สวัสดีครับทุกคน หลังหมดฤดูฝน ใจมันก็ร้องเรียกหาทะเลและภูเขา
แต่จะให้ไป 2 ที่ก็กระไรอยู่
อยู่ดีๆ ก็นึกถึงเกาะช้างขึ้นมา ขับรถและต่อเรือเพียงไม่นาน ก็ได้ทั้งทะเลและภูเขาในที่เดียวกันเลย
ไม่อยากจะบอกว่า ครั้งนี้เป็นการไปเกาะช้างครั้งแรกของเรา มันก็เลยจะตื่นเต้นหน่อยๆ เราเลือกพักที่ AWA Resort Koh Chang เลยมารีวิวให้ชมกัน เผื่อใครจะไปตามรอยพวกเรา ก็ไม่ว่ากันคร้าบบบบบบ
เราวางแผนทริป 3 วัน 2 คืนของเรา โดยขาไปแวะทานอาหารกลางวันที่ฟาร์มปูนิ่ม จ.จันทบุรีก่อน
จากนั้นก็ไปต่อที่ จ.ตราด เพื่อขึ้นเรือเฟอร์รี่ไปเกาะช้างครับ
ฟาร์มปูนิ่มตั้งอยู่ในเขต อ.ขลุง จ.จันทบุรี
เปิดตั้งแต่ 9.00-21.00 ครับ
สามารถเซิชในกูเกิ้ลได้เลย พอขับเข้าไปสุดทะเล จะมีลานจอดรถ
จากนั้น ให้โทรเรียกเรือของร้าน (มีป้ายบอกที่ท่าเรืออย่างชัดเจน) เพื่อมารับเข้าไปทานอาหาร
มีกิมมิคตรงที่ได้นั่งเรือชมวิว ก่อนที่จะไปถึงตัวร้านอาหารครับ
ตลอดทางก็จะเห็นแนวป่าโกงกางที่อุดมสมบูรณ์มาก
แม้ว่าจะเป็นตอนกลางวัน แต่ลมเย็นสบาย ชิลมากๆ เลยแหละ
จะเห็นบ้านเรือนของชาวประมงอยู่ตามแนวป่าชายเลน
ล่องเรือไปซักพัก ก็จะเห็นทุ่นขวดพลาสติก ไม่ใช่ขยะนะครับ ข้างใต้เป็นกระชังเลี้ยงปูนิ่มให้เราได้ทานกันนี่แหละครับ
แล้วเราก็ล่องเรือมาถึงตัวร้านอาหารฟาร์มปูนิ่ม
เราจัดกันเบาๆ ก่อน ก็มีปูนิ่มผัดพริกไทยดำ กุ้งอบวุ้นเส้น และข้าวผัดปู
นั่งกินอาหารไป ชมวิวทะลไป พร้อมลมเย็นๆ ที่พัดผ่านมาตลอด รู้สึกฟินมากเลยล่ะครับ
จากนั้นเราก็นั่งเรือกลับเข้าฝั่ง เดินทางต่อไปยังท่าเรือเฟอร์รี่อ่าวธรรมชาติ ที่ จ.ตราด เพื่อข้ามไปเกาะช้าง
เราสามารถนำรถขึ้นเรือเฟอร์รี่ได้ โดยผู้โดยสารก็นั่งอยู่ในรถ และขับเข้าไปได้เลยครับ
ค่าโดยสารคนละ 80 บาท และรถคันละ 120 บาท ต่อเที่ยว เรือออกทุกครึ่งชั่วโมง
เกาะช้างเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของประเทศไทย รองจากภูเก็ต
ดังนั้น สถานที่แต่ละแห่งค่อนข้างจะอยู่ห่างกัน จึงขอแนะนำให้นำรถขึ้นเรือเลยครับ
เพราะจะได้ใช้เดินทางบนเกาะได้สะดวกครับ
เดินทางเพียงครึ่งชั่วโมง ก็ถึงเกาะช้างแล้ว จากนั้นก็ขับรถต่อไปที่โรงแรม AWA Resort Koh Chang
ซึ่งอยู่บนหาดไก่แบ้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสงบหน่อยๆ โดยโรงแรมห่างจากท่าเรือประมาณ 30 นาทีครับ
ยังไม่ทันจะลงจากรถเลยครับ มองไปที่ประตูทางเข้า โอ้โห ทำไมอลังการเช่นนี้
ขนาดดูรีวิวมาแล้ว มาเห็นด้วยตาตัวเอง มันยิ่งกว่าในรูปอีกครับ
AWA Resort Koh Chang ตกแต่งในสไตล์ Oriental Zen ที่เน้นโทนสีเทา ขาวงาช้าง
สำหรับคนชอบถ่ายรูป ที่นี่มีมุมสวยๆ ให้ถ่ายเพียบเลยครับ
แค่ล็อบบี้ พวกเราก็ใช้เวลาถ่ายตั้งเกือบชั่วโมงแน่ะ 555
เรามาชมกันในห้องกันบ้างครับ เราเลือกแบบ Deluxe Beach Front เปิดม่านออกมาก็เห็นวิวทะเลเลย
