ช่วงเดือนพฤษภาที่ผ่านมา ผมได้ไปเห็นทัวร์ไปมาเก๊าที่ราคาเริ่มต้น 3,xxx บาท !
ถึงกับต้องร้องว่า OMGGGGG !!! เลยทีเดียวถูกจนไม่คิดว่าจะได้ไปจริงๆอะ ด้วยความอยากรู้ อยากลองก็เลยตัดสินใจว่า เอาว่ะ ! ลองไปดูก็ไม่เสียหาย เดี่ยวจะมารีวิวให้ดูว่า ราคาถูกขนาดนี้ เขาพาเราไปทำอะไร 5555555+
เราตัดสินใจซื้อกับบริษัท Unithai Trip เพราะเขามีแจก Passport Cover แบบในรูปให้ด้วย 55555+ (ไม่เห็นแก่ของฟรีเล๊ยยยย) ปล.เฉพาะบางโปรแกรมนะ
ผมซื้อทัวร์มาเก๊า จูไห่ ราคา 6,XXX 3วัน 2 คืน มาดูกันว่า ปังหรือโป๊ะ
DAY 1
วันแรกทางไกด์ก็นัดเราที่สนามบินดอนเมืองตอน 7 โมงเช้า หลังจากนั้นก็เช็คอิน ผ่าน ตม. บลาๆๆ ตามขั้นตอน ครั้งนี้เราบินกับโลคอร์สหางแดงขาประจำจ้าา
เครื่องออกตอน 10 โมงเช้า ถึงไปมาเก๊าตอน บ่ายโมงกว่าๆ ใช้วลาบินประมาน 2 ชม. ครึ่ง (เวลามาเก๊าเร็วกว่าไทย 1 ชม นะแจ๊ะ)
มาถึงมาเก๊าหลังจากผ่าน ตม.ที่ง่ายแสนง่ายมาแล้ว ก็มีไกด์ท้องถิ่น+กับไกด์คนไทยที่ไปบินไปพร้อมกันกับเรา รวมเป็น 2 คน ขึ้นรถไปยังด่านก๋งเป่ย เพื่อเข้าสู่ จูไห่ประเทศจีนจ้า...ที่จีนเนี่ยเขาต้องใช้วีซ่าด้วยนะ แต่ด้วยความที่ทัวร์จัดการให้หมด ทุกอย่างก็ดูง่ายไปหมด
หลังจากผ่านด่านก๋งเป่ยมาแล้วก็จะมีตลาดกงเป๋ย ตั้งอยู่หน้าด่านเลยจ้า ไกด์ปล่อยให้เราเดินช้อปปิ้งตรงนี้ประมาน 2 ชม. และตลาดนี้ทำให้เรารู้ซึ้งถึงคำว่า " จีนแดง " 555555+ เพราะทุกอย่างล้วนเป็นของก๊อปปี้
ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าแบรนด์เนม เสื้อผ้า นาฬิกา บลาๆ ทุกอย่างปลอมไปหมด อย่างว่าแหละ ใครอยากจะซื้อกระเป๋าหลุยส์ใว้ประดับบารมีซักใบสองใบก็ไม่แปลก เพราะที่นี้ ! ก๊อปจนแยกไม่ออกว่าอันไหนแท้ อันไหนปลอม งานHi-end จริงๆ (สนับสนุนให้ใช้ของแท้ดีกว่านะจ้ะ ^^ )
หลังจากนั้นเราก็มาขึ้นรถที่ใกล้ๆตลาดนั้นแหละ หลังจากนั้นไกด์ก็พาเราไปทานอาหารเย็นที่ภัทตาคาร
ปล.อาหารจีนรสชาติก็จะจืดเอามากๆ ใครไปพกน้ำพริกนรกไปก็ดีนะครับ 5555555
หลังจากนั้นก็แยกย้ายเข้าที่พักเพื่อพักผ่อน (ไม่ได้ถ่ายห้องพักใว้เพราะเหนื่อยมากกกกก)
DAY 2
วันที่สองไกด์นัดเราโดยใช้โค้ด 6-7-8 : 6 โมงตื่นโดยจะมี Morning Call จากทางโรงแรม / 7 โมงทานข้าว / 8 โมงออกเดินทาง
