สำหรับคนที่อยากรู้จัก DW

กระทู้คำถาม
กระทู้เดิมของผมครับ
ก่อนที่ผมจะล็อคอินเข้าระบบไม่ได้
http://m.ppantip.com/topic/34529255
---------
และกระทู้อื่นๆที่ผมเคยเขียนครับ
http://ppantip.com/profile/1997319#topics
-------------
"ข้อความของกระทู้ DW"
ตอนที่ม่อนทำงานอยู่โบรกเก่า (ตอนนี้ลาออกมาอยู่อีกโบรกแล้ว)
ตอนนั้นตลาดผันผวนมากๆๆๆๆ
ขายหุ้นก็ลำบาก ซื้อหุ้นก็ติดดอยบ่อยๆๆๆๆ
ผมตอนนั้นเป็นคนเดียวในสาขาที่ชอบเล่น DW (มาแปลกมาก)
(อาจเพราะผมอยากรวยเร็ว ชอบของแรงๆ และอีกอย่างลูกค้าของผมรายเล็กๆ ///
DW ไม่เหมาะกับลูกค้าไม้ใหญ่ เกิน 10 ล้านนี่อย่าเล่น เพราะ DW มันออกมาจำกัด
หลักแสน หลักล้านต้นๆ นี่ออกสบายๆ)
และเพราะ DW มันทำกำไรได้ทั้งสองขา คือ ขาขึ้น / ขาลง ผมเลยชอบมันมากๆๆๆ
--------------
ผมเล่น DW ตั้งแต่ผมเรียนอยู่ที่นิด้า เล่นจนกระทั่งเสียตังไปหลายหมื่น
เสียเพราะอะไร เพราะตอนที่ผมเรียนนั้น ตลาดขึ้นอย่างเดียว จาก 1200 จุด ไป 1600 จุด
แต่ผมก็ได้ PUT DW มาตลอดทาง (ด้วยทัศนคติที่ผิดว่า ขึ้นมาเยอะแล้ว เดี๋ยวลง --- ย้ำนะครับผิด ซื้อตัวที่ขึ้น SHORT ตัวที่ลง)
จะซื้อหุ้นก็ไม่กล้า เพราะคิดว่า ขึ้นมาเยอะแล้ว (ราคาแพง เจอแพงอีก สมมติ TASCO TIPCO)
จึงไปซื้อหุ้นที่เป็นขาลง ที่คิดว่าถูก แล้วเจอถูกแล้วถูกอีก (สมมติ PTTEP DTAC)
----------
เวลาฟังนักวิเคราะห์พูดบอกว่า SET INDEX ให้ผลตอบแทน 3%
เฮ้ยแล้วทำไมพอร์ทเราติดลบ 10-30% วะ ออ ก็เพราะเรา PUT มาตลอดทางนี่เอง
-----------------
นอกเรื่องไปซะเยอะ พอผมเรียนจบจากนิด้า
ผมก็เข้าวงการเป็นมาร์
ตอนนั้นยอมรับ เล่นหุ้นไม่เป็น (ตอนนี้ก็ยังเล่นไม่ค่อยเก่งมาก ชั่วโมงบินยังน้อย 1 ปีเอง)
แต่เนื่องจากเราไม่ได้มาสายการเงินโดยตรง เราศึกษาหุ้น DW ด้วยการลองผิดลองถูก ลองของจริง ไม่ใช่เสือกระดาษ
เราเลยสามารถสื่อสารภาษาบ้านๆได้
ซึ่งตอนนั้นก็เล่นเป็นแต่ DW เพียวๆ นี่แหละ
-----------------
แต่ปัญหาคือ ตอนเราเป็นมาร์
ลูกค้าเราไม่รู้จัก DW อะ และไม่เข้าใจ
จะทำอย่างไร????
