สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกผิดพลาดประการใดขออภัยใว้ณที่นี้
ดิฉันพักศัยอยู่ห้องพักคนงานซึ่งเป็นบ้านไม้ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อคืนดิฉันนอนพักคนเดียวโดยปรกติจะอาศัยอยู่กับแฟน2คน แต่แฟนป่วยนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายวันแล้ว ทำให้ต้องนอนคนเดียว บ้านที่ฉันพักทางเข้าบ้านจะหันออกไปทางด้านหลังติดป่ามันไม่เหมือนบ้านคนอื่นๆ เมื่อคืนดิฉันก็ปิดบ้านเหมือนทุกๆครั้งซึ่งปิดด้านหน้าที่เป็นแผ่นฟิวเจอร์บอร์ด และปิดตัวบ้านโดยใช้โซ่ล็อกกุญแจจากด้านในและเปิดไฟ(หลอดไฟทรงกลม)ปรกติเราจะนอน4-5ทุ่มแต่ เมื่อคืนง่วงมากจึงปิดไฟนอนไวกว่าปรกติ(1ทุ่มกว่าๆ) เราลืมเอาผ้าขนหนูปิดมุมบนของประตู ระหว่างที่เพลียและหลับไป เวลา 21:57 แฟนโทรเข้ามาคุยได้2นาทีจึงวางสายและหลับต่อ ประมาณเวลา23:20 ได้ยินเสียงคนมาเคาะประตูแบบเบาๆเหมือนใช้นิ้วเคาะ(ประตูห้องเราเป็นพลาสติก) เพราะถ้าเสียงดังบ้านข้างๆจะได้ยินเช่นกัน ในความรู้สึกเรา เราคิดว่าเรากำลังฝันอยู่ก็พยายามตั้งสติว่าเห้ยเสียงที่เหมือนคนมาเคาะประตูนั้นเราคิดไปเองหรือเปล่า จู่ๆมีเสียงแผ่วเบาพูดขึ้นมาว่า เปิดประตูดิ่ เสียงนั้น เป็นเสียงของผู้ชาย และต้องเป็นคนไทยแน่ๆมันชัดเจน (เราอยู่ในบริเวรโรงงานซึ่งมีคนกัมพูชาด้วยถึงจะพูดไทยยังไงก็ไม่ชัดอยู่ดี)
เริ่มมีสติขึ้นมานิดนึงแต่ก็ยังเชื่อว่าตัวเองนั้นฝันและคิดไปเองแน่ๆ!! จึงคิดว่าเห้ยถ้ามันมีคนมาเรียกเราจริงๆไฟที่เราเปิดเอาใว้หน้าบ้านต้องดับแน่ๆ เราหันไปมองมุมบนของประตูซึ่งเราลืมเอาผ้าปิด พอเราหันไปมอง ไฟมันดับจริงๆในขณะที่พัดลมในบ้านยังเปิดอยู่ ใช่ไฟไม่ได้ดับเองแต่มีคนมาหมุนหลอดไฟของเรา ในขณะนั้นเสียงเงียบไป เรามีความรู้สึกว่ายังมีคนยืนอยู่ที่หน้าประตู เราเหลือบตาไปมองที่มุมบนอีกที มีความรู้สึกเหมือนมีคนมามอง แวบๆไปมา เราจึงนอนเอาผ้าคลุมโปงเราเริ่มหวาดกลัวและขนลุกไปหมด จนเผลอหลับไปสักพักตื่นมาจับโทรศัพท์ดูเวลา 00:19 เราขนลุกไม่หาย มองที่ประตูไฟยังถูกปิดอยู่พยายามคิดว่าเราฝันเราคิดไปเอง !!!!!! จนตื่นมารุ่งเช้า ทำใจว่าคิดไปเองมันไม่อะไรหรอก เปิดประตูมา ความจริงที่เห็นคือเราไม่ได้คิดไปเองแล้ว ฟิวเจอร์บอร์ดที่ถูกปิดไปโดยใช้ตัวหนีบถูกเปิดออก ถึงมันจะไม่แน่นหนาพอแต่มันไม่เคยหลุดเองแบบนี้เลยสักครั้งตั้งแต่อาศัยมา หลอดไฟก็มีการถูกหมุนเพื่อให้ไฟดับจริงๆ เราจึงโทรไปเล่าให้แฟนและย่าฟัง เรากลัวมากขนลุกหวาดระแวงไปหมด ไม่กล้าอยู่คนเดียว วันนี้จึงมาขอนอนบ้านย่า
