เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 กรกฎาคม 2561 ที่ห้องประชุม 1 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายธีรยุทธ กุคำใส สถาปนิกชำนาญการ สำนักโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการศึกษาการดำเนินการในส่วนของสิ่งปลูกสร้าง เพื่อให้พื้นที่เป็นป่าสมบูรณ์ กรณีก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการ (อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่) โดยมีผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและภาคประชาชนร่วมหารือเพื่อสรุปความคิดเห็นเป็นครั้งสุดท้าย หลังยังมีความขัดแย้งในเรื่องความเห็นต่อกรณีคอนโดมิเนียม 9 หลัง
ทั้งนี้ที่ประชุมใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง จึงได้ข้อยุติในประเด็นคอนโดมิเนียม หรืออาคารชุด 9 หลังว่า ให้เสนอทางเลือกเข้าไป 2 แนวทาง คือ
1.รื้ออาคารชุดทั้งหมด 9 หลัง และสิ่งสาธารณูปโภคในพื้นที่ออก แล้วเร่งรัดการฟื้นฟูโดยกำหนดเวลาที่ชัดเจน ให้พื้นที่กลับมาเป็นป่าสมบูรณ์ดังเดิม
และ 2.ดำเนินการจัดการอาคารตามความเหมาะสม โดยไม่มีผู้พักอาศัยหรือเข้าไปใช้ประโยชน์ แล้วเร่งรัดทำการฟื้นฟูโดยกำหนดเวลาที่ชัดเจน เพื่อให้พื้นที่กลับมาเป็นป่าสมบูรณ์ดังเดิม
โดยประธานที่ประชุมกล่าวสรุปว่า จะรวบรวมเสนอความคิดเห็นเป็นรูปเล่มก่อนนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ระดับจังหวัด ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธาน เพื่อพิจารณาและเสนอรายงานความคิดเห็นไปยังคณะกรรมการชุดใหญ่ระดับรัฐบาลต่อไป เพื่อพิจารณาและตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้าย แต่ไม่มีกรอบระยะเวลาว่าเป็นวันเวลาใด
ทางด้านนายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ กล่าวว่า ตอนแรกคิดว่าวันนี้จะหาข้อยุติไม่ได้ แต่ที่สุดคณะอนุกรรมการณ ก็สรุปความเห็นสุดท้ายร่วมกันได้ โดยชัดเจนเด็ดขาดว่าจะต้องรื้อบ้านเดี่ยว 45 หลัง ส่วนอาคารชุด 9 หลัง จะรื้อเป็นลำดับต่อไป ซึ่งเป็นใจความสำคัญที่จะส่งต่อไปยังคณะกรรมการชุดใหญ่
“ความจริงนายกรัฐมนตรีก็ยังพูดว่าอยู่ในข้อตกลง แต่จริงๆ เมื่อ 2 เดือนที่แล้วนายกรัฐมนตรีพูดว่า ผมจะไม่อนุมัติใครให้อยู่อาศัย ทางเครือข่ายอยากให้ท่านทำตามข้อตกลงที่ได้เคยพูดไว้ จะมาอ้างว่าขอให้ข้าราขการชั้นผู้น้อยอยู่ต่อไปจนกว่าจะหาที่อยู่ใหม่ได้ แล้วรู้หรือไม่ว่าหลังเก่าใช้เวลาถึง 5 ปี ยังไม่เสร็จ หากท่านพูดว่าให้เขาอยู่ต่อไปอีก ผมไม่รู้ว่าการฟื้นฟูจะเกิดขึ้นเมื่อไร จึงอยากให้ท่านรักษาคำพูดของท่าน ท่านเป็นระดับนายกรัฐมนตรี เมื่อท่านสัญญากับเครือข่ายและประชาชนชาวเชียงใหม่แล้วว่าจะไม่มีผู้อยู่อาศัย ความจริงอาคารชุดยังเหลืออยู่อีก 4 หลัง ที่ไม่โดนรื้ออีก 40 กว่าห้อง ท่านสั่งย้ายเลยให้พวกที่อยู่ในเขตพิพาทให้ออกมาอยู่ในอาคาร 4 หลังที่เหลือก็จบ ผมไม่เข้าใจคนที่ไปพักในอาคารชุด 9 หลัง มีระดับ มีรถเบนซ์ เมื่อ 2 เดือนท่านอยู่ที่ไหน ก่อนจะย้ายเข้ามาก็ย้ายกลับไปอยู่ที่เดิม ถ้ายังคิดที่จะอยู่อย่างนี้ก็โดนชาวเชียงใหม่ด่าเช้าด่าเย็น ท่านเป็นผู้มีเกียรติเป็นสถาบันที่มีเกียรติ ทำไมยังสร้างความขัดแย้งอยู่ สั่งเลยใครที่อยู่ใน 9 หลัง สั่งให้มาอยู่ 4 หลังจบ ชาวเชียงใหม่ก็จบ ท่านคืนพื้นที่ให้ธนารักษ์ ทำตามข้อตกลงสิครับ”
