Timeline คร่าวๆนะคะ คือเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2560 เราได้ตกลงว่างจ้างให้เอเจนท์แห่งหนึ่ง จัดการเรื่องขอวีซ่านักเรียน 6 เดือนและสมัครเรียนกับสถาบันภาษาแห่งหนึ่งให้(เอเจ้นท์มีสำนักงานอยู่ที่ซิดนีย์และเจ้าหน้าที่ที่เราติดต่อด้วยเป็นคนไทย-แน่ใจว่ามีจริงเพราะตอนนั้นรุ่นน้องเรียนอยู่) เราไปตรวจร่างกายแล้ว ส่งเอกสารครบแล้ว รอผลวีซ่าออกเตรียมบินอย่างเดียว
ต่อมาในเดือนกันยายนทางเอเจนท์แจ้งว่าทางสถาบันภาษาที่เราเลือกได้ปฏิเสธการรับนักเรียนไทยให้เราเลือกสถาบันใหม่ พอเราตกลงเปลี่ยนสถาบันทางเอเจ้นท์ก็สมัครให้ใหม่ เราก็ตามต่อจนได้ COE
**เพิ่งจะทราบตอนรอวีซ่ารอบที่ 2 นี่เองค่ะว่าปกติแล้วต้องไปสแกนลายนิ้วมือที่ VFS ภายในกี่วันๆหลังจากที่ตรวจร่างกายเสร็จแล้ว แต่ของเราเพิ่งได้สแกนลายนิ้วมือตอนเดือนตุลาคมระหว่างรอผลวีซ่ารอบที่ 2 **
พอเวลาผ่านไปเกือบ 3 เดือน เราก็ตัดสินใจขอยกเลิกวีซ่าเนื่องจากแพลนที่เราวางไว้ วันจบคอร์สเรียนภาษา-การเปิดภาคของมหาวิทยาลัยไม่สัมพันธ์กัน คือตารางที่เราวางไว้รวนไปหมด (ยื่นวีซ่ารอบสองวันที่ 5 ตุลาคม 2560 ยื่นเรื่องขอยกเลิกวีซ่า 26 ธันวาคม 2560)
เราก็คุย ตกลงกับเอเจ้นท์เรียบร้อยว่ามีปัญหาอะไรไหม ถ้าจะขอยกเลิก มีประวัติที่สถานทูตหรือเปล่า เขาก็ว่าไม่มีอะไรๆเดี๋ยวเขาจัดการให้ แต่เรื่อง Process ต่างๆจะใช้เวลาประมาณ 20-30 วันทำการนะ บลา บลา เราก็โอเคเรารอได้
ตั้งแต่วันนั้นมาเราก็ตามตลอดทางอีเมล์จนได้เงินก้อนแรก 39,000 กว่าๆมาเมื่อประมาณเดือนมีนาคม ยังเหลืออีก 150,000
เราตามในเมล์ส่วนตัวตลอด จนเริ่มตามในเมล์กลางของบริษัทกับเมล์เจ้าของบริษัท ได้รับอีเมล์ตอบกลับมาจากเจ้าของว่ากำลังตามเจ้าหน้าที่คนนี้ให้อยู่ แล้วก็กำหนดวันไปเรื่อยว่าภายในวันนั้น วันนี้ ล่าสุดคือบอกว่าจะให้คืนภายในสิ้นเดือนก่อนจะผลัดมาวันที่ 3 กรกฎาคมซึ่งก็คือวันนี้
**และที่พีคยิ่งกว่านั้น เราตามไปยังสถาบันภาษาที่ล่าสุดที่เราสมัครไป เขาบอกว่า COE ที่เราแนบให้ไปเช็คเป็นของปลอม " This document has been forged. I was asking you questions because I wanted to find out who had forged the document. This is a criminal offence in Australia " ให้แจ้งความ!** --- จริงๆเราไม่ฟันธงว่าเป็นความผิดใคร หรือใครเป็นคนทำ เจ้าหน้าที่ เอเจนท์เกี่ยวข้องไหม แค่ทางสถาบันตอบเมล์กลับมาในเชิงว่าเอกสารเป็นของปลอมเท่านั้นไม่มีเจตนาจะปรักปรำใครทั้งสิ้น --
เราก็เลยตัดสินใจที่จะไปแจ้งความเพราะเจ้าหน้าที่คนนั้นมีภูมิลำเนาอยู่ไทยซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนรวบรวมหลักฐาน แต่สงสัยเรื่องแจ้งความที่ออสเตรเลียว่าเราจะสามารถทำได้ไหม หรือถ้าทำได้ต้องติดต่อยังไงบ้าง ส่วนทางสถานทูตกำลังติดต่ออยู่ค่ะอาจจะไปอีเมล์ไปแจ้งไว้เบื้องต้น
รบกวนถามผู้มีประสบการณ์หรือพอจะทราบวิธีที่จะจัดการเรื่องนี้ด้วยค่ะ
