เป่า-ยิ้ง-ฉุบ

กระทู้สนทนา
.


             มันเป็นเรื่องง่าย เล่นไม่ยาก...ใคร ๆ ก็ต้องเคยเล่น เป่า-ยิ้ง-ฉุบ  หลังจากเล่นแล้วทุกคนจะมีรอยยิ้ม...ดวงตาเป็นประกาย...จบเกม ต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน...ใช่แล้ว...มันควรจะจบลงง่ายดาย และไม่ควรมีอะไรมากไปกว่านี้...มันก็เพียงการละเล่นของเด็กๆ เท่านั้น....ใช่ไหม...

             ไม่....

             ถ้าคุณเชื่อว่ามีบวกก็ต้องมีลบ...ถ้ามีกลางวันอันสว่างเจิดจ้า...คุณต้องยอมรับว่ามีรัตติกาลมาเยือน...ถ้าคุณเชื่อในพระเจ้า..คุณต้องยอมรับการมีของซาตาน...คุณจะไม่มีวันหัวเราะอย่างเดียวโดยไม่รู้จักคำว่าร้องไห้ เหรียญบาทหนึ่งเหรียญยังมีสองด้าน...หัวกับก้อย...จะมีด้านเดียวไม่ได้  ถ้าคุณจะใช้เงิน คุณต้องใช้เหรียญทั้งสองข้างในเวลาเดียวกัน  แต่ เป่า-ยิ้ง-ฉุบ เป็นมากกว่านั้น

             • ค้อน : ชนะกรรไกร แต่แพ้กระดาษ

             • กระดาษ : ชนะค้อน แต่แพ้กรรไกร

             • กรรไกร : ชนะกระดาษ แต่แพ้ค้อน

             การเล่น ผู้เล่นจะหันหน้าเข้าหากัน ไพล่มือที่จะเสี่ยงไว้ด้านหลัง เมื่อนับ "เป่า ยิ้ง"... หมายถึงการเตรียมพร้อมจะลงสู่ผลแพ้ชนะ...จะเตรียมเสี่ยงมือเอาไว้ ว่าจะออกเป็น ค้อน... กระดาษ... หรือกรรไกร... เมื่อพูด ‘ฉุบ’ ผูเล่นจะออกมือมาพร้อมกัน และจะรู้ทันทีว่าใครแพ้ หรือชนะ  เหมือนกับยอมรับความเป็นและความตาย…เสียงหัวเราะหรือหยาดน้ำตา

             เธอนอนนิ่งอยู่บนเตียง ลมหายใจแผ่วเบาราวกำลังจะจางหาย  ในห้องของโรงพยาบาลอันมีกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อจาง ๆ ลอยอยู่ในอากาศ พ่อแม่พี่น้องและบรรดาญาติ รอนอกห้อง สีหน้าแววตาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

             เธอกำลังจะตาย

             ถ้าเธอไม่  ‘กำลังจะตาย’  ผมคงไม่มีโอกาสมาพบเธอแบบนี้.....ใครบ้างจะรับและรู้ว่า ผู้หญิงสูงส่งร่ำรวย จะมาคบกับผู้ชายที่แทบไม่มีอะไร นอกจากการพยายามจัดการให้ร่างกายและชีวิตอยู่ด้วยกันให้ได้ไปวัน ๆ เท่านั้น...แต่เมื่อสายใยสุดท้ายกำลังจะขาดหาย....คนเหล่านั้นก็เปิดโอกาสให้ผม....ผู้ซึ่งมีเสียงเรียกชื่อร่ำร้องออกจากปากของเธอ..ในช่วงสุดท้ายของชีวิต

             เป่า-ยิ้ง-ฉุบ…มาเล่นกัน...

             เธอยังละเมอและพูดซ้ำซาก ทั้งที่มือไม่มีแรง ผมจับมือของเธอมาแนบแก้ม...ปล่อยให้น้ำตาไหลผ่านราวสายธารอันเจ็บปวดทรมาน

             เป่า-ยิ้ง-ฉุบ…   เสียงใสๆ หน้าใส ๆ แก้มใส ๆ ประกายตาสดใส....รอยยิ้มสดชื่น.....ของเด็กหญิงวัยไม่ถึงสิบขวบ สีหน้าท่าทางเต็มไปด้วยความมั่นใจ

             เธอออกค้อน...

