"ตื่นเช้ามา ด้วยอาการเบื่ออยู่ห้อง ทำอะไรดีหว่า?"
เพื่อนๆ เคยมีอาการแบบผมบ้างไหมครับ เพราะอาการเบื่อนิล่ะครับ ผมเลยต้องหาอะไรทำสักหน่อย
งั้นเอางี้ล่ะ เดินเที่ยวถนนพระรามสามซะเลย ไหนๆ ก็อยู่ที่นี้มาเกือบ 4 ปี ได้แล้วนิหว่า
ผมมาซื้อคอนโด อยู่แถวพระรามสาม เกือบจะ 4 ปี แล้วครับ เดินทางโดยใช้ถนนพระรามสามเกือบทุกวัน
และแทบไม่ได้สนใจอะไรมากมาย เพราะเราคิดเสมอว่า มันเป็นสิ่งที่คุ้นเคย ใช้ประจำ และ เห็นมันเกือบตลอดเวลา
แต่สิ่งที่ทำให้ความคิดของผมเปลี่ยนไป นั้นคือ นิตยสาร a day ตอน Bangkok's 100 (un)hidden places บวกกับความเบื่อหน่ายกับการอยู่ห้อง
เลยทำให้ผมมีความคิดอยากจะไปสำรวจถนนพระรามสาม ซะหน่อย ครับ
ผมเริ่มจากการนั่งบีอาที (มันคือรถด่วน จอดตามสถานี คล้ายบีทีเอส นั้นเองครับ) ไปลงที่สถานี นราราม 3
จากนั้นเดินย้อนกลับมา ถนนพระรามสาม เพื่อจะได้เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางสำรวจถนนพระรามสามครั้งนี้ครับ
เมื่อเดินเลี้ยวขวามือ เดินมาไม่นาน สถานที่แรก ที่เจอคือ วัดช่องนนทรี นั้นเอง
วัดช่องนนทรี เป็นวัดที่เห็น พระอุโบสถ ที่สร้างใหม่ได้จากริมถนนพระรามสามเลยครับ แต่ใครจะรู้ล่ะครับว่า
ถ้าเราเดินเข้าไป ในซอยๆเล็ก ข้างพระอุโบสถ เข้าไปด้านหลังพระอุโบสถหลังใหม่นั้น จะเจอกับอาณาเขตของวัดที่ซ่อนตัวอยู่อย่างเงียบ
และที่สำคัญนะครับ มีพระอุโบสถหลังเก่า ผมขอบอกเลยว่า มันเก่ามากจริงๆ นะครับ ตอนผมเดินเข้าไปนั้น เจอป้าใจดีคนหนึ่ง
บอกว่า สามารถเดินเข้าไปดูได้นะ เปิดประตูรั้วเข้าไปได้เลย จะรอช้าทำไมล่ะครับ ผมรีบเดินเข้าไปสำรวจเลยครับ
ผมเดินสำรวจโดยรอบพระอุโบสถหลังเก่า จะเห็นว่าพระอุโบสถหลังเก่านี้ เก่ามากจริงๆ ครับ เลยหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตซะหน่อย
เพราะเกิดอยากรู้ขึ้นมา ได้ความว่า "พระอุโบสถฐานเป็นโบสถ์แอ่นท้องสำเภา มีขนาด ๕ ห้อง ๒ มุข ลักษณะคล้ายโบสถ์มหาอุตม์ ด้านหน้าพระอุโบสถทำเป็นมุขเด็จ มีเสาหารรองรับเครื่องบนหลังคาสี่ต้น หน้าบันทำเป็นฝาปะกนไม่สลักลวดลาย หลังคาเป็นลอนมุงกระเบื้องแล้วฉาบปูนติดเชิงชาย ด้านหน้าโบสถ์มีเจดีย์และใบเสมาเรียงรายกันอยู่ ในพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง เล่าเรื่องทศชาติชาดก เริ่มตั้งแต่ผนังด้านซ้ายของพระประธาน เวียนอุตราวัตรไปจนคบสิบเรื่อง บริเวณผนังสกัดหน้าเหนือช่องประตูเขียนภาพมารผจญ ภาพเขียนที่วัดช่องนนทรีนี้นับเป็น ภาพเขียนสมัยอยุธยาที่ที่ยังหลงเหลือสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งอาจร่วมสมัยกับภาพเขียนที่วัดปราสาท นนทบุรี ฯลฯ"
