กสทช. เชิญทรูฯ เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีเอไอเอส จอดำถ่ายบอลโลก แจงการดูผ่านกล่อง AIS Play Box ต้องทำได้ เพราะเป็นบริการเพย์ทีวีผ่านกล่องอินเทอร์เน็ต แต่ดูผ่าน AIS Play ที่เป็นแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนไม่ได้
จากกรณีที่บริษัท ซุปเปอร์ บอรดแบนด์ เน็ทเวอร์ค จำกัด (SBN) บริษัทในเครือของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ซึ่งได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียง หรือโทรทัศน์ เพื่อให้บริการโครงข่ายกิจการกระจายเสียง หรือโทรทัศน์ สำหรับกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ ได้ดำเนินการถ่ายทอดรายการโทรทัศน์จาก Free TV ทุกช่อง
รวมถึงรายการการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 จากทั้ง 3 ช่อง ได้แก่ ช่อง 5, ช่อง TRUE4U และช่องอมรินทร์ทีวีผ่าน AIS Play และ AIS Play Box มาตั้งแต่ต้นจนถึงวันที่ 27 มิถุนายน 2561 และต้องยุติการออกอากาศการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ในวันที่ 28 มิถุนายน 2561 เวลา 17.00 น. เนื่องจากศาลทรัพย์สินทางปัญญา และการค้าระหว่างประเทศกลาง ได้มีคำสั่งให้บริษัทยุติการเผยแพร่รายการดังกล่าวตามที่บริษัท ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด ได้ร้องขอต่อศาลไว้ นั้น
ล่าสุด นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (3 ก.ค. 2561) ได้เชิญตัวแทนทรูฯ มาหารือข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว ปรากฏว่า ทรูฯ ไม่ได้ห้าม AIS Play Box ซึ่งให้บริการผ่านกล่องอินเทอร์เน็ต ถ่ายบอลโลก แต่สิ่งที่ไปร้องขอต่อศาล คือ การให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน AIS Play ที่ให้บริการบนโทรศัพท์มือถือ ดังนั้น เพื่อไม่ให้กระทบต่อประชาชนจำนวนมาก จึงขอให้เอไอเอส เปิดให้บริการตามปกติ
สำหรับ AIS Play Box มีฐานลูกค้า 4 แสนราย เนื่องจากต้องรับชมผ่านกล่อง เหมือนบริการเพย์ทีวีทั่วไป ส่วน AIS Play มีลูกค้าใช้งานราว 5 ล้านรายที่เปิดให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน และสามารถใช้งานได้ฟรี ไม่ว่าจะใช้งานบนเครือข่ายใดก็ตาม
เบื่องต้น เอไอเอส ชี้แจงว่า ได้ดำเนินการตามที่ กสทช. มีประกาศเรื่อง กฎ Must Have ได้กำหนดรายการโทรทัศน์ 7 ประเภทที่ต้องออกอากาศผ่านฟรีทีวี ได้แก่ การแข่งขันกีฬาซีเกมส์, เอเชียนเกมส์, กีฬาโอลิมปิก และการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เป็นต้น
ขณะที่ประกาศเรื่องหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป (Must Carry) ได้กำหนดให้ผู้ให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกที่มีโครงข่ายเป็นของตนเองมีหน้าที่ต้องให้สมาชิกได้รับชมรายการโทรทัศน์ที่ออกอากาศเป็นการทั่วไป หรือ Free TV ได้โดยตรงอย่างต่อเนื่อง และไม่มีการเปลี่ยนแปลง ทำซ้ำ ดัดแปลง ผังรายการ หรือเนื้อหารายการ
https://mgronline.com/cyberbiz/detail/9610000065870 
กสทช. ชี้ ดูบอลโลกผ่าน AIS Play Box ได้ (กสทช.ออกโรงเคลีย์ปมปัญหาแล้ววุ้ย)
จากกรณีที่บริษัท ซุปเปอร์ บอรดแบนด์ เน็ทเวอร์ค จำกัด (SBN) บริษัทในเครือของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ซึ่งได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียง หรือโทรทัศน์ เพื่อให้บริการโครงข่ายกิจการกระจายเสียง หรือโทรทัศน์ สำหรับกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ ได้ดำเนินการถ่ายทอดรายการโทรทัศน์จาก Free TV ทุกช่อง
รวมถึงรายการการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 จากทั้ง 3 ช่อง ได้แก่ ช่อง 5, ช่อง TRUE4U และช่องอมรินทร์ทีวีผ่าน AIS Play และ AIS Play Box มาตั้งแต่ต้นจนถึงวันที่ 27 มิถุนายน 2561 และต้องยุติการออกอากาศการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ในวันที่ 28 มิถุนายน 2561 เวลา 17.00 น. เนื่องจากศาลทรัพย์สินทางปัญญา และการค้าระหว่างประเทศกลาง ได้มีคำสั่งให้บริษัทยุติการเผยแพร่รายการดังกล่าวตามที่บริษัท ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด ได้ร้องขอต่อศาลไว้ นั้น
ล่าสุด นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (3 ก.ค. 2561) ได้เชิญตัวแทนทรูฯ มาหารือข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว ปรากฏว่า ทรูฯ ไม่ได้ห้าม AIS Play Box ซึ่งให้บริการผ่านกล่องอินเทอร์เน็ต ถ่ายบอลโลก แต่สิ่งที่ไปร้องขอต่อศาล คือ การให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน AIS Play ที่ให้บริการบนโทรศัพท์มือถือ ดังนั้น เพื่อไม่ให้กระทบต่อประชาชนจำนวนมาก จึงขอให้เอไอเอส เปิดให้บริการตามปกติ
สำหรับ AIS Play Box มีฐานลูกค้า 4 แสนราย เนื่องจากต้องรับชมผ่านกล่อง เหมือนบริการเพย์ทีวีทั่วไป ส่วน AIS Play มีลูกค้าใช้งานราว 5 ล้านรายที่เปิดให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน และสามารถใช้งานได้ฟรี ไม่ว่าจะใช้งานบนเครือข่ายใดก็ตาม
เบื่องต้น เอไอเอส ชี้แจงว่า ได้ดำเนินการตามที่ กสทช. มีประกาศเรื่อง กฎ Must Have ได้กำหนดรายการโทรทัศน์ 7 ประเภทที่ต้องออกอากาศผ่านฟรีทีวี ได้แก่ การแข่งขันกีฬาซีเกมส์, เอเชียนเกมส์, กีฬาโอลิมปิก และการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เป็นต้น
ขณะที่ประกาศเรื่องหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป (Must Carry) ได้กำหนดให้ผู้ให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกที่มีโครงข่ายเป็นของตนเองมีหน้าที่ต้องให้สมาชิกได้รับชมรายการโทรทัศน์ที่ออกอากาศเป็นการทั่วไป หรือ Free TV ได้โดยตรงอย่างต่อเนื่อง และไม่มีการเปลี่ยนแปลง ทำซ้ำ ดัดแปลง ผังรายการ หรือเนื้อหารายการ
https://mgronline.com/cyberbiz/detail/9610000065870