สถานที่แรกที่ไปคือ จูไห่ฟิชเชอร์เกิร์ล สาวงามกลางทะเล สัญลักษณ์ของเมืองจูไห่ บรเิวณอ่าวเซียงหูเป็นรูป แกะสลักสงู 8.7 เมตร ถือไข่มุกอยู่ริมทะเล
วันที่สองส่วนมากก็จะใช้เวลาอยู่กับการเข้าช้อปรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็น ร้านบัวหิมะ ที่ขายยานาๆชนิด ที่เขาว่ากันว่าดีมากก
เขาจะมีห้องให้เราเข้าไปนั่งฟังบรรยาย และจะมีน้ำชาร้อนๆให้เราดื่มคนละแก้ว พร้อมกับสปาเท้า และบริการนวดเท้าจากทางร้าน ส่วนตัวผมว่าไม่ได้น่าเบื่ออะไรเพราะได้นวดคลายเส้นจากการเดินมาเมื่อวาน 5555555
หลังจากนั้นก้เดินทางไปยังร้านขายหยก หยกถือเป็นสมบัติล้ำค่าของจีนเลยก็ว่าได้ใครได้ครอบครองก็จะมีสุขภาพแข็งแรงและโชคดี (เขาบอกมาแบบนี้
)
มีทั้งจี้สร้อยคอตามราศี จี้กังหันโชคลาภ บลาๆเยอะแยะเต็มไปหมด ผมไม่ค่อยได้สนใจซักเท่าไหร่
จากนั้นก็พาเราไปทานข้าวเที่ยง และกลับมาที่ร้านผ้าไหมอีกครั้ง เพื่อให้เราได้ช้อปปิ้งกัน
ประมานบ่าย 3 โมงเย็นก็เดินทางไปยังโชว์ Huang Jia Shen Dian Show เป็นการแสดงเล่าเรื่องราวนิยาย และประวัติศาสตร์ของเมืองจีน
ส่วนตัวผมไม่ค่อยอินกับโชว์ซักเท่าไหร่ เพราะฟังภาษาจีนไม่รู้เรื่อง 555555 ผมไม่ได้โง่นะ แค่ฉลาดน้อยไปหน่อย >< เลยเดินออกมาถ่ายรูปเล่นบริเวณรอบๆวัด
หลังจากชมโชว์จบก็ไปรับทานอาหารค่ำที่ภัทตคาร มื้อนี้พิเศษที่ว่ามี ไวด์แดง และหอยเป๋าฮื้อให้ทานด้วย และแน่นอนว่าถ่ายรูปไม่ทันเพราะหิ้ว 555555
ทานเสร็จก็กลับสู่ที่พักในจู่ไห่เหมือนเดิมจ้า นอนที่เดิมไม่ต้องย้ายของไปมาให้วุ่นวาย
DAY 3
เช้าวันที่ 3 ไกด์ใช้โค้ด 6-7-8 เหมือนเดิม เพราะต้องไปด่านกงเฟ๋ยแต่เช้า เพื่อเดินทางไปยังประเทศมาเก๊าครับ หลังจากผ่าน ตม.มาแล้ว ก็เดินทางไปยังแลนด์มาร์กของมาเก๊า ที่เขาว่ากันว่าถ้าไม่ได้มาที่นี้ ถือว่ายังไม่ถึงมาเก๊า ! นั้นก้คือโบสถ์เซนต์ปอล นั้นเอง
ก่อนมาที่นี้ผมได้ไปหาอ่านมาว่าที่นี้มีอะไรอร่อยๆบ้าง เลยเห็นมาว่าทาร์ตไข่ที่นี้ค่อนข้างขึ้นชื่อเลยทีเดียว ผมเลยได้ไปลองทานร้านดังที่ตรงหน้าโบสเซนต์ปอลมา รสชาติก็คล้ายๆ ทาร์ตไข่ ในร้านขายไก่ทอดบ้านเราดีๆนี้เอง 555555555 +
ระหว่างทางเดินไปขึ้นรถเราก็จะผ่าน เซนาโด้สแควร์ แต่ด้วยความที่อากาศค่อนข้างร้อนเลยไม่ได้เดินดูอะไรมากมาย
ตอนเที่ยงก็เดินทางไปทานอาหารบุฟเฟต์ ณ โรงแรม เป็นอาหารนานาชาติ เป็นมื้อที่หรู และดีที่สุดในทริป
