ตอนนี้ว่างครับ ไม่มีไรทำ ห้องบอลไทยกำลังเงียบๆ(รึเปล่า) เลยเอาเรื่องที่ดูน่าสนใจของเมืองทองตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันมาละกันครับ บทความเก่าจาก FFT มาให้อ่านเล่นๆ นั่นคือเรื่องเบอร์ 9 เมืองทอง ที่ว่าเป็นเบอร์อาถรรพ์ แม้แต่อดิศักดิ์ ไกรสร ผู้เล่นเบอร์ 9 คนล่าสุดยังต้องโดนอาถรรพ์(รึเปล่าไม่รู้)ได้รับบาดเจ็บ จนต้องพักยาว จนถึงตอนนี้ก็ยังฟื้นฟูสภาพร่างกายให้สมบูรณ์มาช่วยทีมไม่ได้ เข้าเรื่องเลยละกันครับ
เมื่อพูดถึงนักเตะเจ้าของหมายเลข “9” ทุกคนน่าจะนึกถึงกองหน้าจอมถล่มประตู เป็นความหวังของทีมยามต้องการคะแนน และเป็นแข้งที่มีหน้าที่หลักเพียงอย่างเดียวคือ ยิง ยิง ยิง และยิง!
เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ถือเป็นทีมแรกที่คว้าแชมป์ลีกภายใต้ชื่อ “ไทยพรีเมียร์ลีก” เมื่อปี 2009 และยังถือเป็นสโมสรแรกในสยามที่คว้าแชมป์รายการเดียวกันได้แบบไร้พ่าย
...แต่ที่น่าสนใจก็คือพวกเขาแทบจะไม่เคยมีกองหน้าผู้รับบทเบอร์ “9” ได้อย่างสมภาคภูมิ โดยนับแต่เปลี่ยนมาใช้ เมืองทอง-หนอกจอก ยูไนเต็ด กระทั่งปัจจุบัน พวกเขามีกองหน้าที่เคยรับบทหมายเลข “9” ไปแล้วทั้งหมด 14 คน แต่ภายในจำนวนนั้นมีน้อยคนที่จะโชว์ฟอร์มได้สมความคาดหมาย...หรือหากฟอร์มร้อนแรง แต่ก็มักมีเรื่องให้อยู่กับทีมได้ไม่นาน ไม่ว่าพวกเขาจะพกดีกรี หรือฝีเท้าไว้มากแค่ไหน
หลังจากปล่อยตัว มิคาเอล เอ็นดรี้ ไปให้กับ โปลิศ เทโรฯ ใช้งานเมื่อต้นเลก... ผู้ที่สานต่อเบอร์เสื้อต้องคำสาป คือ ซิสโก ฆิเมเนซ กองหน้าดีกรีลาลีก้า สเปน ผู้ที่เคยมีค่าตัวถึง 5 ล้านยูโร...เขายิงประตูได้ในจำนวนที่น่าพอใจ แต่ก็ไม่วายต้องแยกทางกับเมืองทองฯ ทั้งที่ร่วมงานกันแค่ปีเดียว และนี่ คือ เรื่องของ 14 ผู้เล่นที่สวมใส่เบอร์ 9 ก่อนดาวยิงฝรั่งเศส ที่มักล้มเหลวดั่งต้องคำสาป
กัวคู โจเอล จูเนียร์ (ฤดูกาล 2007)
นี่คือตำนานเบอร์ 9 คนแรกของ เมืองทอง-หนองจอก ยูไนเต็ด โดยเขาคือแข้งที่จารึกชื่อเป็นผู้ยิงประตูแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร ทำผลงานรวม 8 ประตูตลอดฤดูกาล ครองตำแหน่งรองดาวซัลโวของทีมในฤดูกาลนั้น ซึ่งพวกเขาคว้าถ้วยแรกของทีมคือแชมป์ลีกภูมิภาค ดิวิชัน 2 พร้อมกับได้สิทธิเลื่อนชั้นสู่ลีกพระรองเป็นหนแรก
ฌาคส์ ซามี ติโอเย (ฤดูกาล 2008)
กองหน้าชาวไอวอรีโคสต์คือผู้เข้ามาสืบทอดหมายเลข “9” ต่อจาก กัวคู โจเอล จูเนียร์ โดยเขาย้ายเข้ามาสู่ทีมพร้อมๆ กับ ยาย่า ซูมาโฮโร่ แนวรุกบ้านเดียวกันที่ปัจจุบันกำลังโลดแล่นในลีกสูงสุดเบลเยียม โดยฤดูกาลนั้น ฌาคส์ ซามี ติโอเย ลงสนามไป 21 นัดจากทั้งหมด 30 เกม ฝากผลงานไว้ 11 ประตู จบฤดูกาลด้วยการเป็นรองดาวซัลโวของทีมและพา “กิเลนผยอง” ผงาดคว้าแชมป์ลีกพระรองเลื่อนชั้นสู่เวทีลูกหนังสูงสุดเมืองไทยเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร ...จนถึงตอนนี้หลายๆ คนอาจคิดว่าคงไม่มีหรอก อาถรรพ์หมายเลข “9” ที่กล่าวกัน แต่ - ไม่ - อันที่จริงมันเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น...