ขอน้อมรับคำติไว้ล่วงหน้าเพราะจริงๆเรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นบ่อย เพียงแต่ตอนเราสมัครเราว่าเราตรวจสอบระดับนึงแล้วว่าไม่หลักลอย มีแหล่งที่อยู่ชัดเจน มีใบที่ออกจากทางบริษัท มี COE จริง (เพียงแต่เพิ่งทราบว่ามีการปลอมแปลง COE นี่แหละค่ะ)
ปล.ไม่เคยคิดเลยว่าวันนึงจะต้องมาตั้งกระทู้ซะเอง แต่คิดว่าถ้าเรื่องนี้เรียบร้อยจบลงไม่ว่าทางดีหรือทางร้ายจะรวบรวมหลักฐาน ลำดับเหตุการณ์ วิธีดำเนินการอย่างละเอียด เพื่อเตือนทุกคนรวมทั้งตัวเองไว้เป็นอุทาหรณ์ต่อไปค่ะ
**แก้ไขข้อมูล/ชี้แจงเพิ่มเติม**
1.เรากับน้องตามจนได้เงินคืนทั้งหมดแล้วเมื่อวานนี้(4/7/2018) เลยยังไม่ได้ดำเนินการใดๆทางกฎหมาย
2.เรื่องเอกสารปลอม เราส่งอีเมล์ขอคอนเฟิร์มกับทางโรงเรียนว่าเอกสารที่เขาบอกว่าเป็นของปลอมนี่คือเรื่องจริงใช่ไหมเพราะเรื่องนี้ใหญ่มากเกินกว่าจะปรักปรำใคร เขาก็ตอบกลับมาว่า " We did not receive any payment for your course so there is nothing further to pursue with us. If you have paid money to an agency, I suggest you contact that agency for a refund and show your evidence of the money you have paid them. Good Luck! "
3.ถ้าเป็นอย่างที่ความเห็นที่ 3 บอกจริง เราก็ยังสงสัยอยู่ดีว่าทำไมเราได้เข้าไปสแกนนิ้วที่ VFS คือถ้าเอกสารปลอมมันจะรันระบบไม่ได้ถูกไหม? ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน แต่ที่แน่ๆเอกสารตามที่คห.3แนะนำว่าควรจะมีเราแน่ใจว่ามีอยู่ 1-2 ข้อ --ยอมรับว่าเป็นความประมาทของเราเอง ประกอบกับไม่มีความรู้มาก่อนว่าควรจะต้องมีเอกสารอะไรเอาไว้ Track นอกจาก COE
สรุปคือ ดูเอกสารและขั้นตอนทุกอย่างให้รอบคอบ
ถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นเราต้องมีทางรอดของเราเองรวมทั้งใช้วิทยายุทธ์ส่วนตัวในการที่จะไปตามเงินคืนมา
- เราส่งอีเมล์ไปทางสถานทูตแจ้งกลับมาว่า "ปรกติทางสถานทูตฯจะไม่มีการรับรองบริษัทเอเจ้นท์ใดๆเลยค่ะ แต่จะแนะนำให้นักศึกษาดูจากเอเจ้นท์ที่มีความเชี่ยวชาญหรือเป็นสมาชิกของสมาคมผู้ประกอบการแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศหรือดูว่าเป็นเอเจ้นท์ที่ได้รับการแต่งตั้งจริงจากสถาบันออสเตรเลียที่เราจะสมัครโดยตรวจสอบได้จากเว็บของสถาบันค่ะ"
- ถ้าเอเจ้นท์มีสำนักงานอยู่ที่ไทยให้แจ้งตำรวจที่ไทย
- ส่งเมล์ไปตามที่โรงเรียนก็อย่างที่แจ้งไปแล้ว
- ส่งเมล์ไปหาบริษัท ไม่แน่ใจว่าทางบริษัทเอเจ้นท์อื่นๆระบบเป็นยังไงแต่ที่เจอมาคือเขาจะตามให้เจ้าหน้าที่คนนั้นรับผิดชอบอย่างเดียว โดยที่ถ้าความคิดเราเอเจ้นท์น่าจะออกเงินคืนให้เราก่อนได้เพราะยังไงเจ้าหน้าที่คนนั้นก็ทำในนามบริษัท
ปล.ขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำทุก comment นะคะ
[ขอความช่วยเหลือ] สอบถามผู้มีประสบการณ์ทวงเงินเอเจ้นท์ที่ออสเตรเลียค่ะ แจ้งตำรวจที่ไทย แจ้งสถานทูต แล้วทำอะไรได้อีกคะ?
