วันนี้ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว กับการเที่ยวแบบ One day trip ไปเช้าเย็นกลับ ท่องเที่ยว จังหวัดสมุทรปราการ
เราขับรถส่วนตัวไปครับ
08.30 - 12.00น. เริ่มต้นทริปนี้ด้วยจุดรวมพล "บางกระเจ้า"
- ปั่นจักรยานพื้นที่สีเขียวรูปกระเพาะหมูในอำเภอพระประแดง สมุทรปราการ ปอดกลางกรุงซึ่งมีอากาศบริสุทธิ์ให้สูดได้เต็มปอด ด้วยเสน่ห์ของธรรมชาติ ช่าจักรยานแบบเหมาทั้งวันราคา 80 บาท
- เดินช้อปปิ้งของกิน ของฝาก ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง
การเดินทางไปบางกระเจ้า
– ลงที่สถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีบางนา ต่อแท็กซี่หรือรถสองแถวไปปลงที่วัดบางนานอก จากนั้นลงเรือข้ามฟากไปยังท่าเรือวัดบางน้ำผึ้งนอก
– นอกจากท่าเรือวัดบางนานอกแล้ว ยังสามารถไปลงเรือที่ท่าเรือคลองเตยนอก ข้ามฟากไปท่าเรือบางกระเจ้าก็ได้เช่นกัน
– สำหรับใครที่มีรถส่วนตัว ขับข้ามสะพานภูมิพล หรือถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ลงถนนเพชรหึงษ์ เลี้ยวตรงซอยวัดบางน้ำผึ้ง และไปจอดแถวๆ ตลาดน้ำบางน้ำผึ้งก็สะดวกเช่นกัน
13.00 ถึงเป้าหมายของสถานที่ ท่องเที่ยวแหล่งที่สอง คือ "วัดสาขลา"
ไฮไลต์ที่ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของวัดแห่งนี้อยู่ตรง พระปรางค์เอียง หรือเจดีย์เอียง ส่วนด้านบนของพระเจดีย์มีพระพุทธรูปยืนทั้ง 4 ด้าน ในอดีตร้อยกว่าปีมาแล้ว เกิดการทรุดตัวของแผ่นดินจากน้ำท่วมขัง นอกจากสักการะหลวงพ่อโต สิ่งสำคัญที่พลาดไม่ได้คือ การลอดโบสถ์ เชื่อกันว่าเป็นการสะเดาะเคราะห์ เป็นสิริมงคลกับตัวเอง ซึ่งวัดสาขลาได้ยกโบสถ์ให้สูงขึ้น เนื่องจากปัญหาน้ำท่วมในช่วงน้ำหลาก ใต้โบสถ์จึงสามารถลอดไปมาได้ แต่ละวันจะมีพุทธศาสนิกชนมาลอดโบสถ์เสมอโดยเชื่อว่าจะช่วยเสริมสิริมงคล 9 ประการ คือ
มงคลที่ 1 ลอดประตูพระราหู
มงคลที่ 2 ปิดทองลูกนิมิตโบราณ
มงคลที่ 3 บูชาพระบัวเข็ม กราบรูปเหมือนพระเกจิอาจารย์ชื่อดังจำนวนมาก
มงคลที่ 4 โยนเหรียญทำบุญพระสังกัจจายน์
มงคลที่ 5 บูชาพระพุทธรูปที่ขุดพบ
มงคลที่ 6 พระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกขกิริยา
มงคลที่ 7 ปิดทองพระพุทธรูปศิลา
มงคลที่ 8 ปิดทองใต้ฐานองค์หลวงพ่อโต
มงคลที่ 9 ลอดท้องช้าง พรายมหาลาภ
ภายในบริเวณวัดจะมีสินค้าที่ชาวบ้านสาขลาได้นำมาขายหาซื้อเป็นของกินของฝาก
การเดินทาง
ใช้เวลาเดินทางขับรถส่วนตัวจาก บางกระเจ้าถึงวัดสาขลา ประมาณ 52 นาที ระยะทาง 30 กม. วันที่เราเที่ยวรถค่อนข้างติดเพราะเป็นวันหยุด
- รถยนต์ ใช้เส้นทางดาวคะนอง-สุขสวัสดิ์ จากนั้นจะเจอที่ว่าการอำเภอพระสมุทรเจดีย์ ขับตรงไปก็ถึงวัดสาขลา จะมีป้ายบอกทางไปวัดสาขลาตลอดเส้นทาง
- รถโดยสารมายังท่าเรือข้ามฟากปากน้ำ จากนั้นนั่งเรือข้ามไปฝั่งพระสมุทรเจดีย์ จะมีรถสองแถวจอดอยู่ตรงท่าน้ำพระสมุทรเจดีย์ไปถึงวัดสาขลาเลย ค่าโดยสาร 8 บาทตลอดสาย
15.00 น. ถึงเป้าหมายสถานที่ ท่องเที่ยวแห่งที่สาม "วัดอโศการาม"
