ไปลงเกาะกันค่ะทุกคน ทริปนี้มี่พาเพื่อนๆไปเที่ยวเกาะยาววววววใหญ่ และพักที่โรงแรม Baan Taranya Resort Koh Yao Yai (บ้านธรัญญา รีสอร์ท เกาะยาวใหญ่)  บอกได้เลยว่าดี ห้องพักโซนที่เราไปพัก พึ่งทำเสร็จใหม่ สวย สะอาด มินิมอล สระน้ำขนาดใหญ่ จะยาวๆหน่อย แบบเดินเหนื่อยอะ น้ำสีฟ้าอ่อน น่าเล่นมากๆ ตามไปกันเลย


เป็นธรรมเนียม ต้องมีรูปเรียกน้ำย่อยก่อน

การเดินทางไปเกาะยาวใหญ่ มีท่าเรือ บริการ 3 ท่า
1. ท่าเรือบางโรง อ.ถลาง จ.ภูเก็ต (มีขึ้นที่ท่าเรือนีอยู่แถวป่าคลอก) เรือเป็นบริการเฉพาะ สปี๊ดโบ๊ท ซึ่งที่นี่มีบริการรับฝากรถ วันละ 50 บาท (ปล. ที่จอดรถเป็นแบบไม่มีหลังคานะ) 
ปล ตอนไปคนจะเยอะๆหน่อยเพราะเค้ารวมคนที่จะไปเกาะยาวน้อยกับเกาะพีพี ขึ้นเรือไปพร้อมกัน (แต่สถานการณ์ปกติ เรือมีทุกชั่วโมง และแยกเรือกันเลยจ้า หากไปเกาะยาวใหญ่ ก็ไปลำเดียว ไม่เกี่ยวกับใครจ้า ยังไง ก็โทรเช็ครอบเรือกับท่าเรือหรือกับทางรีสอร์ท)ก่อนนะ
2. ท่าเรือเจียรวานิช ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต(แถวเกาะสิเหร่) มี่เคยไปใช้บริการที่ท่าเรือนี้ มีบริการเรือเฟอรี่ ซึ่งเราสามารถนำรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ ลงเรือเฟอรี่ ไปแว้นๆที่เกาะได้ แต่การเดินทางด้วยเรือเฟอรรี่ ก็จะใช้เวลานานกว่าเยอะ 2 ชั่วโมงกว่าๆ 
3. ขึ้นที่จังหวัดกระบี่ ท่าเรือคลองทราย มีเรือเฟอร์รี่ให้บริการวันละ 1 เที่ยว ไป – กลับ โดยมีเส้นทางบริการ คือ ท่าเรือคลองทราย (กระบี่) – ท่าเรือแหลมไทร (เกาะยาวน้อย) – ท่าเรือคลองเหีย (เกาะยาวใหญ่)

มี่ออกเดินทางจากเกาะภูเก็ต โดยขึ้นเรือที่ท่าเรือบางโรง เป็นเรือแบบ สปี๊ดโบ๊ท ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีก็ถึงเกาะแล้ว  มี่ไปรอบ 9.30 น. ไปถึงที่โรงแรมประมาณ เกือบๆ 11 โมง (ใครมารอบนี้ ก็หาอะไรทำก่อนนะหรือไปสั่งอาหารทานที่หน้าหาดก็ได้จ้า เพราะถ้ามาเจอช่วงห้องเต็ม ก็จะต้องรอนานหน่อย *ปกติเวลาเข้าห้องได้ คือ 14.00 น. มี่ไปรอบนี้ ก็ไปสั่งข้าวกินระหว่างรอเข้าห้องจ้า)

