ข้อเข่าเสื่อมเป็นปัญหาที่สำคัญพบมากในผู้สูงอายุและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เลยนะครับ ผู้ที่มีภาวะข้อเข่าเสื่อมมาก ถ้าไม่ได้รับการรักษาหรือปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสมจะทำให้เกิดความเจ็บปวด ข้อเข่าผิดรูป เดินได้ไม่ปกติ (ลักษณะการเดินคล้ายนกแพนกวิน) มีปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวัน จะทำอะไรก็ทำได้ไม่สะดวกเหมือนเดิมนั่นเองครับ
ข้อเข่าเสื่อมเป็นโรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุช่วงวัย 65 ปีขึ้นไป สาเหตุก็มาจากการเสื่อมของอวัยวะตามวัย และท่านั่งของเราเองนี้แหละครับ ใครที่ชอบนั่งพับเพียบ ขัดสมาธิ การนั่งลักษณะนี้จะทำให้ข้อเข่าถูกกดพับ เอ็นกล้ามเนื้อถูกยึดตรึง หรือบางคนก็ลืมตัวไม่ค่อยได้ขยับร่างกายหรือเปลี่ยนท่านั่งมากนัก ก็ยิ่งทำให้เลือดหมุนเวียนไปเลี้ยงเข่าได้ไม่เต็มที่ บวกกับเมื่ออายุมากขึ้น น้ำหนักตัวก็เยอะตาม ทำให้เข่าต้องแบกรับน้ำหนักเยอะตามไปด้วย ส่งผลต่อกล้ามเนื้อให้เสื่อมสมรรถภาพลง ผิวของกระดูกอ่อนภายในข้อเข่าก็เสื่อมลง บางลง จนเมื่อมันหลุดออกไปหมด ก็ยิ่งทำให้ไม่มีอะไรมารับแรงกระแทกในการใช้งานอย่างหนักของเรา จึงทำให้มีอาการปวดๆ เสียวๆ เกิดขึ้นเวลาใช้งาน โดยเฉพาะเวลาที่เราใช้งานไม่ถูกต้อง
สังเกตอย่างไรว่าเป็นข้อเข่าเสื่อม?
ผู้สูงอายุโดยส่วนใหญ่ที่มีอาการข้อเข่าเสื่อม มักเริ่มจากมีอาการปวดข้อเข่าเป็นๆ หายๆ และจะปวดมากขึ้นเมื่อมีการใช้งานข้อมากๆ หากมีอาการเรื้อรังมากจะมีอาการปวดตลอดเวลา รวมทั้งอาจมีเสียงดังในข้อ ข้อเข่าฝืด ยึดตึงในช่วงหลังตื่นนอนตอนเช้า หากเป็นรุนแรงมากอาจทำให้เกิดข้อเข่าผิดรูปและมีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อบริเวณรอบข้อเข่าได้เลยนะครับ
วิธีปฏิบัติในการป้องกันข้อเข่าเสื่อม
การปฎิบัติตัวเพื่อลดอาการปวดที่เราสามารถทำได้ คือพยายามใช้งานข้อเข่าอย่างถูกต้องและถนอม โดยหลีกเลี่ยงการนั่งพับเพียบ นั่งขัดสมาธิ หรือนั่งยองๆ ในระยะเวลาที่นานติดๆ กัน และเปลี่ยนอิริยาบถในการนั่งบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการยืนหรือเดินนานๆ ควบคุมน้ำหนักไม่ให้เยอะจนเกินไป เลือกใส่รองเท้าที่มีเบาะรองเท้าเพื่อลดแรงกระแทกเวลาเดินก็ช่วยได้อีกทางครับ
รักษาอย่างไร? เมื่อเป็นข้อเข่าเสื่อม
การรักษาในระยะแรกจะมุ่งเน้นเพื่อลดอาการปวดหรือลดการอักเสบ ทำให้ข้อเข่าเคลื่อนไหวได้ปกติ เช่น การใช้ความร้อนประคบรอบๆ เข่า เพื่อลดอาการปวดเกร็ง การใช้สนับเข่าเพื่อกระชับข้อบรรเทาอาการปวด ใช้ไม้เท้าช่วยเดินเพื่อลดแรงกระแทกของเข่า ในคนที่เป็นมากๆ อาจต้องรักษาด้วยการใช้ยาหรือการผ่าตัดซึ่งต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ แพทย์จะพิจารณาอาการและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ
ควรทำอย่างไร ถ้าไม่อยากให้ข้อเข่าเสื่อม?
