ชีวิตผมในมหา'ลัย กำแพงสูง

ชีวิตหลังกำแพงสูง (Long Story)
โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน

ผมแค่ต้องการแชร์ประสบการณ์ชีวิตที่ผมได้ไปประสบพบเจอมาให้เพื่อน ๆ อ่านฆ่าเวลากันเฉย ๆ นะครับ
คือผมโดนจับข้อหา พกพาอาวุธปืน(เถื่อน)ไปในที่สาธารณะ โดย สน.สุทธิสาร
ผมรอดจากการตัดสินศาลชั้นต้น จนมาถูกอัยการอุธรณ์ จำคุกไม่รอลงอาญา 1 ปี 6 เดือน
เป็นเหตุให้ผมต้องชดใช้กรรม

ก่อนอื่น

ข้อควรรู้เกี่ยวกับเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
- มีทั้งหมด 8 แดน (แต่ละแดนมีผู้ต้องขังประมาณ 500-600คน)
- ที่นี่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
- เยี่ยมญาติได้จันทร์ - เสาร์ วันละ 1 ครั้ง ครั้งละ 20 นาที หยุดตามราชการ
- ทุกแดนมีกองงาน(มีงานให้ทำ) ได้แก่ โรงเลี้ยง หน้าแดน พับถุง เย็บรองเท้า ลวดดัด โลหะ ฯลฯ
- ใช้ชีวิตอยู่นอกห้องขังตั้งแต่ 06.15 - 03.30น ที่เหลืออยู่บนเรือนนอน หรือห้องขังนั่นเอง
- นอนโดยใช้ผ้า 3 ผืน ผืนแรกปู ผืนสองทำหมอน ผืนสามห่ม ผ้าโคตรหนาและคัน ใครนึกภาพไม่ออกลองนึกถึงกระสอบข้าวสาร
- กับข้าวจากข้างนอกมีขาย สินค้าอุปโภค บริโภคมีขาย ราคาก็เท่าข้างนอก
- มีสิ่งที่ใช้ทดแทนเงินสด คือ บุหรี่ กาแฟ นม มาม่า
- ของต้องห้ามได้แก่ ไฟแช็ก เหล็กแหลม ช้อนสแตนเลส
- ผู้ต้องขังแต่ละแดนไม่สามารถเดินเข้าแดนอื่นได้โดยไม่ได้รับอนุญาติ
- มีกฎอยู่ว่า ห้ามสูบบุหรี่บนเรือนนอน ห้ามเล่นการพนัน เล่นสักลาย ฯลฯ
- บ็อก คือ ห้องน้ำที่ไม่มีประตูหน้าต่าง ไม่มีกำแพง เวลาขี้ก็จะมองเห็นกัน
- สูบบุหรี่ เขาจะพูดสั้น ๆ ว่า สูบยา
- สัมภาระของผู้ต้องขังต้องเก็บไว้ในตู้ล็อคเกอร์ หรือ สโตร์รับฝากของของแดน
- เสมียนกองงาน คือ ผู้ต้องขังยศใหญ่ที่สุดในกองงานนั้น รองจากเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบกองงาน
- ห้ามขายของ หรือสร้างธุรกิจอันให้เกิดหนี้สิน
- ห้ามนำของกิน บุหรี่ ขึ้นเรือนนอน ให้ได้แค่อะไรก็ตามที่เป็นน้ำ
- นักโทษมี 6 ชั้น เลวมาก, เลว, กลาง, ดี, ดีมาก และเยี่ยม ตามลำดับ โดยคนที่ติดคุกครั้งแรกและคดีเด็ดขาดแล้ว จะสตาร์ทที่ชั้นกลาง
- จะต่างชาติ หรือต่างด้าว ก็อยู่ร่วมกับคนไทยนี่แหละ
- มีวินัยแบบส่งเรื่อง กับไม่ส่งเรื่อง ถ้าไม่ส่งก็แค่มาฝึกวินัยในแดน ขั้นต่ำ 1 เดือน
- ผู้ต้องขังที่กระทำผิดวินัยและถูกฝ่ายควบคุมของแดนทำเรื่องส่งฝ่ายควบคุมกลาง(ดูแลทุกแดน) ผู้ต้องขังรายนั้นจะถูกตัดชั้นหรืองดเยี่ยมญาติเป็นเวลา 3 เดือน หากร้ายแรงก็จะถูกส่งไปขึ้นซอย (ขังเดี่ยว) และไปอยู่ห้อง 24 ตามลำดับ
- ห้องขังเดี่ยวพบเจอได้ที่แดน 1 / แดน 5 / แดน 6
- ห้อง 24 ตั้งอยู่ที่แดน 8 เป็นห้องสำหรับผู้กระทำผิดวินัยร้ายแรง จะคุมขังนักโทษพวกนี้ 3 เดือน โดยไม่ให้ลงมาเหยียบพื้นดินเลย
- สูทกรรม เป็น แผนกการทำอาหารเลี้ยงทั้งเรือนจำ เรื่องรสชาตินั้น "หมาไม่แหลก"

........
เอาหละเริ่มกันเลย
........

เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2560 ผมเดินทางไปศาลอาญาเพื่อฟังคำพิพากษาของศาลอุธรณ์ในคดี พรบ.อาวุธปืน ที่เหตุเกิดเมื่อ 23 สิงหาคม 2558
ผมไปนั่งรอผู้พิพากษาที่บังลังค์ชั้น 9 และในเวลา 10.00น ผู้พิพากษาก็มาตามนัด
คำตัดสินจบด้วยที่การจำคุก 3 ปี ไม่รอลงอาญา ผมสารภาพจึงลดกึ่งหนึ่งเป็น 1 ปี 6 เดือน
ศาลส่งผมลงมาใต้ถุนศาลเพื่อรอเวลาไปเรือนจำในตอนเย็น ผมเดินเข้าไปในนั้นเป็นคนที่ 5 ก่อนหน้าผม 4 คนล้วนโดนคดีปืนเหมือนผมทุกคน จนเจ้าหน้าที่บอกว่า "ว่าจะขายปืนทิ้ง ซื้อเสื้อเกราะแล้ว นักเลงเยอะ"
ในนั้นทำให้ผมได้เพื่อนใหม่ 2 คน คือ นะ และ แคมป์(เราจะกอดคอไปฮ่องกงด้วยกัน) และยังมีแม็กที่ประกันตัวออกไปสู้ชั้นฎีกา แต่หารู้ไม่โชคชะตาของแม็กยังไม่จบ
และเย็นวันเดียวกัน ผมก็ตีตั๋วไปเรือนจำทันที...

