ช่วงนี้มีการพูดถึงการฝึกสมาธิกันเยอะ ขออนุญาติแชร์ประสบการณ์นะคะเผื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ยังไม่เคยไปแล้วกำลังอยากไป
ประมาณปี พ.ศ. 2552 เราติดฟังรายการธรรมะช่องหนึ่งในวิทยุ คนดำเนินรายการเป็นผู้หญิงเล่าเสียงเนิบๆ เกี่ยวกับเรื่องราวของ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม (วัดอัมพวัน) ตอนนั้นก็ไม่ได้เป็นคนธรรมะธรรมโมอะไรหรอก แต่ฟังแล้วสนุกดี และ มีแง่คิด ฟังจนติด ฟังทุกวันก่อนนอน จนวันนึงเค้าพูดถึงเรื่องการไปบวชปฏิบัติธรรม ว่าถ้าอยากไป ก็ไปเลยไม่ต้องชวนใคร หรือรอใคร เหมือนมันจะรั้งกัน จะไม่ได้ไปเสียที คิดๆดู ก็จริง เพราะก่อนหน้านั้นเราเคยชวนเพื่อนกับน้องอยู่หลายครั้ง แต่ถึงเวลาก็ไม่มีใครไปเลย เราจึงตัดสินใจไปคนเดียว ที่วัดแถวบ้าน จริงๆ วัดไหนก็ได้ไม่จำเป็นต้องวัดดังๆ ส่วนตัวเราชอบไปวัดที่เงียบๆค่ะ (นี่มันเป็นมุกหรือเปลือกหอย😆) เราไปวัดสายภาวนา(เน้นสวดมนต์) 9 วัน รวมวันที่ไปเป็น 10 วัน ทานมังฯ ตลอด ที่นี่เป็นแนวปฏิบัติสายธรรมยุติจะทานอาหารมื้อเดียว พระท่านจะนำอาหารทุกอย่างใส่ในบาตรแล้วฉันอย่างนั้น ผู้มาปฏิบัติธรรมก็เช่นกัน จะต้องตักอาหารใส่กะละมังใหญ่ๆ ใส่มารวมๆ กันเลย คาว-หวาน และ ผลไม้ อะไรก็ช่าง แต่เอาที่ชอบที่ชอบก็พอ เอาใส่มาค่ะ
แรกๆ รู้สึกเลยว่าไม่มีอะไรสบาย ที่นอนก็เสื่อผืน หมอนใบ และผ้าห่ม อาบน้ำอาบท่าก็ไม่สะดวก แต่โชคดีที่ได้นอนในห้องก็จะนอนรวมกับคนอื่น 2-5 คน แล้วแต่ขนาดห้อง ส่วนคนที่มาทีหลังห้องเต็มก็ไปนอนเรียงรายกันหลายสิบคนบนศาลา ตารางชีวิตประจำวัน ตื่นตี 3 เพื่อมารออาบน้ำ และไปสวดมนต์ทำวัตรเช้า (หน้าตาห้ามแต่งค่ะงดทุกชนิด สดๆกันทุกคนเพราะถือศีล8) จากนั้นก็ทำความสะอาด กวาดลานวัด ปัดๆ เช็ดๆ ถูๆ รอพระท่านบิณฑบาตรกลับมา ก็ไปรวมตัวที่ศาลา แล้วก็จะเป็นพิธีทำบุญสวดมนต์ ถวายสังฆทาน กรวดน้ำ เหมือนเวลาเราไปทำบุญที่วัด จากนั้นก็จะได้ทานข้าว ในกะละมังใหญ่ๆนั่น อย่าตะกละตักมาเยอะ หวังตุนพลังงานเชียวนะ เพราะจะทานไม่หมด เป็นที่ตำหนิติเตียนของคนข้างๆ เป็นอันมาก อีก 24 ชม. หิวก็ต้องทน ไปหวังพึ่งน้ำปานะเอาในอนาคตกาลข้างหน้าโน้นเทอญ แล้วพอเที่ยง ก็จะมาสวดมนต์นั่งสมาธิอีก บ่ายๆ ก็ทำความสะอาด กวาดลานวัด ปัดๆ เช็ดๆ ถูๆ อีกรอบ พอหกโมง ก็ไปสวดมนต์ ทำวัตรเย็น การสวดมนต์ แต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 3 ชม. รวมนั่งสมาธิ 20 นาที ถึงครึ่ง ชม.
