ประเทศนิวซีแลนด์คงเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆของนักท่องเที่ยวหลายๆคน แต่ขอสารภาพตามตรงว่า ตอนแรกๆที่หาข้อมูลการท่องเที่ยวในประเทศนี้ ได้ดูรูปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆของประเทศ รู้สึกว่ามันดูธรรมดามากๆ มีแต่ภูเขา หิน ทุ่ง ทะเล ทะเลสาบ แกะ ดูแล้วก็วนๆ ซ้ำๆอยู่แค่นี้ ถึงขนาดลังเลว่าจะเปลี่ยนใจหนีไปเที่ยวที่ประเทศอื่นเลยด้วยซ้ำ โชคดีที่ความอยากเห็นทางช้างเผือกและอยากลุ้นมาดูแสงใต้ยังครุกรุ่นอยู่ในใจ เป้าหมายก็เลยไม่เปลี่ยน แต่พอได้มาสัมผัสของจริงด้วยตัวเอง ตลอดระยะเวลา 2 อาทิตย์กว่าๆที่อยู่ในประเทศนี้ กลับเต็มไปด้วยความสนุกสนานและเพลิดเพลินใจ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความบริสุทธิ์ผุดผ่องของธรรมชาติของที่นี่หรืออย่างไร ทุกอย่างที่ได้เห็นมันดูแปลกหูแปลกตาไปหมด ความรู้สึกที่ได้มันช่างแตกต่างจากการได้แค่มองดูรูปผ่านหน้าจอเสียเหลือเกิน และอาจจะเพราะมีจำนวนประชากรส่วนใหญ่ในเกาะเป็นชาวแกะจึงทำให้ธรรมชาติที่มีความหลากหลายของที่นี่ยังคงเก็บความสวยงามไว้ได้เป็นอย่างดี นอกเหนือจากธรรมชาติที่ดูแปลกตา ประเทศนี้ยังมีกิจกรรมการท่องเที่ยวต่างๆอีกมากมาย เรียกได้ว่าทุกเพศทุกวัยสามารถเที่ยวได้อย่างสนุกสนาน

สำหรับวีซ่าของนิวซีแลนด์ ก็ขอไม่ยุ่งยาก พวกเรายื่นเอกสารแบบกลุ่มโดยใช้เอกสาร NZ1017 กรอกแค่ชุดเดียวใช้พ่วงกันทั้งครอบครัว แต่ต้องยื่นแบบ paper ก็ไปยื่นเอกสารที่อาคาร ITF Tower ชั้น 19 ที่สีลม ไม่จำเป็นต้องไปกันทั้งหมด ส่งตัวแทนไปคนเดียวก็ได้ ค่าวีซ่า 5,600 บาททั้งครอบครัว 4 คน (รวมค่าส่ง passport กลับมาให้ทางไปรษณีย์ด้วย) รอแค่ 4-5 วัน ก็ได้รับเอกสารคืนทางไปรษณีย์ เขาใจดีให้มา 1 ปีเลย สงสัยคงอยากให้เราไปเที่ยวประเทศเขาบ่อยๆ

ทริปนี้ครอบครัวของเราใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ขับรถเที่ยววนเฉพาะเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ เดินทางกันช่วง 6 – 22 เม.ย. 2561 ตอนแรกๆที่วางแผนไว้ก็อยากจะเที่ยวทั้งเกาะเหนือและเกาะใต้ แต่กลัวว่าจะกลายเป็นเสียเวลาการเดินทางแล้วไม่ค่อยได้เที่ยวอย่างเต็มที่ ก็เลยจองตั๋วบินมาลงที่ Christchurch แล้วก็เที่ยวแต่เกาะใต้อย่างเดียว เราใช้บริการสายการบิน Qantas โดยไปต่อเครื่องที่ Brisbane ก่อนจะไปลงที่ Christchurch แต่เวลาเครื่องจากกรุงเทพไม่ค่อยดี แถมราคาก็แพงกว่า ก็เลยจองแบบไป via ที่สิงคโปร์ กลายเป็น 2 connecting ไป เพื่อแลกกับเวลาและราคาที่ดีกว่า