นายธีรศักดิ์ กล่าวอีกว่า เรื่องจะสร้างที่ใหม่ ยังไม่มีที่สร้าง จะเอางบประมาณมาจากไหน ยังไม่มีการคุยเรื่องพวกนี้เลย ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะให้อยู่ต่อ อีก 10 ปี ถึงจะเข้าไปฟื้นฟูได้ ท่านเป็นคนพูดเองว่าจะต้องรีบฟื้นฟู จนบัดนี้ทางเข้าเรายังทำเข้าไปไม่ได้เลย การฟื้นฟูมีแค่การทำผักชีโรยหน้าเมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมาเท่านั้น ที่มีการมาจัดใหญ่ครั้งนั้นในเขต 9 หลัง คือผักชี แต่ตอนนี้ที่มีการเสียหายหนักยังไม่มีการไปฟื้นฟูปลูกต้นไม้สักต้นเลย
“สิ่งนี้ชาวเชียงใหม่ถือว่าเป็นขึดหลวง ทุกคนไม่สบายใจ หากรัฐบาลตัดสินใจในทางขัดแย้ง ให้คงอาคารเหล่านี้ที่รุกล้ำในเขตป่าเอาไว้ ผมบอกได้เลยว่าชาวเชียงใหม่ออกมายิ่งใหญ่แน่ ตอนนี้ทุกฝ่ายไม่เฉพาะกลุ่มเครือข่ายอย่างเดียวแล้ว มีหลายกลุ่มทางด้านการเมืองก็มา สีเสื้อก็มา ผมบอกได้เลยว่าถ้ารัฐบาลไม่รีบตัดสินใจเรื่องจะบานปลายแน่นอน ทุกส่วนจะเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วย ตอนนี้เครือข่ายพยายามรักษาว่ามีสีเขียวสีเดียว ที่เราจะขอป่ากลับคืนเท่านั้น เพราะจะ 4 เดือนแล้วที่ยืดเยื้อมา ขอให้รีบตัดสินใจ
“ข้อเสนอที่เราเสนอไปคาดว่าภายใน 2-3 อาทิตย์ รัฐบาลจะได้รับทราบและควรจะรีบตัดสินใจ เพราะฉนั้นการเมืองเข้ามายุ่งแน่นอน และผมไม่อาจห้ามบุคคลเหล่านั้นเข้ามาเคลื่อนไหวในระดับสูงต่อไปได้ และเชื่อว่าคนเชียงใหม่ก็ไม่ยอม ขอร้องให้รีบจบเรื่องนี้โดยไว ฝากบอกเชิญชวนพี่น้องประชาชนไว้เลยว่า ในเดือนสิงหาคมนี้ เราจะเคลื่อนไหวใหญ่ ขอเชิญทุกท่านเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมว่า เราควรจะเคลื่อนไหวและออกมาเต็มเมืองอีกครั้งเพื่อบอกให้รู้ว่าการรุกป่าเช่นนี้ไม่สมควร อาคารบ้านพักตุลาการเหล่านี้ไม่ควรไม่อยู่ตรงนั้น”
ทั้งนี้ในเพจ ‘ขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ’ มีการนำเสนอข้อตกลงกับรัฐบาลครั้งแรก เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2561 ว่าไม่มีผู้อาศัย ในอาคารชุด 9 หลัง และบ้านพัก 45 หลัง แต่จนถึงปัจจุบัน ตั้งแต่กลางเดือน กรกฎาคม 2561 มีคนทยอยเข้าไปอยู่ในอาคารชุดทั้ง 9 หลัง ราว 30 ครอบครัว และไม่มีทีท่าว่าจะย้ายออก และนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่าเป็นข้าราชการผู้น้อยและขอความเห็นใจ ทั้งที่ความจริง ในบรรดาอาคารชุดทั้ง 9 หลัง มีอาคารที่ออกแบบสำหรับข้าราชการศาลชั้นผู้น้อยเพียงหลังเดียวเท่านั้น และปัจจุบันมีผู้น้อยเข้าอยู่เพียง 3 ห้อง ส่วนอาคารชุดที่เหลืออีก 8 หลัง เป็นอาคารชุดหรูระดับเพนท์เฮ้าส์ เพราะแต่ละอาคารมีห้องพักเพียง 8 ห้อง มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ผู้เข้าอยู่เป็นผู้พิพากษา ที่มีเงินเดือน เงินประจำ เงินพิเศษ รวมเกือบแสนบาทต่อเดือน จึงมีรถเบนซ์และรถหรูจอดอยู่ด้านหน้า ไม่ใช่ชั้นผู้น้อยตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด
JJNY : กลุ่มต้านบ้านพักตุลาการ ทวงสัญญา 'ประยุทธ์' โวยฟื้นฟูป่าแค่ผักชี จ่อม็อบใหญ่ส.ค.
