ปืฬาร์.........แมวบ้านนอก 2 (หมาหมู่)

กระทู้สนทนา
บทที่แล้ว
https://ppantip.com/topic/37841175

แมวปิฬาร์ อาศัยรถขนแตงโมไป จนทำให้เกิดความเข้าใจผิด ว่า เป็นผีแตงโม
ทำเอาหนุ่มนักศึกษาสองคนเผ่นกระเจิดกระเจิง

ลูกน้องตะโกนบอกลูกพี่  ขย่มรถเป็นการเร่งให้ออกแรงลากรถคู่ชีพต่อไปอีก และถนนข้างหน้าเป็นทางขึ้นเนินสูง แต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับคนตกใจกลัวจนต่อมไร้ท่อฉีดฮอร์โมนอะดรีนาลินรุนแรง ทำให้เกิดพลังมหาศาล สามารถจูงรถจักรยานยนต์มีคนนั่งซ้อนท้ายทั้งคนวิ่งตัวปลิวขึ้นทางลาดชันไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยมีซอมบี้วิ่งโวยวายตามไปติด ๆ ด้วยความเป็นห่วงเป็นไย

++++++++++



             ส่วนแมวปิฬาร์ต้นเหตุ นั่งมองอย่างแปลกใจ พวกมนุษย์ชอบเล่นอะไรกันพิลึกพิลั่นชอบกล  ความจริงปิฬาร์เองเพียงแต่ลุกขึ้นมาเหยียดแข้งเหยียดขา ทำขนฟูแก้เมื่อยเท่านั้น แหม... ก็แมวเพิ่งตกลงมาจากรถหยก ๆ จะให้วางท่าเป็นแมวสุภาพเรียบร้อยได้อย่างไร แมวนะไม่ใช่ผี !

             เห็นคนอยู่แถวนี้ แสดงว่าต้องมีบ้านคนอยู่ใกล้ๆ เช่นกัน  ปิฬาร์เป็นแมวแต่ไม่ได้โง่นี่นา...ตามคนพวกนั้นไป เดี๋ยวคงเจอบ้านคนเอง เจอบ้านคนก็ต้องมีคนให้อาหารเพราะว่าปิฬาร์เป็นแมวน่ารัก  แมวหรือคนน่ารักอยู่ไหนก็ไม่อดไม่อยาก มักมีคนดูคนเลี้ยงคนอยากอุ้ม  คิดได้ดังนี้แมวตัวการของเรื่องวุ่นวาย ก็วิ่งเหยาะ ๆ ตามหลังคนเหล่านั้นไปอย่างไม่รีบร้อน

             พอมาถึงทางแยกเล็ก ๆ ออกจากถนนใหญ่ แมวสาวก็ไม่ได้สนใจใครอีก เพราะด้วยสัญชาตญาณแมวทำให้รู้ว่าถนนสายนี้จะต้องมุ่งหน้าเข้าไปยังแหล่งชุมชนแน่นอน


             ถนนสายเล็กๆ นี้มุ่งหน้าเข้าสู่หมู่บ้านจริง ๆ

             ลึกเข้าไปพอสมควร มองเห็นหลังคาบ้านเรียงราย  ทำให้ใจชื้นขึ้นมาทันที  มีมนุษย์ก็ต้องมีอาหาร มีที่นอน เพียงเดินผ่านเลี้ยวโค้งออกมาจากแนวป่าก็จะเข้าสู่หมู่บ้านเล็ก ๆ  ซุกตัวอยู่ในอ้อมอกของขุนเขาลำเนาไพร ดูสงบและร่มเย็นเป็นสุข บางบ้านยังมีควันไฟลอยกรุ่น เหมือนกำลังมีการหุงหาอาหาร อาจเป็นปลาตัวน่ารักน่ากิน  กำลังย่างไฟอ่อน ๆ สุกได้ที่ ตามผิวของปลากำลังส่งกลิ่นหอม มีร่องรอยของเกลือ โรยแผ่วเบาละมุนละไมก่อนย่าง ทำให้ส่งกลิ่นหอมจนน่ากัด

             แค่คิดก็แทบกระโดดงับปลาย่างในจินตนาการแล้ว รู้สึกหิวขึ้นมาอย่างทันทีทันใด ย่อตัวลงตั้งท่าแมวจะกระโดดตะครุบหนู ก่อนกระโดดผึงออกวิ่งตรงไปด้วยความเร็วสุดชีวิต ของแมวหิวโหยเต็มพิก้ด

             ขณะกำลังจะเข้าเขตรั้วของบ้านหลังแรก ท้องฟ้าเหมือนจะมืดหม่นลงอย่างทันทีทันใด สองหูอื้ออึงลั่นเปรี๊ยะไปด้วยเสียงคำรามกึกก้องราวฟ้าผ่า!