ไฮไลท์ อยู่ที่การสวดมนต์นี่เอง 3 วันแรกเราไม่มีสมาธิ เราหิวววววค่ะ ท้องงี้ร้องเป็นเพลง
แถมจิตใจเรายังไปเพ่งที่ผู้คนที่มาร่วมปฏิบัติธรรม อยากรู้ว่าเป็นใครยังไง เด็ก คนแก่ วัยรุ่น วัยทำงาน อ่อ ผู้ชายมีน้อยมาก อย่างมากสุดก็สิบคน ส่วนมากเป็นเด็กและคนแก่ เราสวดผิดๆ ถูกๆ ค่ะ สมาธิไม่นิ่ง ทำไมคนอื่นสวดคล่องจังว๊า...คิดในใจ บางช่วงนี่มีผิดคีย์ แหลมออกไปเป็นม้าดีดกระโหลก เป็นที่จดจำของญาติโยมทั้งหลาย หน้างี้ชาเลยค่ะ อายเค้า
ถ้าช่วงทำวัตรเย็น สวดๆไป ซัก 2 ทุ่ม มีวืดดับมืดไปเลยค่ะ มันง๊วงงงงง ตอนนั่งสมาธินี่ ไม่เกิน 10 นาที ไม่เงิบหน้า ก็เงิบหลัง เงิบ....ๆ
พอวันที่ 4 ทีนี้เราเริ่มอยู่ตัว ไม่หิวเท่าไหร่แล้ว
มีสมาธิจดจ่อกับการสวดมนต์มากขึ้น เริ่มรู้ว่าบทไหนสวดจังหวะยังไง พอวันท้ายๆ นี่เทพมากแล้ว คือสวดคล่องแล้ว แถมรู้สึกจิตใจโล่ง โปร่งสบาย มันไม่ต้องคิดอะไรเลยเมื่ออยู่ที่วัด
พอกลับมาบ้าน จะเข้านอน นอนไม่ได้ละทีนี้ เสียงสวดมนต์มันดังอยู่ในหัว ถั่วงา ถั่วงา อยู่อย่างนั้น ต้องลุกขึ้นมาสวดมนต์เหมือนตอนอยู่วัด และสวดเรื่อยๆ มาจนปัจจุบัน วันไหนเหนื่อยก็สวดสั้น วันไหนขยันก็สวดยาว (อย่าลืมแผ่เมตตาด้วยนะคะ สำคัญมากเหมือนกัน)
เราไปปฏิบัติธรรมสายภาวนาอยู่ 3 ปี ปีละครั้ง
จากนั้น เปลี่ยนไปสายวิปัสนา-กรรมฐาน (สายนี้จะเคร่งกว่าพักน้อยมาก) ไปปีละครั้ง หรือ 2 ครั้งตามสะดวก แต่เราก็ยังนั่งสมาธิไม่ได้นาน ชอบเดินจงกรมมากกว่า พระอาจารย์จะสอนดีมากค่ะ ฟังแล้วเหมือนท่านด่าเรายังไงยังงั้นเลย 555 ได้คิด
ประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติธรรม สวดมนต์ นั่งสมาธิ
1. เรานิ่งขึ้น ถึงนิ่งมาก มีสติ มีสมาธิ ระงับ หรือ ควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่าเดิม
2. ไม่พูดสอดเสียด นินทาเรื่องของคนอื่น อยู่เงียบๆ กับตัวเองมากกกว่า
(พื้นฐานเป็นคนไม่ชอบพูดเรื่องของใคร แต่ชอบกระแซะเข้าไปฟัง แต่หลังๆมานี่จะออกมาห่างๆ)
3. มีปัญญาคิดเรื่องทำมาหากิน และทำงาน ทำหน้าที่ได้ดีขึ้น
(เราทำงานประจำ และทำอาชีพเสริม เหมือนสมองเราแล่นเร็วขึ้น คิดแผนโน่นนี่ ไปเรียนเสริม ไม่ค่อยหมกมุ่นกับเรื่องใด หรือยึดติดกับใครมากเกินไป)
4. อันนี้สำคัญ เราจะคิดถึง พ่อแม่เป็นอันดับแรก
