เรื่องต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่สอดคล้องเข้ากับสถานการณ์ข่าวเด็กทีมหมูป่าหายเข้าไปในถ้ำพอดิบพอดี กรรมการเห็นว่าทันต่อเหตุการณ์ จึงต้องวางโดยด่วน
เรื่องราวจะตื่นเต้นมากแค่ไหนและจะจบอย่างไร มาอ่านกันดูครับ แล้วก็แจกเกรดกันตามความชอบใจ
จากนั้นก็ลองเมียงๆมองๆ ตรองดู ว่าใคร เขียนเรื่องนี้กัน...มันแนวกรรมการชอบสะด้วยเน้อ...
โยชิตะ ชายวัยเกือบหกสิบ นั่งอ่านข่าวแผ่นดินไหวเมื่อสามสิบปีก่อนของเมืองสุโนะฮาระ บนหน้าหนังสือพิมพ์ที่กระดาษเริ่มเหลืองซีดเพราะความเก่าเก็บ เขาไปค้นหามันมาจากในห้องสมุดประจำเมือง ซึ่งหลังอ่านจบเขาก็นั่งเหม่อ ปล่อยความคิดให้ล่องลอยไปถึงเรื่องราวที่เพิ่งประสบมา
เรื่องมันเริ่มต้นขึ้นหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวซ้ำอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน เหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นเมื่อสามสิบปีที่แล้ว ซึ่งในครั้งนั้นมีผู้คนบาดเจ็บล้มตายลงหลายราย
เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยวัยใกล้เกษียณของเมืองอย่างโยชิตะ กำลังขะมักเขม้นช่วยทีมกู้ภัยค้นหาคนซึ่งอาจถูกฝังอยู่ใต้เศษซากอาคารที่พังทลายลงมา โชคดีที่เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของชาวเมืองมากนัก
กริ๊งงงงงง.... สัญญาณเรียกเข้าจากมือถือของเขาดังขึ้น โยชิตะละมือจากพลั่วยกเครื่องมือสื่อสารขึ้นดู....
อายู หวาดกลัวจนแทบสติแตกต่อสภาพแวดล้อมของตัวเองในขณะนี้ แต่ไหนแต่ไรมาเธอเกลียดกลัวความมืดอย่างที่สุด ทว่าบัดนี้ตัวเองกลับกำลังมะงุมมะงาหราอยู่ในเงามืดสลัวของโถงถ้ำ เพราะทางเดินจากโถงไปปากถ้ำถูกปิดสนิทด้วยกองหินขนาดใหญ่ มันถล่มลงมาขณะเกิดแผ่นดินไหวขึ้นเมื่อครู่ ซึ่งในตอนนั้นพื้นถ้ำโคลงเคลงสั่นไหวอย่างรุนแรงราวโลกกำลังจะถล่มทลาย ก่อนก้อนหินน้อยใหญ่จะร่วงลงมากักกั้นเธอไว้จากด้านนอกโดยสิ้นเชิง
หญิงสาวสะอื้นไห้เมื่อนึกถึงภาพของซาคาอิแฟนหนุ่มของเธอ เขาวิ่งหนีหลบหินเข้ามาด้านในด้วยกันไม่ทัน ภาพสุดท้ายที่เห็นก็คือ เขาเป็นคนผลักเธอให้กระเด็นเข้ามา ก่อนตัวเองจะสะดุดล้มลงแล้วหินก้อนใหญ่ก็หล่นลงบนร่างเขาพอดี จากนั้นหินขนาดต่างๆ ยังร่วงตามลงมาทับตัวเขาอีกจนจมมิด มองเห็นเพียงกองหินเต็มช่องทางเดินไปหมด
เป็นความผิดของเธอเองที่ชวนแฟนหนุ่มเข้ามาเที่ยวถ้ำอิบูกิในวันหยุดยาว มันเป็นถ้ำขนาดเล็กหนึ่งในสามถ้ำของวนอุทยานคิริฮาระ กระทั่งเลยกำหนดเวลาเข้าชมถ้ำแล้วก็ยังไม่รีบพากันกลับ เธอมัวแต่ยืนบันทึกภาพธารน้ำไหลในถ้ำเพลิน เพราะอุทยานติดป้ายประกาศว่าพรุ่งนี้จะปิด ไม่ให้เข้ามาชมอีก จนเกิดแผ่นดินไหวอย่างกะทันหันพวกเธอจึงหนีออกมาไม่ทัน
หลังจากมีอาฟเตอร์ช็อคตามมาอีกหลายครั้งเหตุการณ์ถึงค่อยสงบลง พอตั้งตัวได้มั่นอายูก็เขยิบเข้าหากองหิน พลางตะโกนเรียกหาคนรัก
“ซาคาอิ”