ออกจากห้องไปนิดเดียว ก็เจอสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ แล้วก็บาร์ริมทะเล ไปเดินเล่นกันดีกว่าครับ
พอตกเย็น เราก็ไปถ่ายรูปที่บาร์ริมทะเล ชมพระอาทิตย์ตกน้ำทะเลกันครับ
สำหรับอาหารค่ำวันแรกของเรา เราไปทานที่ครัวฆาราฑี ตั้งอยู่ในโรงแรมรามายานา อยู่ไม่ไกลจาก AWA Resort ครับ
ฟังชื่อแล้วก็สงสัยใช่ไหมครับ ว่าแปลว่าอะไร ไปถามพนักงานมา ก็ได้ความว่า นางฆาราฑี เป็นตัวละครในเรื่องรามเกียรติ์
สวยกว่านางสีดาซะอีก แต่คนไม่ค่อยรู้จักกันครับ
เข้าไปในร้าน ก็จะมีพี่นักดนตรีมาร้องเพลง พร้อมเล่นคีย์บอร์ดขับกล่อมเพลงฝรั่งยุคคุณพ่อยังเป็นหนุ่ม
พวกเราก็ทันนะครับ 555 รู้สึกเหมือนเป็นเด็กอีกครั้ง
ในร้าน ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าฝรั่ง น่าจะเป็นแขกที่มาพักในโรงแรมนี่แหละ
เริ่มหิวกันแล้ว ก็มาทานอาหารกันเลยดีกว่าครับ มื้อนี้เราจัดเต็มกันมาก
เริ่มตั้งแต่ปลากะพงทอดน้ำปลา ปลาหมึกแดดเดียว ทะเลผัดฉ่า และต้มยำทะเลน้ำข้น
ปิดท้ายด้วยลอดช่องกะทิแตงไทย ประทับใจมากครับ โดยเฉพาะต้มยำ อร่อยมาก เข้มข้นมาก ฟินมากครับ
พอทานเสร็จ ก็กลับมา AWA Resort แล้วก็ต้อง WOW อีกรอบ ไม่ได้สวยแค่ตอนกลางวันเท่านั้น
แต่ไฟประดับตกแต่งตอนกลางคืนก็สวยงามไม่แพ้กันครับ
เดี๋ยวมาต่อครับ
[CR] TGT x AWA Resort เที่ยวเกาะช้างครั้งแรก #สวรรค์บนดินที่แท้ทรู
แต่จะให้ไป 2 ที่ก็กระไรอยู่
อยู่ดีๆ ก็นึกถึงเกาะช้างขึ้นมา ขับรถและต่อเรือเพียงไม่นาน ก็ได้ทั้งทะเลและภูเขาในที่เดียวกันเลย
ไม่อยากจะบอกว่า ครั้งนี้เป็นการไปเกาะช้างครั้งแรกของเรา มันก็เลยจะตื่นเต้นหน่อยๆ เราเลือกพักที่ AWA Resort Koh Chang เลยมารีวิวให้ชมกัน เผื่อใครจะไปตามรอยพวกเรา ก็ไม่ว่ากันคร้าบบบบบบ
เราวางแผนทริป 3 วัน 2 คืนของเรา โดยขาไปแวะทานอาหารกลางวันที่ฟาร์มปูนิ่ม จ.จันทบุรีก่อน
จากนั้นก็ไปต่อที่ จ.ตราด เพื่อขึ้นเรือเฟอร์รี่ไปเกาะช้างครับ
ฟาร์มปูนิ่มตั้งอยู่ในเขต อ.ขลุง จ.จันทบุรี
เปิดตั้งแต่ 9.00-21.00 ครับ
สามารถเซิชในกูเกิ้ลได้เลย พอขับเข้าไปสุดทะเล จะมีลานจอดรถ
จากนั้น ให้โทรเรียกเรือของร้าน (มีป้ายบอกที่ท่าเรืออย่างชัดเจน) เพื่อมารับเข้าไปทานอาหาร
มีกิมมิคตรงที่ได้นั่งเรือชมวิว ก่อนที่จะไปถึงตัวร้านอาหารครับ
ตลอดทางก็จะเห็นแนวป่าโกงกางที่อุดมสมบูรณ์มาก
แม้ว่าจะเป็นตอนกลางวัน แต่ลมเย็นสบาย ชิลมากๆ เลยแหละ
จะเห็นบ้านเรือนของชาวประมงอยู่ตามแนวป่าชายเลน
ล่องเรือไปซักพัก ก็จะเห็นทุ่นขวดพลาสติก ไม่ใช่ขยะนะครับ ข้างใต้เป็นกระชังเลี้ยงปูนิ่มให้เราได้ทานกันนี่แหละครับ
แล้วเราก็ล่องเรือมาถึงตัวร้านอาหารฟาร์มปูนิ่ม
เราจัดกันเบาๆ ก่อน ก็มีปูนิ่มผัดพริกไทยดำ กุ้งอบวุ้นเส้น และข้าวผัดปู