ไฮไลต์ที่ถือเป็นเอกลักษณ์ คือพระธุตังคเจดีย์ เจดีย์สีขาวขนาดใหญ่ ความงดงามทางสถาปัตยกรรม เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม และเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม
การเดินทาง
ออกจากวัดสาขลา ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง ระยะทาง 43 กิโลเมตร ตั้งGPS พิกัด n13.548171, e100.607257 ด้วยรถยนต์ส่วนตัว ใช้เส้นทางถนนสุขุมวิทสายเก่า (ทางไปบางปู)ประมาณ กม.ที่ 31 จากนั้นกลับรถแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยเทศบาลบางปู 60 เข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะถึงวัดอโศการาม
17.00 น. ถึงเป้าหมายแหล่งท่องเที่ยวสถานที่สุดท้ายของวันคือ "สถานตากอากาศบางปู"
ไฮไลต์ที่ถือเป็นเอกลักษณ์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในแบบพักผ่อนตากอากาศติดชายทะเล เดินเข้ามาใน สถานตากอากาศบางปู จะเห็น “สะพานสุขตา” ปลายสะพาน จะเห็นอาคารหลังใหญ่ตั้งอยู่ เป็นที่ตั้งของศาลา ที่เรียกว่า “ศาลาสุขใจ”
ด้านใน จะมีร้านอาหารตามสั่ง ร้านเครื่องดื่ม ร้านขายของที่ระลึก ตู้ ATM ห้องน้ำ (ช่วงที่ไปไม่มีนกนางนวลครับเสียใจ) นกนางนวลจะมีให้ชมเยอะ ในช่วงเดือน พ.ย.- เม.ษ. ของทุกปี
ภาพประกอบบรรยากาศอาจจะน้อยไป เพราะมัวแต่ถ่ายรูปส่วนตัว
การเดินทาง
ออกจากวัดอโศการามเลี้ยวซ้ายตรงไปกลับรถ ถนนสุขุมวิท (สายเก่า) กิโลเมตรที่ 37 – 38 สถานตากอากาศบางปู จะอยู่ฝั่งขวามือ ต้องไปกลับรถ
One day trip ไปเช้าเย็นกลับ ท่องเที่ยว จังหวัดสมุทรปราการ (บางกระเจ้า - วัดสาขลา - วัดอโศการาม - สถานตากอากาศบางปู)
เราขับรถส่วนตัวไปครับ
08.30 - 12.00น. เริ่มต้นทริปนี้ด้วยจุดรวมพล "บางกระเจ้า"
- ปั่นจักรยานพื้นที่สีเขียวรูปกระเพาะหมูในอำเภอพระประแดง สมุทรปราการ ปอดกลางกรุงซึ่งมีอากาศบริสุทธิ์ให้สูดได้เต็มปอด ด้วยเสน่ห์ของธรรมชาติ ช่าจักรยานแบบเหมาทั้งวันราคา 80 บาท
- เดินช้อปปิ้งของกิน ของฝาก ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง
การเดินทางไปบางกระเจ้า
– ลงที่สถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีบางนา ต่อแท็กซี่หรือรถสองแถวไปปลงที่วัดบางนานอก จากนั้นลงเรือข้ามฟากไปยังท่าเรือวัดบางน้ำผึ้งนอก
– นอกจากท่าเรือวัดบางนานอกแล้ว ยังสามารถไปลงเรือที่ท่าเรือคลองเตยนอก ข้ามฟากไปท่าเรือบางกระเจ้าก็ได้เช่นกัน
– สำหรับใครที่มีรถส่วนตัว ขับข้ามสะพานภูมิพล หรือถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ลงถนนเพชรหึงษ์ เลี้ยวตรงซอยวัดบางน้ำผึ้ง และไปจอดแถวๆ ตลาดน้ำบางน้ำผึ้งก็สะดวกเช่นกัน
13.00 ถึงเป้าหมายของสถานที่ ท่องเที่ยวแหล่งที่สอง คือ "วัดสาขลา"