หลังจากนั้นก็ทางไปยัง เวเนเชี่ยน (The Venetian Macao) คาสิโนชื่อดังและยังเป็นคาสิโนที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจ้าคาสิโนแล้วก็ยังมีร้านค้าแบรนด์เนมชื่อดังมากมายให้เลือกซื้อกันอย่างจุใจ เสียหายหลายแสนมากกกก 55555 เพราะหลายอย่างค่อนข้างถูกกว่าที่ไทย
และอีกหนึ่งจุดไฮไลต์ของที่นี้คือท้องฟ้าจำลอง ที่จำลองเมืองเวนิช ประเทศอิตาลี ขนาดใหญ่ใว้ในห้างแห่งนี้ แถมยังมีเรือกอนโดล่า ที่เสริมบรรยากาศให้รู้สึกเหมือนว่าอยู่ในเวนิชจริงๆเลยฮะ
หลังจากนั้นก้เดินทางไปยังสนามบินเพื่อกลับประเทศไทยจ้าาา เป็นอันจบทริป
ไกด์ : 9/10 เพราะรู้สึกว่าทริปที่ผมไปเอาใจใส่ดีมาก ไกด์ท้องถื่นพูดภาษาไทยชัดมาก ทำให้ได้ความรู้ใหม่ๆเยอะเลย
อาหาร : 8/10 ส่วนตัวคิดว่าอาหารที่ทัวร์จัดให้อยู่ในเกรดที่ค่อนข้างดีมากเลยทีเดียว ติดตรงแค่รสชาติอาหารจีนจืดไปหน่อย 55555
ที่พัก : 8/10 ห้องพักกว้าง สบาย มากถึงมากที่สุด แต่ค่อนข้างตั้งอยู่นอกเมือง
โดยส่วนตัวประทับใจ ถือว่าคุ้มว่ามากกับราคาทัวร์ เพราะขนาดตั๋วเครื่องบินก็ปาไปครึ่งนึงของราคาทัวร์แล้ว อาหารบริการเกือบทุกมื้อ ด้วยความที่ไปกับทัวร์แหละเนอะ ก็จะสบายหน่อยๆ เพราะไม้ต้องจัดการอะไร เตรียมไปแค่ตัวกับเงิน ^^
บ๊ายบายยย
[CR] [Review] เที่ยวมาเก๊ากับทัวร์ราคาครึ่งหมื่น ปัง หรือโป๊ะ !!! มาดูกัน
เราตัดสินใจซื้อกับบริษัท Unithai Trip เพราะเขามีแจก Passport Cover แบบในรูปให้ด้วย 55555+ (ไม่เห็นแก่ของฟรีเล๊ยยยย) ปล.เฉพาะบางโปรแกรมนะ
ผมซื้อทัวร์มาเก๊า จูไห่ ราคา 6,XXX 3วัน 2 คืน มาดูกันว่า ปังหรือโป๊ะ
DAY 1
วันแรกทางไกด์ก็นัดเราที่สนามบินดอนเมืองตอน 7 โมงเช้า หลังจากนั้นก็เช็คอิน ผ่าน ตม. บลาๆๆ ตามขั้นตอน ครั้งนี้เราบินกับโลคอร์สหางแดงขาประจำจ้าา
เครื่องออกตอน 10 โมงเช้า ถึงไปมาเก๊าตอน บ่ายโมงกว่าๆ ใช้วลาบินประมาน 2 ชม. ครึ่ง (เวลามาเก๊าเร็วกว่าไทย 1 ชม นะแจ๊ะ)
มาถึงมาเก๊าหลังจากผ่าน ตม.ที่ง่ายแสนง่ายมาแล้ว ก็มีไกด์ท้องถิ่น+กับไกด์คนไทยที่ไปบินไปพร้อมกันกับเรา รวมเป็น 2 คน ขึ้นรถไปยังด่านก๋งเป่ย เพื่อเข้าสู่ จูไห่ประเทศจีนจ้า...ที่จีนเนี่ยเขาต้องใช้วีซ่าด้วยนะ แต่ด้วยความที่ทัวร์จัดการให้หมด ทุกอย่างก็ดูง่ายไปหมด
หลังจากผ่านด่านก๋งเป่ยมาแล้วก็จะมีตลาดกงเป๋ย ตั้งอยู่หน้าด่านเลยจ้า ไกด์ปล่อยให้เราเดินช้อปปิ้งตรงนี้ประมาน 2 ชม. และตลาดนี้ทำให้เรารู้ซึ้งถึงคำว่า " จีนแดง " 555555+ เพราะทุกอย่างล้วนเป็นของก๊อปปี้ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าแบรนด์เนม เสื้อผ้า นาฬิกา บลาๆ ทุกอย่างปลอมไปหมด อย่างว่าแหละ ใครอยากจะซื้อกระเป๋าหลุยส์ใว้ประดับบารมีซักใบสองใบก็ไม่แปลก เพราะที่นี้ ! ก๊อปจนแยกไม่ออกว่าอันไหนแท้ อันไหนปลอม งานHi-end จริงๆ (สนับสนุนให้ใช้ของแท้ดีกว่านะจ้ะ ^^ )
หลังจากนั้นเราก็มาขึ้นรถที่ใกล้ๆตลาดนั้นแหละ หลังจากนั้นไกด์ก็พาเราไปทานอาหารเย็นที่ภัทตาคาร
ปล.อาหารจีนรสชาติก็จะจืดเอามากๆ ใครไปพกน้ำพริกนรกไปก็ดีนะครับ 5555555
หลังจากนั้นก็แยกย้ายเข้าที่พักเพื่อพักผ่อน (ไม่ได้ถ่ายห้องพักใว้เพราะเหนื่อยมากกกกก)
DAY 2
วันที่สองไกด์นัดเราโดยใช้โค้ด 6-7-8 : 6 โมงตื่นโดยจะมี Morning Call จากทางโรงแรม / 7 โมงทานข้าว / 8 โมงออกเดินทาง
สถานที่แรกที่ไปคือ จูไห่ฟิชเชอร์เกิร์ล สาวงามกลางทะเล สัญลักษณ์ของเมืองจูไห่ บรเิวณอ่าวเซียงหูเป็นรูป แกะสลักสงู 8.7 เมตร ถือไข่มุกอยู่ริมทะเล
วันที่สองส่วนมากก็จะใช้เวลาอยู่กับการเข้าช้อปรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็น ร้านบัวหิมะ ที่ขายยานาๆชนิด ที่เขาว่ากันว่าดีมากก
เขาจะมีห้องให้เราเข้าไปนั่งฟังบรรยาย และจะมีน้ำชาร้อนๆให้เราดื่มคนละแก้ว พร้อมกับสปาเท้า และบริการนวดเท้าจากทางร้าน ส่วนตัวผมว่าไม่ได้น่าเบื่ออะไรเพราะได้นวดคลายเส้นจากการเดินมาเมื่อวาน 5555555
หลังจากนั้นก้เดินทางไปยังร้านขายหยก หยกถือเป็นสมบัติล้ำค่าของจีนเลยก็ว่าได้ใครได้ครอบครองก็จะมีสุขภาพแข็งแรงและโชคดี (เขาบอกมาแบบนี้ )
มีทั้งจี้สร้อยคอตามราศี จี้กังหันโชคลาภ บลาๆเยอะแยะเต็มไปหมด ผมไม่ค่อยได้สนใจซักเท่าไหร่
จากนั้นก็พาเราไปทานข้าวเที่ยง และกลับมาที่ร้านผ้าไหมอีกครั้ง เพื่อให้เราได้ช้อปปิ้งกัน
ประมานบ่าย 3 โมงเย็นก็เดินทางไปยังโชว์ Huang Jia Shen Dian Show เป็นการแสดงเล่าเรื่องราวนิยาย และประวัติศาสตร์ของเมืองจีน
ส่วนตัวผมไม่ค่อยอินกับโชว์ซักเท่าไหร่ เพราะฟังภาษาจีนไม่รู้เรื่อง 555555 ผมไม่ได้โง่นะ แค่ฉลาดน้อยไปหน่อย >< เลยเดินออกมาถ่ายรูปเล่นบริเวณรอบๆวัด
หลังจากชมโชว์จบก็ไปรับทานอาหารค่ำที่ภัทตคาร มื้อนี้พิเศษที่ว่ามี ไวด์แดง และหอยเป๋าฮื้อให้ทานด้วย และแน่นอนว่าถ่ายรูปไม่ทันเพราะหิ้ว 555555