เรียกเขาเสียงดังแต่ไร้เสียงตอบรับ ได้ยินเพียงเสียงตัวเองดังก้องสะท้อนสะท้านอยู่ในโพรงถ้ำอันเงียบเชียบ หญิงสาวทรุดตัวลงคลานเข้าไปใกล้กองหิน พร่ำเรียกคนรักเสียงสั่น
“ซาคาอิ ๆ เธอเป็นไงมั่ง...ตอบฉันสิ” ทว่ากองหินนิ่งสนิท ไม่มีสัญญาณตอบของร่างข้างใต้ เธอเรียกซ้ำอีกหลายครั้งซึ่งก็ไม่เป็นผล ในที่สุดอายูก็ร้องไห้โฮ เมื่อตระหนักแล้วว่าที่นี่เหลือเพียงตัวเองเท่านั้น ไม่มีใครอื่นอีก
น้ำตาหลั่งทะลักอาบใบหน้าเมื่อนึกถึงร่างที่ติดอยู่ภายใต้กองหิน เธอใช้สองมือบอบบางของตัวเองลองดันมันดู เพียงเพื่อพบว่ามันไม่ได้ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย
ล้วงหาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงตัวเอง เธอต้องรีบแจ้งข่าวร้ายให้คนอื่นรู้ บางทีความช่วยเหลืออาจมาทันช่วยชีวิตซาคาอิด้วยก็ได้ นึกอย่างมีความหวังขณะกดหาที่ทำการอุทยานเป็นอันดับแรก
เงียบ....ไม่มีคนรับสาย
หรือว่าพวกเขาจะเลิกงานกันไปหมดแล้ว แต่ทำไมเจ้าหน้าที่ถึงไม่อยู่รอนับจำนวนนักท่องเที่ยวที่ยังไม่กลับออกไปล่ะ พรุ่งนี้วนอุทยานก็จะปิดซึ่งนั่นหมายถึงว่าจะไม่มีใครมาที่นี่อีก
หญิงสาวใจคอไม่ดี เปลี่ยนเป็นกดหาเบอร์โทรฉุกเฉินของสถานีตำรวจและหน่วยบรรเทาสาธารณภัยแทน...ซึ่งยิ่งทำให้ต้องแตกตื่น เพราะไร้เสียงตอบรับกลับมาเช่นกัน มือเธอสั่นระรัวขณะกดหาเบอร์ของพ่อแม่ญาติพี่น้อง ตลอดจนเพื่อนๆ ในมหาวิทยาลัย แต่ก็ไร้คนรับสายเหมือนเดิม
ข้างนอกเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า...ฉุกคิดอย่างตื่นตระหนก
หรือว่าขณะนี้ในเมืองก็เกิดมหันตภัยจากแผ่นดินไหว จนต้องระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจกับหน่วยกู้ภัยไปช่วยกันหมด ไม่เหลือไว้ให้ช่วยเหลือเธออีก พยายามกดโทร.ออกหลายต่อหลายครั้งแต่ผลลัพธ์ก็คือความเงียบ...มือที่ถือโทรศัพท์ตกลงอย่างอ่อนแรง ฟันกระทบกันกึกกักจากความกลัวและความหนาวเย็นที่เริ่มคืบคลานเข้ามาห้อมล้อมรอบตัว
“ช่วยด้วย...ช่วยด้วยค่ะ มีคนติดอยู่ในนี้ ”
ร้องตะโกนออกไปจนสุดเสียง เพราะดูเหมือนเป็นทางเดียวที่พอทำได้ เธอกรีดร้องขอความช่วยเหลือพลางหยัดตัวลุกขึ้นยืนใหม่ พยายามคลำเสาะหาทางออกอื่นจากโพรงถ้ำอันทึบตัน จนเวลาผ่านไปนับชั่วโมงเสียงของเธอก็หมดลง เช่นเดียวกับเรี่ยวแรงที่ถดถอย หญิงสาวปล่อยตัวเองให้รูดลงนั่งกับพื้นในสภาพของคนหมดแรง
หลังจมอยู่ในความหวาดกลัวพักใหญ่ อายูก็ตั้งสติขึ้นมาอีกครั้ง เธอเพ่งมองไปรอบข้างเพื่อปรับสายตาให้เข้ากับแสงเลือนราง ที่ส่องผ่านปล่องกว้างสักครึ่งเมตร อยู่สูงขึ้นไปด้านบนกว่าสิบเมตร แต่ผนังหินที่ชื้นและเรียบลื่นก็ทำให้หมดหวังจะปีนป่ายขึ้นไปได้
หญิงสาวปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างไม่รู้จะทำยังไงกับตัวเองดี กระทั่งราตรีกาลเข้ามาเยือน อายูก็ตกอยู่ในความมืดอย่างแท้จริง เธอนั่งพิงไหล่เข้ากับผนังถ้ำอันเย็นชืดในสภาพหิวโหยและหวาดกลัว รอให้ผ่านค่ำคืนไปอย่างทรมาน...