             ที่จริงแล้วผมออกกระดาษ..กระดาษที่จะห่อค้อนให้แพ้...ในเสี้ยวพริบตา...ผมเปลี่ยนเป็นกรรไกร ใช่แล้ว...ผมแพ้เธอ...แพ้เพื่อแลกกับรอยยิ้ม และดวงตาอันเป็นประกาย  การยอมแพ้ บางครั้งสวยงามมากกว่าชัยชนะ ถ้าเพียงเรารู้จักแกล้งแพ้ด้วยความหวังดีเท่านั้น

             “เธอแพ้เราเป็นครั้งที่สิบแล้วนะ”

             เธอตอกย้ำความพ่ายแพ้...ผมแอบยิ้มในใจ..ถึงผมไม่ใช่คนแก่แดด แต่ตอนนั้น ผมก็รู้ว่า มีอะไรบางอย่างมีความหมายมากกว่าชัยชนะ ไม่เห็นผิดและเสียเกียรติตรงไหนเลย ในการที่ผู้ชายจะ ‘แกล้ง’   ยอมแพ้ผู้หญิง  ผมพร้อมจะอ่อนข้อและตามง้อเธอเสมอ.ไม่ว่าจะถูกหรือผิด...ทั้งที่บางเรื่องผมไม่ได้ผิด...แต่ผมคิดว่าพวกผู้หญิงมีไว้เพื่อง้อ...ผมคิดแบบนี้จริง ๆ ถึงมันจะไม่ถูกต้องกับในมุมมองของใครหลายคน

           เอาชนะผู้หญิง...ได้..แต่ผมมองไม่เห็นว่า มันมีคุณค่าควรภาคภูมิใจตรงไหนเลย

            “เธอแพ้แล้ว.......”     คำง่าย ๆ แต่มีความหมายพิเศษกับบางสถานการณ์  กับคนที่รัก ทำไมแค่ยอมแพ้จะยอมไม่ได้...ไม่รุ้ว่าคิดถูกหรือคิดผิด รู้เพียงต้องคิดแบบนี้ โดยเฉพาะกับเธอ   เธอร้องและหัวเราะอย่างดีใจ...แล้วผมก็ยิ้มแบบเออออห่อหมกไปด้วย...แพ้ก็แพ้สิ ไม่เห็นเป็นไร

             “ยังไงเธอก็แพ้เรา”  เธอบอกตอกย้ำชัยชนะ ผมได้แต่ยิ้ม และไม่คิดว่าการเล่นแบบนี้จะมีผลยาวนานต่อเนื่อง


             เวลานี้....เธอกำลังจะตาย มัจจุราชกำลังเดินทางมาเยือน... แต่ผมไม่มีวันจะร้องไห้...แม้ว่าเธอจะนอนสงบนิ่งก็ตาม...ผมจะไม่มีวันยอมให้เธอเห็นความอ่อนแอเด็ดขาด....ถ้าจะอดรนทนไม่ได้ ก็จะขอแอบร้องไห้....ไม่ให้เธอเห็นหรือรับรู้...จะซ่อนความเจ็บปวดไว้ในส่วนลึกที่สุดของจิตใจ จะไม่ให้หยดน้ำตาของผมกัดกร่อนเธอแม้เพียงเศษเสี้ยว

            มือของเธอยังขยับเล็กน้อย ผมรู้ว่าเธอรู้ว่า ผมอยู่ข้าง ๆ

             มาเล่น....เป่ายิ้งฉุบ กันต่อไหม....

             เธอไม่เคยชนะฉันเลยนะ  เสียงของเธอดังก้องในใจ...เป่า-ยิ้ง-ฉุบ…เป็นเกมที่เราสองเล่นกันมานานหลายปี กระทั่งต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันไปเรียน...ตามเล่นทางของชีวิต แต่ถึงจะห่างไกลแต่ไม่ห่างหาย ผมรู้ว่าเธอต้องคิดถึงผม

             คนแพ้....ต้องปีนขึ้นไปเก็บลูกมะไฟนะ....