ทั้งนี้ที่ประชุมใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง จึงได้ข้อยุติในประเด็นคอนโดมิเนียม หรืออาคารชุด 9 หลังว่า ให้เสนอทางเลือกเข้าไป 2 แนวทาง คือ
1.รื้ออาคารชุดทั้งหมด 9 หลัง และสิ่งสาธารณูปโภคในพื้นที่ออก แล้วเร่งรัดการฟื้นฟูโดยกำหนดเวลาที่ชัดเจน ให้พื้นที่กลับมาเป็นป่าสมบูรณ์ดังเดิม
และ 2.ดำเนินการจัดการอาคารตามความเหมาะสม โดยไม่มีผู้พักอาศัยหรือเข้าไปใช้ประโยชน์ แล้วเร่งรัดทำการฟื้นฟูโดยกำหนดเวลาที่ชัดเจน เพื่อให้พื้นที่กลับมาเป็นป่าสมบูรณ์ดังเดิม
โดยประธานที่ประชุมกล่าวสรุปว่า จะรวบรวมเสนอความคิดเห็นเป็นรูปเล่มก่อนนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ระดับจังหวัด ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธาน เพื่อพิจารณาและเสนอรายงานความคิดเห็นไปยังคณะกรรมการชุดใหญ่ระดับรัฐบาลต่อไป เพื่อพิจารณาและตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้าย แต่ไม่มีกรอบระยะเวลาว่าเป็นวันเวลาใด
ทางด้านนายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ กล่าวว่า ตอนแรกคิดว่าวันนี้จะหาข้อยุติไม่ได้ แต่ที่สุดคณะอนุกรรมการณ ก็สรุปความเห็นสุดท้ายร่วมกันได้ โดยชัดเจนเด็ดขาดว่าจะต้องรื้อบ้านเดี่ยว 45 หลัง ส่วนอาคารชุด 9 หลัง จะรื้อเป็นลำดับต่อไป ซึ่งเป็นใจความสำคัญที่จะส่งต่อไปยังคณะกรรมการชุดใหญ่
“ความจริงนายกรัฐมนตรีก็ยังพูดว่าอยู่ในข้อตกลง แต่จริงๆ เมื่อ 2 เดือนที่แล้วนายกรัฐมนตรีพูดว่า ผมจะไม่อนุมัติใครให้อยู่อาศัย ทางเครือข่ายอยากให้ท่านทำตามข้อตกลงที่ได้เคยพูดไว้ จะมาอ้างว่าขอให้ข้าราขการชั้นผู้น้อยอยู่ต่อไปจนกว่าจะหาที่อยู่ใหม่ได้ แล้วรู้หรือไม่ว่าหลังเก่าใช้เวลาถึง 5 ปี ยังไม่เสร็จ หากท่านพูดว่าให้เขาอยู่ต่อไปอีก ผมไม่รู้ว่าการฟื้นฟูจะเกิดขึ้นเมื่อไร จึงอยากให้ท่านรักษาคำพูดของท่าน ท่านเป็นระดับนายกรัฐมนตรี เมื่อท่านสัญญากับเครือข่ายและประชาชนชาวเชียงใหม่แล้วว่าจะไม่มีผู้อยู่อาศัย ความจริงอาคารชุดยังเหลืออยู่อีก 4 หลัง ที่ไม่โดนรื้ออีก 40 กว่าห้อง ท่านสั่งย้ายเลยให้พวกที่อยู่ในเขตพิพาทให้ออกมาอยู่ในอาคาร 4 หลังที่เหลือก็จบ ผมไม่เข้าใจคนที่ไปพักในอาคารชุด 9 หลัง มีระดับ มีรถเบนซ์ เมื่อ 2 เดือนท่านอยู่ที่ไหน ก่อนจะย้ายเข้ามาก็ย้ายกลับไปอยู่ที่เดิม ถ้ายังคิดที่จะอยู่อย่างนี้ก็โดนชาวเชียงใหม่ด่าเช้าด่าเย็น ท่านเป็นผู้มีเกียรติเป็นสถาบันที่มีเกียรติ ทำไมยังสร้างความขัดแย้งอยู่ สั่งเลยใครที่อยู่ใน 9 หลัง สั่งให้มาอยู่ 4 หลังจบ ชาวเชียงใหม่ก็จบ ท่านคืนพื้นที่ให้ธนารักษ์ ทำตามข้อตกลงสิครับ”