“เพิ่งมีคนโทร.มาขอความช่วยเหลือว่าติดอยู่ในถ้ำอิบูกิ” โยชิตะโทรศัพท์ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นเพื่อนสนิท
“เธอชื่ออายู เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยโอคาตะ เธอบอกว่าปลอดภัยดี แต่แฟนของเธอถูกหินหล่นลงมาทับ ติดอยู่ในนั้นได้คืนหนึ่งแล้ว”
“น่าแปลก ทำไมเธอโทร.ขอความช่วยเหลือจากนายแทนที่จะโทร.หาตำรวจ แล้วที่นั่นก็ไม่เห็นมีใครแจ้งเหตุหินถล่มในถ้ำสักคน อุทยานก็เปิดทำการปกติ” นายตำรวจนากาฮาระนึกสงสัย “นายแน่ใจนะว่าไม่มีใครเล่นตลกกับนาย” เขาถามมาอ
“อืมมม์ ฉันก็ว่าแปลก ถึงได้ขอให้นายไปดูก่อนไงล่ะ ฉันกำลังขับรถไป...ที่ว่าแปลกก็คือ ผู้หญิงคนนั้นโทร.หาฉันตามเบอร์ที่ฉันเคยเขียนติดผนังถ้ำนั้น สมัยยังหนุ่มคึกคะนอง แต่ไม่กี่วันฉันก็รีบไปลบมันทิ้ง และคิดว่าไม่น่ามีใครรู้เรื่องนี้
“ก็ถ้านายลบไปแล้วจะมีใครเห็นได้อีก เธอล้อนายเล่นหรือเปล่า เธออาจได้มันมาจากที่ไหนสักแห่ง แล้วมาแกล้งอำนายเล่น”
“ฉันสงสัยว่าเธอรู้เรื่องนี้ได้ไงน่ะสิ ขนาดเมียกับลูกๆ ฉันยังไม่เคยเล่าให้พวกเขาฟังเลย นายช่วยไปดูหน่อยเถอะเพื่อน ถ้าหากเป็นแค่เรื่องล้อเล่นก็แล้วกันไป ดีเสียอีก แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงเราจะมานั่งเสียใจกันทีหลัง ถ้าไปช่วยเธอไม่ทัน”
“เอางั้นก็ได้ ตกลงเพื่อน ฉันจะล่วงหน้าไปก่อน แล้วพบกันที่ปากถ้ำอิบูกิ ถ้ามีเหตุการณ์นี้จริงฉันจะประสานกับหน่วยกู้ภัยที่นี่ให้เอง”
“ขอบใจนายมาก แล้วเจอกันเพื่อน” โยชิตะกดปิดมือถือ ก่อนเร่งความเร็วของรถขึ้นอีก
อายูลูบคลำร่องรอยบนผนังถ้ำอย่างดีใจ มันคือตัวเลขเขียนด้วยสีแดงจำนวนสิบตัว ซึ่งเป็นหมายเลขโทรศัพท์ของใครบางคนที่เขียนทิ้งไว้เพื่อช่วยเหลือเธอ
จะให้คิดว่าไงล่ะ...เพราะในนาทีที่เกือบหมดหวังใช้โทรศัพท์ติดต่อขอความช่วยเหลือจากใครอยู่แล้ว เธอกลับอยากลองสุ่มโทร.เลขพวกนี้ดู แล้วมันก็เกิดโทร.ติดเข้าจริงๆ แถมปลายสายยังเป็นเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยอีกด้วย
“คุณไม่ได้ประสาทหลอนหรอกครับ ผมกำลังคุยอยู่กับคุณจริงนั่นแหละ เอาเถอะไม่ว่ายังไง ผมขอแนะนำให้ถนอมแบตเตอร์รี่โทรศัพท์ของคุณไว้ ถ้าคุณติดอยู่ในถ้ำจริงก็อย่ากดโทรศัพท์เล่น เพราะมันเป็นรุ่นเก่าที่แบตฯหมดเร็วมาก จนกว่าผมจะไปถึงที่นั่น” เสียงผู้ชายปลายสายสำทับมา หลังรู้ว่าเธอใช้เครื่องมือสื่อสารชนิดไหนติดต่อกับเขา “ผมกำลังรีบมาพร้อมความช่วยเหลือ”
เขาบอกเธอให้ใจเย็นๆ รอ และจะเป็นคนประสานขอความช่วยเหลือให้กับเธอเอง อายูกำโทรศัพท์ไว้แน่น ต้องขอบคุณมันที่ช่วยชีวิตเธอไว้ ให้เธอออกไปจากนรกขุมนี้ได้ นั่งคุดคู้รอความช่วยเหลือจากเขาอย่างใจจดใจจ่อ ระยะทางจากที่เขาอยู่กับถ้ำนี้ไม่ไกลกันนัก ไม่นานความช่วยเหลือก็จะมาถึง เหลียวมองไปทางกองหินซึ่งทับร่างของแฟนหนุ่มอยู่ แล้วอายูก็สะอึกสะอื้นออกมาอย่างสุดแสนเสียใจ
ชายสองคนเดินเข้าปากถ้ำอิบูกิมาเมื่อเย็นมากแล้ว พลางกวาดลำแสงของไฟฉายมองหาหญิงสาวเคราะห์ร้ายว่าอยู่ตรงไหนของถ้ำ แต่สภาพภายในถ้ำซึ่งไม่ลึกนักกลับดูโล่ง เงียบสงบ ไม่มีสภาพว่าถูกหินถล่มลงมาปิดทางเข้าออกแต่อย่างใด