มุมนี้ สนามบินบ้านเราก็สวยไม่ใช่เล่นนะเนี่ย


แล้วก็มาถึงโจทย์ยากอีกอัน ที่ต้องเลือกระหว่างการเช่ารถบ้าน กับ รถธรรมดา ลองถามเด็กๆดูว่าอยากนอนรถบ้านกันหรือเปล่า คำตอบที่ได้ก็แน่นอนว่า “เอาๆๆๆ” เราก็ชอบนะเห็นใครมาก็ขับรถบ้านกัน แต่พอถามผู้ปกครองฝ่ายหญิงกลับได้อีกคำตอบว่า “ไม่เอา” เรื่องนี้ก็เลยจบลงง่ายๆว่า “เอารถธรรมดา” แล้วก็นอนโรงแรมเอา (ให้รู้ซะบ้างว่าบ้านนี้ใครคุม ฮ่าๆๆ) รถเช่าคราวนี้เราใช้บริการ Rentalcars.com ได้รถของ Thrifty ค่ารถ (ขนาด mid-size car) รวมประกันแบบเต็มตกวันละ 1,600 บาท (ตก 23,000 บาทสำหรับทั้งทริป) บริการใช้ได้ ไม่มีปัญหาอะไร ติดต่อรับรถที่เคาท์เตอร์ที่สนามบินได้เลย

ประเทศนี้ถนนไม่ค่อยมี ทางแยกไม่เยอะ รถก็น้อย และมีป้ายบอกทางตลอด จึงสามารถขับรถเที่ยวได้ง่ายมากๆ แต่ว่าต้องขับตาม speed limit นะ ไม่งั้นเดี๋ยวมีปัญหา สำหรับเรา ตอนแรกๆจะงงนิดหน่อย เพราะว่าที่นี่ขับรถเลนส์ซ้ายเหมือนเมืองไทย แต่บรรยากาศดันเหมือนขับอยู่ในอเมริกาและยุโรป ก็เลยทำให้งงและสับสนเล็กน้อย ต้องใช้เวลาปรับตัวนิดหน่อยในการขับรถ อ้อ เราทำใบขับขี่สากลไปด้วย แต่ตอนยื่นรับรถ เขาขอดูแค่ใบขับขี่เมืองไทยที่เป็นบัตรแข็งและมีตัวอักษรภาษาอังกฤษ เลยเข้าใจว่าใบขับขี่เมืองไทยแบบแข็งก็น่าจะใช้ได้ที่นี่

เส้นทางการท่องเที่ยวก็ง่ายๆ เพราะไม่มีถนนหรือเส้นทางให้เลือกเท่าไหร่ ขับรถเที่ยวไปเรื่อยๆ เริ่มจาก Christchurch ขับรถวนไปทางด้านทิศตะวันตก ลงใต้ แล้วก็กลับขึ้นเหนือ เป็นอันว่าขับรถเกือบรอบเกาะใต้นั่นแหละ


ส่วนที่พัก ก็ต้องจองกันให้เสร็จสรรพ เพราะไม่ได้เช่ารถบ้าน คราวนี้ใช้บริการทั้ง agoda.com และ booking.com เนื่องจากมีเวลาในการเตรียมตัวเยอะพอสมควร เลยเลือกจองเวปที่ promotion ดีกว่า คือเปรียบเทียบทั้งสองเวปทุกเมืองที่จะไปนอนเลย นั่งรวมราคาที่พักคร่าวๆ ทั้งทริป 55,000 บาท ตกคืนละ 4,000 บาก ทุกโรงแรมที่เราไปพักก็ OK มากๆ คือดูแล้วว่าได้คะแนนรีวิวดีทุกอัน ไม่ไกลจากจุดที่จะไปเที่ยวและราคาไม่โหดจนเกินไป

เมื่อวางเส้นทางการท่องเที่ยวและจองทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว เราก็ไปขับรถเที่ยวเกาะใต้ ของประเทศนิวซีแลนด์กันเลยดีกว่า