             ใช่..ผมต้องแพ้...เพราะไม่อยากให้เธอปีนต้นมะไฟกลางทุ่งนา แล้วโดนมดแดงรุมกัด นั่นเป็นวิถีชีวิตของชาวชนบทอย่างพวกเรา

            คนแพ้ต้องไปตักน้ำนะ

            ใช่...ผมต้องแพ้ เพื่อที่จะรับภาระหิ้วถังไปตักน้ำจากบ่อน้ำมาใส่โอ่งน้ำของบ้านเธอ...ผมจะยอมให้เธอทำอย่างนั้นได้อย่างไรกันใช่ไหมครับ...ถ้า คุณจะรักใครสักคนมากพอ คุณก็พร้อมที่จะเป็นฝ่ายยอมแพ้

             คนแพ้ต้องก่อไฟหุงข้าว....

             ใช่แล้ว.....ผมยอมหน้าดำมอมแมม กับการก่อไฟหุงข้าว ขณะที่เธอนั่งยิ้มและมองดูอยู่ข้าง ๆ อย่างสนุกสนาน

            คนแพ้ต้องยอมให้ขี่หลังกลับบ้านนะ

             นั่นเป็นความผูกพันอันบริสุทธิ์ในวัยเด็ก เป็นความทรงจำที่ดี และควรค่าแก่การจดจำ

             แต่ตอนนี้เธอกำลังจะตาย อาการป่วยซึ่งพวกหมอยังงุนงง    ผมมองเห็น..ในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น...รู้ถึงสิ่งที่ไม่ควรเชื่อแต่มันมาปรากฏตรงหน้า.....ไม่ใช่ฝันร้าย แต่ความจริงบางอย่างยิ่งกว่าฝันร้าย   ปีศาจร้ายในเสื้อคลุมสีดำ...มือซ้ายถือเคียวเกี่ยววิญญาณ  มันจะมาเอาชีวิตของเธอ ผมรู้แบบนั้น...และทูตมรณะนั่นก็คงรู้ มันใช้สายตาเหมือนมีไฟลุกโชนในเบ้าตาจ้องมองอย่างประหลาดใจ

             “แกเอาเธอไปไม่ได้....”

             ผมคำราม ทั้งที่รู้ว่าไม่รู้จะเอาอะไรไปต่อต้านทูตแห่งความตายนั้น ยังจะมีอะไรทรงพลานุภาพมากไปกว่าความตายได้อีกล่ะ...แต่ผมก็ต้องทำอะไรก็ได้เพื่อปกป้องคนที่ผมรัก ต่อให้กระโจนลงในหุบเหว หรือหล่มไฟก็พร้อมจะทำโดยไม่ลังเล ใบหน้าที่มีแต่กระดูกแสยะยิ้ม ก่อนส่งเสียงคำรามเสียงต่ำแหบพร่า

             “จะเอายังไง”   น้ำเสียงของมันเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ ลักษณะอาการเหมือนแมวจับหนูได้แล้ว ยังไม่ยอมฆ่า แต่ใช้อุ้งเท้าตบไปมาจนกว่าจะเบื่อแล้วค่อยจัดการ

             “ถ้าเราชนะ แกต้องปล่อยเธอ”   ผมพูดเสียงแข็ง โดยไม่มีความหวั่นเกรงแม้แต่น้อย ผมไม่มีอะไรต้องกลัว เพียงมีสิ่งจะเสียคือชีวิตเท่านั้น แต่ก็พร้อมจะลงทุน แม้ว่าโอกาสแพ้เกือบเต็มร้อย

             “ว่ามา.....”

             “เป่า-ยิ้ง-ฉุบ ตาเดียว.......”   ผมบอกอย่างตัดสินใจครั้งสุดท้าย ปีศาจแหงนหน้าหัวเราะเสียงกังวาน เป็นเสียงหัวเราะของปีศาจที่มองเห็นชะตากรรมของคู่ต่อสู้แบบเด่นชัดไม่ต้องสงสัย

             “เล่นเป็นเด็ก......ก็ได้...แต่เอาอะไรมาเดิมพัน”    ปีศาจส่งเสียงถามเหมือนจะเย้ย

             “วิญญาณของฉันไง...พวกแกอยากได้มากไม่ใช่เหรอ”

