[ GOT7 ] GOT7 บทสัมภาษณ์กับสื่อยักษ์ใหญ่ของอเมริกา [ Forbes ] !!!!

กระทู้ข่าว

GOT7 K-POP นักร้องนักดนตรีเกาหลี คอนเสิร์ตเกาหลี เพลงเกาหลี

GOT7 ได้แวะให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างๆ ของอเมริกาเมื่อมาถึงนิวยอร์ค รวมถึงได้คุณTamar Herman คอลัมนิสต์ของ Billboard และ Forbes
ก่อนหน้านี้ Tamar ได้เขียนถึง GOT7 ลงใน Billboard แล้ว

รายการที่ GOT7 เข้าให้สัมภาษณ์ช่วง Eyes On You World Tour ที่ North America

[ GOT7 ] GOT7 ปรากฏตัวในรายการ "Good Day New York" หนึ่งในทอร์คโชว์ยักษ์ใหญ่ของมหานครนิวยอร์ค!!
https://ppantip.com/topic/37867941

[ GOT7 ] จากบทสัมภาษณ์ GOT7 x BILLBOARD!!! และสร้างประวัติวง K-pop วงแรกที่ขึ้นแสดงที่ Barclays Canter!!
https://ppantip.com/topic/37861645

[ GOT7 ] || BILLBOARD x GOT7 || คอนเสิร์ต SOLD-OUT ที่นิวยอร์ค!! , แนวการทำเพลง และ มิตรภาพของทั้ง 7 คน
https://ppantip.com/topic/37883521

[ GOT7 ] GOT7 x Liam McEwan : J14 Magazine!! นิตยสารวัยรุ่นชื่อดังของอเมริกา!! @Los Angeles
https://ppantip.com/topic/37883701

Accessoline || GOT7 Gives A K-Pop Dance Tutorial & Rave About Their Fans!
https://www.youtube.com/watch?v=4UNL_vmGrB4

[ GOT7 ] บทสัมภาษณ์ GOT7 จาก Ellie Lee : iHeartRadio แพลตฟอร์มเพลงชื่อดังของอเมริกา!!
https://ppantip.com/topic/37888554

และต่อมาเธอได้ทวีตบทความใน Forbes ของเธอออกมา

[แปลทวีต] มีความเปลี่ยนแปลงมากมายในตลอด 2 ปี ตั้งแต่ โชว์ครั้งสุดท้ายของ @GOT7Official ใน NYC และ 7 หนุ่ม ได้พูดคุยเกี่ยวกับอาชีพของพวกเขา, การแต่งเพลง และ K-pop ในการพูดคุยของพวกเราสำหรับ Forbes อ่านสิ่งที่ #GOT7 พูดได้ที่นี่:

และทวีตจากแอคเคาท์ของ Forbes

อ่านบทสัมภาษณ์ของพวกเขาได้ที่นี่!!...

[TRANS] Boy Band GOT7 Talk Making Their Own Way Amid Growing Stateside Interest In K-Pop
Tamar Herman | Jul 18, 2018

เป็นเวลา 4 ปีแล้วตั้งแต่วงK-pop GOT7 ปล่อยซิงเกิ้ลแรกของพวกเขา “Girls Girls Girls” ตั้งแต่นั้นมา พวกเขาก็ได้ปล่อยมาหลากหลายอัลบั้มและซิงเกิ้ลทั้งในภาษาเกาหลีและภาษาญี่ปุ่น และในเวิร์ลทัวร์เมื่อเร็วๆ นี้ก็ได้เห็นพวกเขาเติมเต็มอารีน่าในอเมริกาเหนือทั้งสองที่เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เป็นที่รู้จักกันทั้งความสดใสและฮิปฮอปที่แข็งแรง, แถมยังมีท่าเต้นที่มีลูกเล่น, พวกเขาได้สร้างกลุ่มแฟนๆ ผู้ติดตามที่แสนทุ่มเท เป็นที่รู้จักกันในชื่อ IGOT7 (หรือ Ahgase) ผู้ซึ่งมีส่วนในการผลักดันพวกเขาให้กลายเป็นหนึ่งในวงบอยแบนด์ K-pop ที่โดดเด่นในระกับสากล