โยชิตะกับนากาฮาระต่างหันมามองหน้า พวกเขาพากันเดินลึกเข้าไปในโถงถ้ำ โยชิตะกวาดตามองไปทั่วอย่างฉงนสนเท่ห์ เมื่อไม่พบสิ่งผิดปกติเขาก็ก้าวตรงไปที่ผนังด้านในสุดของถ้ำ ลูบมือลงบนผนังที่มีร่องรอยพ่นสีดำยาวกว่าคืบ เขาเคยเขียนตัวเลขสิบตัวด้วยสีแดงไว้ที่นี่
พลันโยชิตะก็ขมวดคิ้วนิ่งคิด...แล้วจึงยกโทรศัพท์มือถือขึ้นกดโทร.ออก
เสียงสัญญาณโทรศัพท์ดังขึ้น อายูผวาขึ้นทั้งตัว รีบกดรับอย่างดีใจ
“คุณอายู คุณยังอยู่ที่เดิมใช่ไหมครับ” ได้ยินเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยคนนั้นถามมา หญิงสาวละล่ำละลักตอบเขา
“ค่ะ ฉันรอคุณอยู่ เมื่อไหร่คุณจะช่วยฉันออกไปเสียที ฉันทั้งกลัวทั้งหิว รีบเร่งมือหน่อยเถอะค่ะ ช่วยซาคาอิด้วย เขาโดนกองหินทับอยู่ค่ะ”
อายูถามอย่างสงสัยพลางอ้อนวอนให้ช่วย เขามัวโอ้เอ้อะไรอยู่ ป่านนี้ยังไม่หาทีมมาช่วยเหลือเธออีก
โยชิตะมอง จี พี เอส เช็คตำแหน่งที่อายูพูดโทรศัพท์กับเขา...เธอไม่ได้โกหก
“อายู...ผมมาแล้ว คุณช่วยบอกวันเวลาหน้าจอโทรศัพท์ของคุณให้ผมที วันนี้คือวันเดือนปีอะไร”
“คุณถามทำไม? วันนี้เหรอคะ ก็วันที่ 1 กรกฏาคม ปี 1988 ไง”
โยชิตะชะงักอึ้ง เขาหน้าถอดสีขณะยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู มันบอกวันเวลาบนนั้นว่า วันนี้คือวันที่ 1 กรกฏาคม ปี 2018
รายชื่อให้เลือกตอบครับ
1. B-thirteen
2. Christian Trevelyan Grey
3. Chee River
4. GTW
5. KTHc
6. ladylongleg (สมาชิกหมายเลข 2326325)
7. Lady Star 919
8. Na(นะ)
9. psycho_factory
10. Soul Master
11. Susisiri
12. TOSHARE (สมาชิกหมายเลข 4563770)
13. turtle_cheesecake
14. WANG JIE
15. คีตมินทร์
16. จอมยุทธนักสืบ
17. ชายขอบคันนายาว
18. นลินมณี
19. ยัยตัวร้ายมุกอันดา
20. รัชต์สารินท์
21. ลายลิขิต
22. สวนดอก
23. น้องโจอี้ (สมาชิกหมายเลข 817884)
24. มัศยวีร์
*** รายชื่อ อาจมีการเปลี่ยนแปลง แก้ไขเพิ่มเติม ได้ทุกเมื่อ ^^
*** จะเฉลยถุงมือนี้ใน
วันที่ 6 กรกฎาคม 2561 ภาพปริศนาจะวาง วันที่ 5 (คืนวันที่ 4 เวลาเที่ยงคืน) ครับ ***
สโลแกนของเราคือ "เขียนเมื่ออยากเขียน แต่งเมื่ออยากแต่ง เล่นซ่อนหากันเมื่ออยากเล่น"
จัดไป ในแต่ละสัปดาห์ สรุปผลคะแนนทุกครั้งที่เฉลย
ผู้ชนะที่ 1 และ/หรือ ผู้ที่ไม่มีใครทายถูก จะเข้ารอบ
THE GLOVES FINAL 2018 ตอนปลายปี (ในฐานะมือวาง) ครับผม
🌾🌴🌾 THE WEEKLY GLOVES ไตรมาสสุดท้าย วีคที่ 28 เรื่องสั้น#57 "เหนือถ้ำ" โดย "ถุงมือน้ำแข็งโซดา" 🌾🌴🌾
เรื่องต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่สอดคล้องเข้ากับสถานการณ์ข่าวเด็กทีมหมูป่าหายเข้าไปในถ้ำพอดิบพอดี กรรมการเห็นว่าทันต่อเหตุการณ์ จึงต้องวางโดยด่วน
เรื่องราวจะตื่นเต้นมากแค่ไหนและจะจบอย่างไร มาอ่านกันดูครับ แล้วก็แจกเกรดกันตามความชอบใจ
จากนั้นก็ลองเมียงๆมองๆ ตรองดู ว่าใคร เขียนเรื่องนี้กัน...มันแนวกรรมการชอบสะด้วยเน้อ...