             ภูตแห่งความตายหัวเราะอีกครั้ง ยังจะมีอะไรหอมหวานเย้ายวนใจปีศาจมากไปกว่าวิญญาณของมนุษย์ นั่นล่ะ... จุดประสงค์ของพวกมัน  พวกปีศาจก็มักคิดและทำเพื่อสิ่งนี้จริง ๆ

             “ตกลง... ช้าจะยอมลดตัวสนุกกับพวกมนุษย์ดูบ้างสักครั้ง”

            เสียงจอมปีศาจคำรนคำรามกึกก้อง กลิ่นกำมะถันกระจายไปทั่วห้อง ประกายไฟแตกวาบอยู่รอบตัวเหมือนจะเป็นการข่มขวัญ แต่ว่ามันใช้ไม่ได้ผลกับผมเสียแล้ว ตอนนี้ผมไม่กลัวอะไรทั้งนั้น เพราะผมกำลังจะปกป้องคนรักของผมอย่างสุดชีวิตจิตใจ

             “ระวัง”

            มันส่งเสียงเตือนแบบปราศจากความหวังดี มือซ้ายของมันซ่อนอยู่ด้านหลัง   ที่รัก...  ผมจะช่วยคุณ พยายามทำเพื่อคุณ หากผมพลาดไป อภัยให้ผมด้วย

             ฟ้าส่งเสียงครืนใหญ่ เจิดจ้ากว่าแสงแห่งดวงอาทิตย์


             เป่า

             ยิ้ง

             ฉุบ…



             ผมออกกรรไกร.. มันออกไปตามความเคยชิน  ออกกรรไกรไปทั้งที่รู้ว่าแบบนี้เคยแพ้ไปทุกครั้ง  เสียงปีศาจคำรามจนแสบแก้วหู

             มันออกค้อน!!

            ค้อนชนะกรรไกร เด็ก ๆ ก็รู้ สมควรแล้วที่ทูตมรณะจะหัวเราะด้วยความพึงพอใจ มันสมควรชนะผม..ผู้รับบทผู้แพ้ตลอดเวลา มันก็สมควรแล้ว

            “วิญญาณแกเป็นของข้า”

             ทูตมรณะ เงาแห่งความตายหัวเราะอย่างลำพองใจอีกครั้ง หัวเราะอย่างยาวนานแบบสาสมใจ....ในที่สุดก็ยื่นมือปราดออกมา แต่แล้วก็ชะงักค้างเหมือนคว้าใส่ความว่างเปล่า สีหน้าของมันเต็มไปด้วยความประหลาดใจและไม่เข้าใจ

            แทนคำตอบ ผมหันไปมองนางอันเป็นที่รัก มองมือขวาของเธอซึ่งโผล่พ้นผ้าห่มออกมา

            มือของเธอออกกระดาษ!

            เป็นการเล่นเป่า-ยิ้ง-ฉุบ ครั้งสุดท้ายของเธอ และมีความหมายความสำคัญมากที่สุด  แล้วผมก็เริ่มหัวเราะใส่หน้าทูตมรณะ

            “แต่แกประมาทจนลืมคิดให้ดี.....คนที่แข่งกับแกไม่ใช่ฉัน...แต่เป็นเธอ”

             ผมอยากหัวเราะให้บ้าตาย มันลืมคำที่ผมบอกว่า “ถ้าเเราชนะ แกต้องปล่อยเธอ” จ้าวแห่งความตายก็ยังรู้พลาดเพราะความเชื่อมั่นและยะโสโอหัง แบบปีศาจแท้ ๆ

             “แกโกง.”  ทูตมรณะเบิกตากว้าง...ร้องเสียงกึกก้องยาวนาน...แต่สายเกินเสียแล้ว ถึงจะเป็นปีศาจก็ยังอยู่ใต้กฎของคำสัญญา ร่างของมันบิดเบี้ยวดิ้นรนไปมาก่อนจางหายไปราวฝุ่นควัน แต่คิดว่ามันยังมีโอกาสได้ยินคำพูดของผมที่บอกว่า

             “โกงอย่างไม่ผิดกติกา ก็ไม่ถือว่าโกง”  

              ใช่....มันสมควรเป็นแบบนี้ โดยเฉพาะกับพวกปีศาจ



.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่