(ชาวบ้านที่มาไหว้ เล่าให้ฟังว่า มาแล้วต้องมากราบไหว้นะลูก เพราะศักดิ์สิทธิ์มากๆครับ)
เสร็จจากวัดช่องนนทรี แล้ว ผมเดินข้ามสะพานลอย มาฝั่งตรงข้าม ก็เจอกับร้านอาหาร บุหลันดั้นเมฆ
เดินต่อกันเลยดีกว่าครับ ระหว่างทางจะเจอภาพ กราฟฟิตี้ ตลอดกำแพงริมถนนเลยนะครับ ใครที่ชอบถ่ายภาพผมว่าได้ภาพสวยๆเยอะแน่นอน
(จริงๆ ผมก็ถ่ายไปหลายรูปครับ อิอิ แต่คงไม่ได้เอาลงให้ดูนะครับ ใครอยากรู้ ลองตามมาถ่ายรูปดูล่ะกันนะครับ)
ก่อนถึง ธนาคารกรุงเทพ ตรงพระรามสาม เราจะเจอกับท่าเรือ ตรงนี้ สามารถนั่งเรือ ข้ามไปฝั่งบางกระเจ้าได้เลยนะครับ
สภาพจะเป็นสะพานไม้เล็กๆ มีศาลาให้นั่งรอเรือมารับครับ..ผมเดินไปสำรวจมา ก็ทราบว่า เรือจะเป็นเรือลำเล็กๆ นั่งได้ไม่เกิน 7-10 คน ครับ
ใครอยากลองข้ามเรือ ไปฝั่งบางกระเจ้า ก็มาได้เลยนะครับ ผมว่าคงน่าตื่นเต้นน่าดูเลยครับ...
เดินต่อกันเลยครับ จะผ่าน เชียงกงพระรามสาม จะมีร้านขายจักรยานมือสอง ในสภาพดีและราคาถูกครับ
ผ่าน ลุมพินีเพลส นราธิวาส-เจ้าพระยา ก็จะถึง สมาคมเตชะสัมพันธ์ ภายในสมาคมกว้างขวางมากครับ และ เงียบมากๆ เลย
เราสามารถเดินเข้าไปถ่ายรูปได้แบบเลือกมุมสวยๆได้อย่างสบายใจ
สมาคมเตชะสัมพันธ์
(เอาจริงๆ นะครับ ผมไม่ทราบประวัติของ สมาคมเตชะสัมพันธ์ เลยครับ เดาเอาว่าคงทำเพื่อเป็นที่เคารพของบรรพบุรุษ ตระกูลใดตระกูลหนึ่ง)
กำลังจะเดินออกมาจากสมาคมเตชะสัมพันธ์ ก็จะเจอตึกสูงๆ ฝั่งตรงข้ามมุมกำลังสวยเลย ถ่ายรูปเก็บไว้ซะหน่อย
ตึกที่เห็นตรงหน้าคือ "ศุภาลัย แกรนด์ ทาวเวอร์" นะครับ ตอนนี้แดดกำลังอยู่กลางกระบาลพอดีเลยครับ เริ่มรุ้สึกถึงความร้อนของแดด
ผมเอาแค่หมวกมาอย่างเดียว พอช่วยได้บ้างครับ ไม่รอช้า รีบเดินสำรวจกันต่อดีกว่าครับ..เดินผ่านร้าน Indy Live House
ไปไม่ไกลเท่าไรจะเจอ วัดคลองภูมิ ครับ
วัดคลองภูมิ สร้างขึ้นสมัยนครเขื่อนขันธ์ ไม่มีหลักฐาน ปรากฏแน่ชัดได้รับการบอกเล่าสืบต่อกันมาจากผู้อาวุโสในท้องถิ่นว่าเป็นวัดโบราณสันนิษฐานว่าสร้างในสมัยรัชกาลที่ ๓ พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือประมาณพุทธศักราช ๒๓๗๐ มีอายุการสร้างประมาณ ๑๗๐ ปีเป็นวัดชั้นราษฎร์ สังกัดมหานิกาย นะครับ (เปิดอินเตอร์เน็ตนั้นเอง เพื่อหาข้อมูลเหมือนเดิมครับ)
เราสามารถไหว้ เจ้าแม่กวนอิม ได้ด้วยนะครับ เพราะภายในวัดมีตำหนักของเจ้าแม่กวนอิมอยู่ด้วยครับ และติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา
อากาศตอนนี้ กำลังร้อนมากๆเลยครับ ระหว่างเดินกลับออกมาเลยแวะซื้อน้ำดื่มหน่อยครับ จะมีร้านอยู่หน้าทางเข้าวัดเลยนะครับ
โดยมีเจ้าแมวตัวนี้ นอนอยู่บนตู้แช่น้ำด้วยนะครับ..
