เป็นเรื่องของญาตินะคะ เรียกเจ้าของเรื่องว่าพี่สาวละกัน
พี่สาวแต่งงานแยกบ้านไปมีครอบครัวแต่ส่งเงินให้แม่เป็นประจำ ต่อมาน้องสาวและน้องเขยเสียชีวิต แม่จึงรับหลานที่เป็นกำพร้ามาอุปการะเลี้ยงดูอยู่ที่บ้าน แม่ก็ขายของ ส่งให้เรียน ให้เงินไว้ใช้จ่าย จนเด็กคนนี้จบม.6โรงเรียนรัฐบาลแถวบ้านค่ะ ทำงานสักพักก็ดิ้นรนส่งตัวเองจนจบปริญญาตรี เก็บเงินแต่งงานเอง ส่งเงินให้ยายทุกเดือน เด็กถือว่ายายเป็นแม่แท้ๆของเขา ถึงแม้ว่าจะรู้ความจริงว่าพ่อแม่จริงๆไม่มีก็ตาม
แต่พี่สาวจะลำเลิกบุญคุณกับเด็กตลอดเวลาค่ะ ว่าเงินที่เด็กคนนี้กินใช้เป็นเงินเขาทั้งนั้น ที่ได้เรียนก็เพราะเงินเขาทั้งนั้น (เพราะเขาก็ส่งเงินให้แม่) แทนที่แม่จะได้ใช้ต้องเอาเงินไปเลี้ยงไอ้นี่ ใช้งานตลอด เวลาออกงานเด็กคนนี้แต่งตัวธรรมดา ก็จะให้ลูกๆเขาแต่งตัวหรูหรา แตกต่างกันชัดเจน เวลาใช้งานก็จะใช้เด็กคนเดียว ลูกตัวเองไม่ต้องหยิบจับอะไรนั่งทานข้าวเฮฮา ให้เด็กเก็บล้าง และทุกเรื่องของความเป็นในชีวิต จะซื้ออะไรใหญ่ๆ บ้าน รถ มีแฟน จะต้องผ่านพี่สาวหมดค่ะ อ้างว่ามันโตมาได้เพราะฉัน มันต้องอยู่ในโอวาท
จะแต่งงาน จัดงานเอง พอจัดงานใหญ่หน่อยเพราะญาติเจ้าบ่าวเยอะ ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟว่าทำอะไรไม่เห็นหัว จัดงานใหญ่ไป ผูกข้อมือก็พอ
พี่สาวจะอยากรู้เรื่องของเด็กตลอดเวลาแม้ว่าเด็กจะแต่งงานแยกบ้านออกมาแล้ว(ไม่รู้ทำไม ไม่เข้าใจเหมือนกัน)
เช่น เงินเดือนเท่าไหร่ คุมกำเนิดอยู่รึเปล่า คลอดลูกออกมาก็กินนมวันละกี่ออนซ์ เพิ่มนมได้แล้ว หาหมอได้แล้ว เลี้ยงลูกชั้นล่างหรือชั้นบน แยกหมาออกจากเด็กรึเปล่า ทำบุญบ้านนิมนต์พระมากไป บลาๆๆ
พอเด็กเริ่มปิดกั้นตัวเอง ไม่ให้ยุ่ง เพราะเริ่มกระทบกับชีวิตครอบครัว ก็ด่าหยาบคาย ลำเลิกบุญคุณ ด่าว่าเนรคุณ
ต้องทำยังไงคะเด็กถึงจะหลุดจากบ่วงผูกคอที่เรียกว่าบุญคุณนี้ซะที เด็กจะพูดอะไรก็เหมือนน้ำท่วมปากเพราะติดคำว่าบุญคุณนี่แหละ จขกท.ไม่อยากให้เด็กถูกตราหน้าว่าเนรคุณค่ะ เพราะเด็กคนนี้เป็นเด็กดี ดูแลยายที่เลี้ยงเค้าอย่างดี
แล้วในสายตาคนทั่วไป แบบนี้เรียกว่ามีบุญคุณอย่างที่เขาพร่ำลำเลิกซ้ำๆรึเปล่า