เดี๋ยวมีต่อครับ...
ย้อนรอยเบอร์ 9 เมืองทอง ที่ว่าเป็นเบอร์อาถรรพ์ เอาไปอ่านเล่นๆ ครับ บทความเก่าๆ จาก FFT
เมื่อพูดถึงนักเตะเจ้าของหมายเลข “9” ทุกคนน่าจะนึกถึงกองหน้าจอมถล่มประตู เป็นความหวังของทีมยามต้องการคะแนน และเป็นแข้งที่มีหน้าที่หลักเพียงอย่างเดียวคือ ยิง ยิง ยิง และยิง!
เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ถือเป็นทีมแรกที่คว้าแชมป์ลีกภายใต้ชื่อ “ไทยพรีเมียร์ลีก” เมื่อปี 2009 และยังถือเป็นสโมสรแรกในสยามที่คว้าแชมป์รายการเดียวกันได้แบบไร้พ่าย
...แต่ที่น่าสนใจก็คือพวกเขาแทบจะไม่เคยมีกองหน้าผู้รับบทเบอร์ “9” ได้อย่างสมภาคภูมิ โดยนับแต่เปลี่ยนมาใช้ เมืองทอง-หนอกจอก ยูไนเต็ด กระทั่งปัจจุบัน พวกเขามีกองหน้าที่เคยรับบทหมายเลข “9” ไปแล้วทั้งหมด 14 คน แต่ภายในจำนวนนั้นมีน้อยคนที่จะโชว์ฟอร์มได้สมความคาดหมาย...หรือหากฟอร์มร้อนแรง แต่ก็มักมีเรื่องให้อยู่กับทีมได้ไม่นาน ไม่ว่าพวกเขาจะพกดีกรี หรือฝีเท้าไว้มากแค่ไหน
หลังจากปล่อยตัว มิคาเอล เอ็นดรี้ ไปให้กับ โปลิศ เทโรฯ ใช้งานเมื่อต้นเลก... ผู้ที่สานต่อเบอร์เสื้อต้องคำสาป คือ ซิสโก ฆิเมเนซ กองหน้าดีกรีลาลีก้า สเปน ผู้ที่เคยมีค่าตัวถึง 5 ล้านยูโร...เขายิงประตูได้ในจำนวนที่น่าพอใจ แต่ก็ไม่วายต้องแยกทางกับเมืองทองฯ ทั้งที่ร่วมงานกันแค่ปีเดียว และนี่ คือ เรื่องของ 14 ผู้เล่นที่สวมใส่เบอร์ 9 ก่อนดาวยิงฝรั่งเศส ที่มักล้มเหลวดั่งต้องคำสาป
กัวคู โจเอล จูเนียร์ (ฤดูกาล 2007)
นี่คือตำนานเบอร์ 9 คนแรกของ เมืองทอง-หนองจอก ยูไนเต็ด โดยเขาคือแข้งที่จารึกชื่อเป็นผู้ยิงประตูแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร ทำผลงานรวม 8 ประตูตลอดฤดูกาล ครองตำแหน่งรองดาวซัลโวของทีมในฤดูกาลนั้น ซึ่งพวกเขาคว้าถ้วยแรกของทีมคือแชมป์ลีกภูมิภาค ดิวิชัน 2 พร้อมกับได้สิทธิเลื่อนชั้นสู่ลีกพระรองเป็นหนแรก
ฌาคส์ ซามี ติโอเย (ฤดูกาล 2008)
กองหน้าชาวไอวอรีโคสต์คือผู้เข้ามาสืบทอดหมายเลข “9” ต่อจาก กัวคู โจเอล จูเนียร์ โดยเขาย้ายเข้ามาสู่ทีมพร้อมๆ กับ ยาย่า ซูมาโฮโร่ แนวรุกบ้านเดียวกันที่ปัจจุบันกำลังโลดแล่นในลีกสูงสุดเบลเยียม โดยฤดูกาลนั้น ฌาคส์ ซามี ติโอเย ลงสนามไป 21 นัดจากทั้งหมด 30 เกม ฝากผลงานไว้ 11 ประตู จบฤดูกาลด้วยการเป็นรองดาวซัลโวของทีมและพา “กิเลนผยอง” ผงาดคว้าแชมป์ลีกพระรองเลื่อนชั้นสู่เวทีลูกหนังสูงสุดเมืองไทยเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร ...จนถึงตอนนี้หลายๆ คนอาจคิดว่าคงไม่มีหรอก อาถรรพ์หมายเลข “9” ที่กล่าวกัน แต่ - ไม่ - อันที่จริงมันเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น...
เดี๋ยวมีต่อครับ...