 
หากต้องการจะนำรถส่วนตัวลงไปขับที่เกาะให้เลือกขึ้นท่าเรือเจียรวานิช

ส่วนใครเลือกที่จะนั่งสปี๊ดโบ๊ท ก็ไม่ต้องกังวลว่าไปที่เกาะจะเดินทางยังไง จากท่าเรือสามารถติดต่อรีสอร์ทพื่อขอให้รถมารับ และ**ที่รีสอร์ทยังมีรถจักรยานยนต์ให้เช่าอีกด้วย ในราคาเพียงวันละ 300 บาทเท่านั้นจ้า (ได้แง้นๆไปทานอาหารท้องถิ่น ไปซื้อของฝาก ไปหลง ขี่ไปหลงไปก็ว่ากันไปจ้า)
หากใครไปแค่วันเดียว แนะนำให้นั่งสปี๊ดโบ๊ทแล้วไปเช่ารถดีกว่า ประหยัดเวลาเดินทาง แต่ใครไปพักหลายวัน เอารถส่วนตัวลงไปใช้ที่เกาะโดยไปกับเรือเฟอรรี่ ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ


มาถึงแล้วจ้า มีรถของทางรีสอร์ทมารับ เป็นรถสองแถว สีฟ้าสดใส ติดป้าย Baan Taranya Resort Koh Yao Yai เห็นชัดแต่ไกลๆ เลยจ้า

จากถนนหลัก เข้าซอยมานิดเดียว จะเจอ Baan Taranya มีสองโซน ตึกสีขาวที่เราเห็น เป็นโซนใหม่ที่พึ่งทำเสร็จและ ตรงป้ายหน้าโรงแรม ออกแบบมาดูโมเดิร์นแต่ยังคงความเป็นไทยอยู่ ส่วนอีกโซนจะเป็นวิลล่าไม้ไผ่ ทรงไทยๆหน่อย รีสอร์ทจะยาวไปจนถึงหน้าหาดเลยจ้า

มาถึงแล้วแนะนำให้หามุมเกร๋ๆที่ชอบ ถ่ายรูปสวยๆ โพสเช็คอิน ที่ Baantaranya เปิดเป็นสาธารณะ  และแสดงโพสที่หน้าฟร้อนท์ หรือที่พนักงานต้อนรับ จะได้รับเครื่องดื่มฟรี ที่ร้านอาหาร Sea Mountain Bar & Restaurant ตั้งอยู่ที่หน้าหาดรีสอร์ท (ตอนไปเช็คโปรโมชั่นนี้อีกทีนึงน้า มี่ไป เดือน มกราคม 2565)


ขอขอบคุณแขกรับเชิญ 2 ท่าน นามิและพี่ชา มี่ชอบมุมนี้มากดูมินิมอลและหรูหราดี โซฟาอยู่ติดกับสระ และจุดเช็คอิน ระหว่างรอเช็คอิน ก็ดถ่ายรูปโพส รับเครื่องดื่มไปเลยสิคะ

ระหว่างทางเดินไปห้องพัก มีมุมน้ำตกที่สระน้ำด้วย นั่งที่แคร่ ถ่ายสักหน่อย ทางเดินใหม่ซิงๆ จริงๆ ขาวสะอาดตา

โซนตึกใหม่มีทั้งหมด 4 ชั้น ชั้นล่างเป็นแบบ Pool Accessโดนน้ำได้ที่ระเบียงหลังห้องเลย ส่วนชั้นบนสุดเป็นแบบ Penthouse 

มาถึงแล้ว ห้องแรกเราจะพาไปชม ห้อง 106 Villa Pool Access ห้องตรงกลางที่มองมาเห็นตอนเช็คอิน

ห้องตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สีน้ำตาลอ่อน มีโซฟาในห้องด้วย ชอบตรงที่เค้าเก็บทุกรายละเอียด ดีไซน์ไปจนถึงฝ้าเพดานหลังคา ก็ตกแต่งไปด้วยไม้ มีโคมไฟขนาดใหญ่ตรงกลาง ดูโมเดิร์น แต่ยังคงความเป็นไทย 


เตียงใหญ่และนุ่มมาก ชอบผ้าคลุมเตียง สีฟ้าคราม เพิ่มความไทยๆ ดูแล้วยังมินิมอลอยู่ 

ห้องน้ำกว้างมาก จากในห้องน้ำสามารถมองมาเห็นวิวห้องนอนเห็นสระน้ำได้ด้วย ฝักบัวเป็นแบบเรนชาวเว่อร์ ขนาดใหญ่ อาบแล้วฟินเหมือนได้เล่นน้ำฝน

ของใช้ในห้องครบครัน มีพวกเสื่อ ตู้เซฟ ผ้าคลุมอาบน้ำ รองเท้าแตะ ตู้เย็น ไดร์เป่าผม