5. ละอายต่อการทำบาป ถ้าถามว่าเป็นคนดีเลิศเลยมั้ย ก็ไม่หรอก กิเลส รัก โลภ โกรธหลง ยังไม่หมดไป แต่จะฉุกคิดมากขึ้น
6. มีข้อดีอีกมากมาย ฯลฯ
ธรรมะไม่เคยทำร้ายใคร เราปฏิบัติธรรม เพื่อให้มีศีล สติ สมาธิ และปัญญา ไม่ได้หวังถอดจิตอภินิหาร เห็นดวงไฟอะไรปานนั้น โปรดจงศึกษาธรรม ธรรมะไม่สอนให้เรางมงาย แต่สอนให้มีสติมีเหตุผลระลึกรู้ตัวเองอยู่เสมอ ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง นอน
อันนี้เพลงธรรมะฟังสบายใจเผื่อใครผ่านมาเจอลองฟังนะคะ จะทำให้ใจเย็น
บทสวดมนต์ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร (แปลไทย)
https://www.youtube.com/watch?v=aXAUxrBMQKg
บทเพลงพระคาถาชินบัญชร
https://www.youtube.com/watch?v=URCwAvn0fUs
ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก
https://www.youtube.com/watch?v=AumpxvbhxWA
บทเพลงที่เป็นคำสอน พระแม่กวนอิม แปลไทย สงบเย็นมาก
https://www.youtube.com/watch?v=kYXyhwDPHK4&index=1&list=PLG07GMccaeCHaxdU3mvEa6BzVGXs4TsmF 
ไปวัดปฏิบัติธรรม สวดมนต์ นั่งสมาธิ ได้ประโยชน์จริงหรือ?
ประมาณปี พ.ศ. 2552 เราติดฟังรายการธรรมะช่องหนึ่งในวิทยุ คนดำเนินรายการเป็นผู้หญิงเล่าเสียงเนิบๆ เกี่ยวกับเรื่องราวของ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม (วัดอัมพวัน) ตอนนั้นก็ไม่ได้เป็นคนธรรมะธรรมโมอะไรหรอก แต่ฟังแล้วสนุกดี และ มีแง่คิด ฟังจนติด ฟังทุกวันก่อนนอน จนวันนึงเค้าพูดถึงเรื่องการไปบวชปฏิบัติธรรม ว่าถ้าอยากไป ก็ไปเลยไม่ต้องชวนใคร หรือรอใคร เหมือนมันจะรั้งกัน จะไม่ได้ไปเสียที คิดๆดู ก็จริง เพราะก่อนหน้านั้นเราเคยชวนเพื่อนกับน้องอยู่หลายครั้ง แต่ถึงเวลาก็ไม่มีใครไปเลย เราจึงตัดสินใจไปคนเดียว ที่วัดแถวบ้าน จริงๆ วัดไหนก็ได้ไม่จำเป็นต้องวัดดังๆ ส่วนตัวเราชอบไปวัดที่เงียบๆค่ะ (นี่มันเป็นมุกหรือเปลือกหอย😆) เราไปวัดสายภาวนา(เน้นสวดมนต์) 9 วัน รวมวันที่ไปเป็น 10 วัน ทานมังฯ ตลอด ที่นี่เป็นแนวปฏิบัติสายธรรมยุติจะทานอาหารมื้อเดียว พระท่านจะนำอาหารทุกอย่างใส่ในบาตรแล้วฉันอย่างนั้น ผู้มาปฏิบัติธรรมก็เช่นกัน จะต้องตักอาหารใส่กะละมังใหญ่ๆ ใส่มารวมๆ กันเลย คาว-หวาน และ ผลไม้ อะไรก็ช่าง แต่เอาที่ชอบที่ชอบก็พอ เอาใส่มาค่ะ