นั่งกินอาหารไป ชมวิวทะลไป พร้อมลมเย็นๆ ที่พัดผ่านมาตลอด รู้สึกฟินมากเลยล่ะครับ
จากนั้นเราก็นั่งเรือกลับเข้าฝั่ง เดินทางต่อไปยังท่าเรือเฟอร์รี่อ่าวธรรมชาติ ที่ จ.ตราด เพื่อข้ามไปเกาะช้าง
เราสามารถนำรถขึ้นเรือเฟอร์รี่ได้ โดยผู้โดยสารก็นั่งอยู่ในรถ และขับเข้าไปได้เลยครับ
ค่าโดยสารคนละ 80 บาท และรถคันละ 120 บาท ต่อเที่ยว เรือออกทุกครึ่งชั่วโมง
เกาะช้างเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของประเทศไทย รองจากภูเก็ต
ดังนั้น สถานที่แต่ละแห่งค่อนข้างจะอยู่ห่างกัน จึงขอแนะนำให้นำรถขึ้นเรือเลยครับ
เพราะจะได้ใช้เดินทางบนเกาะได้สะดวกครับ
เดินทางเพียงครึ่งชั่วโมง ก็ถึงเกาะช้างแล้ว จากนั้นก็ขับรถต่อไปที่โรงแรม AWA Resort Koh Chang
ซึ่งอยู่บนหาดไก่แบ้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสงบหน่อยๆ โดยโรงแรมห่างจากท่าเรือประมาณ 30 นาทีครับ
ยังไม่ทันจะลงจากรถเลยครับ มองไปที่ประตูทางเข้า โอ้โห ทำไมอลังการเช่นนี้
ขนาดดูรีวิวมาแล้ว มาเห็นด้วยตาตัวเอง มันยิ่งกว่าในรูปอีกครับ
AWA Resort Koh Chang ตกแต่งในสไตล์ Oriental Zen ที่เน้นโทนสีเทา ขาวงาช้าง
สำหรับคนชอบถ่ายรูป ที่นี่มีมุมสวยๆ ให้ถ่ายเพียบเลยครับ
แค่ล็อบบี้ พวกเราก็ใช้เวลาถ่ายตั้งเกือบชั่วโมงแน่ะ 555
เรามาชมกันในห้องกันบ้างครับ เราเลือกแบบ Deluxe Beach Front เปิดม่านออกมาก็เห็นวิวทะเลเลย
ออกจากห้องไปนิดเดียว ก็เจอสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ แล้วก็บาร์ริมทะเล ไปเดินเล่นกันดีกว่าครับ
พอตกเย็น เราก็ไปถ่ายรูปที่บาร์ริมทะเล ชมพระอาทิตย์ตกน้ำทะเลกันครับ
สำหรับอาหารค่ำวันแรกของเรา เราไปทานที่ครัวฆาราฑี ตั้งอยู่ในโรงแรมรามายานา อยู่ไม่ไกลจาก AWA Resort ครับ
ฟังชื่อแล้วก็สงสัยใช่ไหมครับ ว่าแปลว่าอะไร ไปถามพนักงานมา ก็ได้ความว่า นางฆาราฑี เป็นตัวละครในเรื่องรามเกียรติ์
สวยกว่านางสีดาซะอีก แต่คนไม่ค่อยรู้จักกันครับ
เข้าไปในร้าน ก็จะมีพี่นักดนตรีมาร้องเพลง พร้อมเล่นคีย์บอร์ดขับกล่อมเพลงฝรั่งยุคคุณพ่อยังเป็นหนุ่ม
พวกเราก็ทันนะครับ 555 รู้สึกเหมือนเป็นเด็กอีกครั้ง
ในร้าน ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าฝรั่ง น่าจะเป็นแขกที่มาพักในโรงแรมนี่แหละ
เริ่มหิวกันแล้ว ก็มาทานอาหารกันเลยดีกว่าครับ มื้อนี้เราจัดเต็มกันมาก
เริ่มตั้งแต่ปลากะพงทอดน้ำปลา ปลาหมึกแดดเดียว ทะเลผัดฉ่า และต้มยำทะเลน้ำข้น
ปิดท้ายด้วยลอดช่องกะทิแตงไทย ประทับใจมากครับ โดยเฉพาะต้มยำ อร่อยมาก เข้มข้นมาก ฟินมากครับ
พอทานเสร็จ ก็กลับมา AWA Resort แล้วก็ต้อง WOW อีกรอบ ไม่ได้สวยแค่ตอนกลางวันเท่านั้น
แต่ไฟประดับตกแต่งตอนกลางคืนก็สวยงามไม่แพ้กันครับ
เดี๋ยวมาต่อครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น