ผมก็เลยสร้างเอกสารขึ้นมาชุดหนึ่ง ส่งให้ลูกค้าอ่าน ตามลิงค์นี้
https://drive.google.com/file/d/0B3FvJ1xW1GFSWWh1VjgxN21wNlE/view?usp=sharing
-----------------------
ในเอกสารยังเป็นของโบรกเก่าอยู่นะ ตัวไฟล์จริงๆหายไปแล้ว เหลือแต่ PDF ที่ผมเชฟเอาไว้
แต่ผมคิดว่า DW ของโบรกนี้เค้าดีที่สุดแล้วแหละ (อาจเพราะ ACTIVE สุด) ผมก็เลยไม่ได้เชียร์โบรกอื่น
และที่สำคัญ ผมเอาประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ ของโบรกไหนว่าดี ผมก็ว่าไปตามเนื้อผ้า
ไอ้โบรกไหน DW ไม่ปรับตามตัวหุ้นอ้างอิง (บ้านๆเรียก "หุ้นแม่" ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่)
DW แบบวางช่อง BID OFFER ห่างเป็นกิโล
DW แบบไม่มี BID อะไรแบบนี้
"ผมก็ไม่เชียร์ให้ลูกค้าซื้อ"   
แต่ๆๆๆ ไม่ว่าจะพอร์ทโบรกอะไร ก็ซื้อ DW ได้ทั้งนั้นนะครับ ฉะนั้นมาเปิดพอร์ทกับม่อนก็ได้ ฮ่าาาาาา
---------------
จากประสบการณ์ผมเองที่เคยเทรดตั้งแต่ตอนเรียน และสังเกตมาโดยตลอด
ผมชอบเบอร์ 01 บัวหลวง 06 ภัทร 11 กสิกร 23 ไทยพาณิชย์ 42 กิมเฮงนะ ผมว่าคิดว่าโอเค
---------------
สิ่งที่อยากให้ดูเวลาซื้อ DW คือ เรื่องปรับตามตัวหุ้นอ้างอิง (ผมชอบเรียกว่า "หุ้นแม่" จริงไม่ใช่หุ้นแม่ หุ้นลูกแบบ WARRANT แต่เรียกให้ง่าย)
แต่หลายครั้งหลายหน เราต้องดูตัว % ของการขยับ 1 ช่องด้วย
เช่น DW ตัวหนึ่ง BID 0.05 OFFER 0.06
การที่ 0.06 จะกลายมาเป็น BID เพื่อให้ขายทำกำไรนั้น
มันหมายถึงการบวก 20% (5 ไป 6 คือ 20%)
>>> นั่นคือ ขยับ 1 ช่อง 20%
เพราะฉะนั้นหากซื้อ DW อีกตัวที่ BID 1.00 OFFER 1.01
ถ้าจะเทียบให้เท่ากันแล้ว ต้องขยับไป 20 ช่อง
1.00 1.01 1.02 1.03 1.04 >>>>>>> 1.20 (1.00 ไป 1.20 คือ 20%)

ไอ้ตรงนี้เนี่ยตามหลักวิชาการหน่อย เค้าจะเรียกว่า SENSITIVITY
หมายถึง หุ้นอ้างอิงขยับ 1 ช่อง ตัว DW ขยับกี่ช่อง
---------
กล่าวหลักการมันง่ายๆ ต้องกล่าวสองมุม
1. มุมของหุ้นอ้างอิง
ราคาหุ้นนั้น 1 ช่องคือ กี่% เช่น JAS 5.00 ไป 5.05 (1 ช่อง = 1%)
แต่ PTT 270 ไป 271 (1ช่อง = 0.37%)
2. มุมของตัว DW
ถ้าราคา DW ยิ่งต่ำ หนึ่งช่องที่ขยับยิ่งมี% เปลี่ยนแปลงสูง ดังนั้น SENSITIVITY จะต่ำ
เช่น DW BID 0.10 บาท OFFER 0.11 (หนึ่งช่อง 0.10 ไป 0.11 เท่ากับ 10%)
ถ้าราคา DW ยิ่งสูง หนึ่งช่องที่ขยับยิ่งมี % เปลี่ยนแปลงต่ำ ดังนั้น SENSITIVITY จะสูง
