หลังจากเมื่อสามปีที่แล้วได้มีโอกาสดูหนังอินเดียเรื่อง 3 Idiots นอกจากเหนือจากการดำเนินเรื่องที่ทำให้เราเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อหนังอินเดียไปเลยแล้วนั้น สถานที่ถ่ายทำในหนังถือเป็นหนึ่งในความพีคที่หลังจากดูจบเราถึงกับต้องไปหาข้อมูลในอากู๋กันเลยทีเดียวว่าไอทะเลสีฟ้าๆในฉากจบนั้นมันคือที่ไหน พอเราได้คำตอบว่าที่นั่นคือทะเลสาบ Pangongในเลห์ ซึ่งเลห์เป็นเมืองหลวงของแคว้นลาดักห์ เขตแคชเมียร์ ประเทศอินเดีย อีกชื่อคือ ทิเบตน้อย (Little Tibet)เราก็ได้แต่ฝันว่าวันหนึ่งเราจะต้องไปเยือนดินแดนแห่งนั้นให้ได้
หลังจากเงื้อมาหลายหน ง้างมาหลายทีแต่ก็ไม่ได้ไปสักที ปีที่แล้วเราก็เลยจริงจัง ติดต่อกับไกด์ท้องถิ่นเพื่อจองทริปในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ช่วงที่เราไปเรียกว่าเป็นปลายของฤดูใบไม้ผลิย่างเข้าหน้าร้อน อากาศถือว่าไม่ร้อนไม่หนาวมากสำหรับที่เลห์ หลังจากจองทริปแล้วก็รอดูตั๋วโปรเลยจ้า ถูกเมื่อไหร่ก็กดกันเมื่อนั้น รอบนี้เราโชคดีมาก ได้ตั๋วถูกมากๆของสายการบินแอร์อินเดีย บินแบบ Multi City (BKK-LEH, LEH-DELHI, DELHI-BKK) ในราคาแค่ 11,000 บาทเท่านั้น เราเลือกบินแบบ Multi City เพราะเราแพลนที่จะแวะไปอักราตอนขากลับ
เนื่องจากเลห์ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่สูงมาก ทำให้มีอากาศหายใจเบาบาง เสี่ยงต่อการเป็น AMS เพราะฉะนั้นใครที่แพลนจะไปอาจจะต้องเตรียมยาหรือฟิตร่างกายให้พร้อม สำหรับเราการเตรียมตัวสำหรับทริปนี้ เราแทบไม่ได้เตรียมอะไรมากเลย (เนื่องจากขี้เกียจ 555) นอกจากการวิ่งออกกำลังกายที่เราทำเป็นประจำอยู่แล้วและพกยา Diamox ติดตัวไว้เผื่อฉุกเฉิน
*AMS คือ High altitude sickness เป็นการกล่าวถึงกลุ่มโรคที่เกิดจากการที่ร่างกายไม่สามารถปรับตัวได้ในภาวะที่มีออกซิเจนน้อย
** สำหรับใครที่ต้องการออกซิเจนกระป๋องให้ไปหาซื้อที่นั่น ไม่ต้องเตรียมไปจากที่นี่นะคะ
ส่วนเรื่องห้องน้ำนั้น ขอแบ่งเป็น 4 ประเภทนะคะ
1. ห้องน้ำโรงแรม ที่พักต่างๆ อันนี้สบายหายห่วงค่ะ สะอาด
2. ห้องน้ำตามร้านอาหาร อันนี้ก็จะพอใช้ได้ตามเกรดร้านอาหารค่ะ ร้านใหญ่หน่อยห้องน้ำก็จะสะอาดหน่อย หรือจะไปฝึกสควอชกันก็ตามถนัดเลยค่ะ แต่ถ้าร้านเล็กหน่อยแบบเสียตังค์ (สิบรูปี) ก็จะเป็นห้องน้ำหลุมที่มีน้ำให้ราดพอถูไถ
3. ห้องน้ำตามจุดแวะพักริมทาง แย่ค่ะ ถ้าเลือกได้คือไม่อยากเข้า ห้องน้ำจะเป็นแบบหลุม แต่ไม่มีน้ำอะไรให้ราดทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นเรื่องความสะอาดนี่ไม่ได้เลยและกลิ่นจะรุนแรงมาก
