เมื่อเดือนที่แล้วเพิ่งมีโอกาสไปเช่ารถขับเที่ยวเองในประเทศอังกฤษมาครับ
เลยอยากจะแชร์ประสบการณ์ให้คนที่กำลังจะวางแผนไปขับรถเที่ยวในอังกฤษครับ ในอังกฤษขับรถไม่ยาก รถพวงมาลัยขวาเหมือนบ้านเรา แต่ในเมืองใหญ่ๆ การจราจรและถนนหนทาง จะทำให้ขับยากหน่อยครับ เพราะมีหลายปัจจัย เช่นถนนในเมืองบางเมืองค่อนข้างแคบ รถสวนกันลำบาก หรือบางเมืองใหญ่ๆ ถนนจะซับซ้อนมุดไปมุดมา ชวนให้หลงทางได้ง่ายๆครับ ส่วนตัวผมจึงมักหลีกเลี่ยงการขับรถในเมือง อาศัยจอดแล้วนั่งรถเมล์ รถไฟในเมืองเที่ยวเอาครับ เริ่มกันเลยครับ
- บริษัทเช่ารถที่อังกฤษ มีมากมายหลากหลาย ให้เลือกสรรครับ แต่แนะนำว่าถ้าแพลนได้แต่เนินๆ ก็จะได้ราคาดี มีรถสวยๆหรูๆ ให้เลือกในราคามิตรภาพครับ
- การเช่ารถที่อังกฤษ จำเป็นที่จะต้องมีใบขับขี่สากล และ แนบพร้อมด้วยใบขับขี่ไทยครับ (อันนี้เกือบพลาดไม่ได้เอาไป เพราะคิดว่าไม่ได้ใช้ แต่เจ้าหน้าที่ถามหาเพื่อนำไปสแกนแนบกับใบขับขี่สากล)
- คนอังกฤษส่วนมากนิยมขับรถเกียร์ธรรมดาครับ (ไม่รู้มากเท่าไหร่ครับ แต่คิดว่ามากพอสมควร จากการเดินแอบๆดูรถในที่จอดรถเกือบ 8ใน 10คันที่จอดจะเป็นเกียร์ธรรมดา) ดังนั้นรถที่มีให้เช่าส่วนมาก มักจะเป็นเกียร์ธรรมดา ดังนั้นก่อนจองรถ ต้องดูให้ดีครับว่าจองรถแบบไหนไปครับ
- เข้าใจว่ารถเช่าในอังกฤษจะมี GPS ให้อยู่แล้ว (ตอนผมจองรถไม่ได้ใส่ไปว่าจะเอาจีพีเอส แต่รถที่ได้ติดตั้งมาเป็น options ในรถอยู่แล้วครับ ไม่ได้เสียเงินเพิ่ม)ดังนั้น ลองสอบถามกับผู้ให้บริการเช่ารถด้วยก็ดีครับ เพราะมีประโยชน์มาก จีพีเอสในรถที่ผมใช้ บอกถึงความเร็วบนถนนที่เรากำลังขับอยู่ได้ด้วยช่วยป้องกันการขับรถเร็วเกินกว่ากำหนด (บางทีถนนเค้าโลง น่าเยียบดีจริงครับ เกือบเกินไปหลายทีเหมือนกัน)
- มีประกันภัยให้เลือกหลายแบบครับ ผมว่าซื้อไว้ไม่เสียหลาย เกิดอะไรมาประกันจะได้ดูแล ทริปเที่ยวจะได้ไม่กร่อยครับ
- ถนนหนทางหลังๆในอังกฤษ สภาพดี มีทางหลัก วิ่งได้ไม่เกิน 70 ไมล์ต่อชั่วโมง ถนนลองๆลงมา ความเร็วก็ลดหลั่นลงมาตามขนาดครับ ส่วนถนนเข้าหมู่บ้านถนนหรือในฟาร์มอาจจะลดขนาดเหลือเลนเดียว เวลาสวนกันต้องชิดขอบแล้วสลับกันไปครับ
- ถนนในอังกฤษจะมีวงเวียนเยอะมาก (เข้าใจว่าใช้แทนไฟจราจร) ก่อนเข้าวงเวียน ต้องจอดและมันใจว่าให้รถทางขวาไปก่อนเสมอครับ แม้ว่าในวงเวียนจะมีสองเลน และรถทางขวาจะอยู่เลนในก็ตาม (ส่วนตัวเองขับแรกๆ เจอวนเวียนก็ขับเข้าไปเลย เหมือนเมืองไทยโดนบีบแตรด่ายาวเลยครับ ที่พีคสุดคือ ขับเข้าไปในขณะที่รถพ่วง 18ล้อเข้ามา พี่เบิ้มแกบีบแตรลั่นถนน ผมรีบหักออกทางออกแรกทันที พี่แกก็หักตามมาเพราะดันไปขวงทางออกแก โชคยังดี ไม่เกิดอุบัติเหตุ จากครั้งนั้น ก่อนเข้าวงเวียนผมจอดก่อนทุกที)