ทานเสร็จก็กลับสู่ที่พักในจู่ไห่เหมือนเดิมจ้า นอนที่เดิมไม่ต้องย้ายของไปมาให้วุ่นวาย
DAY 3
เช้าวันที่ 3 ไกด์ใช้โค้ด 6-7-8 เหมือนเดิม เพราะต้องไปด่านกงเฟ๋ยแต่เช้า เพื่อเดินทางไปยังประเทศมาเก๊าครับ หลังจากผ่าน ตม.มาแล้ว ก็เดินทางไปยังแลนด์มาร์กของมาเก๊า ที่เขาว่ากันว่าถ้าไม่ได้มาที่นี้ ถือว่ายังไม่ถึงมาเก๊า ! นั้นก้คือโบสถ์เซนต์ปอล นั้นเอง
ก่อนมาที่นี้ผมได้ไปหาอ่านมาว่าที่นี้มีอะไรอร่อยๆบ้าง เลยเห็นมาว่าทาร์ตไข่ที่นี้ค่อนข้างขึ้นชื่อเลยทีเดียว ผมเลยได้ไปลองทานร้านดังที่ตรงหน้าโบสเซนต์ปอลมา รสชาติก็คล้ายๆ ทาร์ตไข่ ในร้านขายไก่ทอดบ้านเราดีๆนี้เอง 555555555 +
ระหว่างทางเดินไปขึ้นรถเราก็จะผ่าน เซนาโด้สแควร์ แต่ด้วยความที่อากาศค่อนข้างร้อนเลยไม่ได้เดินดูอะไรมากมาย
ตอนเที่ยงก็เดินทางไปทานอาหารบุฟเฟต์ ณ โรงแรม เป็นอาหารนานาชาติ เป็นมื้อที่หรู และดีที่สุดในทริป
หลังจากนั้นก็ทางไปยัง เวเนเชี่ยน (The Venetian Macao) คาสิโนชื่อดังและยังเป็นคาสิโนที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจ้าคาสิโนแล้วก็ยังมีร้านค้าแบรนด์เนมชื่อดังมากมายให้เลือกซื้อกันอย่างจุใจ เสียหายหลายแสนมากกกก 55555 เพราะหลายอย่างค่อนข้างถูกกว่าที่ไทย
และอีกหนึ่งจุดไฮไลต์ของที่นี้คือท้องฟ้าจำลอง ที่จำลองเมืองเวนิช ประเทศอิตาลี ขนาดใหญ่ใว้ในห้างแห่งนี้ แถมยังมีเรือกอนโดล่า ที่เสริมบรรยากาศให้รู้สึกเหมือนว่าอยู่ในเวนิชจริงๆเลยฮะ
หลังจากนั้นก้เดินทางไปยังสนามบินเพื่อกลับประเทศไทยจ้าาา เป็นอันจบทริป
ไกด์ : 9/10 เพราะรู้สึกว่าทริปที่ผมไปเอาใจใส่ดีมาก ไกด์ท้องถื่นพูดภาษาไทยชัดมาก ทำให้ได้ความรู้ใหม่ๆเยอะเลย
อาหาร : 8/10 ส่วนตัวคิดว่าอาหารที่ทัวร์จัดให้อยู่ในเกรดที่ค่อนข้างดีมากเลยทีเดียว ติดตรงแค่รสชาติอาหารจีนจืดไปหน่อย 55555
ที่พัก : 8/10 ห้องพักกว้าง สบาย มากถึงมากที่สุด แต่ค่อนข้างตั้งอยู่นอกเมือง
โดยส่วนตัวประทับใจ ถือว่าคุ้มว่ามากกับราคาทัวร์ เพราะขนาดตั๋วเครื่องบินก็ปาไปครึ่งนึงของราคาทัวร์แล้ว อาหารบริการเกือบทุกมื้อ ด้วยความที่ไปกับทัวร์แหละเนอะ ก็จะสบายหน่อยๆ เพราะไม้ต้องจัดการอะไร เตรียมไปแค่ตัวกับเงิน ^^
บ๊ายบายยย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้