จากการที่ได้รับรู้ข้อมูลจากชาวบ้านและประสบการณ์โดยตรงของผู้เขียนกระทู้เอง ของการที่กล่าววาจาไม่เหมาะสม (ภาษาชาวบ้าน คือ ด่า ดีๆ นั่นเอง)
ของพระครูรูปหนึ่งของวัดแห่งหนึ่งในวัดบ้าน หมู่ 5 และ 12 ตำบลโพนงาม อำเภอกมลาไสย จ.กาฬสินธ์ุ ซึ่งพระครูรูปนี้ อย่างที่กล่าวไว้ ท่านจะชอบกล่าววาจาที่เราไม่คิดว่าจะถูกเปล่งมาจากปากของพระผู้ใหญ่ระดับเจ้าอาวาส
ตย. ที่ 1. จากเหตุการณ์ที่ชาวบ้านเล่า มีงานศพที่บ้านและจะนิมมต์ พระมาสวด ลูกหลานเจ้าภาพก็ถือขันดอกไม้ไปนิมนต์ปกติตามธรรมเนียมประเพณี ประตูทางเข้ากุฎิเปิด ลูกหลานเจ้าภาพก็เข้าไปนั่งรอ
พระครู บ่นพรำๆ ว่า : ให้คนใบ้ไม่มีปากมาวัด มานิมนต์พระ
ลูกหลานเจ้าภาพ : ก็ไม่รู้จะทำยังไงถึงจะถูกใจท่าน เรียกก็ด่าไม่เรียกก็ด่า (พร้อมยื่นขันนิมมตืให้พระ)
พระครู : รับขั้นนิมนต์ แล้วโยนทิ้งต่อหน้าลูกหลานเจ้าภาพทันที
สรุปคือ ทำอะไรก็โดนด่าไปไหน
ตย. ที่ 2. จากเหตุการณ์ที่ชาวบ้านเล่า มีงานศพที่บ้านและจะนิมมต์ พระมาฉันภัตราหารเช้าที่บ้านงานศพ พอตอนเช้า ลูกหลานเจ้าภาพจะไปรับบาตร เพื่อจะเอาบาตรของพระทุกรุปมาที่บ้านงาน ซึ่งลูกหลานก็ได้นำบาตรของพระทุกรูปมาใส่รถเรียบร้อยแล้ว ยกเว้นบาตรของพระครูท่านนี้เพระาว่ากุฎิท่านล็อคประตูทางเข้ากุฎิ ลูกหลานเจ้าภาพก็หาทางเข้าแต่สุดท้ายก็ไม่สามารถเข้าได้ เลยจำเป็นต้องเรียกพระครูท่านนี้จากด้านนอก ซึ่งในขระที่เรียก ก็จะมีการกล่าววาจาดังนี้
ลูกหลานเจ้าภาพ : อาจารย์ อาจารย์ อาจารย์ (เรียกประมาณ 3 - 4 ครั้ง พระครุท่านไม่ตอบทั้งๆ ที่ท่านกำลังกวาดพื้นกุฎิอยู่ แต่คนเรียกก็ยังเรียกอยู่)
พระครู : จะเรียกทำไม กูไม่ได้หูหนวก จะเรียกหาพ่อหาแม่หรอ จะเรียกหาโครตตระกูลหรอ (พระครูเดินบ่นเข้าไปหยิบบาตรในกุฏิ พร้อมเดิมออกมาเปิดประตูเอาบาตรให้)
ลูกหลานเจ้าภาพ : มีพระกี่รูปครับ
พระครู ด่าว่า : ถ้าไม่รู้เรื่องวัดเรื่องวาอย่ามาวัด
ลูกหลานเจ้าภาพ : สะตั้นเงียบไป .....................