แรกๆ รู้สึกเลยว่าไม่มีอะไรสบาย ที่นอนก็เสื่อผืน หมอนใบ และผ้าห่ม อาบน้ำอาบท่าก็ไม่สะดวก แต่โชคดีที่ได้นอนในห้องก็จะนอนรวมกับคนอื่น 2-5 คน แล้วแต่ขนาดห้อง ส่วนคนที่มาทีหลังห้องเต็มก็ไปนอนเรียงรายกันหลายสิบคนบนศาลา ตารางชีวิตประจำวัน ตื่นตี 3 เพื่อมารออาบน้ำ และไปสวดมนต์ทำวัตรเช้า (หน้าตาห้ามแต่งค่ะงดทุกชนิด สดๆกันทุกคนเพราะถือศีล8) จากนั้นก็ทำความสะอาด กวาดลานวัด ปัดๆ เช็ดๆ ถูๆ รอพระท่านบิณฑบาตรกลับมา ก็ไปรวมตัวที่ศาลา แล้วก็จะเป็นพิธีทำบุญสวดมนต์ ถวายสังฆทาน กรวดน้ำ เหมือนเวลาเราไปทำบุญที่วัด จากนั้นก็จะได้ทานข้าว ในกะละมังใหญ่ๆนั่น อย่าตะกละตักมาเยอะ หวังตุนพลังงานเชียวนะ เพราะจะทานไม่หมด เป็นที่ตำหนิติเตียนของคนข้างๆ เป็นอันมาก อีก 24 ชม. หิวก็ต้องทน ไปหวังพึ่งน้ำปานะเอาในอนาคตกาลข้างหน้าโน้นเทอญ แล้วพอเที่ยง ก็จะมาสวดมนต์นั่งสมาธิอีก บ่ายๆ ก็ทำความสะอาด กวาดลานวัด ปัดๆ เช็ดๆ ถูๆ อีกรอบ พอหกโมง ก็ไปสวดมนต์ ทำวัตรเย็น การสวดมนต์ แต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 3 ชม. รวมนั่งสมาธิ 20 นาที ถึงครึ่ง ชม.
ไฮไลท์ อยู่ที่การสวดมนต์นี่เอง 3 วันแรกเราไม่มีสมาธิ เราหิวววววค่ะ ท้องงี้ร้องเป็นเพลง
แถมจิตใจเรายังไปเพ่งที่ผู้คนที่มาร่วมปฏิบัติธรรม อยากรู้ว่าเป็นใครยังไง เด็ก คนแก่ วัยรุ่น วัยทำงาน อ่อ ผู้ชายมีน้อยมาก อย่างมากสุดก็สิบคน ส่วนมากเป็นเด็กและคนแก่ เราสวดผิดๆ ถูกๆ ค่ะ สมาธิไม่นิ่ง ทำไมคนอื่นสวดคล่องจังว๊า...คิดในใจ บางช่วงนี่มีผิดคีย์ แหลมออกไปเป็นม้าดีดกระโหลก เป็นที่จดจำของญาติโยมทั้งหลาย หน้างี้ชาเลยค่ะ อายเค้า
ถ้าช่วงทำวัตรเย็น สวดๆไป ซัก 2 ทุ่ม มีวืดดับมืดไปเลยค่ะ มันง๊วงงงงง ตอนนั่งสมาธินี่ ไม่เกิน 10 นาที ไม่เงิบหน้า ก็เงิบหลัง เงิบ....ๆ
พอวันที่ 4 ทีนี้เราเริ่มอยู่ตัว ไม่หิวเท่าไหร่แล้ว
มีสมาธิจดจ่อกับการสวดมนต์มากขึ้น เริ่มรู้ว่าบทไหนสวดจังหวะยังไง พอวันท้ายๆ นี่เทพมากแล้ว คือสวดคล่องแล้ว แถมรู้สึกจิตใจโล่ง โปร่งสบาย มันไม่ต้องคิดอะไรเลยเมื่ออยู่ที่วัด
