สวัสดีค่ะเพื่อนๆ รีวิวเที่ยวเหมือนเดิมเพิ่มเติมไปกะแฟนสองคน อิอิ รอบนี้ยังคงอยู่ฝั่งภาคตะวันออก เราไปเกาะช้างเที่ยวย้อนหลังวันเกิดแฟน เที่ยวสบายๆ เที่ยวชิลล์ๆ เที่ยวในวันที่ฝนพร่ำเเต่ก้อย่าได้เเคร์จ้า เกาะช้างมันใหญ่มากเป็นเกาะที่ใหญ่รองจากเกาะภูเก็ต อยู่ที่จังหวัดตราด เเละเรายังสามารถนำรถยนต์ขึ้นเรือฟอร์รี่ข้ามไปเกาะได้ไปลุยกันเลยดีกว่า ทริปนี้ 3วัน 2คืน ไปเมื่อวันที่ 11 มิ .ย. ที่ผ่านมา


ใช้เวลาขับรถจาก กทม 4 ช.ม. กว่าๆ ถึงท่าเรือเฟอร์รี่อ่าวธรรมชาติ เดินทางง่ายเปิดอากรูก็วิ่งตามเส้นทางได้เลยค่ะ พอถึงท่าเรือเเล้วเราก็ซื้อตั๋วได้เลย รถยนต์คันละ 120 บาท ผู้โดยสารคนละ 80 บาท ใช้เวลาไปถึงเกาะช้างประมาณ 40 นาที เราถึงเกาะช้างเวลาบ่ายโมงกว่าๆ ถึงเกาะก็ขับรถตามอากรูไปที่โรงแรมกันเลย ถนนบนเกาะช้างกว้างเป็นเหมือนถนนทางหลวงทั่วไปขับง่ายอาจจะมีหักศอกสูงชันบ้างก็เถอะ ใช้เวลาขับรถจากท่าเรือถึงโรงเเรม 15 นาที ถึงที่พักทริปนี้เราจองที่พักไว้ที่โรงแรม ซีวิว รีสอร์ท แอนด์ สปา พักร่างกันที่นี่ 2 คืน  โรงเเรมอยู่ที่หาดไก่เเบ้ โรงแรมมีกิจกรรมต่างๆมากมาย  ระหว่างที่พี่พนักงานพูดอยู่ก็มีกิจกรรมที่โดนใจนั้นก็คือพายคายัคไปปิกนิคที่เกาะมันใน….จะบอกว่าที่นี่กว้างมากถ้าเดินคงเหนื่อยเหงื่อออกเต็มตัวแน่นอน แม้จะกว้างแต่ก็ไปไหนมาไหนง่ายเพราะมีบริการรถกอล์ฟเรียกได้ตลอด สำรวจห้องเเล้วเราไปเริ่มโปรแกรมแรกของวันนี้กันดีกว่าค่ะ ที่เราจะไปทำกันก็คือพายเรือไปเกาะมันใน ตัดสินใจทำ Pizza Workshop คนละ 420 บาท ทางโรงแรมมีไว้บริการตลอดการทำมีเชฟคอยสอนเราเลือกทำหน้าซีฟู๊ดเเละชีสล้วนสไตล์คนอ้วนๆ สองคน พิซซ่าสองถาดกลายเป็นอาหารมือเย็นวันนี้ของเราไปเลย ปิดภาพสวยๆของวันนี้ด้วยวิวทะเลจากห้องอาหาร ไว้ลุยต่อพรุ่งนี้
          วันที่สองฟ้าเเจ่มใสไปกินข้าวเช้ากันเถอะๆ ตึกที่เราพักเป็นตึกเดียวกับห้องอาหารขึ้นไปชั้น4 บรรยากาศรอบของห้องอาหารLighthouse เเละวิวข้างหน้าก็ดีงาม    ตรงนั้นคือจุดหมายปลายทางของเรา ในบางวันที่น้ำลดสามารถเดินเท้าไปที่เกาะได้วสบายๆ เเต่ช่วงนี้น้ำขึ้นต้องพายเรือไปอย่างเดียว น้ำบริเวณนี้ไม่ลึกมาก ระดับน้ำประมาณอกเกือบถึงคอเเต่ควรใส่เสื้อชูชีพทุกครั้งที่พายเรือปลอดภัยไว้ดีกว่าเนอะ ออกเรือไปผจยภัยกันเถอะพวกเรา ใช่เวลาพายเรือประมาณ 15 นาทีก็ถึงเกาะเเล้ว หมดเเรงไปกับพายเรือเรากินอาหารกลางวันเบากันบนเกาะ สามารถเเจ้งทางโรงเเรมได้เลย ว่าจัดเซตปิกนิคมีเมนูเเซนวิชให้เราเลือกตามใจชอบเลยค่ะ   
