู้จะวางตัวยังไง
เพราะนี่นัดเจอคนที่ไม่รู้จัก แถมยังเป็นต่างชาติครั้งแรก ตื่นแต้นมว้ากกกกกกกก
ก็เลยตัดสินใจเป็นตัวเองสุดๆไปเลย เกรียน กวนติง พูดน้ำไหลไฟดับ บ้าบอเต็มที่
ส่วนนางก็มารยาทดีเรียบร้อยตามแบบคนญี่ปุ่นในอุดมคติทั่วไป และด้วยความ monotone ของสีหน้าและน้ำเสียงที่อ่านใจยากของพี่ท่านนั้น
ตอนแรกแอบรู้สึกว่า มันไม่ชอบกรูป่าววะ (แอบเริ่มไม่มั่นใจ เพราะว่าตอนคุยในแอพกุก็เป็นแบบนี้ แต่ตัวจริงคือหนักกว่าในแอพ)
ปรากฏนางกลับบอกว่า ยังไม่อยากกลับ...ทานข้าวเย็นด้วยกันต่อไหม...

อ่าวเหรอ.... ด้ายยยยยยยย
นี่ก็สนุกไง ก็อยู่ต่อเลยฮะ ยาวไปเช้าจนค่ำก็แยกย้ายกลับบ้าน
หลังจากนั้นก็คุยกันบ่อยขึ้น คุยทุกวัน   นัดไปเที่ยวกันทุกวันหยุด ใกล้ชิดกันมากเรื่อยๆจนคบกันในที่สุด

- รักเราที่เป็นตัวเราจริงๆ     ด้วยความที่เริ่มต้นด้วยความไม่ได้คาดหวังให้ชอบหรืออะไร ก็เป็นตัวเองกันเต็มที่ไปเลย อยากแต่งตัวแบบไหนก็ได้ (เราเคยมีแฟนที่บ่นว่าทำไมแต่งแบบนั้นนี้ คือเราชอบแต่งตัวมาก บางทีก็เยอะไปหน่อย แต่มันความชอบของพี่ไง ตามใจไม่ได้เหรอฮะ)

- นิสัยที่แตกต่างและเหมือนกันอย่างลงตัว     แฟนเราเป็นผู้ฟังที่ดี นิ่งๆ ใจเย็นมาก โกรธยาก ตามใจ เราก็ชอบพูด เฮฮา สดใส หัวเราะหนักมาก แต่ใจร้อน
แต่มีสิ่งที่เหมือนกันเช่น ความชอบ lifestyle ใกล้เคียงกัน ลักษณะความคิดที่ไปในทางเดียวกัน เลยแทบไม่ทะเลาะกันเลย หรือทะเลาะก็เล็กน้อยมากๆ 98% ความคิดเห็นตรงกันเยอะ

6. เป็นแฟนกันเหรอ?
>>จนวันนึงเราก็มีแฟนโดยไม่รู้ตัวฮะ....
=[]= อ่าวเรอะ step บอกชอบก็มี แต่ไม่มีการขอคบใดๆทั้งสิ้น (บอกชอบน่ะมีแต่ดราม่าคิดกันเยอะมากเรื่องอนาคตว่านางต้องกลับญี่ปุ่นในอีกไม่กี่ปี เลยไม่อยากคบใคร  ตอนนั้นคิดหนักร้องไห้หนักมากทั้งคู่ เพราะคิดว่าก็ชอบนั่นแหล่ะแต่ไม่อยากให้มากกว่านี้ ทดลองห่างกันสักพัก...ได้ 1-2 วัน 5555 จนคิดว่า อย่าไปคิดเยอะอยู่กับปัจจุบันก็พอ)
วันดีคืนดีก็หันมายิ้มเล็กๆแล้วพูดว่า เป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอ...

อ่ะจ้ะ...

7. สำหรับสเปคคนญี่ปุ่นเป็นยังไงนั้น?
>> เคยถามคุณแฟนว่า สเปคคนญี่ปุ่นเป็นยังไง... นางบอกว่าก็แล้วแต่คนนะ.. บางคนก็ชอบผิวแทน บางคนก็ชอบแบบพิมพ์นิยมทั่วไป
ซึ่งนางส่วนตัวคิดว่าส่วนมากสเปคประมาณนี้คือ ขาว ตัวเล็ก น่ารัก ปากนิด จมูกหน่อย อารมณ์แบบหมวยๆแต่ตาโต ตา 2 ชั้น (ส่วนตัวแฟนเราก็คือชอบแบบพิมพ์นิยมดาราฝั่งญี่ปุ่นนั่นแหล่ะ กรี๊ดสาวญี่ปุ่นประจำ = =) นางบอกหน้าตาเราคิดว่าเหมือนคนจีน
แต่งหน้าเบาๆใสๆ แต่งตัวก็น่าจะแล้วแต่บุคคล 555 แต่แฟนเราตามใจเรานะ ซึ่งเราชอบอะไรที่น่ารักกุ๊งกิ๊ง แนวๆ my melody ของ sanrio นี่แทบจะทุกอย่าง ซึ่งนางเคยพูดว่า ถ้าดูจากของใช้คิดว่าเป็นเด็กประถมแน่ๆ
แต่เวลาไปเที่ยวหรือซื้อของขวัญให้ก็ซื้อ sanrio ให้นะจ้ะ เพราะนางบอกว่าอยากให้เรามีความสุข (น่ารักไปอีกกกกกกก ><)