ในระหว่างทริปไปยังกรุงนิวยอร์คของพวกเขา ในการแสดงคอนเสิร์ต SOLD OUT ที่ Barclays Center ,GOT7 ได้สะท้อนให้เห็นว่าพวกเขามาไกลขนาดไหนตั้งแต่การทัวร์ครั้งสุดท้ายของพวกเขาที่อเมริกาในปี 2016 “ตอนนี้สถานที่จัดใหญ่ขึ้นแล้ว” แร็พเปอร์ แจ็คสัน พูดขึ้น อ้างอิงถึงที่วงได้ขึ้นแสดงก่อนหน้านี้ที่ Playstation Theater ใน Time Square ซึ่งมีความจุที่จุคนได้น้อยกว่า Barclays Center 17,000 คน “และตอนนี้ K-pop วัฒนธรรม K-pop กำลังได้รับความสนใจจากอเมริกา ทุกอย่างกำลังเปลี่ยนไปในทางที่ดีสำหรับเรา ราบรื่นสำหรับเราใน 2 ปีนี้ และพวกเราโชคดีมากครับ”

เมมเบอร์วง GOT7 ,ส่วนใหญ่ใช้ชื่อจริง, เมมเบอร์มาจากทั้งเกาหลีใต้ (อิม”เจบี”แจบอม, ปาร์คจินยอง, ชเวยองแจ, คิมยูคยอม) ฮ่องกง (แจ็คสัน หวัง) ประเทศไทย (แบมแบม ชื่อทางการ คือ กันต์พิมุกต์ ภูวกุล) และ สหรัฐอเมริกา (มาร์ค ต้วน) แต่ได้มาอยู่ด้วยกันโดยหนึ่งใน “Big3” บริษัทเพลงของเกาหลี JYP Entertainment หลังผ่านการฝึกฝนที่หลากหลาย ในทางตรงกันข้ามกับอะไรที่เป็นรูปแบบเหมือนๆ กันของระบบ K-pop และความสร้างสรรค์ของศิลปินที่ไม่เพียงพอ หนุ่มๆ ทั้ง 7 คน กลับเล่นในบทหลักในการสร้างสรรค์เพลงของพวกเขาและการแสดง ; ซิงเกิ้ลล่าสุดของพวกเขาในภาษาเกาหลี “Look” เป็นเพลงที่ JB ร่วมเขียนขึ้นด้วย ในขณะที่แบมแบม, ยูคยอม, ยองแจ และ จินยอง มีเครดิตในอัลบั้มเดือนมีนาคมของพวกเขา “Eyes on You”

การมองง่ายๆ ว่าอุตสาหกรรม K-pop เป็นรูปแบบเครื่องจักรผลิตเพลง เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยพอใจกับเมมเบอร์ GOT7 ผู้ซึ่งชี้ว่านั่นเป็นการลดความพยายามของทั้งนักร้องที่แสดงเพลง และคนที่อยู่เบื้องหลัง ไม่ว่าจะเป็นคนเขียนเพลง หรือเจ้าหน้าที่ก็ตาม “ถึงแม้ว่า [นักร้อง] จะถูกสอนให้อยู่ในแนวทางเดิม พวกเขาก็ได้พยายามอย่างหนักและทำให้ดีที่สุด” เจบี ผู้ซึ่งใช้ชื่อ “Defsoul” ในการทำเพลง กล่าวขึ้น “ทุกคนควรมอง [K-pop model] ในทางบวก เพราะถึงแม้ว่าศิลปินจะไม่ได้ทำเพลงของตัวเอง พวกเขาก็เป็นตัวแทนสำหรับเพลงนั้นที่คนอื่นทำขึ้นมา และมีความพยายามและช่วงเวลาที่ต้องใช้ไปตรงนั้น ซึ่งเป็นศิลปะในตัวของมันเอง”