แกๆ น้ำขวดนี้ราคาเท่าไรง่ะ ฮาฮ่าาาา แดดร้อนจนสามารถคุยกับแมวได้แล้วกรู
เดินผ่าน ร้าน Mr. Seafood และ ธนาคารกรุงศรี (แม้มันช่างเหลืองได้ใจจริงๆ) และตลาดครูหวี
ถ้ามาเดินเที่ยวในวันทำงานนะครับ แถวนี้ของกินเยอะแยะเลยครับ แต่ตลอดทางที่ผมเดินมาเนี่ย ไม่ต้องกลัวอดตายเลยนะครับ
เพราะตลอดเส้นถนนพระรามสาม จะเจอร้านริมทางตลอดเลย..ผ่านร้าน ProBike และฝั่งตรงข้ามก็ร้าน Pro Cycle ร้านสำหรับคนรักจักรยาน
และอยากซื้อจักรยาน มาเลือกซื้อได้เลยครับ..แต่ผมเลี้ยวเข้า int-intersect (อินท์-อินเตอร์เซค) ครับ คนแถวพระรามสามจะรู้จักที่นี้ดีครับ
เดินเข้าไปหลบร้อนสักหน่อยแล้วกันครับ..ภายใน int-intersect (อินท์-อินเตอร์เซค) จะมีจุดให้ถ่ายรูปเท่ห์ๆ อยู่หลายจุดนะครับ ถ้าใครตั้งใจหาจะเจอหลายจุดเลยครับ ถ่ายรูปออกมาสวยเลยครับ และมีร้านอาหารให้เลือกทาน ไม่ว่าจะเป็น HOBS, Starbucks, After you ครับ และมีตู้กาชาปองให้เล่นด้วยนะครับ
และร้านที่ผมอยากแนะนำ เพราะอาหารอร่อย มีเครื่องดื่ม พร้อมกับวิวสวยๆ ยามเย็น คือ ร้าน Shakariki นั้นเองครับ ร้านชั้นอยู่บนดาดฟ้าเลยครับ
(ร้านเปิดเวลา หกโมงเย็นนะครับ)
และที่ int-intersect (อินท์-อินเตอร์เซค) ใครจะรู้ครับว่า มีเจ้าพ่อกวนอู ให้เราสามารถกราบไหว้ด้วยนะครับ
เดินขึ้นมาชั้น 2 เลยครับ เจ้าพ่อกวนอู จะอยู่ตรงกลางห้างบนชั้น 2 นั้นเองครับ ผมก็พึ่งทราบจริงๆ ครับ มาทานข้าวตั้งหลายครั้ง
หลังจากนั่งหาอะไรทาน และ เดินหามุมสวยๆ ถ่ายรูป ไปพอสมควร ผมก็เดินทางต่อ เดินผ่านสถานีบีอาทีวัดด่าน และ S.V. Tower
(ตึก S.V. Tower คนอินเดีย และ คนเกาหลี อยู่กันเยอะครับ ภายในอาคารจึงมีร้านอาหารเกาหลีอร่อยๆ อยู่หลายร้านเลยครับ)
เดินต่อไปอีกสักพัก จะเจอทางเข้า วัดด่าน นั้นเองครับ..
วัดด่าน พอเดินเข้าไปภายในตัววัด จะเจอจุดให้เราได้ไหว้สักการะอยู่หลายจุดเลยครับ
ทางซ้ายมือ จะมีวิหารหลวงพ่อโต ที่ล้อมรอบด้วยบ่อปลา เราสามารถเดินเข้าไปกราบไหว้ ขอพร
หลังจากไหว้หลวงพ่อโต ผมก็เดินเข้าพระอุโบสถ พอเดินเข้าไปในพระอุโบสถ โอ้โห!! สวยมากครับ
ทั้งภาพจิตรกรรมฝาผนัง การตกแต่งภายในของพระอุโบสถ
ภายในวัดด่านนั้น จะมีร้านก๋วยเตี้ยวเรือโบราณสูตรแม่ทองย้อย ร้านจะตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาภายในวัดเลยนะครับ
เนื่องด้วยผมทานข้าวจาก int-intersect (อินท์-อินเตอร์เซค) มาแล้ว แต่ก็คิดว่าไหนๆ ก็มาถึงแล้ว และยังไม่เคยทาน
ก็เลยขอนั่งกินสักจานล่ะกันครับ..อร่อยไหม ไม่บอกล่ะกันครับ ฮาฮ่า ไว้ให้ทุกคนไปลองทานดูกันเองนะครับ
เดินออกมาจากด้วยอาการอิ่มท้อง และ อิ่มใจ จะได้มีแรงเดินสำรวจกันต่อครับ พอเดินถึงถนนวงแหวนอุตสาหกรรมที่อยู่บนหัวเรา