ด้านหลังระเบียง มองเห็นสระน้ำยาวๆ ชอบตรงเก้าอี้หวาย ไว้นั่งเล่น ทำให้ห้องดูชิคขึ้นมาเลยจ้า (นึกว่ามาบาหลี)

ถัดมานิดนึง จะเป็นโซนไม้ มีทั้งเป็น Honeymoon Villa, Bamboo Bungalow Garden View, Bamboo Sunset View ประมาณนี้ ใครชอบกลิ่นอายห้องไม้ๆ หรือห้องแนวไม้ไผ่ ฝั่งนี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

วิวสวนอารมณ์ก็จะประมาณนี้
 
เดินผ่านสวนไปเรื่อยๆ จะเป็นห้องอาหารซึ่งอยู่ติดกับหน้าหาดและติดกับสะพานตกปลา

อาหารเที่ยงแอบรอนานนิดนึง เพราะว่าก่อนหน้าที่เราจะมาถึง เจอลูกค้าโต๊ะอื่น กรุ๊ปใหญ่ (ขออภัยหารูปไม่เจอจริงๆ) 
แต่เมนูที่อยากแนะนำให้ทานคือ ไอศรีมทอด คือ ทอดมาดีมาก อร่อย หากได้มาที่นี่ อย่าลืมมาสั่งนะ 



ห้องที่สองที่จะพาเพื่อนๆไปชม วิลล่า 2 เป็น Bamboo Bungalow Garden เป็นไม้ไผ่ ใครชอบแนวนี้ บังกาโลส่วนตัว วิวสวนก็น่าสนใจ ช่วงบ่ายแสงส่องลอดเข้ามาในให้ ถ่ายกับแสงก็สวยไปอีกแบบ


แดดเริ่มอ่อนลงแล้ว ออกมาเดินที่หาดหน้าโรงแรม ที่หน้าหาดนี้จะฝั่งซ้ายเป็นสะพานตกปลา ไปเดินเล่นบนสะพานก็จะได้วิวไปอีกแบบ, มองไปจะเห็นเกาะสองสามเกาะ คือถามคนภูเก็ต (เราเอง) เกาะด้านซ้ายมือเรา รูปทรงของเกาะ บอกยี่ห้อได้เลยว่าเป็นเกาะโซนพังงา ส่วนฝั่งซ้าย ก็จะเป็นวิวหาดทอดยาวออกไปเห็นอีกฝั่งของเกาะยาว

แหลมหาด มาถึงแล้ว งง ใช่ไหม คนอื่นเค้ามาแหลมหาดตอนที่น้ำทะเลแหวก เรามาแหลมหาดมาถ่ายกับต้นมะพร้าวล้ม (จริงๆเรารออีกนิดให้น้ำขึ้นมา ก็จะเป็นทะเลแหวกที่สวยมาก แต่เรารอไม่ไหวแล้ว เราหิววว ขอกลับไปกิน BBQที่โรงแรมดีกว่า)

รูปที่ได้ ก็จะเป็นแบบทะเลน้ำลง ประมาณนี้ (ใครมาแนะนำเช็คเวลาน้ำขึ้นน้ำลง มาตอนที่น้ำพึ่งเริ่มขึ้น หรือน้ำกำลังลงก่อนจะลงแบบสุดๆ)
กล่าวถึง "แหลมหาด" เป็นที่สุดแลนด์มาร์ก ของเกาะยาวใหญ่ ชายหาดลักษณะที่ทอดยาว เห็นอ่าวสองสามด้าน วิวดีเลยทีเดียว ทรายเนียนขาว ธรรมชาติมากๆ มีวิวต้นมะพร้าวและมีควายด้วย ที่สำคัญ! เดินทางสะดวก เพราะทางรีสอร์ทมีบริการรับ-ส่ง ฟรี!! ใช้เวลา 15 นาทีจากรีสอร์ทจ้า ใครอยากพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติที่งดงามและเงียบสงบ แบบเรา ก็อย่าลืมปักหมุดที่แหลมหาด และจองที่พักที่ บ้านธรัญญา รีสอร์ท เกาะยาวใหญ่