เรื่องเล่าของคนที่ไปเที่ยวเลห์กับทัวร์จากไทย...Day 1 พฤหัส 5 ก.ค. 61 : ชมป้อมแดงและทัชมาฮาล...


ผมสนใจจะไปเลห์ ลาดักห์มาช่วงนึง แต่ติดปัญหาตรงที่เป็นคนลำไส้สั้นเหมือนปลาทอง
ทานอะไรก็มักจะปวดท้องถ่ายเร็วมาก ๆ
เพื่อนที่ไปเลห์ก็มาเล่าถึงสภาพห้องน้ำที่นั่น ซึ่งน่าสะพรึงกลัวมากครับ

ได้เคยปรึกษาเรื่องการเข้าห้องน้ำในเลห์ไว้กับเพื่อนพันทิปตามกระทู้นี้ครับ
"ถามท่านที่มีปัญหาขับถ่ายบ่อย ๆ เวลาเดินทางในที่ที่ไม่มีห้องน้ำเช่นไป เลห์ ทำอย่างไรครับ ?" >>> https://ppantip.com/topic/37816641

พอดีมีทัวร์จากไทยไปเลห์ ที่ราคาดูเหมือนถูกลงมาก เลยตัดสินใจไปกับทัวร์
เลยอยากขอเล่าประสบการณ์แบบที่ไปกับทัวร์จากไทย
มาเสนอเป็นอีกทางเลือกของการไปเลห์นะครับ


ขอเล่าแบบวันต่อวันนะครับ

ทริปเลห์...สวรรค์และนรกมันห่างกันก็แค่คืบเดียว
Day 1 พฤหัส 5 ก.ค. 61 : ชมทัชมาฮาล...ความรักทำให้คนตาบอด


ทริปไปเลห์นี่เดิมไม่เคยอยู่ในหัวสมองทั้ง ๆ ที่เป็นคนชอบเที่ยว
คือมันดูทรมาทรกรรมเหมือนเสวยวิบากกรรมเกินไป...
พอดีตอนต้นปีนี้เพื่อนที่นั่งทำงานอยู่ห่างกัน 12 เมตรเดินมาชวนว่าไปเลห์ไหม
แต่ช่วง ก.พ. มีทริปญี่ปุ่นอยู่แล้วเลยบอกว่าถ้าซัก ก.ค. หรือปีหน้าจะไปด้วย
เขาเลยไม่รอตัดช่องน้อยแต่พอตัวไปมาตอนก.พ.

ไปแล้วกลับมาเล่าให้ฟังว่าสนุกสุด ๆ มีอาเจียนด้วยมึนด้วย
ต้องเดินช้า ๆ เหมือนตัวสล็อธ
ห้องน้ำสยองมากถ่ายกับพื้นแต่วิวสวยมาก
ฟังแล้วสมองของคนที่เป็นโรคลำไส้สั้นถ่ายบ่อยมากเหมือนปลาทองก็ตัดสินใจว่าไม่ไปดีกว่า !!!

และแล้ว...
ตอนราว ๆ พ.ค. ก็มีทัวร์เลห์ดั๊มราคาลดลงเหลือ 29,900 บาท
คือกลุ่มแรกนี่ถูกอยู่กลุ่มเดียวหลังจากนั้นกลุ่มหลังจะขึ้นเป็น 31,000-33,000 บาท
ตามประสาคนชอบของถูกก็กดจองกลุ่มแรกไป  
จ่ายเงินจบกลายเป็นกลุ่มต่อ ๆ มากลับลดราคาลงเหลือ 26,900 และ 25,900 บาท เล่นเอาเซ็งไปเลย...

วันเดินทางวันแรกนัดที่สุวรรณภูมิ 23.50 น. คืนวันพุธที่ 4 ก.ค. 2561
วันนี้นับเป็นวันที่ 0 คือไม่นับดีกว่า
ไฟลต์ของ Spice Jet หรือสายการบินเครื่องเทศจะออกเวลาตีสามห้าสิบ (03.50 น.)
แต่ก็ดีเลย์มาออกตอนตีห้า แต่ก็มาถึงสนามบินอินทิราคานธีตอน 7 น. กว่า ๆ ตรงตามกำหนด
เพราะเผื่อเวลาบินไว้ว่า 4 ชม.ครึ่ง แต่จริง ๆ กทม.มาเดลลีนี่บินแค่ 3 ชม.เอง ตม.อินเดียสะดวกกว่าที่คิดมาก

อดหลับอดนอนมานี่มาถึงแล้วต้องเที่ยวต่อเลย คือนั่งรถจากเดลลีไปอัครา นั่งไป 2 ชม.ครึ่ง
จอดพักให้เข้าห้องน้ำ 30 นาที
ซื้อมันฝรั่งกระป๋องพริงเกิลส์มาทานกระป๋องละ 280 รูปี = 140 บาท ทำไมมันแพงจัง
โค้กไดเอ็ตกระป๋องละ 60 รูปี= 30 บาท นี่ก็แพงแต่พอรับได้