Ep.1 : คืนแรกที่นั่น
คนใหม่ทุกคนจะต้องนอนแดน 1 ห้อง 13 ซึ่งมีพี่อ้วน(พี่แซม)ดูแลห้องนี้อยู่ ผมนี่โคตรหมั่นไส้ ชอบเบ่ง (ทุกคนจะต้องอยู่แดนนี้ก่อน 2 สัปดาห์)
พี่แซมจะคอยถามประวัติส่วนตัวของเรา ทำงานอะไร บ้านอยู่ไหน ฯลฯ
พี่แกจะคอยบอกกฎระเบียบต่าง ๆ เจอเจ้าหน้าที่ให้คำนับ, ห้ามสูบบุหรี่ไม่เป็นที่ ฯลฯ
และแน่นอนครับว่าคืนแรกย่อมคิดฟุ้งซ่านจะกลับบ้านอย่างเดียว ได้แต่ข่มตาให้หลับ
ในคืนนั้นผมได้เพื่อนใหม่มา 3 คน นะ แคมป์ และเต๋า บ้านมันอยู่แถว ๆ บ้านผมนี่แหละ
จนเช้าพวกเราก็ตื่น เมื่อตื่นแล้วก็ต้องอาบน้ำ กินข้าว และรอเข้าแถว เช็คยอด
หลังเข้าแถว เช็คยอดแล้ว เราก็ต้องไปตัดผมเพื่อถ่ายรูป ทำข้อมูลรูปพรรณ ฯลฯ
แค่นี้มันก็หมดไปละหนึ่งวัน บ่ายหลังจากกินข้าว ผมก็ไปอาบน้ำ รอขึ้นเรือนนอนในเวลา 15.30น
แต่ก่อนจะขึ้นเรือนนอนธุรการแดน(หน้าแดน)ก็เรียกเราไปหาเพื่อบอกว่าเราต้องนอนห้องไหน
ซึ่งผมกับเต๋านั้นนอนห้องเดียวกันคือห้อง 8 ส่วนนะกับแคมป์ที่ยังเป็นวัยรุ่นก็ถูกนำไปนอนห้องวัยรุ่นคือห้อง 6 ผมบอกเต๋าว่า ป้าผมคงมาประกัน...
แล้วก็ผ่านมาอีกวันช่วงเช้าหลังเช็คยอด คนเก่าก็จะพาคนใหม่ไปเข้ากองงาน(ช่วยงานของพวกมัน) มันก็เอาผมไปขัดอ่างอาบน้ำซึ่งกว้างใหญ่ไพศาลมาก ในระหว่างที่ขัดหัวผมก็คิดเมื่อไรป้าจะมาเยี่ยม เมื่อไรป้าจะมาประกัน ฯลฯ
และผมก็สะดุดตากับผู้ต้องขังคนเก่าคนหนึ่ง มันละหม้ายคล้ายเพื่อนของเพื่อนผมเอามาก ๆ
ด้วยความข้องใจผมจึงเดินไปถาม "ใช่เอ็กซ์ป่าวครับ?" มันตอบมาว่า "ใช่" เราเลยคุยกันยาวเลย
เอ็กซ์ชวนผมเข้า*บ้าน* หมายถึง กลุ่มคนที่อยู่ด้วยกันเยอะ ๆ / เอ็กซ์พาผมไปกินข้าวกับคนในบ้านคนอื่น ๆ
จึงทำให้ผมรู้จักไบรท์ นักฆ่ายอดฝีมือที่ใช้ไขควงแทงหัวเป็นคดีดังเมื่อปีก่อน ถ้าใครลืมนี่ครับลิ้งค์ข่าว > https://www.thairath.co.th/content/883480 <
ผมก็กินข้าว กินหนมอยู่ด้วยกันจนผมอยู่ครบ 2 สัปดาห์ ถึงเวลาต้องจำแนกแดน
ใจผมไม่อยากจะอยู่แดนในนะตอนนั้น เพราะผมอยู่แดน 1 ผมลงตัวแล้ว เพื่อนก็มี รู้สึกไม่อยากย้ายแดน
แต่ในที่สุดก็ต้องย้าย ชื่อของผมถูกจำแนกไปอยู่แดน 3 พอถึงวันพฤหัส(วันจำแนก) เอ็กซ์ ไบรท์และคนอื่น ๆ ต่างมาอวยพรผม.... ผมจำต้องพรากกับเต๋าที่ไปอยู่แดน 6(คดียังไม่ตัดสิน) นะกับแคมป์ ไปอยู่แดน 2(พวกวัยรุ่นอายุไม่เกิน 25)
เอ็กซ์เขียนจดหมายน้อยใส่เศษกระดาษฝากมาให้ผม ให้ผมไปหาพี่เจ๊ท ลายพรางที่แดน 3 ผมจินตนาการเอาว่า คนชื่อเจ๊ทนี่คงลายทะลักล้นแว แน่ ๆ
ในที่สุดผมก็ต้องจำแนก และเชื่อมั้ยผมอยู่แดน 1 มา 14 วันเนื่ยผมเยี่ยมญาติแค่ 2 ครั้งเท่านั้น แต่ละครั้งร้องห่มร้องไห้ รบเร้าจะกลับบ้านเสียให้ได้ ยิ่งครั้งที่ 2 ที่เขาบอกว่าไม่ประกัน ผมนี่ช็อตเลย เลยบอกให้เดินเรื่องอยู่แดน 1 ให้หน่อย แต่ด้วยอำนาจเงินอันน้อยนิดจึงสู้กฎเรือนจำไม่ได้ จำต้องไปแดน 3 ในที่สุด...