โยชิตะ ชายวัยเกือบหกสิบ นั่งอ่านข่าวแผ่นดินไหวเมื่อสามสิบปีก่อนของเมืองสุโนะฮาระ บนหน้าหนังสือพิมพ์ที่กระดาษเริ่มเหลืองซีดเพราะความเก่าเก็บ เขาไปค้นหามันมาจากในห้องสมุดประจำเมือง ซึ่งหลังอ่านจบเขาก็นั่งเหม่อ ปล่อยความคิดให้ล่องลอยไปถึงเรื่องราวที่เพิ่งประสบมา
เรื่องมันเริ่มต้นขึ้นหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวซ้ำอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน เหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นเมื่อสามสิบปีที่แล้ว ซึ่งในครั้งนั้นมีผู้คนบาดเจ็บล้มตายลงหลายราย
เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยวัยใกล้เกษียณของเมืองอย่างโยชิตะ กำลังขะมักเขม้นช่วยทีมกู้ภัยค้นหาคนซึ่งอาจถูกฝังอยู่ใต้เศษซากอาคารที่พังทลายลงมา โชคดีที่เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของชาวเมืองมากนัก
กริ๊งงงงงง.... สัญญาณเรียกเข้าจากมือถือของเขาดังขึ้น โยชิตะละมือจากพลั่วยกเครื่องมือสื่อสารขึ้นดู....
อายู หวาดกลัวจนแทบสติแตกต่อสภาพแวดล้อมของตัวเองในขณะนี้ แต่ไหนแต่ไรมาเธอเกลียดกลัวความมืดอย่างที่สุด ทว่าบัดนี้ตัวเองกลับกำลังมะงุมมะงาหราอยู่ในเงามืดสลัวของโถงถ้ำ เพราะทางเดินจากโถงไปปากถ้ำถูกปิดสนิทด้วยกองหินขนาดใหญ่ มันถล่มลงมาขณะเกิดแผ่นดินไหวขึ้นเมื่อครู่ ซึ่งในตอนนั้นพื้นถ้ำโคลงเคลงสั่นไหวอย่างรุนแรงราวโลกกำลังจะถล่มทลาย ก่อนก้อนหินน้อยใหญ่จะร่วงลงมากักกั้นเธอไว้จากด้านนอกโดยสิ้นเชิง
หญิงสาวสะอื้นไห้เมื่อนึกถึงภาพของซาคาอิแฟนหนุ่มของเธอ เขาวิ่งหนีหลบหินเข้ามาด้านในด้วยกันไม่ทัน ภาพสุดท้ายที่เห็นก็คือ เขาเป็นคนผลักเธอให้กระเด็นเข้ามา ก่อนตัวเองจะสะดุดล้มลงแล้วหินก้อนใหญ่ก็หล่นลงบนร่างเขาพอดี จากนั้นหินขนาดต่างๆ ยังร่วงตามลงมาทับตัวเขาอีกจนจมมิด มองเห็นเพียงกองหินเต็มช่องทางเดินไปหมด
เป็นความผิดของเธอเองที่ชวนแฟนหนุ่มเข้ามาเที่ยวถ้ำอิบูกิในวันหยุดยาว มันเป็นถ้ำขนาดเล็กหนึ่งในสามถ้ำของวนอุทยานคิริฮาระ กระทั่งเลยกำหนดเวลาเข้าชมถ้ำแล้วก็ยังไม่รีบพากันกลับ เธอมัวแต่ยืนบันทึกภาพธารน้ำไหลในถ้ำเพลิน เพราะอุทยานติดป้ายประกาศว่าพรุ่งนี้จะปิด ไม่ให้เข้ามาชมอีก จนเกิดแผ่นดินไหวอย่างกะทันหันพวกเธอจึงหนีออกมาไม่ทัน
หลังจากมีอาฟเตอร์ช็อคตามมาอีกหลายครั้งเหตุการณ์ถึงค่อยสงบลง พอตั้งตัวได้มั่นอายูก็เขยิบเข้าหากองหิน พลางตะโกนเรียกหาคนรัก
“ซาคาอิ”
เรียกเขาเสียงดังแต่ไร้เสียงตอบรับ ได้ยินเพียงเสียงตัวเองดังก้องสะท้อนสะท้านอยู่ในโพรงถ้ำอันเงียบเชียบ หญิงสาวทรุดตัวลงคลานเข้าไปใกล้กองหิน พร่ำเรียกคนรักเสียงสั่น