แล้วนั่งรถต่ออีก 2 ชม. 30 นาที รวมทั้งหมดก็ 5 ชม. 30 นาที ก็ถึงเมืองอัครา กินมื้อกลางวัน
ที่จริงอาหารก็ไม่เลวร้ายอะไรหรอกแต่ไม่กล้ากินมากเพราะกลัวปวดท้องถ่าย
แล้วไปซื้อเครื่องสำอางที่ร้าน Himalaya ได้ยาหม่องอินเดียมาและสมุนไพรบำรุงตับ

แล้วไปชมป้อมอัคราหรือบางทีเรียกว่า ป้อมแดง ให้เวลาเดินชม 1 ชม.
ป้อมอัคราเป็นป้อมปราการหินทรายแดง ซึ่งเป็นมรดกโลกอีกแห่งหนึ่งของเมืองอัครา
เป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่เป็นตำนาน …
ป้อมแห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำยมุนา ห่างจากทัชมาฮาลราว 2 กิโลเมตร
ป้อมแห่งนี้เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์
ด้วยเป็นที่กษัตริย์ชาห์ จาฮัน ถูกพระโอรสโอรังเซป พระโอรสองค์ที่ 4
กักบริเวณเอาไว้ในพระตำหนักหินอ่อน และหอคอยแปดเหลี่ยม
คือพระเจ้าชาห์เจฮ้นซึ่งเป็นพ่อรักเมียมาก
เมื่อพระนางมุมตัชสิ้นพระชนม์ จึงสร้างทัชมาฮาลให้เป็นที่ระลึก
ใช้งบประมาณมากมาย สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว
และจะสร้างให้ตัวพระองค์เองเป็นสีดำ ตั้งไว้เคียงกัน

ลูกจึงเห็นว่าพ่อทำไม่เหมาะสมจึงยึดอำนาจและจับพ่อมาจองจำไว้ที่ป้อมอัครา
ซึ่งอยู่ในมุมที่มองเห็นทัชมาฮาลได้ดีที่สุด พ่อจะได้ใช้เวลาดูหลุมศพแม่ให้สาแก่ใจ
พระองค์ได้ชื่นชมทัชมาฮาลเป็นเวลาถึง 8 ปี จึงสิ้นพระชนม์
ตามตำนานกล่าวว่าในวันสุดท้ายของชีวิตพระองค์ใช้เวลาทั้งวันในการจ้องมองเศษกระจกที่สะท้อนภาพของทัชมาฮาล
และสิ้นพระชนม์ด้วยเศษกระจกในกำมือ พระองค์ถูกฝังในทัชมาฮาล เคียงข้างพระมเหสีซึ่งพระองค์ไม่เคยลืม

ชมป้อมแดงแล้วก็พาไปชมทัชมาฮาลที่อยู่ไม่ไกลกัน
ทัชมาฮาลเป็นสุสานหินอ่อนที่เป็นสถาปัตยกรรมแห่งความรักที่สวยที่สุดในโลก
สร้างขึ้นโดยกษัตริย์ชาห์ จาฮัน ผู้มีรักมั่นคงต่อพระมเหสีของพระองค์
เมื่อพระมเหสีมุมตัซสิ้นพระชนม์ หลังจากให้กำเนิดทายาทองค์ที่ 14 ทำให้ทรงโศกเศร้ามาก
ราชสมบัติส่วนใหญ่สูญเสียไปเพื่อการสร้างอนุสรณ์แห่งความรักของทั้งสองพระองค์

แล้วนั่งรถกลับจากอัคราสู่เดลลี ถึงเดลลีทัวร์พาไปร้านอาหารหรูมาก ๆ อยู่บนชั้น Roof Top
อาหารดีใช้ได้แต่ก็ไม่กล้ากินมาก และพาไปพักที่ รร. Radison Blu, New Delhi
รร.นี้เลิศมาก แต่เช็คอินตอนเที่ยงคืน กว่าจะได้นอนก็เที่ยงคืนครึ่ง
มีเวลาชื่นชมกับห้องพักหรูหราอยู่ 2 ชม.ครึ่ง ก็ถูกปลุกตอนตี 3 เพื่อต่อไฟลต์ไปเลห์
ทุกคนบ่นกันอุบว่า รร.น่านอนแบบนี้ทำไมจึงให้นอนแค่ 2 ชม.ครึ่ง

จบวันแรกแบบเพลีย ๆ เพราะอดนอนติดต่อกัน 2 คืนแล้ว
แต่ริจะเป็นนักเดินทางก็ต้องใจสู้ชู 2 นิ้วกันล่ะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่