เช่น DW BID 1 บาท OFFER 1.01 (หนึ่งช่อง 1.00 ไป 1.01 เท่ากับ 1%)
-------------------
เรื่องที่เกี่ยวกับ SENSITIVITY อย่างเลี่ยงไม่ได้ก็คือ GEARING
ข้อดีในข้อเสีย ข้อเสียในข้อดีคือ GEARING อัตราทด
ถ้าถูกทาง กำไรยิ่งมาก
ถ้าผิดทาง ขาดทุนยิ่งมาก
หลักการมันคืออะไร จะเทียบเป็น 1% ของหุ้นอ้างอิง
เช่น ถ้าหุ้นอ้างอิง สมมติ หุ้น PTT ขยับไป 1% DW จะเปลี่ยนแปลงไปกี่%
DW PTT GEARING "3" คือ หุ้น PTT ขยับ 1% >>>> DW ขยับไป 3% (อย่าลืมคิดเป็น% นะครับ อย่าไปคิดเป็นช่องๆ)
หรือหากอยากจะคิดเป็นช่องๆ ให้ดู SENSITIVITY
---------------
โดยทั่วไป CALL DW จะ GEARING เป็น ค่าบวก
-----------------
และ PUT DW จะ GEARING เป็น ค่าลบ
------------
หรือหากให้สรุปง่ายๆ ถ้าใครจะเล่นเก็งกำไรสั้นก็ดูเป็นช่องๆ >>>> SENSITIVITY ไป
ถ้าใครจะ RUN TREND ยาวๆ ก็อาจจะสนใจ GEARING มากกว่า
และลูกค้าชอบเกิดคำถาม RUN TREND ได้หรอคุณม่อน
ผมก็จะชอบโชว์กราฟ DTAC PTTEP สุด CLASSIC ให้
DTAC
DTAC DW PUT (ดูทีไรจะร้องไห้หนักมาก มันมาจาก 1.60 ไปเกือบ 4 บาท เด้งนึงนะครับพี่น้อง)
-----------
PTTEP
PTTEP DW PUT (ร้องไห้หนักมากเหมือนกันเลยยยยย มาจาก 1.20 ไปเกือบ 2.40 แล้วคร้บบบ)
--------------
อีกเรื่องคือ เรื่องค่าเสื่อมเวลา TIME DECAY
ต้องเกรินว่า DW เหมาะสำหรับการเล่นที่มีทิศทางขึ้นลงชัดเจน
ไม่ใช่ SIDEWAYS เพราะเมื่อไหร่ที่หุ้น SIDEWAYS นานๆ
(หุ้น SIDEWAYS ยกตัวอย่างเช่น หุ้นบางจาก BCP)
TIME DECAY ค่าเสื่อมเวลาจะออกกินเงินลงทุนเรา
ก่อนพูดถึงเรื่องค่าเสื่อมเวลา
เราต้องพูดก่อนว่า DW เค้ามีวันหมดอายุนะครับ
และก่อนจะพูดถึงวันหมดอายุ ก็ต้องพูดถึงตัวย่อบน DW ก่อน
สมมตินะครับสมมติ...
1. PTT01C1602A
2. PTTG01C1601A
------------
รหัสย่อหุ้นอ้างอิง จะมีมากสุดแค่ 4 ตัวอักษร หากหุ้นอ้างอิงมีชื่อย่อเกิน 4 ตัวอักษรให้ตัดตัวสุดท้ายทิ้งเสีย
PTT คือ DW อ้างอิงหุ้น PTT
PTTG คือ DW อ้างอิงหุ้น PTTGC (ตัดไอ้ตัว C ทิ้งไป)
----------------------
01 คือ ออกโดยโบรกบัวหลวง
(ถ้า 06 ก็ภัทร 11 กสิกร 23 ไทยพาณิชย์ 42 กิมเฮง)
ตามที่เคยเขียนไว้ตอนแรกๆ
----------
C = CALL คือ ถ้าหุ้นอ้างอิงขึ้น DW ขึ้น //// หุ้นอ้างอิงลง DW ลง (CONCEPT เดียวกับหุ้น แต่ GEARING แรงกว่า)
P = PUT คือ ถ้าห้างอ้างอิงลง DW ขึ้น //// หุ้นอ้างอิงขึ้น DW ลง (CONCEPT ตรงข้ามกับหุ้น หุ้นลง DW ขึ้นกำไร หุ้นขึ้น DW ลงขาดทุน)