ต่อมาในเดือนกันยายนทางเอเจนท์แจ้งว่าทางสถาบันภาษาที่เราเลือกได้ปฏิเสธการรับนักเรียนไทยให้เราเลือกสถาบันใหม่ พอเราตกลงเปลี่ยนสถาบันทางเอเจ้นท์ก็สมัครให้ใหม่ เราก็ตามต่อจนได้ COE
**เพิ่งจะทราบตอนรอวีซ่ารอบที่ 2 นี่เองค่ะว่าปกติแล้วต้องไปสแกนลายนิ้วมือที่ VFS ภายในกี่วันๆหลังจากที่ตรวจร่างกายเสร็จแล้ว แต่ของเราเพิ่งได้สแกนลายนิ้วมือตอนเดือนตุลาคมระหว่างรอผลวีซ่ารอบที่ 2 **
พอเวลาผ่านไปเกือบ 3 เดือน เราก็ตัดสินใจขอยกเลิกวีซ่าเนื่องจากแพลนที่เราวางไว้ วันจบคอร์สเรียนภาษา-การเปิดภาคของมหาวิทยาลัยไม่สัมพันธ์กัน คือตารางที่เราวางไว้รวนไปหมด (ยื่นวีซ่ารอบสองวันที่ 5 ตุลาคม 2560 ยื่นเรื่องขอยกเลิกวีซ่า 26 ธันวาคม 2560)
เราก็คุย ตกลงกับเอเจ้นท์เรียบร้อยว่ามีปัญหาอะไรไหม ถ้าจะขอยกเลิก มีประวัติที่สถานทูตหรือเปล่า เขาก็ว่าไม่มีอะไรๆเดี๋ยวเขาจัดการให้ แต่เรื่อง Process ต่างๆจะใช้เวลาประมาณ 20-30 วันทำการนะ บลา บลา เราก็โอเคเรารอได้
ตั้งแต่วันนั้นมาเราก็ตามตลอดทางอีเมล์จนได้เงินก้อนแรก 39,000 กว่าๆมาเมื่อประมาณเดือนมีนาคม ยังเหลืออีก 150,000
เราตามในเมล์ส่วนตัวตลอด จนเริ่มตามในเมล์กลางของบริษัทกับเมล์เจ้าของบริษัท ได้รับอีเมล์ตอบกลับมาจากเจ้าของว่ากำลังตามเจ้าหน้าที่คนนี้ให้อยู่ แล้วก็กำหนดวันไปเรื่อยว่าภายในวันนั้น วันนี้ ล่าสุดคือบอกว่าจะให้คืนภายในสิ้นเดือนก่อนจะผลัดมาวันที่ 3 กรกฎาคมซึ่งก็คือวันนี้
**และที่พีคยิ่งกว่านั้น เราตามไปยังสถาบันภาษาที่ล่าสุดที่เราสมัครไป เขาบอกว่า COE ที่เราแนบให้ไปเช็คเป็นของปลอม " This document has been forged. I was asking you questions because I wanted to find out who had forged the document. This is a criminal offence in Australia " ให้แจ้งความ!** --- จริงๆเราไม่ฟันธงว่าเป็นความผิดใคร หรือใครเป็นคนทำ เจ้าหน้าที่ เอเจนท์เกี่ยวข้องไหม แค่ทางสถาบันตอบเมล์กลับมาในเชิงว่าเอกสารเป็นของปลอมเท่านั้นไม่มีเจตนาจะปรักปรำใครทั้งสิ้น --
เราก็เลยตัดสินใจที่จะไปแจ้งความเพราะเจ้าหน้าที่คนนั้นมีภูมิลำเนาอยู่ไทยซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนรวบรวมหลักฐาน แต่สงสัยเรื่องแจ้งความที่ออสเตรเลียว่าเราจะสามารถทำได้ไหม หรือถ้าทำได้ต้องติดต่อยังไงบ้าง ส่วนทางสถานทูตกำลังติดต่ออยู่ค่ะอาจจะไปอีเมล์ไปแจ้งไว้เบื้องต้น
รบกวนถามผู้มีประสบการณ์หรือพอจะทราบวิธีที่จะจัดการเรื่องนี้ด้วยค่ะ
ขอน้อมรับคำติไว้ล่วงหน้าเพราะจริงๆเรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นบ่อย เพียงแต่ตอนเราสมัครเราว่าเราตรวจสอบระดับนึงแล้วว่าไม่หลักลอย มีแหล่งที่อยู่ชัดเจน มีใบที่ออกจากทางบริษัท มี COE จริง (เพียงแต่เพิ่งทราบว่ามีการปลอมแปลง COE นี่แหละค่ะ)