             “โฮ่ง......!”

             แมวสาวใจหายวาบ สี่เท้าเบรกสุดชีวิต จนร่างหมุนคว้างเสียหลักหัวทิ่มแทบชนริมรั้ว เศษดินกระจัดกระจายตามรอยเท้าเป็นทางยาว
ด้านหน้าห่างออกไปประมาณ สี่ห้าช่วงตัว พญามัจจุราชยืนตระหง่านชะโงกเงื้อม ปากอ้ากระโชกเห่านรกแตกสนั่นหวั่นไหวเขี้ยวคมกริบยาววาววับเรียงรายอย่างสยดสยอง....หมาบ้านนอกหน้าโหดท่าทางไร้สุนัขสัมพันธ์...เถื่อน..ตัวเขื่อง ...ใหญ่...หยาบคาย พอที่จะขย้ำแมวหน้าไหนก็ได้ให้ฉีกขาดกระจัดกระจาย

             ยังไม่ทันจะตั้งตัว มัจจุราชหน้าหมาทั้งหลาย ก็ถาโถมครืนเข้าใส่ เป็นพายุบุแคมถล่มทลาย

             แมวปิฬาร์หมุนตัวไปด้านข้าง ก่อนกระโจนสุดกำลังออกไปเต็นแรง  ขณะเขี้ยวนรกพุ่งเฉียดปลายหางไปอย่างหวุดหวิดที่สุดชนิดเส้นยาแดงผ่าสามสิบสอง!  แล้วเผ่นไม่คิดชีวิต โดยมีหมาหน้าโหดหมุนตัวกลับลำวิ่งไล่ตามราวเงามรณะ

             ตามปกติหมาวิ่งเร็วกว่าแมวอยู่แล้ว แม้ว่าดูเผิน ๆ จะประหนึ่งว่าแมววิ่งเร็วกว่า ดังนั้นทางที่จะหลบพ้นได้จึงไม่ใช่การวิ่งทางตรง  ปิฬาร์ใช้วิธีวิ่งหักหลบ โยกไปทางซ้าย ย้ายไปทางขวา เป็นระยะเป็นจังหวะ ราวศูนย์หน้าทีมฟุตบอล กำลังวิ่งลากลูกหลบฝ่ายตรงข้ามก่อนจะเข้ายิงประตู ทำให้หมาหน้าโหดเสียหลักตามแรงเฉื่อย วิ่งเลยหัวทิ่มหัวตำถลาไปถลามา ทุกครั้งเมื่อมีการเปลี่ยนทิศทาง และนอกจากจะวิ่งโยกซ้ายขวาอย่างมีชั้นเชิงแล้วแล้ว แมวสาวยังเพิ่มความสับสนงุนงงให้แก่อีกฝ่ายโดยการสุ่มเปลี่ยนแนววิ่ง แบบไม่มีการวางแผนล่วงหน้าไปด้วย ทำให้การไล่ตามสับสนและเดาทางยากไปอีกหนึ่งระดับ

             นั่นยิ่งเพิ่มความโมโหให้กับหมาหน้าโหด ลีลาการวิ่งแบบออกลีลาสับสน มันเป็นการจงใจหยามศักดิ์ศรีของความเป็นหมาชัด ๆ สี่เท้าของผู้ล่าตะกุยตะกายดิน เศษดินเศษหินฟุ้งกระจัดกระจาย ผ่านไปตามถนนฝุ่นคลุ้งเป็นทาง ผ่าเข้าไปในพงหญ้า จนเศษหญ้ากระเจิดกระเจิงราวพายุคลั่งพัดโหมกระหน่ำ  ผ่านไปริมรั้วไม้ระแนงเก่า ๆ พากันหักโค่นโครมครืนล้มระเนระนาดไล่หลังมา ความตายไล่เฉียดปลายหางไปมาอยู่ใกล้ ๆ นี่เอง