ถ้ารู้เรื่องจะถามไหม
ตย. ที่ 3. เรื่องมีอยู่ว่า วัดมีงานวัด และนักดนตรีกำลังจะลองเทสเครื่องเสียงที่กำลังติดตั้งในงานวัดซึ่งในเวลาเดียวกันก็เป็นเวลาที่พระกำลังจะเริ่มทำพิธีทางศาสนา พระครูท่านประกาศออกไมค์โครโฟน ว่า "จะรีบไปหาพ่อหาแม่หรอ พ่อแม่ตายหรอ" ท่ามกลางญาติโยมเต็มศาลา
อะไรที่ไม่ถูกไม่ควร ควรว่ากล่าวและสอนในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ใช่มาจับในสิ่งที่ผิดและไม่ยอมแก้ไขในสิ่งที่ผิด
ตย. ที่ 4. อย่างที่บอก พระครูท่านนี้ชอบด่า เวลาญาติโยมทำอะไรไม่ถูกต้องก็จะด่าแบบซึ้งๆหน้าเลย โดยไม่แคร์ไม่เกรงใจว่าจะเป็นใครใหญ่จากไหน แทนที่จะบอกในสิ่งที่ถูกต้อง ต้องทำแบบนี้น่ะ แบบนั้นน่ะ แต่กลับด่าทอและไม่แก้ไขในสิ่งที่ทำผิด
ตย. ที่ 5. เวลาเดินบิณฑบาตรตามหมู่ ตามที่เคยเห็นปกติพระท่านจะรอรับบาตรจากญาตฺโยมที่มาทำบุญตักบาตรตามถนน บางคนใส่บาตรทั้งดอกไม้ ข้าว อาหาร นม ขนม เป็นต้น พระครูท่านจะไม่รอ เช่น คน 1 คนต้องการใส่บาตรพระ ด้วย ข้าว อาหาร และนม ให้พระ 1 รูป ปกติก็จะใส่ทีละอย่าง ข้าว นม ขนม ตามลำดับ เพราะมือคนไม่สามารถหยิบพร้อมกันได้ทุกอย่าง แต่สำหรับพระครูท่านนี้ ท่านจะเดินเร็วมาก ญาติโยมใส่ทันก็ทัน ไม่ทันก็ไม่ได้ใส่ บางทีได้ใส่แต่ข้าว อาหารไม่ได้ใส่ ทั้งๆที่ตั้งใจว่าจะใส่ บางทีพระบิณฑบาตรด้วยกัน 5 รูป ซึ่งพระครูท่านเดินออกหน้าเพราะท่านเป็นเจ้าอาวาส และพรรษาสูง ท่านเดินเร็วและไม่รอรับบาตร ชาวบ้านบางราย ก็จะได้ใส่บาตรให้พระแค่ 4 รูปเท่านั้น ตามที่ชาวบ้านเล่าขานถ้าจะใส่ให้ท่านทั้ง ข้าว อาหาร นม หรืออย่างอื่น ต้องหยิบและใส่ครั้งเดียว ถึงจะได้ใส่ทุกอย่าง
ณ ตอนนี้ กลายเป็นที่นินทราของชาวบ้าน ว่าพระครูท่านนี้ทำอะไรก็จะโดนด่าไปหมดบางที่ก็ไม่มีเหตุผล หรือมีแต่ไม่ใช่เหตุผลที่ดี และทำผิดแทนที่ท่านจะบอกจะสอนในสิ่งที่ไม่รู้ หรือไม่ถูกต้อง แต่ท่านไม่เคยสอนในสิ่งที่ถูกต้อง ให้ทุกคนเรียนรู้เอง ยากที่จะปฎิบัติให้ถูกใจท่าน จนกระทั้งเดี๋ยวนี้ชาวบ้านส่วนใหญ่ ไม่กล้าที่จะเข้าหาพระครูท่านนี้ เพราะกลัวโดนด่าหน้าแหกกลับมา ชาวบ้านหลายคนเริ่มไม่ศรัทธา เริ่มไม่เข้าวัดทำบุญก็เพราะครูท่านนี้ แต่ชาวบ้านไม่มีใครกล้าว่ากล่าวตักเตือนท่านเลย โดนด่าจนชินไปแล้ว ท่านเป็นพระที่เกิด ณ หมู่บ้านแห่งนั้น และบวชตั้งแต่เล็ก จนถึงปัจจุบัน ซึ่งในหมู่บ้านส่วนใหญ่จะเป็นญาติพี่น้องของท่านเอง ขนาดญาติพี่น้องยังไม่ค่อยอยากจะทำบุญในวัดที่ท่านอยู่เลย ด้วยอุปนิสัยใจคอของท่านเอง
เจ้าของกระทู้ก็เป็นลูกหลานของท่านเองเหมือนกัน ไม่ได้มีอคติกับพระครูนะครับ แต่อยากให้คนศรัทธาในตัวท่าน และอยากให้ท่านมีนิสัยใจคอโอบอ้อมอารีบ้าง ไม่ใช่เที่ยวด่าคนอื่นไปเรื่อย อยากให้พระผู้ใหญ่ เจ้าคณะอำเภอกมลาไสย หรือ เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง ลงสุ่มสืบหาข้อมูลข้อเท็จจริงจากชาวบ้าน หรือผู้ใหญ่บ้าน และช่วยอบรมบ่มนิสัยของพระครูท่านนี้ให้หน่อยครับ จักขอบพระคุรยิ่งครับ
ร้องเรียน พระระดับเจ้าอาวาส ที่กล่าววาจาไม่เหมาะสม ได้ที่ไหน ????