ข้อเข่าเสื่อมเป็นโรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุช่วงวัย 65 ปีขึ้นไป สาเหตุก็มาจากการเสื่อมของอวัยวะตามวัย และท่านั่งของเราเองนี้แหละครับ ใครที่ชอบนั่งพับเพียบ ขัดสมาธิ การนั่งลักษณะนี้จะทำให้ข้อเข่าถูกกดพับ เอ็นกล้ามเนื้อถูกยึดตรึง หรือบางคนก็ลืมตัวไม่ค่อยได้ขยับร่างกายหรือเปลี่ยนท่านั่งมากนัก ก็ยิ่งทำให้เลือดหมุนเวียนไปเลี้ยงเข่าได้ไม่เต็มที่ บวกกับเมื่ออายุมากขึ้น น้ำหนักตัวก็เยอะตาม ทำให้เข่าต้องแบกรับน้ำหนักเยอะตามไปด้วย ส่งผลต่อกล้ามเนื้อให้เสื่อมสมรรถภาพลง ผิวของกระดูกอ่อนภายในข้อเข่าก็เสื่อมลง บางลง จนเมื่อมันหลุดออกไปหมด ก็ยิ่งทำให้ไม่มีอะไรมารับแรงกระแทกในการใช้งานอย่างหนักของเรา จึงทำให้มีอาการปวดๆ เสียวๆ เกิดขึ้นเวลาใช้งาน โดยเฉพาะเวลาที่เราใช้งานไม่ถูกต้อง
สังเกตอย่างไรว่าเป็นข้อเข่าเสื่อม?
ผู้สูงอายุโดยส่วนใหญ่ที่มีอาการข้อเข่าเสื่อม มักเริ่มจากมีอาการปวดข้อเข่าเป็นๆ หายๆ และจะปวดมากขึ้นเมื่อมีการใช้งานข้อมากๆ หากมีอาการเรื้อรังมากจะมีอาการปวดตลอดเวลา รวมทั้งอาจมีเสียงดังในข้อ ข้อเข่าฝืด ยึดตึงในช่วงหลังตื่นนอนตอนเช้า หากเป็นรุนแรงมากอาจทำให้เกิดข้อเข่าผิดรูปและมีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อบริเวณรอบข้อเข่าได้เลยนะครับ
วิธีปฏิบัติในการป้องกันข้อเข่าเสื่อม
การปฎิบัติตัวเพื่อลดอาการปวดที่เราสามารถทำได้ คือพยายามใช้งานข้อเข่าอย่างถูกต้องและถนอม โดยหลีกเลี่ยงการนั่งพับเพียบ นั่งขัดสมาธิ หรือนั่งยองๆ ในระยะเวลาที่นานติดๆ กัน และเปลี่ยนอิริยาบถในการนั่งบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการยืนหรือเดินนานๆ ควบคุมน้ำหนักไม่ให้เยอะจนเกินไป เลือกใส่รองเท้าที่มีเบาะรองเท้าเพื่อลดแรงกระแทกเวลาเดินก็ช่วยได้อีกทางครับ
รักษาอย่างไร? เมื่อเป็นข้อเข่าเสื่อม
การรักษาในระยะแรกจะมุ่งเน้นเพื่อลดอาการปวดหรือลดการอักเสบ ทำให้ข้อเข่าเคลื่อนไหวได้ปกติ เช่น การใช้ความร้อนประคบรอบๆ เข่า เพื่อลดอาการปวดเกร็ง การใช้สนับเข่าเพื่อกระชับข้อบรรเทาอาการปวด ใช้ไม้เท้าช่วยเดินเพื่อลดแรงกระแทกของเข่า ในคนที่เป็นมากๆ อาจต้องรักษาด้วยการใช้ยาหรือการผ่าตัดซึ่งต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ แพทย์จะพิจารณาอาการและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