ปล.ไม่เคยคิดเลยว่าวันนึงจะต้องมาตั้งกระทู้ซะเอง แต่คิดว่าถ้าเรื่องนี้เรียบร้อยจบลงไม่ว่าทางดีหรือทางร้ายจะรวบรวมหลักฐาน ลำดับเหตุการณ์ วิธีดำเนินการอย่างละเอียด เพื่อเตือนทุกคนรวมทั้งตัวเองไว้เป็นอุทาหรณ์ต่อไปค่ะ
**แก้ไขข้อมูล/ชี้แจงเพิ่มเติม**
1.เรากับน้องตามจนได้เงินคืนทั้งหมดแล้วเมื่อวานนี้(4/7/2018) เลยยังไม่ได้ดำเนินการใดๆทางกฎหมาย
2.เรื่องเอกสารปลอม เราส่งอีเมล์ขอคอนเฟิร์มกับทางโรงเรียนว่าเอกสารที่เขาบอกว่าเป็นของปลอมนี่คือเรื่องจริงใช่ไหมเพราะเรื่องนี้ใหญ่มากเกินกว่าจะปรักปรำใคร เขาก็ตอบกลับมาว่า " We did not receive any payment for your course so there is nothing further to pursue with us. If you have paid money to an agency, I suggest you contact that agency for a refund and show your evidence of the money you have paid them. Good Luck! "
3.ถ้าเป็นอย่างที่ความเห็นที่ 3 บอกจริง เราก็ยังสงสัยอยู่ดีว่าทำไมเราได้เข้าไปสแกนนิ้วที่ VFS คือถ้าเอกสารปลอมมันจะรันระบบไม่ได้ถูกไหม? ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน แต่ที่แน่ๆเอกสารตามที่คห.3แนะนำว่าควรจะมีเราแน่ใจว่ามีอยู่ 1-2 ข้อ --ยอมรับว่าเป็นความประมาทของเราเอง ประกอบกับไม่มีความรู้มาก่อนว่าควรจะต้องมีเอกสารอะไรเอาไว้ Track นอกจาก COE
สรุปคือ ดูเอกสารและขั้นตอนทุกอย่างให้รอบคอบ
ถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นเราต้องมีทางรอดของเราเองรวมทั้งใช้วิทยายุทธ์ส่วนตัวในการที่จะไปตามเงินคืนมา
- เราส่งอีเมล์ไปทางสถานทูตแจ้งกลับมาว่า "ปรกติทางสถานทูตฯจะไม่มีการรับรองบริษัทเอเจ้นท์ใดๆเลยค่ะ แต่จะแนะนำให้นักศึกษาดูจากเอเจ้นท์ที่มีความเชี่ยวชาญหรือเป็นสมาชิกของสมาคมผู้ประกอบการแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศหรือดูว่าเป็นเอเจ้นท์ที่ได้รับการแต่งตั้งจริงจากสถาบันออสเตรเลียที่เราจะสมัครโดยตรวจสอบได้จากเว็บของสถาบันค่ะ"
- ถ้าเอเจ้นท์มีสำนักงานอยู่ที่ไทยให้แจ้งตำรวจที่ไทย
- ส่งเมล์ไปตามที่โรงเรียนก็อย่างที่แจ้งไปแล้ว
- ส่งเมล์ไปหาบริษัท ไม่แน่ใจว่าทางบริษัทเอเจ้นท์อื่นๆระบบเป็นยังไงแต่ที่เจอมาคือเขาจะตามให้เจ้าหน้าที่คนนั้นรับผิดชอบอย่างเดียว โดยที่ถ้าความคิดเราเอเจ้นท์น่าจะออกเงินคืนให้เราก่อนได้เพราะยังไงเจ้าหน้าที่คนนั้นก็ทำในนามบริษัท
ปล.ขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำทุก comment นะคะ