4. ห้องน้ำริมทาง Open Air อันนี้ล้วแต่ความสามารถเราในการเล็งหรือหาโขดหินตามข้างทางและปล่อยตามสบายเลยค่ะ
แนะนำให้พกยาดมหรือทิชชู่เปียกแบบกลิ่นหอมๆไปตอนเข้าห้องน้ำนะคะ จะช่วยชีวิตเราได้มากเลยค่า และผู้หญิงอาจจะเตรียมผ้าคลุมมาในกรณีมาหลายคนและเข้าข้างทางสามารถเอาผ้ามาช่วยกันบังๆได้ค่ะ
ด้านล่างนี่คือแพลนที่เราเที่ยวในเลห์สำหรับทริปนี้
Day 1 : ไปถึงเลห์ เข้าที่พัก พักผ่อน ปรับสภาพร่างกาย ช่วงบ่ายไป Leh Palace และ Shanti Stupa (เจดีย์สันติภาพ)
Day 2 : Sangam View Point (จุดชมวิวที่แม่น้ำสินธุและซันสการ์ไหลมาบรรจบกัน) / Moonland / Lamayuru / วัด Alchi
Day 3 : ทะเลสาบ Tsomoriri
Day 4 : Khardungla pass (ถนนที่สูงที่สุดในโลก) / Hunder Sand Dune (Nubra Valley) / วัด Diskit / นอนค้างคืนที่ Nubra Ecolodge
Day 5 : ทะเลสาบ Pangong / นอนที่เต้นท์ริมทะเลสาบ
Day 6 : เดินทางกลับตัวเมืองเลห์ แวะ วัด Thiksey และ Shey Palace / ช้อปปิ้งที่ Leh Market
Day 7 : เดินทางกลับเดลี เพื่อมุ่งหน้าสู่อักรา
ต่อในคอมเม้นค่ะ
#จะเลห์ลาดัก หรือจะรักเราดี #ALLIZZWELLINLEH รีวิวเที่ยวเลห์7D6N
หลังจากเมื่อสามปีที่แล้วได้มีโอกาสดูหนังอินเดียเรื่อง 3 Idiots นอกจากเหนือจากการดำเนินเรื่องที่ทำให้เราเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อหนังอินเดียไปเลยแล้วนั้น สถานที่ถ่ายทำในหนังถือเป็นหนึ่งในความพีคที่หลังจากดูจบเราถึงกับต้องไปหาข้อมูลในอากู๋กันเลยทีเดียวว่าไอทะเลสีฟ้าๆในฉากจบนั้นมันคือที่ไหน พอเราได้คำตอบว่าที่นั่นคือทะเลสาบ Pangongในเลห์ ซึ่งเลห์เป็นเมืองหลวงของแคว้นลาดักห์ เขตแคชเมียร์ ประเทศอินเดีย อีกชื่อคือ ทิเบตน้อย (Little Tibet)เราก็ได้แต่ฝันว่าวันหนึ่งเราจะต้องไปเยือนดินแดนแห่งนั้นให้ได้
หลังจากเงื้อมาหลายหน ง้างมาหลายทีแต่ก็ไม่ได้ไปสักที ปีที่แล้วเราก็เลยจริงจัง ติดต่อกับไกด์ท้องถิ่นเพื่อจองทริปในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ช่วงที่เราไปเรียกว่าเป็นปลายของฤดูใบไม้ผลิย่างเข้าหน้าร้อน อากาศถือว่าไม่ร้อนไม่หนาวมากสำหรับที่เลห์ หลังจากจองทริปแล้วก็รอดูตั๋วโปรเลยจ้า ถูกเมื่อไหร่ก็กดกันเมื่อนั้น รอบนี้เราโชคดีมาก ได้ตั๋วถูกมากๆของสายการบินแอร์อินเดีย บินแบบ Multi City (BKK-LEH, LEH-DELHI, DELHI-BKK) ในราคาแค่ 11,000 บาทเท่านั้น เราเลือกบินแบบ Multi City เพราะเราแพลนที่จะแวะไปอักราตอนขากลับ