พอกลับมาบ้าน จะเข้านอน นอนไม่ได้ละทีนี้ เสียงสวดมนต์มันดังอยู่ในหัว ถั่วงา ถั่วงา อยู่อย่างนั้น ต้องลุกขึ้นมาสวดมนต์เหมือนตอนอยู่วัด และสวดเรื่อยๆ มาจนปัจจุบัน วันไหนเหนื่อยก็สวดสั้น วันไหนขยันก็สวดยาว (อย่าลืมแผ่เมตตาด้วยนะคะ สำคัญมากเหมือนกัน)
เราไปปฏิบัติธรรมสายภาวนาอยู่ 3 ปี ปีละครั้ง
จากนั้น เปลี่ยนไปสายวิปัสนา-กรรมฐาน (สายนี้จะเคร่งกว่าพักน้อยมาก) ไปปีละครั้ง หรือ 2 ครั้งตามสะดวก แต่เราก็ยังนั่งสมาธิไม่ได้นาน ชอบเดินจงกรมมากกว่า พระอาจารย์จะสอนดีมากค่ะ ฟังแล้วเหมือนท่านด่าเรายังไงยังงั้นเลย 555 ได้คิด
ประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติธรรม สวดมนต์ นั่งสมาธิ
1. เรานิ่งขึ้น ถึงนิ่งมาก มีสติ มีสมาธิ ระงับ หรือ ควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่าเดิม
2. ไม่พูดสอดเสียด นินทาเรื่องของคนอื่น อยู่เงียบๆ กับตัวเองมากกกว่า
(พื้นฐานเป็นคนไม่ชอบพูดเรื่องของใคร แต่ชอบกระแซะเข้าไปฟัง แต่หลังๆมานี่จะออกมาห่างๆ)
3. มีปัญญาคิดเรื่องทำมาหากิน และทำงาน ทำหน้าที่ได้ดีขึ้น
(เราทำงานประจำ และทำอาชีพเสริม เหมือนสมองเราแล่นเร็วขึ้น คิดแผนโน่นนี่ ไปเรียนเสริม ไม่ค่อยหมกมุ่นกับเรื่องใด หรือยึดติดกับใครมากเกินไป)
4. อันนี้สำคัญ เราจะคิดถึง พ่อแม่เป็นอันดับแรก
5. ละอายต่อการทำบาป ถ้าถามว่าเป็นคนดีเลิศเลยมั้ย ก็ไม่หรอก กิเลส รัก โลภ โกรธหลง ยังไม่หมดไป แต่จะฉุกคิดมากขึ้น
6. มีข้อดีอีกมากมาย ฯลฯ
ธรรมะไม่เคยทำร้ายใคร เราปฏิบัติธรรม เพื่อให้มีศีล สติ สมาธิ และปัญญา ไม่ได้หวังถอดจิตอภินิหาร เห็นดวงไฟอะไรปานนั้น โปรดจงศึกษาธรรม ธรรมะไม่สอนให้เรางมงาย แต่สอนให้มีสติมีเหตุผลระลึกรู้ตัวเองอยู่เสมอ ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง นอน
อันนี้เพลงธรรมะฟังสบายใจเผื่อใครผ่านมาเจอลองฟังนะคะ จะทำให้ใจเย็น
บทสวดมนต์ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร (แปลไทย) https://www.youtube.com/watch?v=aXAUxrBMQKg
บทเพลงพระคาถาชินบัญชร https://www.youtube.com/watch?v=URCwAvn0fUs
ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก https://www.youtube.com/watch?v=AumpxvbhxWA
บทเพลงที่เป็นคำสอน พระแม่กวนอิม แปลไทย สงบเย็นมาก
https://www.youtube.com/watch?v=kYXyhwDPHK4&index=1&list=PLG07GMccaeCHaxdU3mvEa6BzVGXs4TsmF