ส่วนใหญ่เวลาใกล้จะเปิดเทอมก็จะมีคำถามว่าหอเป็นยังไง ควรขนอะไรไปบ้าง ต้องซื้อผ้าปูที่นอนมั้ย วันนี้เลยขอมาแนะนำ 人大 ให้พี่ๆ น้องๆ ที่คิดจะมาเรียนที่ปักกิ่งไว้เป็นตัวเลือกกันนะคะ 人大 เป็นมหาวิทยาลัยในฝันอันดับต้นๆ ของจีน ในด้านสังคมศาสตร์ สำหรับนักเรียนต่างชาติที่นี่เปิดรับทั้งตรีโทเอกและหลักสูตรภาษาค่ะ ที่นี่บรรยากาศดีค่ะ ตอนเช้าตอนเย็นจะเห็นผู้สูงอายุหอบลูกจูงหลานมาเดินเล่น รำไท่เก๊ก เต้นลีลาศ กันเต็มมหาลัย
มหาวิทยาลัยตอนหน้าหนาว
ตอนฤดูใบไม้ร่วง ต้นไม้ในม.เปลี่ยนสี
หน้าหอพักนักเรียนต่างชาติ
สำหรับหอพักนักเรียนต่างชาติมีให้เลือกหลายแบบค่ะ ไม่ว่าจะเป็นห้องเดี่ยวห้องคู่ มีห้องน้ำในตัวหรือห้องน้ำรวม แต่เด็กทุน CSC และทุนขงจื้อจะได้อยู่ห้องคู่แบบห้องน้ำรวม ส่วนทุน MOFCOM จะได้อยู่ห้องเดี่ยวมีห้องน้ำในตัว ส่วนทุนตัวเองนี่ก็แล้วแต่งบประมาณของแต่ละคน รายละเอียดห้องเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่เวปไซต์มหาวิทยาลัย หรือเวปของ International Students Office นะคะ
ในห้องมีแอร์ ตู้เสื้อผ้า โต๊ะหนังสือ โคมไฟอ่านหนังสือ แล้วก็เครื่องนอนให้ค่ะ ไม่ว่าจะผ้าปูที่นอนปลอกหมอน หมอนผ้าห่มครบ (ไม่จำเป็นต้องซื้อผ้าปูที่นอนปลอกหมอนมาจากเมืองไทยนะคะ ที่ม.มีให้) แถมมีบริการเปลี่ยนผ้าปูที่นอนปลอกหมอนปลอกผ้าห่มให้ทุกเดือนอีกด้วยค่ะ ผ้าห่มที่นี่จะให้มาสองผืนแต่ไม่ได้เอาไว้ใช้หน้าหนาวนะคะ สำหรับคนขี้หนาวอย่างเราต้องเอาไว้ใช้ตอนฤดูใบผลิกับฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเป็นช่วงที่ม.ยังไม่เปิดฮีทเตอร์หรือปิดฮีทเตอร์ไปแล้ว ส่วนหน้าหนาวมีฮีทเตอร์ดังนั้นผ้าห่มผืนเดียวอยู่ค่ะ
ด้วยความที่เป็นห้องน้ำรวม ควรมีเสื้อคลุมอาบน้ำค่ะ สนับสนุนให้หิ้วมาจากเมืองไทย เพราะที่นี่ขายค่อนข้างแพง ส่วนสบู่ยาสระผมยาสีฟันไม่ต้องเอามาเยอะ มาซื้อที่ปักกิ่งก็ได้ แต่สิ่งที่ควรหิ้วมาด้วยคือโฟมล้างหน้าครีมกันแดดค่ะ
สิ่งที่ควรเตรียมมาจากเมืองไทย
1. โลชั่นทาผิว ปักกิ่งเป็นเมืองที่อากาศแห้งมาก แต่ไม่รู้ทำไม ไม่ค่อยมีโลชั่นทาผิววางขาย ถึงมีก็มีให้เลือกน้อยแถมยังราคาชวนให้กระอักเลือด โดยส่วนตัวแล้วขอแนะนำ Jergens ค่ะ ที่ปักกิ่งไม่มีขายนะคะ ต้องหิ้วมาจากไทย ใช้สูตรไหนก็ได้ค่ะ สำหรับหน้าหนาวแนะนำคือให้เลือกแบบที่เข้มข้นที่สุดมา ส่วนฤดูอื่นอากาศก็แห้งไม่แพ้กัน ถ้าไม่ทาโลชั่นมีผิวแตกแน่นอน (โดยส่วนตัวแล้วชอบ Hydrating Coconut ที่สุดค่ะ เพราะมีกลิ่นหอม)