-ไฟจราจรในอังกฤษจะไม่มีเลขนับถอยหลังตอนไฟเขียวเหมือนบ้านเราครับ เขียวแล้วก็เหลืองแล้วก็แดงเลย ผมก็เบรคไม่ค่อยทันเข้าเหลืองไปสองสามทีเหมือนกัน ส่วนไฟแดงจะมีนับถอยหลังก่อนจะเป็นไฟเขียวให้เตรียมออกตัว ไอ้เราก็กลัวโดนค่าปรับ เลยไม่ค่อยกล้าๆเหยียบตอนไฟเขียวเท่าไหร่ แต่ช่วงวันท้ายๆเพื่อที่อยู่ในอังกฤษบอกเราขับรถได้เต่ามาก ไฟเขียวไฟเหลืองก็ไม่รีบ แหมผมกลัวโดนปรับกระเป๋าแบบครับ
- ที่จอดรถในเมืองต่างๆ โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยว มักจะมีการจัดที่จอดรถไว้ให้ เป็นที่จอดรถสาธารณะ จ่ายค่าจอดเป็นชั่วโมง ราคาก็แตกต่างกันไปในแต่ละเมือง (ที่จอดรถฟรี หาค่อนข้างยาก) วิธีการจ่ายค่าที่จอด คือเมื่อจอดรถเสร็จ ให้ไปที่ตู้จ่ายเงิน จะมีอัตราค่าบริการแจ้งอยู่ เราก็เลือกเอาว่าจะจอดนานขนาดไหนเช่น 2 ปอนด์ 3 ชม เราก็ใส่เงินไป (รับทั้งการ์ดและเหรียญ) เครื่องจะให้ tickets บอกเวลาว่าจอดได้ถึงกี่โมง เราก็เอาไปวางไปที่หน้ารถแสดงว่าเราจ่ายเงินค่าที่จอดรถแล้ว (ถ้าห้างในเมืองไทยเก็บค่าที่จอดรถประมาณนี้ที่จอดรถคงโล่งน่าดูครับ สรุปค่าค่าที่จอดรถพอๆกะค่าอาหารมื้อนึงเลยโดนเฉพาะเมืองใหญ่ๆที่จอดแพงระยับ)
-น้ำมันหมดเราต้องเติม ที่นี่เค้าเติมน้ำมันกันเองนะครับ น้ำมันในปั๊มในตัวเมืองจะราคาถูกกว่าปั๊มน้ำมันในทางด่วน (อันนี้เพื่อนที่อังกฤษบอกมา) เช่นปั๊มใน Sainsburys ถูกกว่า BP ในทางด่วนอยู่โข วิธีการเติมก็ไปที่ตู้น้ำมันที่เราต้องการ ยกหัวจ่ายเสียบเข้าถังแล้วก็เติมเลยครับ เอามากน้อยก็ดูตามมิเตอร์เลยครับ ส่วนผมเติมเต็มถังตลอดก็กดจนเซ็นเซอร์มันตัด ก็เอาแค่นั้น กลัวล้น จากนั้นก็เก็บหัวจ่าย เดินไปจ่ายเงินในร้านสะดวกซื้อ เป็นอันเสร็จพิธี ที่สำคัญเลือกน้ำมันให้ถูกประเภทนะครับ เดี๋ยวงานจะเข้า
- ศัพท์ต่างๆ ที่ ป้า GPS ชอบพูดตอนแรกก็งงว่าป้าแกให้ไปทางไหน roundabout = วงเวียน , bear (left-right) = ไป(เลี้ยว)(ซ้าย-ขวา)
-ที่สำคัญคือขอให้ปฎิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งเครียด อย่าให้ใครมาว่าเราได้ว่าคนไทยไร้วินัยไม่เคารพกฎครับ
ขอให้มีความสุขสนุกสนานกับการขับรถเที่ยวอังกฤษครับ ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมนึกออก เดี๋ยวแวะม่เพิ่มครับ
ถ้าหากผมเข้าใจผิดพล่ด หรือข้อมูลไม่ถูกต้อง ท่านใดเห็นว่าไม่ถูก ช่วยท้วงติงแก้ไข จักเป็นพระคุณอย่างสูงครับ