-------------
16 คือปีค.ศ. คริสต์ศักราชที่ DW หมดอายุ
-------
02 คือ เดือนที่หมดอายุ ---- 02 ก็คือเดือนกุมภาพันธ์ (ตามตัวอย่าง PTT01C1602A)
01 คือ เดือนที่หมดอายุ ---- 01 ก็คือ เดือนมกราคม (ตามตัวอย่าง PTTG01C1601A)
-------
ตัว A คือ รหัสรุ่น
ซึ่งตรงนี้ไม่มีนัยยะสำคัญสำหรับผมนะ
---------------
**กลับมาเรื่อง TIME DECAY ค่าเสื่อมเวลา**
โดยหลักการทั่วไปนะคับ
DW ที่ใกล้หมดอายุ ค่าเสื่อมเวลาจะมาก (์NEAR EXPIRE)
DW ที่ไกลหมดอายุ ค่าเสื่อมเวลาจะน้อย (FAR FROM EXPIRE)
อาจดูซับซ้อนนะครับ
แต่ใจผมตลอดเวลาที่เล่นมา ผมพยายามเลือกตัวที่หมดอายุไกลๆนะ
เพราะถ้าเราผิดก็คัส LOSS ไม่เจ็บตัวเท่าไหร่
ถ้าได้กำไรก็ดีกว่าถือหุ้นปกติอยู่แล้ว
------------
ส่วนค่าอื่นๆ IV /// ALL IN PREMIUM /// DELTA /// MONEYNESS /// OUTSTANDING //// INTRINSIC VALUE /// TIME VALUE
ผมยอมรับโง่ๆครับ ผมไม่เคยดูมันเลย แต่ถ้าใครอยากรู้ก็โทรหาโบรกเกอร์ผู้ออกแล้วกันเนอะ อิอิ
-----
และผมก็เริ่มอธิบายกับลูกค้าว่า
ถ้าพี่คิดว่าขึ้น พี่ซื้อ CALL
ถ้าพี่คิดว่าลง พี่ซื้อ PUT
---------------
*****ประเด็นสำคัญที่ม่อนชี้ให้ลูกค้าเห็นก็คือ*****
ม่อนจะบอกว่า พี่ทุกๆวันอะ มีกำไรให้เรา 10%+ ทุกวันนะในตลาด
แล้วเราไปอยู่ไหนมา....
มันก็เหมือนกับหุ้นอะครับที่ทุกวันมีหุ้น +5 +10% ทุกวัน
แต่ๆๆๆๆ ตัวหุ้นในตลาดอะมันมีเป็น 600 ตัว+ การที่เราจะจับถูกตัวก็เหมือนกับจับ 1 ใน 600+
และที่สำคัญหุ้นอะ เล่นขาเดียวนะ คือต้องซื้อขึ้นเท่านั้น ซื้อลงไม่ได้
แต่ DW เราอะ อย่างโบรก 01 ที่ออกเนี่ยจะมีประมาณ 40-50 ตัวเอง
(เริ่มเห็นแล้วนะว่า จากเดิมต้องจับ 600 ตัว เหลือแค่ 40-50 ตัว)
ประเด็นที่สอง DW เราเล่นได้ทั้งซื้อให้มันขึ้น และซื้อให้มันลงนะ
(เริ่มเห็นแล้วนะว่า จับ 600 เหลือจับ 50 ตัว และแถม 50 ตัวนี้ ซื้อได้สองทาง เพิ่มโอกาสจับถูก)
ฉะนั้นวิธีการของม่อนคืออะไร
1. ม่อนเอา DW ที่อ้างอิงหุ้น 50 ตัวนี้มานั่ง สแกนทุกวัน
2. ถ้าม่อนคิดว่า
2.1 มันขึ้น ม่อนก็ซ์้อ CALL
2.2 มันลง ม่อนก็ซื้อ PUT
เท่านั้นเอง แค่นี้เราก็มีโอกาสทุกวันแล้ว ไม่ว่าตลาดจะขึ้นหรือลง
แล้วที่ม่อนบอกตอนต้นๆว่า 5% 10% เราไปอยู่ไหนมาดูจากไหน
ก็ดูจากเว็บของ DW01 นี่แหละ ก็เข้าเว็บ http://www.blswarrant.com/th/dashboard.php (GOOGLE พิมพ์ DW01)
