เรื่องเล่าของคนที่ไปเที่ยวเลห์กับทัวร์จากไทย...Day 4 อาทิตย์ 8 ก.ค. 61 : วันนี้เดินทางไปค้างคืนที่หุบเขานูบร้า



บันทึกนี้อยากนำเสนอแนวทางการเที่ยวเลห์โดยไปกับทัวร์ตั้งแต่จากไทย
เผื่อท่านใดไม่อยากจัดทริปเอง
และอาจเป็นทางเลือกของท่านที่อยากไปคนเดียว ฯลฯ นะครับ


สำหรับข้อดีของการไปแบบนี้ คือไม่ต้องปวดหัวคิดอะไรเอง
มีผู้ชำนาญคือไกด์ทั้งจากไทยจากเลห์คอยดูแล
แถมไกด์ไทยยังทำอาหารไทยอร่อย ๆ เสริมให้ตลอด
ไม่ว่าจะเป็นไข่เจียว ผัดกระเพราไก่ เขียวหวานไก่ น้ำพริกอ่อง ฯลฯ
น้ำพริกอ่องนี่อร่อยที่สุดตั้งแต่ผมเคยกินมาครับ !!!

และการไปแบบหมู่คณะนี่ สำหรับทริปเลห์ ที่จัดว่าโหดมาก ๆ
ข้อดีคือจะเป็นกำลังใจให้กันและกัน คอยชวนกันไป ปลอบกันไป
คือบางวันมันโหดมาก ๆ บางคนจะคิดว่าพรุ่งนี้ขอบาย ขอนอนโรงแรมดีกว่า
แต่ไปเป็นหมู่คณะก็จะพยุง ๆ กันไป เพราะทุกคนต่างก็สะบักสะบอมพอ ๆ กัน
ทำให้ทริปนี้ที่มี 20 คน จึงผ่านได้ทุกโปรแกรม
ไม่มีใครขาดช่วงไหนเลยครับหัวใจ


ทริปเลห์...สวรรค์และนรกมันห่างกันก็แค่คืบเดียว
Day 4 อาทิตย์ 8 ก.ค. 61 : วันนี้ไปค้างคืนที่หุบเขานูบร้า (Nubra Valley)


เมื่อวานสะบักสะบอมกลับมาจากทะเลสาบปันกอง
หน.ไกด์ไทยบอกว่าก่อนไปนี่ผมหมายหัวไว้ว่า ป้า ๆ ลุง ๆ ที่อายุเกิน 60 แล้ว 3 คน
คงจะมีใครฟุบแน่นอน แต่กลายเป็นว่า สว. 3 คนนี่ชิว ๆ ไม่มีอาการอะไรเลย
สมกับที่โบราณว่า คนแก่หนังเหนียว และ แก่แรด คือแก่แล้วแกร่งเหมือนแรด

เพราะทริปไปทะเลสาบปันกองนี่เป็นที่สูงมากอ็อกซิเจนจึงต่ำมาก
แถมถนนยังขรุขระคดเคี้ยวลด บางคนมีอาการปวดหัวคลื่นไส้อาเจียน
แต่หลายคนก็ชิว ๆ ไม่มีอาการอะไร
แต่ทุกคนกลับมาจากทะเลสาบปันกองก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
สวยมากจริง ๆ แต่ขอเป็นแค่ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายในชีวิตประหลาดใจ

ยังเข็ดจากเส้นทางไปทะเลสาบปันกอง หลายคนจึงถามหน.ไกด์ไทยว่า
ทางไปหุบเขานูบร้านี่มันโหดพอกับไปทะเลสาบปันกองไหม
ถ้าโหดพอ ๆ กันจะได้ขออยู่ รร.ดีกว่า ศรีทนไม่ได้แล้ว...
ไกด์บอกว่าไปหุบเขานูบร้านี่แค่ 50% ของไปทะเลสาบปันกอง
ทุกคนเลยตกลงใจว่าจะไปกันครบทั้ง 20 คน
(ที่จริงคุณหลอกดาวหรือเปล่านี่ เพราะหลายคนบอกว่าเส้นทางมันโหดกว่าไปปันกองอีก
แต่ส่วนตัวคิดว่า อาจเพราะเหนื่อยสะสมมาจากเมื่อวานที่ไปทะเลสาบปันกองมาก่อนด้วย)

วันนี้เป็นวันที่ปลุกสายที่สุดในตลอดทริป คือปลุก 7:00 น. และล้อหมุน 9:00 น.
ระหว่างทางแวะซื้อแท๊งก์ออกซิเจนเพราะมีบางคนต้องการใช้
และแวะซื้อไก่ไปทำอาหาร เพราะพื้นที่แถบหุบเขานูบร้าเป็นมังสวิรัติ ไม่กินเนื้อสัตว์

10:38 น.แวะให้เข้าห้องน้ำ 10 นาที ทุกคนทั้งหญิงชายสมัครใจแบบ outdoor ดีกว่า

เดินทางต่อ 11:23 น.จอดให้ถ่ายกับป้าย Khardung La Pass
เป็นจุดสูงสุดบนถนนที่สูงที่สุดในโลกคือสูง 18,380 ฟุต
สูงกว่าจุดเมื่อวานที่ไปทะเลสาบปันกองอีก
ที่จุดนี้นักท่องเที่ยวทั่วโลกมารอคิวถ่ายกับป้ายเยอะมาก เลยได้ถ่ายแค่ห่าง ๆ

เดินทางต่ออีกชม.นึงจอดให้ถ่ายรูปกับทุ่งหญ้าและฝูงจามรี
ถึงโรงแรมที่พักในหุบเขานูบร้าตอน 14:30 น.
พักที่โรงแรมกามา (Karma Inn) ไม่แน่ใจว่าหมายถึง กรรม หรือ กาม
ตอนแรกทัวร์บอกจะให้พักเต๊นท์ แต่ดูแล้วไม่สะดวกเพราะเต๊นต์ไม่มีห้องน้ำในตัว
พักในโรงแรมสะดวกกว่า ผมได้ห้องหมายเลข 120 นึกว่าอยู่ชั้นล่าง
กลายเป็นอยู่ชั้น 3 นับว่าดีได้เห็นวิวสวย
โรงแรมจะดับไฟระหว่าง 5 ทุ่มถึง 6 โมงเช้า
มีโปรแกรมขี่อูฐตอนเย็นแต่ผมขอบายเพราะแดดจัดและไม่ชอบขี่สัตว์กลัวตก
และเพิ่งไปชม Sand Dunes ที่ญี่ปุ่นมา ท่านที่ไปร่วมโปรแกรมก็บอกสนุกดี แต่ร้อนไปหน่อยครับ
คืนนี้นับว่านอนสบายทีเดียวครับ

ความเดิม
Day 1 พฤหัส  5 ก.ค. 61 บินจาก กทม. ถึง เดลลี ไปเที่ยว ป้อมแดง และ ทัชมาฮาล ใน อัครา
>>> https://ppantip.com/topic/37878538
Day 2 ศุกร์ 6 ก.ค. 61 : บินจาก เดลลี มา เลห์ พักแปร๊บ แล้วเที่ยว 2 วัด...
https://ppantip.com/topic/37881711
Day 3 เสาร์ 7 ก.ค. 61 : วันนี้สุดโหด วัดติ๊กเซ่ย์และทะเลสาบปันกอง
>>> https://ppantip.com/topic/37884859

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่