ปิคนิกบนเกาะเล็กๆมีเเค่เราสองสามคน ฟินจะตาย5555 เราใช้เวลาอยู่บนเกาะไม่นานก้พายเรือกลับเข้าฝั่ง เพราะวันนี้กิจกรรมเราเเน่นมาก สถานนีต่อไปน้ำตกคลองพลูเย้ๆ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่บนเกาะช้าง ห่างจากโรงเเรมเเค่ 5 นาทีค่ะ ค่าบริการคนไทยคนละ 40 บาท เวลาทำการตั้งเเต่ 08.00น. - 16.30 น. ทางเข้าเดินง่ายมากๆ ระหว่างทางมีวิวให้เราดูตามข้างทาง ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์มากๆ เราจะเห็นธารน้ำเป็นจุดๆ ระหว่งทางจะมีจุดให้เราลงเล่นน้ำได้เลย เเต่เรายังไม่เล่นเดินขึ้นไปเรื่อยๆ ไปดูต้นน้ำกันเค้าบอกว่าสวยมากๆๆๆๆๆ
ถึงเเล้วจ้าใช้เวลาเดินไม่นานประมานครึ่งชั่วโมงเเวะถ่ายรูปเดินเรื่อยๆ 55 ระยะทาง 500 เอง
สวยมากๆดีงามจนต้องบอกต่อว่ามาเกาะช้างถ้าไม่มาน้ำตกคลองพลูถือว่ามาไม่ถึง น้ำใสมากมีปลาตัวเล็กๆตอดเท้าเราเต็มเลย หรือว่าเท้าเราเน่านะ555 น้ำอย่างเย็นไม่อยากขึ้นเลย เเต่ต้องรีบกลับโรงเเรมวันนี้เราเเจ้งพี่ๆ พนักงานจัดดินเนอร์ริมหาดเซอร์ไพรส์เเฟนหนวดของเรา อิอิ กลับถึงโรงเเรมอาบน้ำเเต่งตัวรอเวลาหกโมงหน่อยๆชวนหนวดไปกินข้าวเย็นกันนนน
          บรรยากาศอาหารเย็นวันนี้ของเราจะเป็นโรเเมนติกดินเนอร์ ริมทะเล เเบบมีเเต่เราสองคน ฮิ้ววว จัดให้เค้าสักหน่อย ย้อนหลังวันเกิดนานๆทีจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกัน
หนวดของฉันก็จะมีความเขิลหน่อยๆ กินข้าวใต้เเสงเทียน ปิดท้ายวันนี้ด้วยหน้าตาอาหารเย็นกันเราชอบต้มข่ามะพร้าวอ่อนมากอร่อย ไม่เคยกินอะปกติกินเเต่น้ำมะพร้าว ยิ่งตอนตักน้ำเเกงพร้อมเนื้อมะพร้าวอ่อนกินกับข้าวโคตรเข้ากันเลย ทิ้งท้ายวันที่สองด้วยรุปนี้ล่ะกันอิอิ
          วันที่สามวันสุดท้ายของการพักผ่อนของฉานนน วันนี้ตื่นเเต่เช้าเลยว่าจะไปเล่นน้ำที่สระก่อนกลับเห็นตั้งเเต่วันเเรกเเล้วพึ่งจะได้เล่นวันนี้เอง กินข้าวเช้าเตรียมท้องให้พร้อม ลุยกันเลยค้า ที่โรงเเรมมีสระว่ายน้ำสองจุดเราไปกันที่จุดเเรงอยู่ตรงโซนที่เราทำพิซซ่ากันค่ะ  

สระว่ายน้ำใกล้กับทะเล เล่นสระเบื่อวิ่งลงทะเลได้เลย

หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆล้อมรอบด้วยแนวป่าชายเลน

ไปดูภาพบรรยากาสที่เราล่องเรือกันใช้เวลาล่องนั่งเรือมาด 40 นาที คนละ 200 บาท ชมธรรมชาติสวยๆชิลล์ๆ

อยากฝากเพื่อนๆดังเดิมช่วยกันดูเเลธรรมชาติให้เราได้เที่ยวนานๆเนอะ จุ๊บๆ ❤
บับบัยแล้วเจอกันใหม่น๊า …ใครอยากอ่านรีวิวอื่นๆก่อนหน้านี้ไปดูกระทู้ของเราได้หรือเม้ามอยในเพจได้เด้อ
Pantip : https://ppantip.com/profile/4319193
FB :  https://www.facebook.com/TeepakteerakTraveler/