(Jul 6) มอร์แกนฯปรับประมาณการราคาน้ำมัน คาดครึ่งปีหลังจะอยู่ที่85เหรียญ/บาร์เรล – มอร์แกน สแตนเลย์ปรับประมาณการราคาน้ำมันเป็น 85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ชี้ราคาน้ำมันจะปรับตัวขึ้นมากกว่าที่คาดในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เนื่องจากคณะบริหารของทรัมป์มีเป้าหมายที่จะทำให้การส่งออกน้ำมันของอิหร่านหายไปภายในเดือนพฤศจิกายน
นโยบายของสหรัฐฯ แข็งกร้าวกว่าที่คาด ย่อมหมายถึงว่าการผลิตน้ำมันของอิหร่านอาจลดลงประมาณ 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงที่มีดีมานด์น้ำมันสูง มอร์แกน สแตนเลย์ ยังมองว่า การผลิตในลิเบีย และแองโกลา จะลดลงมากกว่าที่คาดเช่นกัน ซึ่งจะทำให้ตลาดน้ำมันขาดแคลนซัพพลายอยู่ประมาณ 600,000 บาร์เรลต่อวันในช่วงครึ่งหลังของปี ด้วยเหตุนี้มอร์แกน สแตนเลย์จึงเชื่อว่า น้ำมันดิบเบรนต์จะมีราคาเฉลี่ย 85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วง 6 เดือนข้างหน้า ซึ่งสูงกว่าประมาณการก่อนหน้านี้ 7.50 ดอลลาร์
น้ำมันดิบเบรนต์มีการซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งต่ำกว่าระดับสูงสุดในรอบสามปีครึ่งที่ 80.50 ดอลลาร์เมื่อเดือนพฤษภาคม สัญญาณน้ำมันดิบเบรนต์ปรับตัวขึ้น 5% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อเจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าวว่า คณะบริหารสหรัฐฯ กำลังผลักดันให้ผู้ซื้อน้ำมันหยุดซื้อน้ำมันจากอิหร่านทั้งหมดภายในวันที่ 4 พฤศจิกายน
มอร์แกน สแตนเลย์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้คิดว่าน้ำมันของอิหร่านจะเริ่มลดลงในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นการสิ้นสุดระยะเวลา 180 วันที่คณะบริหารของทรัมป์กำหนดไว้ ว่าจะลดความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับอิหร่านเมื่อสหรัฐฯ ได้รื้อฟื้นมาตรการลงโทษต่ออิหร่านในเดือนพฤษภาคม และในสถานการณ์เช่นนั้น มอร์แกน สแตนเลย์ มองว่า น้ำมันของอิหร่านจะหายไป 700,000 บาร์เรลต่อวันไปจนถึงปี 2562
ในขณะนี้มอร์แกน สแตนเลย์ คิดว่า การส่งออกน้ำมันของอิหร่านไปยังยุโรป ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้จะลดลงไปอยู่ในระดับต่ำสุด อิหร่านส่งออกน้ำมันไปยังสามประเทศนี้ในสัดส่วนประมาณ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากการส่งออก 2.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน
มาร์ติน แรตส์ นักกลยุทธ์น้ำมันโลกและผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหุ้นก๊าซและน้ำมันในยุโรปของมอร์แกน สแตนเลย์ กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซัพพลายน้ำมันอิหร่านในอนาคตมีความเสี่ยงในด้านลบเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
มอร์แกน สแตนเลย์ ยอมรับว่า ซาอุดีอาระเบียกำลังเพิ่มกำลังการผลิตในขณะนี้ และน่าจะผลิตน้ำมันเฉลี่ย 10.8 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากที่ได้คาดการณ์ในก่อนหน้าไว้ที่ 10.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะเดียวกัน มอร์แกน สแตนเลย์ ยังคาดว่า รัสเซีย สหรัฐอาหรับอีมิเรตส์ และคูเวต จะผลิตน้ำมันเพิ่ม แต่ไม่เพียงพอที่จะทำให้ตลาดสมดุล
แรตส์ กล่าวว่า นี่คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นหลังจากที่น้ำมันคงคลังได้ลดลงเป็นอันมาก สต๊อกน้ำมันทั่วโลกใกล้จะต่ำสุดในรอบห้าปีแล้ว และขีดความสามารถในการสำรองน้ำมันน้อยอยู่แล้วและกำลังจะลดลงอีก ในขณะเดียวกัน ดีมานด์ยังคงแข็งแกร่งและมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นตามฤดูกาลในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
เมื่อวานนี้ตราสารน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น 0.7% เป็น 74.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากที่พุ่งขึ้นเหนือ 75 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี เมื่อวันอังคาร ส่วนตราสารน้ำมันดิบเบรนต์ ปรับตัวขึ้น 0.5% เป็น 78.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากข้อมูลของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา ซึ่งชี้ว่าสต๊อกน้ำมันในสหรัฐฯ ลดลงมากกว่าที่คาดซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าจะขาดแคลนซัพพลาย