จินยองก็คิดเหมือนกัน โดยเฉพาะที่ในตอนนี้มีศิลปิน K-pop เคลื่อนไหวในการสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นเอกลักษณ์ “ผมเข้าใจว่าผู้คนจะมองว่ามันดูเป็นโรงงาน หรือ ของที่ผลิตออกมาซ้ำๆ แต่มันก็เป็นเหมือนกับประเภทของตัวมันเอง” เขาพูด “อุตสาหกรรมเติบโตใหญ่ขึ้น ผมสงสัยว่าคนจะพูดแบบนั้นมั้ย เพราะตอนนี้มีหลายวงมากๆ ที่ทำเพลงด้วยตัวเอง”

GOT7 กล่าวว่าในช่วงเวลาเพียง 4 ปีของอาชีพ พวกเขามีช่องในการเติบโตเป็นนักเขียนเพลง ในขณะที่พวกเขาเรียนรู้งานไปด้วย “ผมยังคงค้นหาเสียงที่แตกต่างเพื่อมองว่าผมจะแสดงตัวตนออกมายังไงให้ดีที่สุด” ยองแจ ผู้ใช้ชื่อ ARS ในการเขียนเพลง และร่วมทีมกับ Sanjoy, Stephen Rezza และ Elliott Yamin ใน “Victim of Love” เมื่อปีที่แล้ว ได้กล่าวไว้ ในส่วนของการเรียนรู้นี้ เจบีอธิบายว่าช่วงนี้เขาฟังเพลงที่เขาเขียนขึ้นสมัยก่อน เพื่อให้เห็นว่าเขาพัฒนามาไกลแค่ไหนแล้ว ในการเป็นแรงบัลดาลใจสำหรับการเขียนเพลงต่อ แม้ในตอนที่เขารู้สึกเหมือนขาดแรงบัลดาลใจ ยูคยอม น้องเล็กที่สุดของวง อายุ 20 ปี รับว่า “แค่มีความสนุก” ในการค้นหาดนตรีของตัวเอง ซึ่งผลลัพธ์นั้นได้ถูกอัพเดทในหน้า Soundcloud ของเขา

GOT7 รับว่าอยากกลับไปในเพลงช่วง 2014 อย่าง “Stop Stop It” แต่พูดทีหลังว่าอาจเป็นเพราะการเลือกสไตล์เสื้อผ้าที่ไม่ค่อยดีในMVมากกว่าปัญหาอื่นๆ ในตัวเพลง ซิงเกิ้ลก่อนหน้านี้อื่นๆ อย่าง “Just Right” ในปี 2015 ก็เป็นเพลงที่มีดนตรีที่พวกเขาอยากกลับไปเช่นกัน “เพิ่มเพลงที่สดใสมีจังหวะแบบนั้นมากขึ้น แต่บางทีการแสดงก็ไม่ต้องน่ารักเกินไป” มาร์คแนะ ซึ่งจากนั้นแบมแบม และ จินยองพูดว่า “นั่นคือ Look ไม่ใช่หรอ?” ถาม “นั่นคือ Look ล่ะ” และยืนยันอีกที

สำหรับการเป็นลีดเดอร์ และเมมเบอร์ที่โดดเด่นในการเขียนเพลงของวง มีการแบ่งแยกระหว่างเพลงที่เจบีแต่ง กับเพลงที่เขาอยากจะนำออกมา “สำหรับ GOT7 ผมจะทำเพลงที่มีพลัง จังหวะเพลงทำขึ้นมาเพื่อการแสดง” เขาพูด “สิ่งที่ผมชอบจะฟังเพลินๆ และอาจจะดูดาร์คๆ แต่นั่นเป็นประเภทขอเริ่มรู้สึกสบายมากขึ้นกับการค้นหาความแตกต่างพวกนั้น ทุกวันนี้ผมพบว่าดนตรีที่ผมอยากทำ และ เพลงที่ผมต้องทำ ก็ทำให้ผมสนุกได้ทั้งคู่  Verse2 อัลบั้มเมื่อปีที่แล้ว ที่ทำออกมาในส่วนของซับยูนิตกับจินยอง JJ Project ก็โดดเด่นในการค้นหาตัวเอง, เพลงที่นุ่มขึ้นกว่าเพลงทั่วไปของ GOT7