ของพระครูรูปหนึ่งของวัดแห่งหนึ่งในวัดบ้าน หมู่ 5 และ 12 ตำบลโพนงาม อำเภอกมลาไสย จ.กาฬสินธ์ุ ซึ่งพระครูรูปนี้ อย่างที่กล่าวไว้ ท่านจะชอบกล่าววาจาที่เราไม่คิดว่าจะถูกเปล่งมาจากปากของพระผู้ใหญ่ระดับเจ้าอาวาส
ตย. ที่ 1. จากเหตุการณ์ที่ชาวบ้านเล่า มีงานศพที่บ้านและจะนิมมต์ พระมาสวด ลูกหลานเจ้าภาพก็ถือขันดอกไม้ไปนิมนต์ปกติตามธรรมเนียมประเพณี ประตูทางเข้ากุฎิเปิด ลูกหลานเจ้าภาพก็เข้าไปนั่งรอ
พระครู บ่นพรำๆ ว่า : ให้คนใบ้ไม่มีปากมาวัด มานิมนต์พระ
ลูกหลานเจ้าภาพ : ก็ไม่รู้จะทำยังไงถึงจะถูกใจท่าน เรียกก็ด่าไม่เรียกก็ด่า (พร้อมยื่นขันนิมมตืให้พระ)
พระครู : รับขั้นนิมนต์ แล้วโยนทิ้งต่อหน้าลูกหลานเจ้าภาพทันที
สรุปคือ ทำอะไรก็โดนด่าไปไหน
ตย. ที่ 2. จากเหตุการณ์ที่ชาวบ้านเล่า มีงานศพที่บ้านและจะนิมมต์ พระมาฉันภัตราหารเช้าที่บ้านงานศพ พอตอนเช้า ลูกหลานเจ้าภาพจะไปรับบาตร เพื่อจะเอาบาตรของพระทุกรุปมาที่บ้านงาน ซึ่งลูกหลานก็ได้นำบาตรของพระทุกรูปมาใส่รถเรียบร้อยแล้ว ยกเว้นบาตรของพระครูท่านนี้เพระาว่ากุฎิท่านล็อคประตูทางเข้ากุฎิ ลูกหลานเจ้าภาพก็หาทางเข้าแต่สุดท้ายก็ไม่สามารถเข้าได้ เลยจำเป็นต้องเรียกพระครูท่านนี้จากด้านนอก ซึ่งในขระที่เรียก ก็จะมีการกล่าววาจาดังนี้
ลูกหลานเจ้าภาพ : อาจารย์ อาจารย์ อาจารย์ (เรียกประมาณ 3 - 4 ครั้ง พระครุท่านไม่ตอบทั้งๆ ที่ท่านกำลังกวาดพื้นกุฎิอยู่ แต่คนเรียกก็ยังเรียกอยู่)
พระครู : จะเรียกทำไม กูไม่ได้หูหนวก จะเรียกหาพ่อหาแม่หรอ จะเรียกหาโครตตระกูลหรอ (พระครูเดินบ่นเข้าไปหยิบบาตรในกุฏิ พร้อมเดิมออกมาเปิดประตูเอาบาตรให้)
ลูกหลานเจ้าภาพ : มีพระกี่รูปครับ
พระครู ด่าว่า : ถ้าไม่รู้เรื่องวัดเรื่องวาอย่ามาวัด
ลูกหลานเจ้าภาพ : สะตั้นเงียบไป .....................
