เรื่องนี้ต้องย้อนไปตั้งแต่ที่เราย้ายมาเรียนที่นิวซีแลนด์ค่ะ ตอนปีแรกที่เรามาเรียน เราพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย แล้วตอนนั้นเหมือนจะมีกลุ่มเด็กผู้ชายเมารีมั้งคะ ชอบมาแซว ชอบมาทักเรา หยอกนู่นนี่นั่น แต่ตอนนั้นเราไม่สนใจ เพราะเราเป็นคนขี้อายด้วย ไม่มีเพื่อนด้วยเพราะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้
(กลางปี2016)มีวันนึงค่ะที่เรากำลังจะเข้าเรียนคาบต่อไป เรารู้สึกเหมือนมีคนเดินตามหลังค่ะ พอเราหันไป เราก็เจอเด็กผู้ชาย(น่าจะเป็นเมารี)สูงๆ หน้าตาก็ไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้จัดว่าหล่อนะคะ เขาเดินตามหลังเรามา พอเราหันไปเจอเขา เขาก็ยิ้มให้เรา เราก็งงค่ะ เราก็เดินต่อไป แล้วจู่ๆเขาก็เข้ามากอดเราจากด้านข้างค่ะ เราตกใจมาก ทำอะไรถูก มองหน้าเขาแล้วช็อคไปสักแปปเลยค่ะ เพราะนั่นเป็นกอดแรกจากผู้ชาย(ผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่พ่อ)
จากนั้นเราก็มองเขาตลอดเลยค่ะ ตอนนั้นความรู้สึกยังไม่ได้ชอบนะคะ แต่ไม่รู้ทำไม ถึงชอบมองเขาบ่อยๆ
(ช่วงเกือบปลายปี2017)แล้วก็มีครั้งนึงค่ะที่เรากำลังเดินกลับบ้าน แล้วเขากับเพื่อนเดินตามหลังเรามา แล้วเขาก็เรียกเรา แล้วก็เซ hi ค่ะ แล้วเพื่อนเขาคนนึงก็พูดขึ้นมาว่า คนนี้ชอบเรา เราก็เขิน เขาก็เขินค่ะ แล้วพอเราหันกลับมา เราก็พบว่า เรากำลังจะ เดินสนเสาไฟฟ้า ค่ะ 555 เขินจนหน้าดำหน้าแดง พอเรากลับบ้านไป เราก็ถามในเมสเสจทันทีว่าที่เพื่อนเขาพูดเป็นเรื่องจริงไหม เขาก็บอกว่า อาจจะใช่ ค่ะ
****มาปีนี้เราตัดสินใจที่จะบอกชอบเขาไป เพราะเราคิดว่าเราชอบเขาคะ แต่เราบอกในเมสเสจนะคะ เพราะเราอายที่จะพูดกับเขา เพราะไม่เคยคุยกันจริงๆสักครั้ง
แต่พอเราบอกไป เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธแต่ก็ไม่ได้รับรัก เขาแค่บอก you pretty cute ค่ะ เราไม่แน่ใจว่าเขาปฏิเสธรึป่าวค่ะ
จากนั้นเราก็ไม่เคยคุยกันที่โรงเรียนนะคะ แต่เราไปดูเขาเล่นบาสบ่อยๆ เพราสนามบาสอยู่หน้าโรงอาหาร เราก็หาข้ออ้างไปโรงอาหารประจำ
แล้วมีครั้งนึงที่เรามีปัญหาเรื่องพาสปอร์ต เราเลยต้องหยุดเรียนไปเกือบ3สัปดาห์ ตอนนั้นเราเคยทักเขาไปในเมสเสจ เราก็คุยนิดหน่อย แล้วเขาก็บอกว่า เราไปไหน ทำไมช่วงนี้เขาไม่เห็นเราเลยที่โรงเรียน เราก็รู้สึกดีใจมากๆค่ะที่เขาสังเกตเรา วันถัดมาพาสปอร์ตเราก็ไม่มีปัญหาแล้ว เราก็เลยได้ไปโรงเรียนเฉยเลยค่ะ ตอนนั้นเราเคยคุยกันในเมสเสจว่าเราไม่กล้าคุยกับเขาที่โรงเรียน เขาเลยบอกว่าเขาจะทักเราเอง แล้วเขาก็ทักจริงๆค่ะ กลางสนามบาสเลย เราทั้งอายทั้งเขิน ทำตัวไม่ถูก แล้วเวลาเราเขินเราจะทำหน้าขรึมๆอ่ะค่ะ555 แล้วเราก็เคยบอกเขาว่าเราชอบดูเขาเล่นบาส แล้วเขาก็บอกว่า เราน่าจะเล่นบ้าง เราก็ช็อคค่ะ เพราะเล่นกีฬาไม่เป็นสักอย่าง บาสนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย ห่วยแตกเลยค่ะเราอ่ะ เราก็ตอบเขาไปว่า เราเล่นไม่เป็น เขาก็บอกว่าจะสอนให้ ถ้าเขาว่างค่ะ
