อ่านบทเรียนจาก SUPER (โดย มิตร กัลยาณมิตร เว็บ Share2Trade)

ก่อนอื่น ต้องบอกว่า ผมคือคนหนึ่งที่ติดตามเกมหุ้นของ SUPER หรือหุ้นขาไก่ ที่หลายๆ คนอยากลองสัมผัส แม้จะรู้ว่าเป็นของร้อน แต่ก็ยังไม่วายอยากจะลอง และด้วยหุ้นตัวนี้ รวมทั้งอีกหลายๆ ตัวที่มี "เจ้ามือ" หนุนหลัง ทำให้เริ่มขยาดกับหุ้นประเภทนี้ และรู้สึกว่า "เราไม่เหมาะกับหุ้นประเภทนี้" แต่ก็ไม่ทราบว่าหลายๆ คนจะคิดแบบนี้หรือเปล่า

    ช่วงที่ราคาหุ้นขึ้นจากราคาต่ำกว่า 1 บาท ไปที่ 1.50 บาท ในครั้งนั้น จะเห็นว่า มี DW ที่ออกมาส่วนใหญ่เป็นฝั่ง Call และเจ้า DW มันคืออะไรกัน นักลงทุนรู้หรือไม่ว่ามันคืออะไร และมันสำคัญขนาดไหนกับหุ้นบนกระดาน

    DW คือ ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrants) ซึ่งเรียกสั้นๆ ว่า DW เป็นตราสารที่ผู้ออกให้สิทธิกับผู้ซื้อในการซื้อหุ้นอ้างอิง (ในราคา จำนวน และเวลาที่กำหนดในอนาคต) โดยผู้ออก DW เป็นบุคคลที่สาม อาจพูดง่ายๆ ว่า DW มีลักษณะเหมือน Warrants ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ แต่มีความแตกต่างกันที่ผู้ออก ไม่ใช่เจ้าของบริษัท แต่เป็นโบรกเกอร์เป็นผู้ออก

    แล้วราคาของ DW ปรับตัวขึ้นลงจากอะไร? ก็มาจาก "ราคาหุ้นอ้างอิง" เช่น ถ้าเป็น SUPER ก็จะใช้ราคาอ้างอิงของราคาหุ้น SUPER ถ้าหุ้นอ้างอิงราคาจะขึ้น ให้ซื้อ Call DW แต่ถ้ามองว่าหุ้นอ้างอิงราคาจะลงก็ให้ซื้อ Put DW จำกันง่ายๆ ก็คือ ฝั่ง Call คือ เราประเมินว่าหุ้นจะต้องขึ้น ถ้าไม่ขึ้น ฝั่งนี้จะติดลบ ถ้าฝั่ง Put เราประเมินว่า ราคาหุ้นจะลง ถ้าหุ้นอ้างอิงลง DW ฝั่ง Put จะบวก ในทางกลับกัน ฝั่ง Call จะลบ ฟังดูเหมือนง่าย แต่จริงๆ ยากกว่านั้น ถ้าหุ้นไซด์เวย์ออกข้าง ไม่บวก ไม่ลบมากนัก ทั้งสองฝั่งก็จะนิ่งๆ ไม่ไปไหน และหนักไปกว่านั้น คือ ถ้านิ่งๆ ไม่ไปไหน คนถือ DW ไม่ว่าจะฝั่งไหน จะโดนเรื่องเวลา ยิ่งคิดจะถือนาน เงื่อนเวลานี่แหละ ที่จะพาเราขาดทุน โดยเฉพาะช่วงที่มีวันหยุดเยอะๆ ยิ่งเสียเปรียบ เพราะราคาหุ้น จะลดลงตามเงื่อนเวลา