2. โฟมล้างหน้า กับครีมกันแดด เลือกมาจากไทยถูกใจและสบายกระเป๋ากว่า แถมที่นี่แดดแรงมากกกกก ครีมกันแดดสำหรับทาหน้าควรเอามาเยอะหน่อย เพราะหน้าหนาวใส่โค้ทปิดมิดชิดจนแทบไม่ต้องทาตัว พอถึงเวลาใส่แขนสั้นขาสั้นถ้าไม่ทาครีมกันแดดอาจเกรียมไปตามๆกัน
3. ยาทาสิว ถ้ามีสิวควรพกติดมานะคะ ที่นี่ราคาค่อนข้างโหดร้ายทำร้ายจิตใจคนเป็นสิวอย่างที่สุด
4. ยารักษาโรค ใครรู้ว่าตัวเองชอบเป็นหวัดหรือมีโรคประจำตัวควรพกยาติดตัวมาเยอะๆค่ะ ยาจีนกินแล้วไม่หายนะคะ เคยเป็นหวัดไข้ขึ้นจนต้องไปโรงพยาบาล หมอไม่จ่ายยาค่ะ หมอบอกให้นอนพักและกินน้ำอุ่นเยอะๆ ถ้าเป็นเมืองไทยคงได้ยามาเป็นถุงๆ ปกติบ้านเรากินยากันตลอดแถมหมอชอบให้ยาแก้อักเสบ พอมาเจอยาจีนเลยไม่ค่อยได้ผล
5.ยาดม อาจดูตลก แต่เป็นไอเทมสำคัญค่ะ ถึงตอนอยู่ไทยไม่เคยใช้แต่มาปักกิ่งต้องมีนะคะ คนปักกิ่งด้วยความที่อากาศแห้ง เป็นเมืองหนาว คนเลยไม่ค่อยอาบน้ำแถมไม่ค่อยซักผ้า เสื้อผ้าบางชุดมีการใส่ซ้ำบ่อยๆ ยิ่งถ้าเป็นหน้าหนาว เสื้อกันหนาว เสื้อไหมพรมใส่กันสามสี่เดือนยังไม่ซักเลยค่ะ ขึ้นรถไฟใต้ดินหรือไปที่ๆ คนเยอะๆ ยาดมเท่านั้นที่จะช่วยเราจากกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ (แมสหรือผ้าปิดปากกันกลิ่นไม่ได้นะคะ ขอบอก) ยิ่งถ้าเพื่อนในคลาสเป็นคนจีนหรือเป็นพวกที่มาจากเมืองหนาวนี่เข้าห้องเรียนทีต้องดมยาดมจนแทบจะยัดเข้าจมูกเลยค่ะ
6. เสื้อกันหนาว บางคนชอบบอกว่าของพวกนี้มาซื้อที่เมืองจีนดีกว่า ก็จริงค่ะ ถ้าเป็นคนที่ซื้อของออนไลน์ได้ ซื้อในเถาเป่าจะได้ราคาดีและหาแบบสวยๆ ง่าย แต่คิดจะไปเดินเลือกซื้อตามห้างร้านในปักกิ่ง ขอแนะนำให้ซื้อจากเมืองไทยดีที่สุด ราคาสองสามพันบาทก็ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นราคาที่รับได้ เพราะถ้ามาเดินดูตามร้านค้าตามห้างที่ปักกิ่งจะเจอแฟชั่นแบบที่ต้องตะลึงจนซื้อไม่ลง แถมราคาก็ไม่ได้ถูก แต่ถ้ารับแฟชั่นแบบจีนได้ก็ไม่มีปัญหาค่ะ (ปักกิ่งมียูนิโคล่นะคะ ดีไซน์ไม่ต่างจากไทย แถมมีบางแบบที่ไทยไม่มี แต่ราคาที่ไทยถูกกว่าค่ะ)
ส่วนพวกมาม่า อาหารไทย พกติดมาบ้างก็ดีนะคะ กันทนอาหารจีนไม่ไหว เพราะอาหารจีนทางเหนือไม่เหมือนอาหารจีนแบบที่เรากินกันที่ไทยนะคะ อาหารจีนแบบที่บ้านเรากินกันเป็นอาหารทางใต้ ที่ปักกิ่งอาหารทั้งเค็มทั้งมัน แถมแอบเผ็ดแบบชาๆ เน้นเนื้อแพะเนื้อวัว กับพวกเครื่องใน พีคกว่าคือเจอเนื้อลากับสมองแกะ ดังนั้นใครที่ไม่ชอบอาหารจีนหรือเป็นคนกินยากอาจต้องดูเรื่องอาหารการกินดีๆ นะคะ