ถ้าเราให้เงินแม่ แล้วแม่เอาเงินไปเลี้ยงเด็กกำพร้า ถือว่าเรามีบุญคุณต่อเด็กไหมคะ
พี่สาวแต่งงานแยกบ้านไปมีครอบครัวแต่ส่งเงินให้แม่เป็นประจำ ต่อมาน้องสาวและน้องเขยเสียชีวิต แม่จึงรับหลานที่เป็นกำพร้ามาอุปการะเลี้ยงดูอยู่ที่บ้าน แม่ก็ขายของ ส่งให้เรียน ให้เงินไว้ใช้จ่าย จนเด็กคนนี้จบม.6โรงเรียนรัฐบาลแถวบ้านค่ะ ทำงานสักพักก็ดิ้นรนส่งตัวเองจนจบปริญญาตรี เก็บเงินแต่งงานเอง ส่งเงินให้ยายทุกเดือน เด็กถือว่ายายเป็นแม่แท้ๆของเขา ถึงแม้ว่าจะรู้ความจริงว่าพ่อแม่จริงๆไม่มีก็ตาม
แต่พี่สาวจะลำเลิกบุญคุณกับเด็กตลอดเวลาค่ะ ว่าเงินที่เด็กคนนี้กินใช้เป็นเงินเขาทั้งนั้น ที่ได้เรียนก็เพราะเงินเขาทั้งนั้น (เพราะเขาก็ส่งเงินให้แม่) แทนที่แม่จะได้ใช้ต้องเอาเงินไปเลี้ยงไอ้นี่ ใช้งานตลอด เวลาออกงานเด็กคนนี้แต่งตัวธรรมดา ก็จะให้ลูกๆเขาแต่งตัวหรูหรา แตกต่างกันชัดเจน เวลาใช้งานก็จะใช้เด็กคนเดียว ลูกตัวเองไม่ต้องหยิบจับอะไรนั่งทานข้าวเฮฮา ให้เด็กเก็บล้าง และทุกเรื่องของความเป็นในชีวิต จะซื้ออะไรใหญ่ๆ บ้าน รถ มีแฟน จะต้องผ่านพี่สาวหมดค่ะ อ้างว่ามันโตมาได้เพราะฉัน มันต้องอยู่ในโอวาท
จะแต่งงาน จัดงานเอง พอจัดงานใหญ่หน่อยเพราะญาติเจ้าบ่าวเยอะ ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟว่าทำอะไรไม่เห็นหัว จัดงานใหญ่ไป ผูกข้อมือก็พอ
พี่สาวจะอยากรู้เรื่องของเด็กตลอดเวลาแม้ว่าเด็กจะแต่งงานแยกบ้านออกมาแล้ว(ไม่รู้ทำไม ไม่เข้าใจเหมือนกัน)
เช่น เงินเดือนเท่าไหร่ คุมกำเนิดอยู่รึเปล่า คลอดลูกออกมาก็กินนมวันละกี่ออนซ์ เพิ่มนมได้แล้ว หาหมอได้แล้ว เลี้ยงลูกชั้นล่างหรือชั้นบน แยกหมาออกจากเด็กรึเปล่า ทำบุญบ้านนิมนต์พระมากไป บลาๆๆ
พอเด็กเริ่มปิดกั้นตัวเอง ไม่ให้ยุ่ง เพราะเริ่มกระทบกับชีวิตครอบครัว ก็ด่าหยาบคาย ลำเลิกบุญคุณ ด่าว่าเนรคุณ
ต้องทำยังไงคะเด็กถึงจะหลุดจากบ่วงผูกคอที่เรียกว่าบุญคุณนี้ซะที เด็กจะพูดอะไรก็เหมือนน้ำท่วมปากเพราะติดคำว่าบุญคุณนี่แหละ จขกท.ไม่อยากให้เด็กถูกตราหน้าว่าเนรคุณค่ะ เพราะเด็กคนนี้เป็นเด็กดี ดูแลยายที่เลี้ยงเค้าอย่างดี
แล้วในสายตาคนทั่วไป แบบนี้เรียกว่ามีบุญคุณอย่างที่เขาพร่ำลำเลิกซ้ำๆรึเปล่า