ปรกติเรานอนดึกก็จะล็อกบ้านเวลาที่ตัวเองจะนอน
เรามีความคิดที่ว่าเราใช้ชีวิตอยู่คนเดียวจนเคยชิน คิดว่าคงไม่มีอะไรและไม่มีใครเขามาทำอะไรเราหรอก แต่พอเจอแบบนี้แล้วเรากลัวจนไม่กล้าที่จะนอนคนเดียวเลย ปล.เราคิดว่าเสียงที่เราได้ยินในคืนนั้นมันคุ้นหู แฟนเรานอนรักษาตัวที่โรงบาล มีแต่คนในโรงงานเท่านั้นที่รู้
มันเป็นไปได้ยากที่คนนอกจะมาเคาะให้เราเปิดประตู เพราะเขาต้องคิดว่าห้องเรามีคนนอน2คน เขาจะรู้ได้ไงว่าเรานอนคนเดียว ตอนที่บอกให้เปิดประตูก็ไม่ได้เรียกชื่อเราหรือแฟน คนงานเรารู้จักกันทุกคน ตอนเช้าเราพี่ที่โรงงานก็ถามกันทุกคนว่ามีใครมาเคาะประตูเรียกเรารึเปล่าแต่ก็ไม่มี เราและแฟนไม่รู้จักและไม่สนิทกับคนนอก
#บางสิ่งบางอย่างอาจจะไม่เคยเกิดขึ้นกับเราแต่เราควรระมัดระวังและป้องกันเอาใว้ก่อนดีกว่าอย่ารอให้มันเกิด
เมื่อมีคนมาเคาะประตูยามคํ่าคืน
ดิฉันพักศัยอยู่ห้องพักคนงานซึ่งเป็นบ้านไม้ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อคืนดิฉันนอนพักคนเดียวโดยปรกติจะอาศัยอยู่กับแฟน2คน แต่แฟนป่วยนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายวันแล้ว ทำให้ต้องนอนคนเดียว บ้านที่ฉันพักทางเข้าบ้านจะหันออกไปทางด้านหลังติดป่ามันไม่เหมือนบ้านคนอื่นๆ เมื่อคืนดิฉันก็ปิดบ้านเหมือนทุกๆครั้งซึ่งปิดด้านหน้าที่เป็นแผ่นฟิวเจอร์บอร์ด และปิดตัวบ้านโดยใช้โซ่ล็อกกุญแจจากด้านในและเปิดไฟ(หลอดไฟทรงกลม)ปรกติเราจะนอน4-5ทุ่มแต่ เมื่อคืนง่วงมากจึงปิดไฟนอนไวกว่าปรกติ(1ทุ่มกว่าๆ) เราลืมเอาผ้าขนหนูปิดมุมบนของประตู ระหว่างที่เพลียและหลับไป เวลา 21:57 แฟนโทรเข้ามาคุยได้2นาทีจึงวางสายและหลับต่อ ประมาณเวลา23:20 ได้ยินเสียงคนมาเคาะประตูแบบเบาๆเหมือนใช้นิ้วเคาะ(ประตูห้องเราเป็นพลาสติก) เพราะถ้าเสียงดังบ้านข้างๆจะได้ยินเช่นกัน ในความรู้สึกเรา เราคิดว่าเรากำลังฝันอยู่ก็พยายามตั้งสติว่าเห้ยเสียงที่เหมือนคนมาเคาะประตูนั้นเราคิดไปเองหรือเปล่า จู่ๆมีเสียงแผ่วเบาพูดขึ้นมาว่า เปิดประตูดิ่ เสียงนั้น เป็นเสียงของผู้ชาย และต้องเป็นคนไทยแน่ๆมันชัดเจน (เราอยู่ในบริเวรโรงงานซึ่งมีคนกัมพูชาด้วยถึงจะพูดไทยยังไงก็ไม่ชัดอยู่ดี)