             สถานการณ์ดูจะแย่ลง ในขณะพุ่งตัวไปตามทางเดินหน้าบ้าน มัจจุราชหน้าหมาอีกสามสี่ตัวก็เรียงหน้าสลอนออกมาจากใต้ถุนบ้าน ซึ่งยกสูงจากพื้นดินตามแบบฉบับของบ้านตามชนบททั่วไป หมาแต่ละตัวสีหน้าท่าทางอำมหิตไม่เป็นมิตรแม้แต่น้อย

             ปิฬาร์หมุนตัวเป็นวงกลมหนึ่งรอบอย่างสวยงาม ก่อนวิ่งแฉลบออกไปด้านข้าง กะว่าจะเลาะลัดไปตามแนวรั้ว แต่มัจจุราชสี่เท้ากระดำกระด่างอีกชุดหนึ่ง กำลังตะกุยดินฝุ่นกระจายตรงมาอีกทาง  ทำให้ต้องกระโดดพลิกตัวกลางอากาศ ก่อนเบนแนววิ่งออกไปทางแนวป่าเพราะไม่มีทางเลือก

             ทันใดนั้น ท่ามกลางสรรพสำเนียงอื้ออึง ก็มีเสียงแหลมเล็กแทรกมาจากทางตัวบ้าน

             “ทางนี้ ...มาทางนี้ .... อย่าเข้าไปในป่า”

             หันไปมองก็พบว่ามีแมวตัวหนึ่ง กำลังยืนชะโงกมองลงมาจากกองฟืนที่วางกองริมรั้วข้างบ้าน  ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม น้ำเสียงของแมวตัวนี้ดูเหมือนว่าจะมีความเป็นมิตรและกังวลห่วงไย ใช่แล้ว... ถ้าหนีออกไปในแนวป่าที่ห่างออกไปไกลพอสมควร คงโดนงับตายก่อนจะวิ่งไปถึง หรืออาจจะมีมัจจุราชหน้าหมา รออยู่ในแนวป่าอีกฝูงก็เป็นไปได้ โบราณว่าอย่าใจทางอย่าวางใจหมา

            แมวสาวตัดสินใจหมุนตัวกลับ แล้วเปลี่ยนทิศทางวิ่งผ่าสวนฝูงหมาสามตัวซึ่งกำลังดาหน้าเข้าหาราวเป็นแมวกามิกาเซ่ หรือแมวพลีชีพ คงไม่มีแมวตัวไหนกล้าทำแบบนี้..แมวบ้าตัวไหนจะกล้าวิ่งฝ่าปะทะเข้าไปในดงหมา...นอกจากแมวคิดจะฆ่าตัวตาย!

             หมาทั้งสามแสยะยิ้มแยกเขี้ยว อ้าปากกว้างสุดกรามสุดล้า เร่งฝีเท้าสวนเข้าหาสุดกำลัง มองเห็นภาพแมววิ่งเข้ามาในปาก ถูกงับกระเด็นเซ็นซ่านเลือดเนื้อเศษกระดูกกระจัดกระจาย ส่วนแมวผู้หวังดียืนมองบนกองฟืน ปากอ้าตาค้างอย่างตะลึงพรึงเพริดแบบไม่เชื่อสายตา!  ก่อนจะปะทะกับกลุ่มมัจจุราชหน้าหมา แมวแมวพลันถีบเท้ากระโดดสุดตัว พุ่งขึ้นไปกลางอากาศ ลอยข้ามหัวมัจจุราชหน้าหมาไปอย่างสวยงามเหนือความคาดหมาย แถมมีการหมุนตัวตีลังกาเกลียวโชว์อีกหนึ่งรอบ ก่อนพลิ้วลงเอาเท้าแตะพื้นดินอย่างนุ่มนวลสวยงาม ในขณะฝูงหมาวิ่งเลยไปตามแรงเฉื่อย ชนไม้พุ่มล้มระเนระนาดเศษใบไม้ใบหญ้ากระจัดกระจาย

             กระบวนท่านี้จดจำมาจากหนังหมาแมวในทีวีที่คุณนายใจดีเปิดให้ดู สมัยยังอยู่บ้านหรูหราราคาแพง

             ก่อนพวกหมาหน้าโหดจะตั้งสติได้ แมวสาวก็เผ่นแพลวขึ้นไปอยู่บนกองฟืนเสียแล้ว พวกหน้าหมาจึงทำได้แค่ล้อมวงเห่าอยู่โดยรอบ หมาตัวหนึ่งอับอายจนต้องหันไปเห่าใบตองแห้งแก้เขิน