Ep.2 : แดน 3 อย่างกะ Texas
บ่ายพฤหัสวันนั้นผมก็เข้ามาแดน 3 ด้วยอารมณ์หดหู่ไม่อยากเข้าแดนใน ด้วยความคิดไปเองว่าคงน่ากลัวไม่ใช่น้อย
พอก้าวข้ามธรณีประตูแดน 3 เข้าไปแล้ว สิ่งที่ผมพบคือ พวกตัวลาย ๆ บางคนใส่กางเกงในตัวเดียว บางคนคาบบุหรี่ มายืนล้อมบล็อคโซนเต็มไปหมด
*บล็อคโซนคือ สถานที่ที่ประกอบด้วยประตูเข้าออกแดน, ธุรการแดน ซึ่งเป็นที่พำนักของเจ้าหน้าที่ และผู้ต้องขังที่เป็นผู้ช่วยงานอีกประมาณ 10 คน มีขนาดราว ๆ 7x7 เมตร ล้อมรอบด้วยลูกกรงสีขาวแดง*
เมื่อผมเจออย่างนี้ผมถึงกับแหยง เพราะแดน 1 ที่ผมมามันเป็นแดนที่สะอาด ผู้คนไม่เดินพลุกพล่านเหมือนแดนนี้(และแดนอื่น ๆ) นี่อะไร ? ถึงกับดูดยา(ดูดบุหรี่)กันยันหน้าบล็อคโซนเลยทีเดียว
พอหน้าแดนสอบประวัติผมแล้วก็พาผมไปกองงานรองเท้าเพื่อพบกับ "พี่สาธิต" เจ้าหน้าที่ที่มียศเป็นถึง รองผู้บัญชาการแดน คอยดูแลความสงบเรียบร้อยของแดน
พี่สาธิตก็อบรมพวกเราพักหนึ่ง แล้วจึงให้พวกเรานั้นไปกินข้าว อาบน้ำ เตรียมขึ้นเรือนนอน
พอผมออกมาจากกองงานพี่สาธิตกลับมาเอาของที่บล็อคโซน ก็มีคนชื่อต้อง อยู่บ้านบางซื่อเดินมารับไอ้ทีเพื่อนผมที่จำแนกมาพร้อมกัน เขาจึงชวนผมไปอยู่ด้วย และด้วยความที่ผมไม่รู้จะเริ่มยังไง อยากอยู่กับเพื่อนและอยากได้คนคุ้มกะลาหัวจึงเดินตามไป ที่ตั้งของบ้านบางซื่ออยู่ด้านหลังอาคารเรือนนอน มีพื้นที่กว้างขวางพอดู
ระหว่างที่เรากำลังเดินอ้อมไปข้างหลังอาคาร ก็มีชายคนหนึ่งเดินมาถามผมว่า "เห้ย! บ้านอยู่ไหน" ผมตอบกลับไปว่า "มีนบุรีครับ" แล้วเขาก็กระซิบผมว่า "บ้านอยู่มีนฯแล้วไปอยู่ทำไมบางซื่อ ไม่อยู่บางเขนหล่ะ" ผมก็เลยตอบไปว่า "พอดีมีเพื่อนผมเขียนจดหมายฝากให้ผมมาหาพี่เจ็ทอะครับ" เขาเลยบอกอีกว่า "เออ...เดี๋ยวพาไปหา"
ผมเลยบอกกับพี่ต้องและทีว่า งั้นผมขอแยกไปอยู่บางเขนนะ พี่ต้องกับทีก็ไม่ว่าอะไร แล้วผมก็เดินแยกกลับย้อนออกมาไปทางข้างเรือนนอน ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านบางเขน หรือเรียกอีกชื่อว่า บ้านลายพราง