หนุ่มๆ GOT7 คิดว่าพวกเขาแบ่งเป็น 7 ส่วนจากทั้งหมด และมองว่าความพยายามแต่ละส่วนนี้ เป็นส่วนขยายของเอกลักษณ์ควบคู่ไปกับสิ่งที่เป็นอย่าง การแสดงของจินยอง, แบมแบม และ มาร์ค ทำงานร่วมกับ Represent ในไลน์เสื้อผ้า, และ อาชีพของแจ็คสันในจีน ในฐานะศิลปินฮิปฮอป และ ดาราทางโทรทัศน์ “มันเป็นการขยายภาพตัวเอง-เพลงของตัวเองให้มากขึ้น” คำพูดจากแจ็คสัน ที่เราได้เห็น 4 ซิงเกิ้ลของเขาติดTOPบน Billboard’s China V Chart รวมถึง Dawn of Us ในเดือนเมายนด้วย ในอนาคต คาดว่าพวกเขาแต่ละคนจะค้นหาเส้นทางของตัวเองต่อไป; เมมเบอร์ทุกคนแสดงออกถึงความสนใจในด้านการแสดง จากแจ็คสันที่เสนอไอเดียให้ทำภาคต่อเว็บซีรีย์ Dream Knight เมื่อปี 2015 ของพวกเขา  (“ไม่ ไม่ ไม่ ไม่” แบมแบมรีบพูด) บทบาทความสามารถอื่นๆ อย่างเช่น ยองแจ พยายามทำดนตรีบำบัด และ แบมแบมเรียนรู้การเป็นบาร์เทนเดอร์ ก็ถูกหยิบยกขึ้นมา

การมีเมมเบอร์ที่พูดภาษาอังกฤษหลายคน –แบมแบม, แจ็คสัน, จินยอง และ มาร์ค พุดคุยโดยไม่ต้องพึ่งล่ามในระหว่างการสนทนา –  ทำให้พวกเขาสามารถสื่อสารได้อย่างสะดวกสบายกับแฟนๆ ในอเมริกา และทั้งแบมแบม กับ แจ็คสัน ก็ยังได้เป็นตัวแทนของ K-pop ในประเทศไทย และ จีนตามลำดับ ถึงแม้ว่าวง K-pop ของ JYP ตั้งแต่ปี 2008 (2PM, miss A, GOT7, TWICE, DAY6 และ Stray Kids) จะมีอย่างน้อย 2 คนที่พูดได้หลายภาษา ถ้าหากไม่ใช่คนต่างประเทศ แต่GOT7 ไม่เห็นว่านั่นมีความจำเป็นสำหรับการเติบโตของอุตสาหกรรมเพลง “ผมไม่รู้สึกว่าวง K-pop จำเป็นต้องมีเมมเบอร์ที่มาจากหลายประเทศ” มาร์คกล่าว ซึ่งเขาพูดแมนดารินด้วย ก่อนจะเพิ่มเติมว่า “มันเป็นส่วนเสริม” ที่ทำให้สามารถสื่อสารได้ดีขึ้นกับแฟนๆ ในต่างประเทศ

GOT7 มุ่งไปยังการเติบโตของ K-pop ในระดับสากล โดยเฉพาะในประเทศอเมริกา ที่ซึ่งอุตสาหกรรมเพลงเกาหลีกำลังเติบโต เห็นได้จากศิลปินอย่าง BTS และ Blackpink ที่สร้างประวัติศาสตร์บนชาร์ตเพลงของอเมริกาในปีนี้ “มันเป็นแค่จุดเริ่มต้นของอเมริกาสำหรับวัฒนธรรม K-pop” แบมแบมย้ำ ซึ่งเขายังพูดด้วยว่า “จะฝันให้ใหญ่” และหวังว่าในที่สุดพวกเขาจะสามารถเติมเต็มสเตเดี่ยมด้วยแฟนๆ ได้ “หลังจากนี้ ผมหวังว่า ศิลปิน K-pop คนอื่นๆ เมื่อมาที่อเมริกา พวกเขาจะสามารถรับพลังจากพวกเราไปได้ครับ”