    ที่สำคัญ DW ทุกตัว ที่มีสภาพคล่องในการซื้อขาย เพราะถูกกำหนดให้มีผู้ดูแลสภาพคล่อง หรือ Market Maker ทำหน้าที่ตั้งราคาเสนอซื้อและเสนอขาย ตามเกณฑ์ข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บางแห่งให้โปรแกรม หรือ "โรบอท" ดูแล แต่ก็จะมีกระแสว่า มีการโกงของ "โบรกเกอร์" นั่นก็ไม่สามารถจับมือใครดมได้ ว่าเป็นไง

    แต่ก็มีบางกระแสระบุว่า การออก DW บางครั้งจะมีการขายให้ Market Maker เก่งๆ ในการเล่น ในการคุมเกม ให้ราคาที่ต่ำมาก เพื่อให้มาช่วยสร้างสภาพคล่องการซื้อขาย และคนคุมเกม ถ้ามี DW ฝั่ง Call ก็จะไปซื้อหุ้นแม่ ไล่ราคาหุ้นแม่ขึ้น ด้วยต้นทุน DW ฝั่ง Call ราคาต่ำ ขึ้นแม่ขึ้น ก็ต้องดัน DW ขึ้น เขาจะสามารถโรยขายได้ตลอดทางเมื่อมีคนซื้อตาม หุ้นแม่อาจจะขึ้น 5-10% แต่ DW จะสามารถขึ้นได้ 20-40% แล้วแต่สูตรที่คำนวณไว้

    เหตุผลดังกล่าว จึงเป็นแรงดึงดูดให้คนเข้ามาเล่นกันเยอะ และเจ็บเยอะ เพราะการเหวี่ยงของ DW นี่แหละ

    กรณีของ SUPER เกมที่เพิ่งจบไป ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่า "จริงหรือไม่" เกมนี้เป็นเกม "ฆ่าเลือดเย็น" แต่พูดไปก็เท่านั้น เพราะเรากำลังพูดถึงเกม ว่ามันคืออะไร เล่นแบบไหน ที่เป็นไปได้

    ก่อนอื่น ไปดู DW ทำไมมีแต่ฝั่ง Call แสดงว่า ผู้ออก DW รู้ล่วงหน้าว่าหุ้นจะขึ้น หรือการออกมาฝั่งเดียว ต้องการให้หุ้นขึ้น เพราะจะวินวิน ทั้งสองฝั่ง คือ ฝั่งหุ้น SUPER และฝั่งของ DW (คิดตามให้ทันนะครับ) เรียกว่าไม่เปิดทางให้นักลงทุนมีทางออก เรียกว่า การออก DW ประเภทนี้ คือ พร้อมจะพานักลงทุนไปตาย และเป็นการปิดทางเจ๊งของผู้ออก DW

    ปกติ การออก DW มักจะมีสองฝั่ง คือ Call และ Put แต่ครั้งนี้ มีฝั่งเดียว และหุ้นก็ขึ้นมาโดยตลอด ฝั่ง Call สามารถทำกำไรได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ขณะที่หุ้นแม่ก็ไล่ขึ้นมาตั้งแต่ต่ำบาท ไล่ขึ้นจนกระทั่ง 1.50 กว่าๆ ระยะสั้นๆ ไม่นานนัก กำไรมากขนาดนี้ บวกกับถ้ามี DW ฝั่ง Call ในมือด้วย เรียกได้ว่า "ได้ 2 เด้ง กำไร 2 ต่อ" จึงไม่ต้องคิดมาก ทะลุเป้าขนาดนั้น ขายอย่างเดียว ก็กำไรอย่างเดียว ขายลูก DW ก่อน แล้วค่อยขายหุ้นแม่ SUPER  

    เกมนี้ "น่าสงสัย" จึงได้เกิด "ปรากฎการณ์ล่าโจร" เพราะโหดเกินไป มันเลวร้ายเกินกว่าจะรับได้