Ep.3 : บ้านบางเขน (ลายพราง)
เมื่อผมโดนไปถึงซอกนั้น ผมก็พบกับพวกตัวลาย ๆ นั่งอยู่บนตู้ล็อกเกอร์เต็มไปหมด จนผู้ชายคนนั้น คนที่พาผมมานี่ บอกกับผู้ชายที่นั่งอ่านหนังสืออยู่บนถังสีคนหนึ่งว่า บ้านผมอยู่มีนฯ และผมมาหาพี่เจ็ท
เมื่อผู้ชายคนที่นั่งอยู่บนถังสีนั้นมองหน้าผม พร้อมคำพูดว่า "อ้าว..บ้านอยู่มีนหรอ นั่นไงเจ็ทมาพอดี"
ลักษณะที่ผมเห็นพี่เจ็ทคือ ตัวเล็ก เดินเหมือนไข่ใหญ่ หน้าตาคม ๆ ตาไม่โตนัก สักลายตรงหน้าอกคล้าย ๆ ยากูซ่า(แขน 3 ส่วน) ด้านหลังสักกวนอู
ผมยกมือไหว้สวัสดีพี่เจ็ทพร้อมทั้งเอาจดหมายที่เอ็กซ์เขียนยื่นให้พี่เจ็ท
เมื่อพี่เจ็ทเริ่มอ่านแกก็ฉีกทิ้งแล้วชำแหละข้าวของที่ผมเอามาด้วยตอนอยู่แดน 1 กระจายใส่ตู้ล็อกเกอร์ต่าง ๆ แล้วบอกกับผมว่า "เดี๋ยวเอ็งมาอยู่กับพี่"
ห๊ะ... นี่หรอคือการรับเข้าบ้าน ง่าย ๆ อย่างเนี้ยอะนะ
หลังจากนั้นคำถามแรกเลย เขาถามว่า "เล่นการพนันป่าวเนื่ย?" ผมเลยบอกว่า "ไม่ครับ" แล้วพี่เจ็ทก็ถามว่าผมโดนคดีอะไรมา เมื่อเขารู้ว่าผมโดนปืนมา ประกอบกับบ้านอยู่มีนบุรี เขาถามต่ออีกว่า "เด็กช่างป่าววะ?" ผมตอบว่า "ครับ ผมจบมีนโปฯมาได้ 2 ปีแล้ว โดนจับตั้งแต่สมัยเรียน"
เขาพูดเชิงแหย่ผมอีกว่า "โจทย์เลย สมัยกูเรียนคยไล่ยิงพี่" จากนั่นก็แนะนำให้ผมรู้จักชายคนที่นั่งอ่านหนังสือบนถังสีว่าชื่อ "พี่บอย" ส่วนอีก 2 คนใกล้ ๆ นั่นคือ "พี่บอล" น้องชายแท้ ๆ ของพี่บอย และ "พี่จิ๋ว"
ได้คุยกับพี่เจ็ทสักพักหนึ่ง ก็มีชายตัวสูงสักแขนยาว ขายาว เดินโย่ง ๆ มาหาผมพร้อมคำถามว่า "เห้ยเรียนมีนโปฯ รู้จักไอโอป่าว?" ผมบอกว่ารู้จัก แล้วเขาก็บอกว่าพี่โอตอนนี้อยู่แดน 8 เป็นเสมียนโรงเลี้ยง...
คุยกันได้สักพักพี่เจ็ทก็สะกิดผม ให้ผมไปกินข้าวกับลูกบ้านในโรงเลี้ยงประมาณ 15 คน
พอกินเสร็จ เขาก็พาผมไปอาบน้ำ ผมตกใจ เพราะตอนเดินไปอาบน้ำนี่ ไปกันยกบ้านเลยครับ (ประมาณ 50+ คน) ขัน สบู่ ใช้ร่วมกัน พวกเราอาบกันหัวอ่างเลย.
พออาบเสร็จเราก็มานั่งกันหน้าบ้านเพื่อรอผมได้ห้องและรอขึ้นเรือนนอน จนกระทั่งพี่สาธิตเดินผ่านมาหน้าบ้าน พี่เจ็ทเลยบอกพี่สาธิตว่า "พี่ครับ ให้น้องมันนอนห้อง 5 ได้มั้ยครับ" ซึ่งพี่สาธิตก็จัดให้ ผมเลยได้ไปนอนห้อง 5 ที่มีทีวีใหญ่กว่าห้องอื่น และมีพี่บอลนอนอยู่
โดยเมื่อปี 60 ก่อนเดือนสิงหา เขาให้เราสามารถนำผ้าที่เราหามาเองขึ้นเรือนนอนได้ แล้วมีวันนึงที่ผมเอาผ้าปูที่นอนผืนใหญ่ขึ้น พอถึงห้องก็สลัดผ้าออก
อ้าว! ไฟแช็ก! ดี๊ไม่เกม เหมือนโดนวางงานยังไงไม่รู้ แล้วก็มีอีกหลายครั้งที่ผมไปแอบดูดยาอยู่ท้ายบ็อก แล้วทีนี้พี่เจ้าหน้าที่เขาเดินขึ้นมาตอนไหนก็ไม่รู้ ไอ้เราก็มองไม่เห็นเพราะมันมืด โชคดีนะ ดูดหมดก่อน ไม่งั้นเรียบร้อย..'เอามันไปกลิ้งกลางสนาม' แน่ ๆ เลย

Ep.3-1 : ยิบย่อยบางเขน
พ่อบ้านใหญ่ของบางเขนแดน 3 คือ พี่บอย/พี่เจ็ท 2 คนนี้จะยืนคู่กัน แต่พี่บอยจะนิ่ง ๆ สุขุม ส่วนพี่เจ็ทเป็นคนเฮฮา ชอบเล่นกับน้อง ๆ และรองลงมาก็เป็น พี่บอลกับพี่จิ๋ว
บ้านบางเขนแดน 3 เป็นบ้านใหญ่ที่สุดในแดน ประกอบด้วยสมาชิกประมาณ 60-70 คน รองลงมาก็เป็นบางซื่อ
ทำธุรกิจขายขนม ขายกับข้าว ขายน้ำเต้าฮู้ ขายหวย ขายน้ำบ๊วย ฯลฯ ตั้งขายกันหน้ากล้องไม่เกรงกลัวกฎเลย(ห้ามขายของ)
และทุก ๆ ปีใหม่และสงกรานต์ บ้านบางเขนจะเลี้ยงทุกบ้านพันธมิตรรวม ๆ คนแล้วเกือบ 200 คน เรียกได้ว่าแน่นโรงเลี้ยง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่