เพิ่งมีโอกาสได้ไปขับรถเที่ยวที่อังกฤษ เลยอยากแบ่งปันครับ
เลยอยากจะแชร์ประสบการณ์ให้คนที่กำลังจะวางแผนไปขับรถเที่ยวในอังกฤษครับ ในอังกฤษขับรถไม่ยาก รถพวงมาลัยขวาเหมือนบ้านเรา แต่ในเมืองใหญ่ๆ การจราจรและถนนหนทาง จะทำให้ขับยากหน่อยครับ เพราะมีหลายปัจจัย เช่นถนนในเมืองบางเมืองค่อนข้างแคบ รถสวนกันลำบาก หรือบางเมืองใหญ่ๆ ถนนจะซับซ้อนมุดไปมุดมา ชวนให้หลงทางได้ง่ายๆครับ ส่วนตัวผมจึงมักหลีกเลี่ยงการขับรถในเมือง อาศัยจอดแล้วนั่งรถเมล์ รถไฟในเมืองเที่ยวเอาครับ เริ่มกันเลยครับ
- บริษัทเช่ารถที่อังกฤษ มีมากมายหลากหลาย ให้เลือกสรรครับ แต่แนะนำว่าถ้าแพลนได้แต่เนินๆ ก็จะได้ราคาดี มีรถสวยๆหรูๆ ให้เลือกในราคามิตรภาพครับ
- การเช่ารถที่อังกฤษ จำเป็นที่จะต้องมีใบขับขี่สากล และ แนบพร้อมด้วยใบขับขี่ไทยครับ (อันนี้เกือบพลาดไม่ได้เอาไป เพราะคิดว่าไม่ได้ใช้ แต่เจ้าหน้าที่ถามหาเพื่อนำไปสแกนแนบกับใบขับขี่สากล)
- คนอังกฤษส่วนมากนิยมขับรถเกียร์ธรรมดาครับ (ไม่รู้มากเท่าไหร่ครับ แต่คิดว่ามากพอสมควร จากการเดินแอบๆดูรถในที่จอดรถเกือบ 8ใน 10คันที่จอดจะเป็นเกียร์ธรรมดา) ดังนั้นรถที่มีให้เช่าส่วนมาก มักจะเป็นเกียร์ธรรมดา ดังนั้นก่อนจองรถ ต้องดูให้ดีครับว่าจองรถแบบไหนไปครับ
- เข้าใจว่ารถเช่าในอังกฤษจะมี GPS ให้อยู่แล้ว (ตอนผมจองรถไม่ได้ใส่ไปว่าจะเอาจีพีเอส แต่รถที่ได้ติดตั้งมาเป็น options ในรถอยู่แล้วครับ ไม่ได้เสียเงินเพิ่ม)ดังนั้น ลองสอบถามกับผู้ให้บริการเช่ารถด้วยก็ดีครับ เพราะมีประโยชน์มาก จีพีเอสในรถที่ผมใช้ บอกถึงความเร็วบนถนนที่เรากำลังขับอยู่ได้ด้วยช่วยป้องกันการขับรถเร็วเกินกว่ากำหนด (บางทีถนนเค้าโลง น่าเยียบดีจริงครับ เกือบเกินไปหลายทีเหมือนกัน)
- มีประกันภัยให้เลือกหลายแบบครับ ผมว่าซื้อไว้ไม่เสียหลาย เกิดอะไรมาประกันจะได้ดูแล ทริปเที่ยวจะได้ไม่กร่อยครับ
- ถนนหนทางหลังๆในอังกฤษ สภาพดี มีทางหลัก วิ่งได้ไม่เกิน 70 ไมล์ต่อชั่วโมง ถนนลองๆลงมา ความเร็วก็ลดหลั่นลงมาตามขนาดครับ ส่วนถนนเข้าหมู่บ้านถนนหรือในฟาร์มอาจจะลดขนาดเหลือเลนเดียว เวลาสวนกันต้องชิดขอบแล้วสลับกันไปครับ
- ถนนในอังกฤษจะมีวงเวียนเยอะมาก (เข้าใจว่าใช้แทนไฟจราจร) ก่อนเข้าวงเวียน ต้องจอดและมันใจว่าให้รถทางขวาไปก่อนเสมอครับ แม้ว่าในวงเวียนจะมีสองเลน และรถทางขวาจะอยู่เลนในก็ตาม (ส่วนตัวเองขับแรกๆ เจอวนเวียนก็ขับเข้าไปเลย เหมือนเมืองไทยโดนบีบแตรด่ายาวเลยครับ ที่พีคสุดคือ ขับเข้าไปในขณะที่รถพ่วง 18ล้อเข้ามา พี่เบิ้มแกบีบแตรลั่นถนน ผมรีบหักออกทางออกแรกทันที พี่แกก็หักตามมาเพราะดันไปขวงทางออกแก โชคยังดี ไม่เกิดอุบัติเหตุ จากครั้งนั้น ก่อนเข้าวงเวียนผมจอดก่อนทุกที)