             แมวที่ส่งเสียงเรียกป็นแมวตัวเมีย ตัวลายขาวเหลืองค่อนข้างผอมโซ ลักษณะท่าทางเป็นแมวบ้านนอกสมบูรณ์แบบ เทียบไม่ได้เลยกับแมวในเมืองตัวมีสง่าราศี

             “ขอบใจนะที่บอก”   แมวปิฬาร์ยืดคอหยิ่งนิด ๆ แบบแมวคุณนายอย่างไว้เชิงและไว้ตัว แน่ล่ะ.. ก็เรามันแมวลูกครึ่ง... แมวในเมือง อย่างไรก็ต้องเหนือกว่าแมวบ้านนอกอยู่แล้ว

             “คุณคงเป็นแมวแปลกหน้าสำหรับที่นี่”   แมวบ้านนอกถาม ในขณะมองอย่างสุภาพและอ่อนน้อมถ่อมตน

             “ฉันผ่านมาโดยบังเอิญน่ะ”

             “แล้วจะไปไหนต่อคะ”

             ประโยคนี้ทำเอาแมวปิฬาร์คอแข็ง ไม่รู้จะตอบอย่างไร เพราะตัวเองก็ไม่รู้ว่าจะไปไหนเหมือนกัน

             “ถ้าไม่มีที่พักไปพักที่บ้านฉันก่อนก็ได้นะ”

             แมวเจ้าถิ่นดูเหมือนจะสังเกตสถานการณ์ของแมวมาเยือนออก จึงเอ่ยปากชวนอย่างหวังดี พลางแนะนำตัวเองก่อนว่า

             “ฉันชื่อมะเหมี่ยวค่ะ”

              “ฉันชื่อปิฬาร์”

             “ยินดีที่รู้จักค่ะ คุณปิฬาร์”

             “ฮื่อ..”

             “ตามมานะคะ ระวังพวกหน้าหมานั้นด้วย”

             แมวเจ้าถิ่นค่อยพาเพื่อนใหม่ลัดเลาะไปตามกองฟืนขนาดยักษ์ อย่างชำนาญและคุ้นเคยสถานที่  เดินไปตามหลังคาห้องเก็บของเตี้ย ๆ ปีนขึ้นไปตามหลังคาบ้านปูด้วยแผ่นไม้เก่าแก่ เวลาเหยียบให้ความรู้สึกแตกต่างไปจากหลังคากระเบื้องอย่างบ้านในเมือง  การปีนป่ายไม่เป็นปัญหาสำหรับแขกใหม่ของที่นี่ เพราะเรื่องปีนป่ายปิฬาร์ถนัดอยู่แล้ว  ส่วนบรรดาหมาก็ยังด้อมๆ มองๆ ตามแห่แหนเป็นระยะตามความเหมาะสม

             “ฉันอาศัยอยู่บนหลังคาโรงครัว กับลูกอีกสามตัวค่ะ”

             มะเหมี่ยวชวนคุย ในขณะพาเพื่อนใหม่ปีนป่ายไปตามหลังคาบ้านแต่ละหลังที่ห่างกันไม่มากนัก อย่างไม่รีบร้อน

             “อ้าว...แต่งงานแล้วเหรอ”     ปิฬาร์ถามอย่างงง  ๆ เพราะดูว่ามะเหมี่ยวอายุก็รุ่นราวคราวเดียวกับตัวเอง ทำไมมีครอบครัวเร็วจังเลย

             “สังคมแมวบ้านนอกก็เป็นแบบนี้ล่ะค่ะ ...”

             หลังคาห้องครัวบ้านหลังหนึ่งเป็นของบ้านใหญ่โตพอสมควร บริเวณหน้าจั่วมีมุมให้หลบแดดหลบฝน และบริเวณนั้นเอง ลูกแมวน่ารักสามตัวกำลังพากันเรียงแถวเอียงคอมองมาตาแป๋ว

             “แม่มาแล้ว.... แม่มาแล้ว…”

             บรรดาลูกแมวตัวน้อยพากันร้องอย่างดีใจ แต่ก็ชะงัก เมื่อเห็นแม่พาแมวแปลกหน้ามาด้วย

             “ลูกๆ ของฉันค่ะ” มะเหมี่ยวแนะนำลูกทั้งหลาย


.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่