หวังว่ารีวิวนี้คงจะเป็นประโยชน์กับพี่ๆน้องๆ ที่กำลังเตรียมตัวมาเรียนปักกิ่งนะคะ
[CR] แนะนำ Renmin University of China 中国人民大学 -- ปักกิ่ง
มหาวิทยาลัยตอนหน้าหนาว
ตอนฤดูใบไม้ร่วง ต้นไม้ในม.เปลี่ยนสี
หน้าหอพักนักเรียนต่างชาติ
สำหรับหอพักนักเรียนต่างชาติมีให้เลือกหลายแบบค่ะ ไม่ว่าจะเป็นห้องเดี่ยวห้องคู่ มีห้องน้ำในตัวหรือห้องน้ำรวม แต่เด็กทุน CSC และทุนขงจื้อจะได้อยู่ห้องคู่แบบห้องน้ำรวม ส่วนทุน MOFCOM จะได้อยู่ห้องเดี่ยวมีห้องน้ำในตัว ส่วนทุนตัวเองนี่ก็แล้วแต่งบประมาณของแต่ละคน รายละเอียดห้องเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่เวปไซต์มหาวิทยาลัย หรือเวปของ International Students Office นะคะ
ในห้องมีแอร์ ตู้เสื้อผ้า โต๊ะหนังสือ โคมไฟอ่านหนังสือ แล้วก็เครื่องนอนให้ค่ะ ไม่ว่าจะผ้าปูที่นอนปลอกหมอน หมอนผ้าห่มครบ (ไม่จำเป็นต้องซื้อผ้าปูที่นอนปลอกหมอนมาจากเมืองไทยนะคะ ที่ม.มีให้) แถมมีบริการเปลี่ยนผ้าปูที่นอนปลอกหมอนปลอกผ้าห่มให้ทุกเดือนอีกด้วยค่ะ ผ้าห่มที่นี่จะให้มาสองผืนแต่ไม่ได้เอาไว้ใช้หน้าหนาวนะคะ สำหรับคนขี้หนาวอย่างเราต้องเอาไว้ใช้ตอนฤดูใบผลิกับฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเป็นช่วงที่ม.ยังไม่เปิดฮีทเตอร์หรือปิดฮีทเตอร์ไปแล้ว ส่วนหน้าหนาวมีฮีทเตอร์ดังนั้นผ้าห่มผืนเดียวอยู่ค่ะ
ด้วยความที่เป็นห้องน้ำรวม ควรมีเสื้อคลุมอาบน้ำค่ะ สนับสนุนให้หิ้วมาจากเมืองไทย เพราะที่นี่ขายค่อนข้างแพง ส่วนสบู่ยาสระผมยาสีฟันไม่ต้องเอามาเยอะ มาซื้อที่ปักกิ่งก็ได้ แต่สิ่งที่ควรหิ้วมาด้วยคือโฟมล้างหน้าครีมกันแดดค่ะ
สิ่งที่ควรเตรียมมาจากเมืองไทย
1. โลชั่นทาผิว ปักกิ่งเป็นเมืองที่อากาศแห้งมาก แต่ไม่รู้ทำไม ไม่ค่อยมีโลชั่นทาผิววางขาย ถึงมีก็มีให้เลือกน้อยแถมยังราคาชวนให้กระอักเลือด โดยส่วนตัวแล้วขอแนะนำ Jergens ค่ะ ที่ปักกิ่งไม่มีขายนะคะ ต้องหิ้วมาจากไทย ใช้สูตรไหนก็ได้ค่ะ สำหรับหน้าหนาวแนะนำคือให้เลือกแบบที่เข้มข้นที่สุดมา ส่วนฤดูอื่นอากาศก็แห้งไม่แพ้กัน ถ้าไม่ทาโลชั่นมีผิวแตกแน่นอน (โดยส่วนตัวแล้วชอบ Hydrating Coconut ที่สุดค่ะ เพราะมีกลิ่นหอม)
2. โฟมล้างหน้า กับครีมกันแดด เลือกมาจากไทยถูกใจและสบายกระเป๋ากว่า แถมที่นี่แดดแรงมากกกกก ครีมกันแดดสำหรับทาหน้าควรเอามาเยอะหน่อย เพราะหน้าหนาวใส่โค้ทปิดมิดชิดจนแทบไม่ต้องทาตัว พอถึงเวลาใส่แขนสั้นขาสั้นถ้าไม่ทาครีมกันแดดอาจเกรียมไปตามๆกัน