Source: ข่าวหุ้น
https://www.cnbc.com/2018/07/03/morgan-stanley-hikes-oil-price-forecast-to-85-as-trump-targets-iran.html
ยุคน้ำมันเริ่มแพง ปอ.100
นโยบายของสหรัฐฯ แข็งกร้าวกว่าที่คาด ย่อมหมายถึงว่าการผลิตน้ำมันของอิหร่านอาจลดลงประมาณ 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงที่มีดีมานด์น้ำมันสูง มอร์แกน สแตนเลย์ ยังมองว่า การผลิตในลิเบีย และแองโกลา จะลดลงมากกว่าที่คาดเช่นกัน ซึ่งจะทำให้ตลาดน้ำมันขาดแคลนซัพพลายอยู่ประมาณ 600,000 บาร์เรลต่อวันในช่วงครึ่งหลังของปี ด้วยเหตุนี้มอร์แกน สแตนเลย์จึงเชื่อว่า น้ำมันดิบเบรนต์จะมีราคาเฉลี่ย 85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วง 6 เดือนข้างหน้า ซึ่งสูงกว่าประมาณการก่อนหน้านี้ 7.50 ดอลลาร์
น้ำมันดิบเบรนต์มีการซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งต่ำกว่าระดับสูงสุดในรอบสามปีครึ่งที่ 80.50 ดอลลาร์เมื่อเดือนพฤษภาคม สัญญาณน้ำมันดิบเบรนต์ปรับตัวขึ้น 5% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อเจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าวว่า คณะบริหารสหรัฐฯ กำลังผลักดันให้ผู้ซื้อน้ำมันหยุดซื้อน้ำมันจากอิหร่านทั้งหมดภายในวันที่ 4 พฤศจิกายน
มอร์แกน สแตนเลย์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้คิดว่าน้ำมันของอิหร่านจะเริ่มลดลงในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นการสิ้นสุดระยะเวลา 180 วันที่คณะบริหารของทรัมป์กำหนดไว้ ว่าจะลดความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับอิหร่านเมื่อสหรัฐฯ ได้รื้อฟื้นมาตรการลงโทษต่ออิหร่านในเดือนพฤษภาคม และในสถานการณ์เช่นนั้น มอร์แกน สแตนเลย์ มองว่า น้ำมันของอิหร่านจะหายไป 700,000 บาร์เรลต่อวันไปจนถึงปี 2562
ในขณะนี้มอร์แกน สแตนเลย์ คิดว่า การส่งออกน้ำมันของอิหร่านไปยังยุโรป ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้จะลดลงไปอยู่ในระดับต่ำสุด อิหร่านส่งออกน้ำมันไปยังสามประเทศนี้ในสัดส่วนประมาณ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากการส่งออก 2.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน
มาร์ติน แรตส์ นักกลยุทธ์น้ำมันโลกและผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหุ้นก๊าซและน้ำมันในยุโรปของมอร์แกน สแตนเลย์ กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซัพพลายน้ำมันอิหร่านในอนาคตมีความเสี่ยงในด้านลบเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
มอร์แกน สแตนเลย์ ยอมรับว่า ซาอุดีอาระเบียกำลังเพิ่มกำลังการผลิตในขณะนี้ และน่าจะผลิตน้ำมันเฉลี่ย 10.8 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากที่ได้คาดการณ์ในก่อนหน้าไว้ที่ 10.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะเดียวกัน มอร์แกน สแตนเลย์ ยังคาดว่า รัสเซีย สหรัฐอาหรับอีมิเรตส์ และคูเวต จะผลิตน้ำมันเพิ่ม แต่ไม่เพียงพอที่จะทำให้ตลาดสมดุล
แรตส์ กล่าวว่า นี่คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นหลังจากที่น้ำมันคงคลังได้ลดลงเป็นอันมาก สต๊อกน้ำมันทั่วโลกใกล้จะต่ำสุดในรอบห้าปีแล้ว และขีดความสามารถในการสำรองน้ำมันน้อยอยู่แล้วและกำลังจะลดลงอีก ในขณะเดียวกัน ดีมานด์ยังคงแข็งแกร่งและมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นตามฤดูกาลในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
เมื่อวานนี้ตราสารน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น 0.7% เป็น 74.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากที่พุ่งขึ้นเหนือ 75 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี เมื่อวันอังคาร ส่วนตราสารน้ำมันดิบเบรนต์ ปรับตัวขึ้น 0.5% เป็น 78.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากข้อมูลของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา ซึ่งชี้ว่าสต๊อกน้ำมันในสหรัฐฯ ลดลงมากกว่าที่คาดซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าจะขาดแคลนซัพพลาย
Source: ข่าวหุ้น
https://www.cnbc.com/2018/07/03/morgan-stanley-hikes-oil-price-forecast-to-85-as-trump-targets-iran.html