“ซาคาอิ ๆ เธอเป็นไงมั่ง...ตอบฉันสิ” ทว่ากองหินนิ่งสนิท ไม่มีสัญญาณตอบของร่างข้างใต้ เธอเรียกซ้ำอีกหลายครั้งซึ่งก็ไม่เป็นผล ในที่สุดอายูก็ร้องไห้โฮ เมื่อตระหนักแล้วว่าที่นี่เหลือเพียงตัวเองเท่านั้น ไม่มีใครอื่นอีก
น้ำตาหลั่งทะลักอาบใบหน้าเมื่อนึกถึงร่างที่ติดอยู่ภายใต้กองหิน เธอใช้สองมือบอบบางของตัวเองลองดันมันดู เพียงเพื่อพบว่ามันไม่ได้ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย
ล้วงหาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงตัวเอง เธอต้องรีบแจ้งข่าวร้ายให้คนอื่นรู้ บางทีความช่วยเหลืออาจมาทันช่วยชีวิตซาคาอิด้วยก็ได้ นึกอย่างมีความหวังขณะกดหาที่ทำการอุทยานเป็นอันดับแรก
เงียบ....ไม่มีคนรับสาย
หรือว่าพวกเขาจะเลิกงานกันไปหมดแล้ว แต่ทำไมเจ้าหน้าที่ถึงไม่อยู่รอนับจำนวนนักท่องเที่ยวที่ยังไม่กลับออกไปล่ะ พรุ่งนี้วนอุทยานก็จะปิดซึ่งนั่นหมายถึงว่าจะไม่มีใครมาที่นี่อีก
หญิงสาวใจคอไม่ดี เปลี่ยนเป็นกดหาเบอร์โทรฉุกเฉินของสถานีตำรวจและหน่วยบรรเทาสาธารณภัยแทน...ซึ่งยิ่งทำให้ต้องแตกตื่น เพราะไร้เสียงตอบรับกลับมาเช่นกัน มือเธอสั่นระรัวขณะกดหาเบอร์ของพ่อแม่ญาติพี่น้อง ตลอดจนเพื่อนๆ ในมหาวิทยาลัย แต่ก็ไร้คนรับสายเหมือนเดิม
ข้างนอกเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า...ฉุกคิดอย่างตื่นตระหนก
หรือว่าขณะนี้ในเมืองก็เกิดมหันตภัยจากแผ่นดินไหว จนต้องระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจกับหน่วยกู้ภัยไปช่วยกันหมด ไม่เหลือไว้ให้ช่วยเหลือเธออีก พยายามกดโทร.ออกหลายต่อหลายครั้งแต่ผลลัพธ์ก็คือความเงียบ...มือที่ถือโทรศัพท์ตกลงอย่างอ่อนแรง ฟันกระทบกันกึกกักจากความกลัวและความหนาวเย็นที่เริ่มคืบคลานเข้ามาห้อมล้อมรอบตัว
“ช่วยด้วย...ช่วยด้วยค่ะ มีคนติดอยู่ในนี้ ”
ร้องตะโกนออกไปจนสุดเสียง เพราะดูเหมือนเป็นทางเดียวที่พอทำได้ เธอกรีดร้องขอความช่วยเหลือพลางหยัดตัวลุกขึ้นยืนใหม่ พยายามคลำเสาะหาทางออกอื่นจากโพรงถ้ำอันทึบตัน จนเวลาผ่านไปนับชั่วโมงเสียงของเธอก็หมดลง เช่นเดียวกับเรี่ยวแรงที่ถดถอย หญิงสาวปล่อยตัวเองให้รูดลงนั่งกับพื้นในสภาพของคนหมดแรง
หลังจมอยู่ในความหวาดกลัวพักใหญ่ อายูก็ตั้งสติขึ้นมาอีกครั้ง เธอเพ่งมองไปรอบข้างเพื่อปรับสายตาให้เข้ากับแสงเลือนราง ที่ส่องผ่านปล่องกว้างสักครึ่งเมตร อยู่สูงขึ้นไปด้านบนกว่าสิบเมตร แต่ผนังหินที่ชื้นและเรียบลื่นก็ทำให้หมดหวังจะปีนป่ายขึ้นไปได้
หญิงสาวปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างไม่รู้จะทำยังไงกับตัวเองดี กระทั่งราตรีกาลเข้ามาเยือน อายูก็ตกอยู่ในความมืดอย่างแท้จริง เธอนั่งพิงไหล่เข้ากับผนังถ้ำอันเย็นชืดในสภาพหิวโหยและหวาดกลัว รอให้ผ่านค่ำคืนไปอย่างทรมาน...