3. ยาทาสิว ถ้ามีสิวควรพกติดมานะคะ ที่นี่ราคาค่อนข้างโหดร้ายทำร้ายจิตใจคนเป็นสิวอย่างที่สุด
4. ยารักษาโรค ใครรู้ว่าตัวเองชอบเป็นหวัดหรือมีโรคประจำตัวควรพกยาติดตัวมาเยอะๆค่ะ ยาจีนกินแล้วไม่หายนะคะ เคยเป็นหวัดไข้ขึ้นจนต้องไปโรงพยาบาล หมอไม่จ่ายยาค่ะ หมอบอกให้นอนพักและกินน้ำอุ่นเยอะๆ ถ้าเป็นเมืองไทยคงได้ยามาเป็นถุงๆ ปกติบ้านเรากินยากันตลอดแถมหมอชอบให้ยาแก้อักเสบ พอมาเจอยาจีนเลยไม่ค่อยได้ผล
5.ยาดม อาจดูตลก แต่เป็นไอเทมสำคัญค่ะ ถึงตอนอยู่ไทยไม่เคยใช้แต่มาปักกิ่งต้องมีนะคะ คนปักกิ่งด้วยความที่อากาศแห้ง เป็นเมืองหนาว คนเลยไม่ค่อยอาบน้ำแถมไม่ค่อยซักผ้า เสื้อผ้าบางชุดมีการใส่ซ้ำบ่อยๆ ยิ่งถ้าเป็นหน้าหนาว เสื้อกันหนาว เสื้อไหมพรมใส่กันสามสี่เดือนยังไม่ซักเลยค่ะ ขึ้นรถไฟใต้ดินหรือไปที่ๆ คนเยอะๆ ยาดมเท่านั้นที่จะช่วยเราจากกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ (แมสหรือผ้าปิดปากกันกลิ่นไม่ได้นะคะ ขอบอก) ยิ่งถ้าเพื่อนในคลาสเป็นคนจีนหรือเป็นพวกที่มาจากเมืองหนาวนี่เข้าห้องเรียนทีต้องดมยาดมจนแทบจะยัดเข้าจมูกเลยค่ะ
6. เสื้อกันหนาว บางคนชอบบอกว่าของพวกนี้มาซื้อที่เมืองจีนดีกว่า ก็จริงค่ะ ถ้าเป็นคนที่ซื้อของออนไลน์ได้ ซื้อในเถาเป่าจะได้ราคาดีและหาแบบสวยๆ ง่าย แต่คิดจะไปเดินเลือกซื้อตามห้างร้านในปักกิ่ง ขอแนะนำให้ซื้อจากเมืองไทยดีที่สุด ราคาสองสามพันบาทก็ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นราคาที่รับได้ เพราะถ้ามาเดินดูตามร้านค้าตามห้างที่ปักกิ่งจะเจอแฟชั่นแบบที่ต้องตะลึงจนซื้อไม่ลง แถมราคาก็ไม่ได้ถูก แต่ถ้ารับแฟชั่นแบบจีนได้ก็ไม่มีปัญหาค่ะ (ปักกิ่งมียูนิโคล่นะคะ ดีไซน์ไม่ต่างจากไทย แถมมีบางแบบที่ไทยไม่มี แต่ราคาที่ไทยถูกกว่าค่ะ)
ส่วนพวกมาม่า อาหารไทย พกติดมาบ้างก็ดีนะคะ กันทนอาหารจีนไม่ไหว เพราะอาหารจีนทางเหนือไม่เหมือนอาหารจีนแบบที่เรากินกันที่ไทยนะคะ อาหารจีนแบบที่บ้านเรากินกันเป็นอาหารทางใต้ ที่ปักกิ่งอาหารทั้งเค็มทั้งมัน แถมแอบเผ็ดแบบชาๆ เน้นเนื้อแพะเนื้อวัว กับพวกเครื่องใน พีคกว่าคือเจอเนื้อลากับสมองแกะ ดังนั้นใครที่ไม่ชอบอาหารจีนหรือเป็นคนกินยากอาจต้องดูเรื่องอาหารการกินดีๆ นะคะ
หวังว่ารีวิวนี้คงจะเป็นประโยชน์กับพี่ๆน้องๆ ที่กำลังเตรียมตัวมาเรียนปักกิ่งนะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้