มาถึงตอนนี้เขายังไม่ว่างเลยค่ะ แต่เราไม่ว่าอะไรหรอกเพราะเราก็ไม่ว่าง ****เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้วนะคะ (มิถุนายน2018)
(อาทิตย์ก่อน) อาทิตย์ก่อนเป็นอะไรที่แปลกมากๆเลยค่ะ เพราะอยู่ๆเขาก็ทักเราถึง3ครั้ง คือเรางงมาก เพราะเขาไม่ได้ทักเราตั้งนานแล้ว แต่เราก็ดีใจนะคะที่เขาทักเรา ถึงแม้จะไม่ได้คุยกันก็ตาม จริงๆเราเคยบอกเขาว่าเราจะทักเขา แต่ผ่านมาเป็นเดือน ก็ยังไม่มีความกล้าที่จะทักเลยค่ะ เฮอะๆ
ตอนนี้โรงเรียนเราประกาศว่าจะมีงาน school ball ค่ะ(งานเลี้ยงส่งค่ะ เหมือนงานเต้นรำในหนังวัยรุ่นฝรั่งค่ะ ที่ต้องแต่งตัวสวยๆไป แล้วหาคู่ควงไป อิอิ)
เราตัดสินใจเมสเสจชวนเขาไป แต่เขาบอกว่าเขาอาจจะไป
เราก็เลยบอกเขาไปว่า ถ้าเขาไป เราขอเป็นบัดดี้เขาได้ไหม เขาก็ตอบว่าแน่นอนค่ะ (เราเขินมาก เขินแบบช็อคตายคาเตียงค่ะ เขินจนดิ้นตกจากเตียงอ่ะค่ะ5555) แต่เราก็แอบนอนนิดๆนะคะ เพราะเราไม่แน่ใจว่าเขาจะไปรึเปล่า :<
อืมมมม พอเช่ามาถึงตรงนี้เราก็รู้สึกว่า ‘เราค่อนข้างออกนอกประเด็นไปนิดนึงนะ’ 5555
คือเราจะถามว่า ที่เราเล่ามาทั้งหมด คิดว่าเราพอมีหวังที่จะสมหวังไหมคะ?
แล้วก็ เราควรทำอย่างไรดีคะ? คือเราพยายามดึงความกล้าออกมา เพราะอยากคุยกับเขามาก แต่ภาษาของเรายังไม่แข็งด้วย จริงๆ เกือบจะพูดไม่ได้ แต่เขียนกับอ่านไปได้ดีกว่า เรากลัวเขาจะรำคาญเราด้วยค่ะ เพราะพูดไม่รู้เรื่อง:< (ออกนอกประเด็นอีกละ
)
(ถ้าสงสัยอะไรตรงไหน ก็ถามได้นะคะ เพราะเราไม่ได้เขียนไทยแบบยาวๆบ่อย อาจจะสับสนในการเรียงความนึดนึง)
เราคิดไปเองรึเปล่า ว่าคนที่เราแอบชอบก็รู้สึกดีกับเรา?
(กลางปี2016)มีวันนึงค่ะที่เรากำลังจะเข้าเรียนคาบต่อไป เรารู้สึกเหมือนมีคนเดินตามหลังค่ะ พอเราหันไป เราก็เจอเด็กผู้ชาย(น่าจะเป็นเมารี)สูงๆ หน้าตาก็ไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้จัดว่าหล่อนะคะ เขาเดินตามหลังเรามา พอเราหันไปเจอเขา เขาก็ยิ้มให้เรา เราก็งงค่ะ เราก็เดินต่อไป แล้วจู่ๆเขาก็เข้ามากอดเราจากด้านข้างค่ะ เราตกใจมาก ทำอะไรถูก มองหน้าเขาแล้วช็อคไปสักแปปเลยค่ะ เพราะนั่นเป็นกอดแรกจากผู้ชาย(ผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่พ่อ)
จากนั้นเราก็มองเขาตลอดเลยค่ะ ตอนนั้นความรู้สึกยังไม่ได้ชอบนะคะ แต่ไม่รู้ทำไม ถึงชอบมองเขาบ่อยๆ
(ช่วงเกือบปลายปี2017)แล้วก็มีครั้งนึงค่ะที่เรากำลังเดินกลับบ้าน แล้วเขากับเพื่อนเดินตามหลังเรามา แล้วเขาก็เรียกเรา แล้วก็เซ hi ค่ะ แล้วเพื่อนเขาคนนึงก็พูดขึ้นมาว่า คนนี้ชอบเรา เราก็เขิน เขาก็เขินค่ะ แล้วพอเราหันกลับมา เราก็พบว่า เรากำลังจะ เดินสนเสาไฟฟ้า ค่ะ 555 เขินจนหน้าดำหน้าแดง พอเรากลับบ้านไป เราก็ถามในเมสเสจทันทีว่าที่เพื่อนเขาพูดเป็นเรื่องจริงไหม เขาก็บอกว่า อาจจะใช่ ค่ะ