นายธีรศักดิ์ กล่าวอีกว่า เรื่องจะสร้างที่ใหม่ ยังไม่มีที่สร้าง จะเอางบประมาณมาจากไหน ยังไม่มีการคุยเรื่องพวกนี้เลย ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะให้อยู่ต่อ อีก 10 ปี ถึงจะเข้าไปฟื้นฟูได้ ท่านเป็นคนพูดเองว่าจะต้องรีบฟื้นฟู จนบัดนี้ทางเข้าเรายังทำเข้าไปไม่ได้เลย การฟื้นฟูมีแค่การทำผักชีโรยหน้าเมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมาเท่านั้น ที่มีการมาจัดใหญ่ครั้งนั้นในเขต 9 หลัง คือผักชี แต่ตอนนี้ที่มีการเสียหายหนักยังไม่มีการไปฟื้นฟูปลูกต้นไม้สักต้นเลย
“สิ่งนี้ชาวเชียงใหม่ถือว่าเป็นขึดหลวง ทุกคนไม่สบายใจ หากรัฐบาลตัดสินใจในทางขัดแย้ง ให้คงอาคารเหล่านี้ที่รุกล้ำในเขตป่าเอาไว้ ผมบอกได้เลยว่าชาวเชียงใหม่ออกมายิ่งใหญ่แน่ ตอนนี้ทุกฝ่ายไม่เฉพาะกลุ่มเครือข่ายอย่างเดียวแล้ว มีหลายกลุ่มทางด้านการเมืองก็มา สีเสื้อก็มา ผมบอกได้เลยว่าถ้ารัฐบาลไม่รีบตัดสินใจเรื่องจะบานปลายแน่นอน ทุกส่วนจะเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วย ตอนนี้เครือข่ายพยายามรักษาว่ามีสีเขียวสีเดียว ที่เราจะขอป่ากลับคืนเท่านั้น เพราะจะ 4 เดือนแล้วที่ยืดเยื้อมา ขอให้รีบตัดสินใจ
“ข้อเสนอที่เราเสนอไปคาดว่าภายใน 2-3 อาทิตย์ รัฐบาลจะได้รับทราบและควรจะรีบตัดสินใจ เพราะฉนั้นการเมืองเข้ามายุ่งแน่นอน และผมไม่อาจห้ามบุคคลเหล่านั้นเข้ามาเคลื่อนไหวในระดับสูงต่อไปได้ และเชื่อว่าคนเชียงใหม่ก็ไม่ยอม ขอร้องให้รีบจบเรื่องนี้โดยไว ฝากบอกเชิญชวนพี่น้องประชาชนไว้เลยว่า ในเดือนสิงหาคมนี้ เราจะเคลื่อนไหวใหญ่ ขอเชิญทุกท่านเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมว่า เราควรจะเคลื่อนไหวและออกมาเต็มเมืองอีกครั้งเพื่อบอกให้รู้ว่าการรุกป่าเช่นนี้ไม่สมควร อาคารบ้านพักตุลาการเหล่านี้ไม่ควรไม่อยู่ตรงนั้น”
ทั้งนี้ในเพจ ‘ขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ’ มีการนำเสนอข้อตกลงกับรัฐบาลครั้งแรก เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2561 ว่าไม่มีผู้อาศัย ในอาคารชุด 9 หลัง และบ้านพัก 45 หลัง แต่จนถึงปัจจุบัน ตั้งแต่กลางเดือน กรกฎาคม 2561 มีคนทยอยเข้าไปอยู่ในอาคารชุดทั้ง 9 หลัง ราว 30 ครอบครัว และไม่มีทีท่าว่าจะย้ายออก และนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่าเป็นข้าราชการผู้น้อยและขอความเห็นใจ ทั้งที่ความจริง ในบรรดาอาคารชุดทั้ง 9 หลัง มีอาคารที่ออกแบบสำหรับข้าราชการศาลชั้นผู้น้อยเพียงหลังเดียวเท่านั้น และปัจจุบันมีผู้น้อยเข้าอยู่เพียง 3 ห้อง ส่วนอาคารชุดที่เหลืออีก 8 หลัง เป็นอาคารชุดหรูระดับเพนท์เฮ้าส์ เพราะแต่ละอาคารมีห้องพักเพียง 8 ห้อง มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ผู้เข้าอยู่เป็นผู้พิพากษา ที่มีเงินเดือน เงินประจำ เงินพิเศษ รวมเกือบแสนบาทต่อเดือน จึงมีรถเบนซ์และรถหรูจอดอยู่ด้านหน้า ไม่ใช่ชั้นผู้น้อยตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด