รีวิว ทริปมาเก๊า-จูไห่ 3วัน 2คืน (เฮฮาตลอดสาย)

รีวิวทริปมาเก๊า-จูไห่ 3วัน 2คืน บรรยายโดยก๊วนกระรอก
เดินทาง 26-28 พ.ค.59
**ใช้บริการของ ทัวร์ CU CENTER**
>>ทริปนี้ตั้งชื่อว่า ทริปกระรอกคะ ผู้ร่วมก๊วนไปกัน 8 คน<<
เดินทางโดยสายการบิน THAI SMILE (WE)
ไปเที่ยวบินที่     WE670  BKK-MFM 10:50-14:35
กลับเที่ยวบินที่  WE671  BKK-MFM 15:20-17:05
รายละเอียดตามด้านล่างเลยคร่าาา


07:30  นัดรวมพลที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น4 เคาน์เตอร์E สายการบิน THAI SMILE (WE)

เตรียมโหลดกระเป๋า และเช็คลูกทัวร์ของตนว่าครบมั้ย  เวลาเหลือค่อนข้างเยอะเพราะขึ้นเครื่อง 10:50 น. ทีนี้ทำไรละ 555
เดินหาของกินในสนามบินไปก่อนละกัน เสร็จแล้วก็เข้า ตม. ไปหาที่นั่งเล่นข้างใน เดินดูของไปเรื่อย ...

โฉมหน้าสาวสวยผู้ร่วมทริปกระรอกจร้าาา >>มีคู่ฮันนีมูลด้วย<<


ได้เวลาก็เตรียมขึ้นเครื่องกันเลยจร้า


เครื่องขึ้นได้ซักพัก อาหารเช้าก็มาเสริ์ฟ หน้าตาน่าอร่อยใช่มั้ยคะ 5555 (ต้องลองซะแล้ววว)


อิ่มแล้วก็หลับซิคะ เพราะออกจากบ้านตั้งแต่ 04:30 น.
ง่วงมว๊ากกกก นอนจนปวดคอเลย ^^
...ใกล้จะถึงละค่ะ กัปตันบอก... แอบรู้สึกตื่นเต้นนิดๆๆคะเพราะทริปนี้เป็นครั้งแรกที่มาเที่ยวต่างประเทศ

ถึงสนามบินมาเก๊าแล้วคร่าาาา


ก่อนที่จะเข้าไปในอาคารของสนามบินก็ต้องผ่าน ตม.ของสนามบินก่อนนะคะ หน้าตาด่านแบบนี้เลยคะ


เจ้าหน้าที่ก็จะออกใบแบบนี้มาให้เราติดตัวเอาไว้คะ


เสร็จแล้วก็เดินมารอลูกทัวร์คนอื่นๆๆก่อน เอ๊ะ! ที่นี่มี wififree ของสนามบินให้เล่นคะ (ดีใจมาก) เพราะเราไม่ได้เปิดโรมมิ่งมาจากไทย เล่นได้ซักพักก็ต้องออกเดินทางต่อละคะ เดินตามหัวหน้าทัวร์และไกด์มาเก๊าไปที่ลานจอดรถข้างนอกสนามบินคะ แปปเดียวก็ถึงแล้ว

อ่อ คนขับรถที่มาเก๊าไม่ยกกระเป๋าเดินทางให้เรานะคะ เขาให้เรายกขึ้นเอง แต่โชคดีคะหัวหน้าทัวร์เขาบริการให้ทุกอย่างเลย
>>บริการดีมาก<< เหงื่อนี่ท่วมขึ้นรถมาเลยคะ

พอทุกคนนั่งประจำที่เรียบร้อยแล้ว หัวหน้าทัวร์ก็จะแจกสติ๊กเกอร์ให้เราแปะที่เสื้อเอาไว้ พร้อมแจกน้ำเปล่าคนละ 1 ขวด **น้ำเปล่าที่มาเก๊าแพงมาก รักษาเท่าชีพนะคะ** 555

ถนนในมาเก๊าคะ ดูสะอาดมากๆๆ ไม่มีสายไฟให้เห็นเหมือนบ้านเรา


โปรแกรมวันแรกเริ่มแล้วค๊าา
วัดอาม่า>ร้านขนมพื้นเมืองมาเก๊า>เจ้าแม่กวนอิมริมทะเล
>โบสถ์เซ็นต์ปอล>เซนาโด้สแควร์>เวเนเซี่ยน>จูไห่

เริ่มกันที่วัดอาม่าก่อนเลยคะ  วัดอาม่าหรือที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันในนามว่า เจ้าแม่ทับทิม ตั้งอยู่บริเวณเขาบาร์ร่า อยู่ในตัวเมืองมาเก๊า



ตามรูปคือต้องจุดธูปไหว้ข้างนอกนะคะ เนื่องจากด้านในเกิดไฟไหม้ ทางเจ้าหน้าที่ก็เลยปิดไม่ให้เข้าคะ