เริ่มมีสติขึ้นมานิดนึงแต่ก็ยังเชื่อว่าตัวเองนั้นฝันและคิดไปเองแน่ๆ!! จึงคิดว่าเห้ยถ้ามันมีคนมาเรียกเราจริงๆไฟที่เราเปิดเอาใว้หน้าบ้านต้องดับแน่ๆ เราหันไปมองมุมบนของประตูซึ่งเราลืมเอาผ้าปิด พอเราหันไปมอง ไฟมันดับจริงๆในขณะที่พัดลมในบ้านยังเปิดอยู่ ใช่ไฟไม่ได้ดับเองแต่มีคนมาหมุนหลอดไฟของเรา ในขณะนั้นเสียงเงียบไป เรามีความรู้สึกว่ายังมีคนยืนอยู่ที่หน้าประตู เราเหลือบตาไปมองที่มุมบนอีกที มีความรู้สึกเหมือนมีคนมามอง แวบๆไปมา เราจึงนอนเอาผ้าคลุมโปงเราเริ่มหวาดกลัวและขนลุกไปหมด จนเผลอหลับไปสักพักตื่นมาจับโทรศัพท์ดูเวลา 00:19 เราขนลุกไม่หาย มองที่ประตูไฟยังถูกปิดอยู่พยายามคิดว่าเราฝันเราคิดไปเอง !!!!!! จนตื่นมารุ่งเช้า ทำใจว่าคิดไปเองมันไม่อะไรหรอก เปิดประตูมา ความจริงที่เห็นคือเราไม่ได้คิดไปเองแล้ว ฟิวเจอร์บอร์ดที่ถูกปิดไปโดยใช้ตัวหนีบถูกเปิดออก ถึงมันจะไม่แน่นหนาพอแต่มันไม่เคยหลุดเองแบบนี้เลยสักครั้งตั้งแต่อาศัยมา หลอดไฟก็มีการถูกหมุนเพื่อให้ไฟดับจริงๆ เราจึงโทรไปเล่าให้แฟนและย่าฟัง เรากลัวมากขนลุกหวาดระแวงไปหมด ไม่กล้าอยู่คนเดียว วันนี้จึงมาขอนอนบ้านย่า
ปรกติเรานอนดึกก็จะล็อกบ้านเวลาที่ตัวเองจะนอน
เรามีความคิดที่ว่าเราใช้ชีวิตอยู่คนเดียวจนเคยชิน คิดว่าคงไม่มีอะไรและไม่มีใครเขามาทำอะไรเราหรอก แต่พอเจอแบบนี้แล้วเรากลัวจนไม่กล้าที่จะนอนคนเดียวเลย ปล.เราคิดว่าเสียงที่เราได้ยินในคืนนั้นมันคุ้นหู แฟนเรานอนรักษาตัวที่โรงบาล มีแต่คนในโรงงานเท่านั้นที่รู้
มันเป็นไปได้ยากที่คนนอกจะมาเคาะให้เราเปิดประตู เพราะเขาต้องคิดว่าห้องเรามีคนนอน2คน เขาจะรู้ได้ไงว่าเรานอนคนเดียว ตอนที่บอกให้เปิดประตูก็ไม่ได้เรียกชื่อเราหรือแฟน คนงานเรารู้จักกันทุกคน ตอนเช้าเราพี่ที่โรงงานก็ถามกันทุกคนว่ามีใครมาเคาะประตูเรียกเรารึเปล่าแต่ก็ไม่มี เราและแฟนไม่รู้จักและไม่สนิทกับคนนอก
#บางสิ่งบางอย่างอาจจะไม่เคยเกิดขึ้นกับเราแต่เราควรระมัดระวังและป้องกันเอาใว้ก่อนดีกว่าอย่ารอให้มันเกิด