“เพิ่งมีคนโทร.มาขอความช่วยเหลือว่าติดอยู่ในถ้ำอิบูกิ” โยชิตะโทรศัพท์ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นเพื่อนสนิท
“เธอชื่ออายู เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยโอคาตะ เธอบอกว่าปลอดภัยดี แต่แฟนของเธอถูกหินหล่นลงมาทับ ติดอยู่ในนั้นได้คืนหนึ่งแล้ว”
“น่าแปลก ทำไมเธอโทร.ขอความช่วยเหลือจากนายแทนที่จะโทร.หาตำรวจ แล้วที่นั่นก็ไม่เห็นมีใครแจ้งเหตุหินถล่มในถ้ำสักคน อุทยานก็เปิดทำการปกติ” นายตำรวจนากาฮาระนึกสงสัย “นายแน่ใจนะว่าไม่มีใครเล่นตลกกับนาย” เขาถามมาอ
“อืมมม์ ฉันก็ว่าแปลก ถึงได้ขอให้นายไปดูก่อนไงล่ะ ฉันกำลังขับรถไป...ที่ว่าแปลกก็คือ ผู้หญิงคนนั้นโทร.หาฉันตามเบอร์ที่ฉันเคยเขียนติดผนังถ้ำนั้น สมัยยังหนุ่มคึกคะนอง แต่ไม่กี่วันฉันก็รีบไปลบมันทิ้ง และคิดว่าไม่น่ามีใครรู้เรื่องนี้
“ก็ถ้านายลบไปแล้วจะมีใครเห็นได้อีก เธอล้อนายเล่นหรือเปล่า เธออาจได้มันมาจากที่ไหนสักแห่ง แล้วมาแกล้งอำนายเล่น”
“ฉันสงสัยว่าเธอรู้เรื่องนี้ได้ไงน่ะสิ ขนาดเมียกับลูกๆ ฉันยังไม่เคยเล่าให้พวกเขาฟังเลย นายช่วยไปดูหน่อยเถอะเพื่อน ถ้าหากเป็นแค่เรื่องล้อเล่นก็แล้วกันไป ดีเสียอีก แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงเราจะมานั่งเสียใจกันทีหลัง ถ้าไปช่วยเธอไม่ทัน”
“เอางั้นก็ได้ ตกลงเพื่อน ฉันจะล่วงหน้าไปก่อน แล้วพบกันที่ปากถ้ำอิบูกิ ถ้ามีเหตุการณ์นี้จริงฉันจะประสานกับหน่วยกู้ภัยที่นี่ให้เอง”
“ขอบใจนายมาก แล้วเจอกันเพื่อน” โยชิตะกดปิดมือถือ ก่อนเร่งความเร็วของรถขึ้นอีก
อายูลูบคลำร่องรอยบนผนังถ้ำอย่างดีใจ มันคือตัวเลขเขียนด้วยสีแดงจำนวนสิบตัว ซึ่งเป็นหมายเลขโทรศัพท์ของใครบางคนที่เขียนทิ้งไว้เพื่อช่วยเหลือเธอ
จะให้คิดว่าไงล่ะ...เพราะในนาทีที่เกือบหมดหวังใช้โทรศัพท์ติดต่อขอความช่วยเหลือจากใครอยู่แล้ว เธอกลับอยากลองสุ่มโทร.เลขพวกนี้ดู แล้วมันก็เกิดโทร.ติดเข้าจริงๆ แถมปลายสายยังเป็นเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยอีกด้วย
“คุณไม่ได้ประสาทหลอนหรอกครับ ผมกำลังคุยอยู่กับคุณจริงนั่นแหละ เอาเถอะไม่ว่ายังไง ผมขอแนะนำให้ถนอมแบตเตอร์รี่โทรศัพท์ของคุณไว้ ถ้าคุณติดอยู่ในถ้ำจริงก็อย่ากดโทรศัพท์เล่น เพราะมันเป็นรุ่นเก่าที่แบตฯหมดเร็วมาก จนกว่าผมจะไปถึงที่นั่น” เสียงผู้ชายปลายสายสำทับมา หลังรู้ว่าเธอใช้เครื่องมือสื่อสารชนิดไหนติดต่อกับเขา “ผมกำลังรีบมาพร้อมความช่วยเหลือ”
เขาบอกเธอให้ใจเย็นๆ รอ และจะเป็นคนประสานขอความช่วยเหลือให้กับเธอเอง อายูกำโทรศัพท์ไว้แน่น ต้องขอบคุณมันที่ช่วยชีวิตเธอไว้ ให้เธอออกไปจากนรกขุมนี้ได้ นั่งคุดคู้รอความช่วยเหลือจากเขาอย่างใจจดใจจ่อ ระยะทางจากที่เขาอยู่กับถ้ำนี้ไม่ไกลกันนัก ไม่นานความช่วยเหลือก็จะมาถึง เหลียวมองไปทางกองหินซึ่งทับร่างของแฟนหนุ่มอยู่ แล้วอายูก็สะอึกสะอื้นออกมาอย่างสุดแสนเสียใจ