จากนั้นไปต่อกันที่ร้านขนมพื้นเมืองมาเก๊า เป็นร้านเล็กๆๆ ขนมมีชื่อก็จะเป็นขนมผัวจ๋า เมียจ๋า น้ำมันตับปลา ครีมรกแกะ และก็หมูแผ่น
*จุดนี้ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ชมนะคะ มัวแต่ซื้อครีมรกแกะอยู่ 555 เพราะที่นี่เป็นเมืองปลอดภาษีเลยทำให้ไม่ค่อยแพงมากนัก จากนั่นขึ้นรถไปอีกนิดเดียวคะ และก็ลงเดินข้ามถนนไปริมทะเล

มุมเดินข้ามถนนก็มี ^^


ตรงนี้เป็นจุดที่สวยคะ เดินข้ามมากันไปเห็นต้องรีบถ่ายเก็บไว้ดู ตรงบริเวณริมทะเลมาเก๊า ใกล้ๆๆกับองค์พระแม่กวนอิม


จากนั้นไปต่อกันที่องค์เจ้าแม่กวนอิมริมทะเลกันเลยคะ
องค์เจ้าแม่กวนอิมตั้งอยู่บนฐานดอกบัวขนาดใหญ่ สร้างด้วยทองสัมฤทธิ์ทั้งองค์ มีความสูง 1.8 เมตร น้ำหนัก 1.8 ตัน สร้างโดยชาวโปตุเกสเมื่อมีโอกาสคืนเกาะมาเก๊าให้แก่ทางการจีนคะ


ไกด์บอกว่า เวลาขอพรต้องยืนตรงจุดหมายเลข8 คะ เพราะทางจีนเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยมาก

พี่สาวถ่ายให้ ช่างสวยงามอะไรเช่นนี้ ^^

เสร็จแล้วเราจะไปต่อกันที่โบสถ์เซ็นต์ปอล
โบสถ์เซ็นต์ปอลสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1602 ต่อมาในปี ค.ศ.1835 ได้เกิดเพลิงไหม้จึงทำให้เกิดความเสียหาย ต่อมา ค.ศ.1991 ได้รับการบูรณะใหม่และคงเหลือไว้เพียงแต่ประตูหน้าและบรรไดทางเข้าอย่างที่เห็น

มุมนี้ด้านหลัง


มุมนี้ด้านหน้าคะ

จากนั้นมองลงไปก็จะเจอเซนาโด้แสควร์

เซนาโด้แสควร์เป็นย่านการค้า มีสินค้าเยอะแยะมากมาย ที่สำคะญ แพง! 5555 เดินเล่นซักพักก็จะไปต่อกันที่ เวเนเซี่ยนค่าา
นั่งรถต่ออีกไม่นานคะ ไม่เกิน 15 นาที เราก็จะเจอกับโรงแรมคาสิโนสุดหรูของมาเก๊าคะ

เห็นแค่นี้ก็ ตะลึงละคะ


ป้ายด้านหน้าทางเข้าคะ

พอเดินเข้าไปก็ไฮโซมากคะ ที่นี่มี wififree ให้เล่นคะ เดินเข้าไปนิดเดียวก็จะเจอบ่อนคาสิโนอยู่ด้านล่างคะ แต่ห้ามถ่ายรูปนะคะ ไม่งั้นจะโดนปรับ 3,000 บาท ... เลยแอบถ่ายแบบนี้มาคะ 5555

ด้วยความอย่กรู้อยากเห็นว่าจะเหมือนในหนังที่เราดูกันรึเปล่า ...ยังไม่ทันจะเข้าเลยก็โดนขอดูพาสปอร์ตซะงั้น... ที่นี่มีกฏคะ อายุไม่ถึง 21 ปีห้ามเข้าคะ (หรือว่าเราหน้าเด็ก)

ขึ้นบรรไดเลื่อนไปชั้น2 ก็จะเจอกับท้องฟ้าจำลองแบบอิตาลี่คะ
ภายในเดอะเวเนเซี่ยนมีร้านค้าให้ช็อปเยอะมากเลยคะ



จากนั้นก็ได้เวลาอาหารมื้อเย็นของเรากันแล้ว
ด้วยความหิวโหยยย 5555

เห็นอาหารแล้วเพลียคะ 55555 ไม่ใช่ไม่อร่อยนะคะ
แต่มันจืดดดดดดดมาก และที่สำคัญน้ำแข็งไม่มี น้ำเปล่าก็ไม่มีเช่นกัน นี่แหละเขาเรียกว่ามาเรียนรู้วัฒนธรรมจีน การกินอยู่ของเขาเป็นแบบนี้นี่เอง คนจีนถึงได้อายุยืน เพราะอาหารส่วนใหญ่ต้องมีชา มีซุป มีผัก ไม่มีรสจัดเหมือนบ้านเรา

ทานกันเสร็จก็นั่งรถต่ออีกประมาณ 20 นาที เตรียมเดินทางสู่เมืองจูไห่ของประเทศจีน ผ่านด่านตรวจอีกแล้วววคร่าา

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่