****มาปีนี้เราตัดสินใจที่จะบอกชอบเขาไป เพราะเราคิดว่าเราชอบเขาคะ แต่เราบอกในเมสเสจนะคะ เพราะเราอายที่จะพูดกับเขา เพราะไม่เคยคุยกันจริงๆสักครั้ง
แต่พอเราบอกไป เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธแต่ก็ไม่ได้รับรัก เขาแค่บอก you pretty cute ค่ะ เราไม่แน่ใจว่าเขาปฏิเสธรึป่าวค่ะ
จากนั้นเราก็ไม่เคยคุยกันที่โรงเรียนนะคะ แต่เราไปดูเขาเล่นบาสบ่อยๆ เพราสนามบาสอยู่หน้าโรงอาหาร เราก็หาข้ออ้างไปโรงอาหารประจำ
แล้วมีครั้งนึงที่เรามีปัญหาเรื่องพาสปอร์ต เราเลยต้องหยุดเรียนไปเกือบ3สัปดาห์ ตอนนั้นเราเคยทักเขาไปในเมสเสจ เราก็คุยนิดหน่อย แล้วเขาก็บอกว่า เราไปไหน ทำไมช่วงนี้เขาไม่เห็นเราเลยที่โรงเรียน เราก็รู้สึกดีใจมากๆค่ะที่เขาสังเกตเรา วันถัดมาพาสปอร์ตเราก็ไม่มีปัญหาแล้ว เราก็เลยได้ไปโรงเรียนเฉยเลยค่ะ ตอนนั้นเราเคยคุยกันในเมสเสจว่าเราไม่กล้าคุยกับเขาที่โรงเรียน เขาเลยบอกว่าเขาจะทักเราเอง แล้วเขาก็ทักจริงๆค่ะ กลางสนามบาสเลย เราทั้งอายทั้งเขิน ทำตัวไม่ถูก แล้วเวลาเราเขินเราจะทำหน้าขรึมๆอ่ะค่ะ555 แล้วเราก็เคยบอกเขาว่าเราชอบดูเขาเล่นบาส แล้วเขาก็บอกว่า เราน่าจะเล่นบ้าง เราก็ช็อคค่ะ เพราะเล่นกีฬาไม่เป็นสักอย่าง บาสนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย ห่วยแตกเลยค่ะเราอ่ะ เราก็ตอบเขาไปว่า เราเล่นไม่เป็น เขาก็บอกว่าจะสอนให้ ถ้าเขาว่างค่ะ
มาถึงตอนนี้เขายังไม่ว่างเลยค่ะ แต่เราไม่ว่าอะไรหรอกเพราะเราก็ไม่ว่าง ****เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้วนะคะ (มิถุนายน2018)
(อาทิตย์ก่อน) อาทิตย์ก่อนเป็นอะไรที่แปลกมากๆเลยค่ะ เพราะอยู่ๆเขาก็ทักเราถึง3ครั้ง คือเรางงมาก เพราะเขาไม่ได้ทักเราตั้งนานแล้ว แต่เราก็ดีใจนะคะที่เขาทักเรา ถึงแม้จะไม่ได้คุยกันก็ตาม จริงๆเราเคยบอกเขาว่าเราจะทักเขา แต่ผ่านมาเป็นเดือน ก็ยังไม่มีความกล้าที่จะทักเลยค่ะ เฮอะๆ
ตอนนี้โรงเรียนเราประกาศว่าจะมีงาน school ball ค่ะ(งานเลี้ยงส่งค่ะ เหมือนงานเต้นรำในหนังวัยรุ่นฝรั่งค่ะ ที่ต้องแต่งตัวสวยๆไป แล้วหาคู่ควงไป อิอิ)
เราตัดสินใจเมสเสจชวนเขาไป แต่เขาบอกว่าเขาอาจจะไป เราก็เลยบอกเขาไปว่า ถ้าเขาไป เราขอเป็นบัดดี้เขาได้ไหม เขาก็ตอบว่าแน่นอนค่ะ (เราเขินมาก เขินแบบช็อคตายคาเตียงค่ะ เขินจนดิ้นตกจากเตียงอ่ะค่ะ5555) แต่เราก็แอบนอนนิดๆนะคะ เพราะเราไม่แน่ใจว่าเขาจะไปรึเปล่า :<
อืมมมม พอเช่ามาถึงตรงนี้เราก็รู้สึกว่า ‘เราค่อนข้างออกนอกประเด็นไปนิดนึงนะ’ 5555
คือเราจะถามว่า ที่เราเล่ามาทั้งหมด คิดว่าเราพอมีหวังที่จะสมหวังไหมคะ?
แล้วก็ เราควรทำอย่างไรดีคะ? คือเราพยายามดึงความกล้าออกมา เพราะอยากคุยกับเขามาก แต่ภาษาของเรายังไม่แข็งด้วย จริงๆ เกือบจะพูดไม่ได้ แต่เขียนกับอ่านไปได้ดีกว่า เรากลัวเขาจะรำคาญเราด้วยค่ะ เพราะพูดไม่รู้เรื่อง:< (ออกนอกประเด็นอีกละ)
(ถ้าสงสัยอะไรตรงไหน ก็ถามได้นะคะ เพราะเราไม่ได้เขียนไทยแบบยาวๆบ่อย อาจจะสับสนในการเรียงความนึดนึง)