ใช้ เม้าส์คลิกคำว่า CHANGE
----------
นี่ก็จะเห็นว่า ทุกวันมันมีกำไรมากกว่า 10% ทุกวันนิ แล้วเราไปอยู่ไหนมาาาาาาาาาา
หมายเหตุสำคัญ:
เนื่องจาก DW บางตัวอะ (ตัวที่ไม่ ACTIVE) มันอาจไม่มีคนเคาะทุกวัน
ฉะนั้นถ้าวันหนึ่งมีคนไปซื้อมันอาจเปลี่ยนแปลงเยอะ เช่น +% เวอร์ๆ หรือ -%เวอร์ๆ
เช่นๆ สมมตินะตัว DELTA แล้วกัน ตอนปลายเดือนที่แล้วพฤศจิกายน ราคาอยู่แถวๆไฮเลย 95 บาท
ตอนนั้น DW ตัว PUT DELTA อยู่ที่ 1.00 บาทแล้วกัน
เวลาผ่านไป หุ้น DELTA มันลงจาก 95 บาท มา 82 บาทดั่งปัจจุบัน
แสดงว่า ไอ้ DW PUT DELTA นี่ ราคามันต้องขึ้นจริงไหม (โดยโบรกผู้ออกเนี่ยก็ปรับราคา DW ตามหุ้น DELTA ทุกวัน)
เพราะ DELTA ลงมาจาก 95 บาท เหลือ 82 บาท
สมมติอีกว่า ราคา DW DELTA PUT มันขึ้นจาก 1.00 บาท ไป 1.30 บาท ราคาบนกระดานBID OFFER เป็น 1.30
แต่ราคาบนกราฟจะโชว์ 1.00 บาท เพราะยังไม่มีคนเคาะ 1.30 บาทไป (กราฟจะโชว์ราคา LAST ราคาปัจจุบัน)
แต่ถ้าตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้วเนี่ยไม่มีคนเคาะซื้อเลย ราคามันก็จะไม่อัพเดต แต่ๆๆๆต้องไม่ลืมนะว่า ตัวโบรกเค้าปรับตามทุกวันนะ
ดังนั้นถ้าวันศุกร์ที่ผ่านมีใครเคาะซื้อ DW PUT DELTA ไป 100 หุ้นที่ราคา 1.30 บาท
ไอ้ที่เรามาดูๆกันมันก็จะโชว์ว่า DW PUT DELTA +30% ซึ่งก็คือ 30% จากราคา 1 บาทของเดือนก่อนโน้น
จริงๆ CONCEPT ก็เหมือนหุ้นใน TOP GAINER อะ ของหุ้นที่ไม่มี VOLUME ยกตัวอย่างเช่นโรงแรม DTC
พอมีคนเคาะไป 100 หุ้นที่ราคาไฮ มันก็บวก 10% มีคนขายมาที่ราคาโล มันก็ลบ 10%
ที่เกิดอย่างนี่ก็เพราะมันไม่ ACTIVE นั่นเอง
แต่ต่างกันนะ หุ้นนี่วาง BID OFFER โดยคนที่มีหุ้น
แต่ DW วางโดนโปรแกรมที่ โบรกเกอร์ผู้ออกเขียนขึ้น
----------------
ที่กล่าวๆมาทั้งหมดเนี่ย จริงๆมันก็เล่นได้ทุกตัวแหละ
แต่เล่นตัวที่มีเพื่อนๆเล่นด้วยก็ดี
ฉะนั้นก็กดคำว่า VALUE ซะ
--------
พอแค่นี้ก่อนนะ ม่อนเขียนมา 2 ชั่วโมงแล้ว
จะครบ 10000 อักษรด้วยแหละ
ฝากกระทู้สำหรับคนอยากเปิดพอร์ท TFEX หรือหุ้นด้วยนะ
-----------
มีไรก็แอดไลน์มาคุยกันได้ครับ
LINE ID: KUYANT
-----
เออผมทำเพจที่หาโอกาสทำกำไร DW ให้นะ
https://www.facebook.com/DWPROFIT/
----
ผิดพลาดกราบขอโทษล่วงหน้าเลยนะ อย่าด่ากันเลย เขียนฟรีๆจ๊ะะะ
-------
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่