    แต่เมื่อ "ฝุ่นจาง ควันหาย" SUPER ก็ดิ่งนรกต่อเนื่อง และร่วงลงมาเรื่อยๆ สร้างบาดแผลครั้งใหม่อีกครั้ง แม้จะมีบางวันไล่ราคาหุ้นจนชนเพดาน แต่ท้ายที่สุด ก็แค่ไล่มาเพื่อออกของ ส่วนจะออกได้หรือเปล่าไม่ทราบ

    เกมแบบ DW นี้ ยังมีหุ้นหลายตัว ใช้เกมเดียวกัน ลักษณะเดียวกัน ไม่พ้นแม้กระทั่งหุ้นใหญ่ๆ อย่าง PTT หรือหุ้นใดๆ ที่แม่ขึ้นแรงๆ เราก็ได้เห็น DW ขึ้นแรงๆ ด้วยเช่นกัน คนคุมเกม หรือคนในเกม ได้เปรียบสุดๆ เพราะรู้ว่าจะไล่ราคาแม่วันไหน เวลาไหน เก็บ DW ไว้ก่อนได้ ลักษณะนี้ ไม่มีเงิน ทำไม่ได้นะครับ แต่เกมแบบนี้ คนเป็น Market Maker แพ้ยาก

    ถ้ามีทั้งสองฝั่ง คือ Call และ Put ง่ายๆ ไล่แม่ขึ้น แล้วขายฝั่ง Call พอขายหมด ก็ไปซื้อฝั่ง Put แล้วค่อยมาขายหุ้นแม่ ให้หุ้นลง ก็มาขายฝั่ง Put ต่อ กำไร 2 เด้ง จะว่าไป มันก็คือ "ทฤษฎีสมคบคิด" (Conspirasy Theory) รวมกลุ่มกันเพื่อวัตถุประสงค์ เป้าหมายเดียวกัน และโบรกเกอร์ต้องร่วมมือด้วย

    อย่าสงสัยว่า ทำแบบนี้ "ผิดมั๊ย" ตอบแบบนี้ดีกว่า "กฎ ระเบียบ เปิดช่อง" เพราะหุ้นขึ้น หุ้นลงเป็นเรื่องปกติ หรือ Market Maker ผิดกฎหมายไม่ใช่หรือ คำตอบคือ "ใช่" ในหุ้นสามัญ แต่ถ้าเป็น DW ไม่ผิดครับ ทางการเปิดช่องให้สามารถทำได้

    จะว่าไป ไม่ว่าจะเป็น "บล็อคเทรด" หรือ DW แม้จะเป็นการเปิดช่องให้นักลงทุนใช้บริหารความเสี่ยง แต่เชื่อหรือไม่ว่า กว่า 90% ของนักลงทุนบ้านเรา บริหารความเสี่ยงไม่เป็น และไม่มีความเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น และไม่สนใจที่จะเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้ รวมทั้งการให้ความรู้ของทางการ หรือตลาดหลักทรัพย์ ยังอยู่ในลักษณะวงจำกัด และเป็นการให้ความรู้ผ่านโบรกเกอร์ ซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสีย

    คนเป็นกลาง ที่ไม่มีส่วนได้เสีย ฝั่งของ "ตลาดหลักทรัพย์ทรัพย์แห่งประเทศไทย" ว่าไง

    คำตอบคือ ถึงวันนี้ ที่หลายคนไม่ทราบ เพราะถ้าโบรกเกอร์ที่ตัวเองเปิดพอร์ท ถ้าไม่มีการให้ความรู้ หลายคนก็จะไม่เข้าใจ

    ท้ายที่สุด ก็มาตกตรงที่ว่า "เล่นบ่อนกู ก็ต้องทำตามกติกากู" คือ ถ้ายังอยากเล่นบ่อนนี้ ก็ต้องยอมรับสภาพนั่นเอง

    "เข้าใจมั๊ยครับ พี่น้อง"
////////////////////////////////
ขอบคุณบทความจาก: www.facebook.com/Share2Trade/
                           : http://www.share2trade.com
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่