ชายสองคนเดินเข้าปากถ้ำอิบูกิมาเมื่อเย็นมากแล้ว พลางกวาดลำแสงของไฟฉายมองหาหญิงสาวเคราะห์ร้ายว่าอยู่ตรงไหนของถ้ำ แต่สภาพภายในถ้ำซึ่งไม่ลึกนักกลับดูโล่ง เงียบสงบ ไม่มีสภาพว่าถูกหินถล่มลงมาปิดทางเข้าออกแต่อย่างใด
โยชิตะกับนากาฮาระต่างหันมามองหน้า พวกเขาพากันเดินลึกเข้าไปในโถงถ้ำ โยชิตะกวาดตามองไปทั่วอย่างฉงนสนเท่ห์ เมื่อไม่พบสิ่งผิดปกติเขาก็ก้าวตรงไปที่ผนังด้านในสุดของถ้ำ ลูบมือลงบนผนังที่มีร่องรอยพ่นสีดำยาวกว่าคืบ เขาเคยเขียนตัวเลขสิบตัวด้วยสีแดงไว้ที่นี่
พลันโยชิตะก็ขมวดคิ้วนิ่งคิด...แล้วจึงยกโทรศัพท์มือถือขึ้นกดโทร.ออก
เสียงสัญญาณโทรศัพท์ดังขึ้น อายูผวาขึ้นทั้งตัว รีบกดรับอย่างดีใจ
“คุณอายู คุณยังอยู่ที่เดิมใช่ไหมครับ” ได้ยินเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยคนนั้นถามมา หญิงสาวละล่ำละลักตอบเขา
“ค่ะ ฉันรอคุณอยู่ เมื่อไหร่คุณจะช่วยฉันออกไปเสียที ฉันทั้งกลัวทั้งหิว รีบเร่งมือหน่อยเถอะค่ะ ช่วยซาคาอิด้วย เขาโดนกองหินทับอยู่ค่ะ”
อายูถามอย่างสงสัยพลางอ้อนวอนให้ช่วย เขามัวโอ้เอ้อะไรอยู่ ป่านนี้ยังไม่หาทีมมาช่วยเหลือเธออีก
โยชิตะมอง จี พี เอส เช็คตำแหน่งที่อายูพูดโทรศัพท์กับเขา...เธอไม่ได้โกหก
“อายู...ผมมาแล้ว คุณช่วยบอกวันเวลาหน้าจอโทรศัพท์ของคุณให้ผมที วันนี้คือวันเดือนปีอะไร”
“คุณถามทำไม? วันนี้เหรอคะ ก็วันที่ 1 กรกฏาคม ปี 1988 ไง”
โยชิตะชะงักอึ้ง เขาหน้าถอดสีขณะยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู มันบอกวันเวลาบนนั้นว่า วันนี้คือวันที่ 1 กรกฏาคม ปี 2018
ถุงมือ น้ำแข็งโซดา
รายชื่อให้เลือกตอบครับ
1. B-thirteen
2. Christian Trevelyan Grey
3. Chee River
4. GTW
5. KTHc
6. ladylongleg (สมาชิกหมายเลข 2326325)
7. Lady Star 919
8. Na(นะ)
9. psycho_factory
10. Soul Master
11. Susisiri
12. TOSHARE (สมาชิกหมายเลข 4563770)
13. turtle_cheesecake
14. WANG JIE
15. คีตมินทร์
16. จอมยุทธนักสืบ
17. ชายขอบคันนายาว
18. นลินมณี
19. ยัยตัวร้ายมุกอันดา
20. รัชต์สารินท์
21. ลายลิขิต
22. สวนดอก
23. น้องโจอี้ (สมาชิกหมายเลข 817884)
24. มัศยวีร์
*** รายชื่อ อาจมีการเปลี่ยนแปลง แก้ไขเพิ่มเติม ได้ทุกเมื่อ ^^
*** จะเฉลยถุงมือนี้ใน วันที่ 6 กรกฎาคม 2561 ภาพปริศนาจะวาง วันที่ 5 (คืนวันที่ 4 เวลาเที่ยงคืน) ครับ ***
สโลแกนของเราคือ "เขียนเมื่ออยากเขียน แต่งเมื่ออยากแต่ง เล่นซ่อนหากันเมื่ออยากเล่น"
จัดไป ในแต่ละสัปดาห์ สรุปผลคะแนนทุกครั้งที่เฉลย
ผู้ชนะที่ 1 และ/หรือ ผู้ที่ไม่มีใครทายถูก จะเข้ารอบ THE GLOVES FINAL 2018 ตอนปลายปี (ในฐานะมือวาง) ครับผม