8. หนุ่มญี่ปุ่นนิสัยยังไง แตกต่างกับหนุ่มไทยยังไง? ต้องปรับตัวมากไหม?
>> นิสัยแต่ละคน คงไม่เหมือนกันเนอะจะเหมารวมทั้งชาติมิได้ แต่แฟนเราก็พื้นฐานโดยรวมนิสัยคนญี่ปุ่นอุดมคติทั่วไปนะ (คิดว่า555) แต่ละคนก็ไม่เหมือนกันเนอะ อันนี้ก็เป็นเอามาจากนิสัยแฟนและคนรู้จัก
- ความรับผิดชอบต่องาน ตรงต่อเวลา บ้างาน? (บางทีวันหยุดก็ต้องไปทำงานนะซึ่งบ่อยมาก บางทีก็โดนโทรตามไปทำงานแบบไม่ทันตั้งตัวได้ แต่ก็ไม่ค่อยบ่นมาก ตื่นเช้าเลิกดึก ปวดหัวแทน)
- ชาตินิยม? อย่างที่บอกนางกรี๊ดสาวญี่ปุ่นน่ารักๆประจำ = = แต่คนญี่ปุ่นก็คนทั่วไป ถ้าชอบถ้าใช่ก็สำคัญกว่าเชื้อชาติเนอะ
   ตอนที่นางบอกครอบครัวที่ญี่ปุ่นว่ามีแฟนคนไทย... ทุกคนตกใจมาก เพราะนางคือไม่มีวี่แววว่าจะชอบอะไรที่เป็นต่างชาติเลย
   มาอยู่ไทยหลายเดือน ก็ไม่ได้นำพาให้ชอบอาหารไทยเลย เคยถามว่าชอบกินอะไร... ผัดกระเพราไข่ดาว...อืมมมม แกงเขียวหวาน
แกงกระทิไม่ชอบเลยยยยยย
   ไม่ชอบกินหวาน ซึ่งคนไทยส่วนมากชอบกินหวานมั้งนะ ก็เลยค่อนข้างใช้ชีวิตลำบากหน่อยๆ สั่งไม่หวาน/ หวานน้อยก็ยังหวานเกินไป
  แต่มิเป็นไร เพราะว่าเราก็ไม่ได้ชอบอาหารไทยอะไรมากมาย (ถึงตรงนี้กรุณาอย่าคิดว่ากระแดะหรืออะไร มันเป็นความชอบส่วนตัวเนอะ และเราเป็นแบบนี้ของเรามาตั้งแต่เด็กๆแล้ว)
  เพราะฉะนั้นการทานอาหารนั้นไม่เป็นปัญหาเลย เพราะว่าความชอบคล้ายๆกัน ส่วนมากจะกินอาหารญี่ปุ่น และ อิตาเลี่ยนเป็นส่วนใหญ่ อาหารไทยก็มีบ้าง แต่เราชอบอาหารจืดๆ ไม่ชอบรสจัด
  ก็เลยเป็นอาหารที่ไทยที่ทานง่ายๆ เช่น ข้าวมันไก่ ไม่ชอบกินอะไรใส่ซอสเยอะ ปรุงรสเยอะ และไม่ชอบกินหวาน
  สำหรับเราเรื่องกินเรื่องใหญ่มากกกกกก..... เคยมีแฟนที่แบบชอบกินอะไรคนละขั้ว แบบส้มตำตลอด คือนานทีได้ บ่อยๆนี่คือแบบ โอ้ววว มันไม่ใช่ แต่ว่าสุดท้ายก็เลิกกันไปด้วยเหตุผลอื่น แต่ถ้าต้องกินบ่อยๆในระยะยาวน่าจะรู้สึกลำบากใจนะ

- ลักษณะความคิด คนเราก็มีความคิดของเราเนอะ จะรักใครก็อย่าไปคาดหวังจะเปลี่ยนคนๆนั้นเลย ส่วนตัวเราก็ชอบอะไรที่แนวๆญี่ปุ่นอยู่แล้วก็เลยไปกันได้? ล่ะมั้ง แต่แฟนเราก็ flexible ด้วย ต่อเรื่องวัฒนธรรมที่ต่างกัน (ขึ้นอยู่กับบุคคล)
เราอาจจะเป็นคนไทยที่ความคิดไม่ค่อยไทยด้วยก็ได้มั้งนะ เคยมีเพื่อนบอกว่ากรอบความคิดของเราไปทางฝรั่งมากกว่า แต่ญี่ปุ่นบางคนก็ชอบฝรั่งมากๆฮะ