เนื่องจากเลห์ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่สูงมาก ทำให้มีอากาศหายใจเบาบาง เสี่ยงต่อการเป็น AMS เพราะฉะนั้นใครที่แพลนจะไปอาจจะต้องเตรียมยาหรือฟิตร่างกายให้พร้อม สำหรับเราการเตรียมตัวสำหรับทริปนี้ เราแทบไม่ได้เตรียมอะไรมากเลย (เนื่องจากขี้เกียจ 555) นอกจากการวิ่งออกกำลังกายที่เราทำเป็นประจำอยู่แล้วและพกยา Diamox ติดตัวไว้เผื่อฉุกเฉิน
*AMS คือ High altitude sickness เป็นการกล่าวถึงกลุ่มโรคที่เกิดจากการที่ร่างกายไม่สามารถปรับตัวได้ในภาวะที่มีออกซิเจนน้อย
** สำหรับใครที่ต้องการออกซิเจนกระป๋องให้ไปหาซื้อที่นั่น ไม่ต้องเตรียมไปจากที่นี่นะคะ
ส่วนเรื่องห้องน้ำนั้น ขอแบ่งเป็น 4 ประเภทนะคะ
1. ห้องน้ำโรงแรม ที่พักต่างๆ อันนี้สบายหายห่วงค่ะ สะอาด
2. ห้องน้ำตามร้านอาหาร อันนี้ก็จะพอใช้ได้ตามเกรดร้านอาหารค่ะ ร้านใหญ่หน่อยห้องน้ำก็จะสะอาดหน่อย หรือจะไปฝึกสควอชกันก็ตามถนัดเลยค่ะ แต่ถ้าร้านเล็กหน่อยแบบเสียตังค์ (สิบรูปี) ก็จะเป็นห้องน้ำหลุมที่มีน้ำให้ราดพอถูไถ
3. ห้องน้ำตามจุดแวะพักริมทาง แย่ค่ะ ถ้าเลือกได้คือไม่อยากเข้า ห้องน้ำจะเป็นแบบหลุม แต่ไม่มีน้ำอะไรให้ราดทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นเรื่องความสะอาดนี่ไม่ได้เลยและกลิ่นจะรุนแรงมาก
4. ห้องน้ำริมทาง Open Air อันนี้ล้วแต่ความสามารถเราในการเล็งหรือหาโขดหินตามข้างทางและปล่อยตามสบายเลยค่ะ
แนะนำให้พกยาดมหรือทิชชู่เปียกแบบกลิ่นหอมๆไปตอนเข้าห้องน้ำนะคะ จะช่วยชีวิตเราได้มากเลยค่า และผู้หญิงอาจจะเตรียมผ้าคลุมมาในกรณีมาหลายคนและเข้าข้างทางสามารถเอาผ้ามาช่วยกันบังๆได้ค่ะ
ด้านล่างนี่คือแพลนที่เราเที่ยวในเลห์สำหรับทริปนี้
Day 1 : ไปถึงเลห์ เข้าที่พัก พักผ่อน ปรับสภาพร่างกาย ช่วงบ่ายไป Leh Palace และ Shanti Stupa (เจดีย์สันติภาพ)
Day 2 : Sangam View Point (จุดชมวิวที่แม่น้ำสินธุและซันสการ์ไหลมาบรรจบกัน) / Moonland / Lamayuru / วัด Alchi
Day 3 : ทะเลสาบ Tsomoriri
Day 4 : Khardungla pass (ถนนที่สูงที่สุดในโลก) / Hunder Sand Dune (Nubra Valley) / วัด Diskit / นอนค้างคืนที่ Nubra Ecolodge
Day 5 : ทะเลสาบ Pangong / นอนที่เต้นท์ริมทะเลสาบ
Day 6 : เดินทางกลับตัวเมืองเลห์ แวะ วัด Thiksey และ Shey Palace / ช้อปปิ้งที่ Leh Market
Day 7 : เดินทางกลับเดลี เพื่อมุ่งหน้าสู่อักรา
ต่อในคอมเม้นค่ะ