-ไฟจราจรในอังกฤษจะไม่มีเลขนับถอยหลังตอนไฟเขียวเหมือนบ้านเราครับ เขียวแล้วก็เหลืองแล้วก็แดงเลย ผมก็เบรคไม่ค่อยทันเข้าเหลืองไปสองสามทีเหมือนกัน ส่วนไฟแดงจะมีนับถอยหลังก่อนจะเป็นไฟเขียวให้เตรียมออกตัว ไอ้เราก็กลัวโดนค่าปรับ เลยไม่ค่อยกล้าๆเหยียบตอนไฟเขียวเท่าไหร่ แต่ช่วงวันท้ายๆเพื่อที่อยู่ในอังกฤษบอกเราขับรถได้เต่ามาก ไฟเขียวไฟเหลืองก็ไม่รีบ แหมผมกลัวโดนปรับกระเป๋าแบบครับ
- ที่จอดรถในเมืองต่างๆ โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยว มักจะมีการจัดที่จอดรถไว้ให้ เป็นที่จอดรถสาธารณะ จ่ายค่าจอดเป็นชั่วโมง ราคาก็แตกต่างกันไปในแต่ละเมือง (ที่จอดรถฟรี หาค่อนข้างยาก) วิธีการจ่ายค่าที่จอด คือเมื่อจอดรถเสร็จ ให้ไปที่ตู้จ่ายเงิน จะมีอัตราค่าบริการแจ้งอยู่ เราก็เลือกเอาว่าจะจอดนานขนาดไหนเช่น 2 ปอนด์ 3 ชม เราก็ใส่เงินไป (รับทั้งการ์ดและเหรียญ) เครื่องจะให้ tickets บอกเวลาว่าจอดได้ถึงกี่โมง เราก็เอาไปวางไปที่หน้ารถแสดงว่าเราจ่ายเงินค่าที่จอดรถแล้ว (ถ้าห้างในเมืองไทยเก็บค่าที่จอดรถประมาณนี้ที่จอดรถคงโล่งน่าดูครับ สรุปค่าค่าที่จอดรถพอๆกะค่าอาหารมื้อนึงเลยโดนเฉพาะเมืองใหญ่ๆที่จอดแพงระยับ)
-น้ำมันหมดเราต้องเติม ที่นี่เค้าเติมน้ำมันกันเองนะครับ น้ำมันในปั๊มในตัวเมืองจะราคาถูกกว่าปั๊มน้ำมันในทางด่วน (อันนี้เพื่อนที่อังกฤษบอกมา) เช่นปั๊มใน Sainsburys ถูกกว่า BP ในทางด่วนอยู่โข วิธีการเติมก็ไปที่ตู้น้ำมันที่เราต้องการ ยกหัวจ่ายเสียบเข้าถังแล้วก็เติมเลยครับ เอามากน้อยก็ดูตามมิเตอร์เลยครับ ส่วนผมเติมเต็มถังตลอดก็กดจนเซ็นเซอร์มันตัด ก็เอาแค่นั้น กลัวล้น จากนั้นก็เก็บหัวจ่าย เดินไปจ่ายเงินในร้านสะดวกซื้อ เป็นอันเสร็จพิธี ที่สำคัญเลือกน้ำมันให้ถูกประเภทนะครับ เดี๋ยวงานจะเข้า
- ศัพท์ต่างๆ ที่ ป้า GPS ชอบพูดตอนแรกก็งงว่าป้าแกให้ไปทางไหน roundabout = วงเวียน , bear (left-right) = ไป(เลี้ยว)(ซ้าย-ขวา)
-ที่สำคัญคือขอให้ปฎิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งเครียด อย่าให้ใครมาว่าเราได้ว่าคนไทยไร้วินัยไม่เคารพกฎครับ
ขอให้มีความสุขสนุกสนานกับการขับรถเที่ยวอังกฤษครับ ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมนึกออก เดี๋ยวแวะม่เพิ่มครับ
ถ้าหากผมเข้าใจผิดพล่ด หรือข้อมูลไม่ถูกต้อง ท่านใดเห็นว่าไม่ถูก ช่วยท้วงติงแก้ไข จักเป็นพระคุณอย่างสูงครับ