ไฮไลต์ที่ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของวัดแห่งนี้อยู่ตรง พระปรางค์เอียง หรือเจดีย์เอียง ส่วนด้านบนของพระเจดีย์มีพระพุทธรูปยืนทั้ง 4 ด้าน ในอดีตร้อยกว่าปีมาแล้ว เกิดการทรุดตัวของแผ่นดินจากน้ำท่วมขัง นอกจากสักการะหลวงพ่อโต สิ่งสำคัญที่พลาดไม่ได้คือ การลอดโบสถ์ เชื่อกันว่าเป็นการสะเดาะเคราะห์ เป็นสิริมงคลกับตัวเอง ซึ่งวัดสาขลาได้ยกโบสถ์ให้สูงขึ้น เนื่องจากปัญหาน้ำท่วมในช่วงน้ำหลาก ใต้โบสถ์จึงสามารถลอดไปมาได้ แต่ละวันจะมีพุทธศาสนิกชนมาลอดโบสถ์เสมอโดยเชื่อว่าจะช่วยเสริมสิริมงคล 9 ประการ คือ
มงคลที่ 1 ลอดประตูพระราหู
มงคลที่ 2 ปิดทองลูกนิมิตโบราณ
มงคลที่ 3 บูชาพระบัวเข็ม กราบรูปเหมือนพระเกจิอาจารย์ชื่อดังจำนวนมาก
มงคลที่ 4 โยนเหรียญทำบุญพระสังกัจจายน์
มงคลที่ 5 บูชาพระพุทธรูปที่ขุดพบ
มงคลที่ 6 พระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกขกิริยา
มงคลที่ 7 ปิดทองพระพุทธรูปศิลา
มงคลที่ 8 ปิดทองใต้ฐานองค์หลวงพ่อโต
มงคลที่ 9 ลอดท้องช้าง พรายมหาลาภ
ภายในบริเวณวัดจะมีสินค้าที่ชาวบ้านสาขลาได้นำมาขายหาซื้อเป็นของกินของฝาก
การเดินทาง
ใช้เวลาเดินทางขับรถส่วนตัวจาก บางกระเจ้าถึงวัดสาขลา ประมาณ 52 นาที ระยะทาง 30 กม. วันที่เราเที่ยวรถค่อนข้างติดเพราะเป็นวันหยุด
- รถยนต์ ใช้เส้นทางดาวคะนอง-สุขสวัสดิ์ จากนั้นจะเจอที่ว่าการอำเภอพระสมุทรเจดีย์ ขับตรงไปก็ถึงวัดสาขลา จะมีป้ายบอกทางไปวัดสาขลาตลอดเส้นทาง
- รถโดยสารมายังท่าเรือข้ามฟากปากน้ำ จากนั้นนั่งเรือข้ามไปฝั่งพระสมุทรเจดีย์ จะมีรถสองแถวจอดอยู่ตรงท่าน้ำพระสมุทรเจดีย์ไปถึงวัดสาขลาเลย ค่าโดยสาร 8 บาทตลอดสาย
15.00 น. ถึงเป้าหมายสถานที่ ท่องเที่ยวแห่งที่สาม "วัดอโศการาม"
ไฮไลต์ที่ถือเป็นเอกลักษณ์ คือพระธุตังคเจดีย์ เจดีย์สีขาวขนาดใหญ่ ความงดงามทางสถาปัตยกรรม เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม และเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม
การเดินทาง
ออกจากวัดสาขลา ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง ระยะทาง 43 กิโลเมตร ตั้งGPS พิกัด n13.548171, e100.607257 ด้วยรถยนต์ส่วนตัว ใช้เส้นทางถนนสุขุมวิทสายเก่า (ทางไปบางปู)ประมาณ กม.ที่ 31 จากนั้นกลับรถแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยเทศบาลบางปู 60 เข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะถึงวัดอโศการาม
17.00 น. ถึงเป้าหมายแหล่งท่องเที่ยวสถานที่สุดท้ายของวันคือ "สถานตากอากาศบางปู"
ไฮไลต์ที่ถือเป็นเอกลักษณ์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในแบบพักผ่อนตากอากาศติดชายทะเล เดินเข้ามาใน สถานตากอากาศบางปู จะเห็น “สะพานสุขตา” ปลายสะพาน จะเห็นอาคารหลังใหญ่ตั้งอยู่ เป็นที่ตั้งของศาลา ที่เรียกว่า “ศาลาสุขใจ”
ด้านใน จะมีร้านอาหารตามสั่ง ร้านเครื่องดื่ม ร้านขายของที่ระลึก ตู้ ATM ห้องน้ำ (ช่วงที่ไปไม่มีนกนางนวลครับเสียใจ) นกนางนวลจะมีให้ชมเยอะ ในช่วงเดือน พ.ย.- เม.ษ. ของทุกปี
ภาพประกอบบรรยากาศอาจจะน้อยไป เพราะมัวแต่ถ่ายรูปส่วนตัว
การเดินทาง
ออกจากวัดอโศการามเลี้ยวซ้ายตรงไปกลับรถ ถนนสุขุมวิท (สายเก่า) กิโลเมตรที่ 37 – 38 สถานตากอากาศบางปู จะอยู่ฝั่งขวามือ ต้องไปกลับรถ