- การติดต่อ .... นับว่าเป็นที่เรื่องลือว่าหนุ่มญี่ปุ่นโลกส่วนตัวสูง ตอบไลน์ช้า ไม่ค่อยตอบบ่อย ซึ่ง...... จริงมาก
  แต่เราคิดว่าแฟนเราถือว่าตอบบ่อยนะ เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน นางก็รายงานไม่เคยขาด โดยไม่ต้องร้องขอ เราไม่เคยวีนเรื่องไม่ตอบอะไรเลย กลับบ้านดึกก็บอก (ไม่ได้อยู่บ้านด้วยกันนะ) เพราะนางกลัวเราไม่สบายใจ รายงานตัวตลอด
อันนี้คงแล้วแต่คน แต่ถามว่าเวลาส่วนตัวพี่แกก็มี แต่ก็บอกกันตรงๆเช่น ตอนนี้อยากดูหนัง อยากเรียน อยากอ่านหนังสือ ก็คือการบอกนัยๆว่ากุจะเอาเวลาไปทำสิ่งเหล่านี้ ซึ่งบางทีกินเวลาหลายชั่วโมง จนกว่าพี่แกจะพอใจเบื่อๆก็ตอบเอง แต่คุยกันทุกวัน
ถ้าใครรู้สึกว่าต้องคุยตลอดเวลา ก็อาจจะต้องบายกับหนุ่มชาตินี้ไป

- การเอาใจ... รู้สึกว่าผู้ชายไทยเอาใจเก่งกว่า คบกับหนุ่มญี่ปุ่นนี่ต้องบึกบึนหน่อยนะ ไม่ค่อยมีหรอก moment แบบถือของให้แนวนั้น... แต่ถ้าดูหนักมากหรือบอกให้ช่วยถือหน่อย ก็ถือให้นะ
- ไม่ค่อยโรแมนติก? วันครบรอบกี่เดือน กี่วัน ไม่มีอ่ะ  แต่พอดีว่าเราก็เป็นคนไม่ใส่ใจอะไรกับวันครบรอบหรืออะไร (โดนแฟนไทยงอนบ่อยมาก 555) วันที่คบกันคือวันไหนยังไม่รู้เลย 55 เอาแค่คร่าวๆก็พอ ถ้าครบรอบแต่งงานก็ค่อยจำเนอะ  
วันเกิดก็กินเค้กอะไรนิดหน่อยไม่ใหญ่โตวื้อวือ เหมือนกันข้าวปกติ

- ไม่ชอบที่คนเยอะๆ ค่อนข้างรักสงบ (แล้วแต่บุคคลนะ) บางคนก็ชอบไปคาราโอเกะ เลี้ยงผู้หญิงกลางคืน 555

- แล้วผู้ชายญี่ปุ่นกดขี่ผู้หญิงไหม....ส่วนตัวคิดว่าไม่นะ แต่แล้วแต่ครอบครัว แต่บ้านแฟนเราพ่อแม่เขาก็ช่วยกันทำงานบ้าน แฟนเราก็เลยอาจจะซึมซับมา (อันที่จริงแล้วแม่ค่อนข้างเป็นใหญ่เลยล่ะ 55)

- ชอบเล่น golf ? ... แล้วแต่บุคคล

- ชอบดื่ม alcohol? เป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง ไปกินข้าวกับลูกค้าอะไรแบบนี้ก็จะกลับดึก ดื่มเหล้า ความบ่อยขึ้นกับสายงาน

- ชอบเกม anime idol... แล้วแต่คนอีกนั่นแหล่ะ เราท่าทางจะชอบมากกว่าแฟนด้วยซ้ำนะ 5555

- ซื้อของลิขสิทธิ์... แพงก็ซื้อ ไม่ค่อยมีหาโหลดเถื่อนโหลดฟรี เหมือนเป็นสามัญสำนึกของเขาเลยล่ะ

- ไม่ค่อยเผือก.. และไม่อยากให้ใครมาเผือก.... ฮะ... ไม่เล่น facebook, ig, ไม่ social บางคนก็เล่นแต่แทบไม่อัพอะไร ถ้าไม่บอกว่านี่ account แกอาจจะไม่มีทางรู้ได้

- ชอบความเป็นส่วนตัว ไม่ทำตัวโดดเด่น...ฮะ.. มุมหลืบของร้านนั้นแหล่ะ ตรงไหนสะดุดตาหน้าๆไม่นั่งฮะ...

ตอนนี้คิดออกเท่านี้นะ ขอบคุณที่อ่านการแชร์ประสบการณ์ของเรานะ
ถ้าใครอยากแชร์หรืออยากรู้อะไรเพิ่มเติม ก็มาแลกเปลี่ยนกันในกระทู้เยอะๆนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่