ถ้ารู้เรื่องจะถามไหม
ตย. ที่ 3. เรื่องมีอยู่ว่า วัดมีงานวัด และนักดนตรีกำลังจะลองเทสเครื่องเสียงที่กำลังติดตั้งในงานวัดซึ่งในเวลาเดียวกันก็เป็นเวลาที่พระกำลังจะเริ่มทำพิธีทางศาสนา พระครูท่านประกาศออกไมค์โครโฟน ว่า "จะรีบไปหาพ่อหาแม่หรอ พ่อแม่ตายหรอ" ท่ามกลางญาติโยมเต็มศาลา
อะไรที่ไม่ถูกไม่ควร ควรว่ากล่าวและสอนในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ใช่มาจับในสิ่งที่ผิดและไม่ยอมแก้ไขในสิ่งที่ผิด
ตย. ที่ 4. อย่างที่บอก พระครูท่านนี้ชอบด่า เวลาญาติโยมทำอะไรไม่ถูกต้องก็จะด่าแบบซึ้งๆหน้าเลย โดยไม่แคร์ไม่เกรงใจว่าจะเป็นใครใหญ่จากไหน แทนที่จะบอกในสิ่งที่ถูกต้อง ต้องทำแบบนี้น่ะ แบบนั้นน่ะ แต่กลับด่าทอและไม่แก้ไขในสิ่งที่ทำผิด
ตย. ที่ 5. เวลาเดินบิณฑบาตรตามหมู่ ตามที่เคยเห็นปกติพระท่านจะรอรับบาตรจากญาตฺโยมที่มาทำบุญตักบาตรตามถนน บางคนใส่บาตรทั้งดอกไม้ ข้าว อาหาร นม ขนม เป็นต้น พระครูท่านจะไม่รอ เช่น คน 1 คนต้องการใส่บาตรพระ ด้วย ข้าว อาหาร และนม ให้พระ 1 รูป ปกติก็จะใส่ทีละอย่าง ข้าว นม ขนม ตามลำดับ เพราะมือคนไม่สามารถหยิบพร้อมกันได้ทุกอย่าง แต่สำหรับพระครูท่านนี้ ท่านจะเดินเร็วมาก ญาติโยมใส่ทันก็ทัน ไม่ทันก็ไม่ได้ใส่ บางทีได้ใส่แต่ข้าว อาหารไม่ได้ใส่ ทั้งๆที่ตั้งใจว่าจะใส่ บางทีพระบิณฑบาตรด้วยกัน 5 รูป ซึ่งพระครูท่านเดินออกหน้าเพราะท่านเป็นเจ้าอาวาส และพรรษาสูง ท่านเดินเร็วและไม่รอรับบาตร ชาวบ้านบางราย ก็จะได้ใส่บาตรให้พระแค่ 4 รูปเท่านั้น ตามที่ชาวบ้านเล่าขานถ้าจะใส่ให้ท่านทั้ง ข้าว อาหาร นม หรืออย่างอื่น ต้องหยิบและใส่ครั้งเดียว ถึงจะได้ใส่ทุกอย่าง
ณ ตอนนี้ กลายเป็นที่นินทราของชาวบ้าน ว่าพระครูท่านนี้ทำอะไรก็จะโดนด่าไปหมดบางที่ก็ไม่มีเหตุผล หรือมีแต่ไม่ใช่เหตุผลที่ดี และทำผิดแทนที่ท่านจะบอกจะสอนในสิ่งที่ไม่รู้ หรือไม่ถูกต้อง แต่ท่านไม่เคยสอนในสิ่งที่ถูกต้อง ให้ทุกคนเรียนรู้เอง ยากที่จะปฎิบัติให้ถูกใจท่าน จนกระทั้งเดี๋ยวนี้ชาวบ้านส่วนใหญ่ ไม่กล้าที่จะเข้าหาพระครูท่านนี้ เพราะกลัวโดนด่าหน้าแหกกลับมา ชาวบ้านหลายคนเริ่มไม่ศรัทธา เริ่มไม่เข้าวัดทำบุญก็เพราะครูท่านนี้ แต่ชาวบ้านไม่มีใครกล้าว่ากล่าวตักเตือนท่านเลย โดนด่าจนชินไปแล้ว ท่านเป็นพระที่เกิด ณ หมู่บ้านแห่งนั้น และบวชตั้งแต่เล็ก จนถึงปัจจุบัน ซึ่งในหมู่บ้านส่วนใหญ่จะเป็นญาติพี่น้องของท่านเอง ขนาดญาติพี่น้องยังไม่ค่อยอยากจะทำบุญในวัดที่ท่านอยู่เลย ด้วยอุปนิสัยใจคอของท่านเอง
เจ้าของกระทู้ก็เป็นลูกหลานของท่านเองเหมือนกัน ไม่ได้มีอคติกับพระครูนะครับ แต่อยากให้คนศรัทธาในตัวท่าน และอยากให้ท่านมีนิสัยใจคอโอบอ้อมอารีบ้าง ไม่ใช่เที่ยวด่าคนอื่นไปเรื่อย อยากให้พระผู้ใหญ่ เจ้าคณะอำเภอกมลาไสย หรือ เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง ลงสุ่มสืบหาข้อมูลข้อเท็จจริงจากชาวบ้าน หรือผู้ใหญ่บ้าน และช่วยอบรมบ่มนิสัยของพระครูท่านนี้ให้หน่อยครับ จักขอบพระคุรยิ่งครับ