ก็จะเจอสวนสาธารณะขนาดย่อยๆ ตอนเย็นๆ คนใกล้เคียงจะใช้เป็นพื้นที่วิ่งออกกำลังกาย และ ปั่นจักยาน ครับ
ภายในสวน ยังมีที่จอดจักรยานสำหรับใครที่ใช้ถนนพระรามสามในการปั่นจักรยาน เพื่อเข้าไปพักผ่อนได้ด้วยนะครับ
เราสามารถเดินไปนั่งพักริมน้ำ ภายในสวนได้นะครับ ลมเย็นสบายมากๆ ทั้งยังได้วิวถนนวงแหวนอุตสาหกรรม
นั่งเพลินๆ ลมเย็นๆ ทำผมจะหลับเอาให้ได้เลยครับ
ตรงนี้มีเรือข้ามท่าขนาดใหญ่พอสมควรเลยครับ สามารถเอารถมอเตอร์ไซต์ขึ้นเรือข้ามท่าจากตรงนี้ ไป ฝั่งคลองลัดโพธิ์ ได้ด้วยนะครับ
ไม่รอช้า เดินต่อกันเลยครับ..ผมเดินผ่าน บางกอก สแควร์ ไปเพื่อเดินเข้าไปยัง วัดปริวาส
วัดปริวาส ส่วนทำบุญจะอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยานะครับ เราสามารถให้อาหารปลาได้ด้วยนะครับ
กลางวัดจะเจอกับ อุโบสถที่ตกแต่งอย่างวิจิตรสวยงามมากๆ ทั้งภายใน และ ภายนอก เลยครับ
อีกทั้ง เราสามารถไหว้พระพิฆเนศได้ด้วยนะครับ เพียงเดินไปตรงริมน้ำทางซ้ายมือ เราจะเจอองค์พระพิฆเนศตั้งอยู่นะครับ
โดยองค์พระพิฆเนศทรงยืนอยู่บนพญานาค ด้วยนะครับ โดยจะบอกวิธีไหว้ และของไหว้ ไว้อย่างละเอียดและเข้าใจง่ายครับ
ในวัดมีร้านก๋วยเตี๋ยว และ ผัดไท ตอนกลางวันคนจะเยอะมากๆครับ ใครไปช้าจะต้องยืนรอหน่อยนะครับ
ตอนนี้ก็ผมเดินมาได้ครึ่งทางของถนนพระรามสามแล้วนะครับ...ยังไงรอติดตามในส่วนที่เหลือกันนะครับ
"คุณเองก็ลองไปเดินสำรวจถนนรอบบ้านคุณดูนะครับ อาจจะเจออะไรที่คุณไม่รู้อีกมากเลยที่เดียว"
Next Stop at Rama 3 road : แวะพักเที่ยวที่ถนนพระรามสาม
เพื่อนๆ เคยมีอาการแบบผมบ้างไหมครับ เพราะอาการเบื่อนิล่ะครับ ผมเลยต้องหาอะไรทำสักหน่อย
ผมมาซื้อคอนโด อยู่แถวพระรามสาม เกือบจะ 4 ปี แล้วครับ เดินทางโดยใช้ถนนพระรามสามเกือบทุกวัน
และแทบไม่ได้สนใจอะไรมากมาย เพราะเราคิดเสมอว่า มันเป็นสิ่งที่คุ้นเคย ใช้ประจำ และ เห็นมันเกือบตลอดเวลา
แต่สิ่งที่ทำให้ความคิดของผมเปลี่ยนไป นั้นคือ นิตยสาร a day ตอน Bangkok's 100 (un)hidden places บวกกับความเบื่อหน่ายกับการอยู่ห้อง
เลยทำให้ผมมีความคิดอยากจะไปสำรวจถนนพระรามสาม ซะหน่อย ครับ
ผมเริ่มจากการนั่งบีอาที (มันคือรถด่วน จอดตามสถานี คล้ายบีทีเอส นั้นเองครับ) ไปลงที่สถานี นราราม 3
จากนั้นเดินย้อนกลับมา ถนนพระรามสาม เพื่อจะได้เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางสำรวจถนนพระรามสามครั้งนี้ครับ
เมื่อเดินเลี้ยวขวามือ เดินมาไม่นาน สถานที่แรก ที่เจอคือ วัดช่องนนทรี นั้นเอง
วัดช่องนนทรี เป็นวัดที่เห็น พระอุโบสถ ที่สร้างใหม่ได้จากริมถนนพระรามสามเลยครับ แต่ใครจะรู้ล่ะครับว่า
ถ้าเราเดินเข้าไป ในซอยๆเล็ก ข้างพระอุโบสถ เข้าไปด้านหลังพระอุโบสถหลังใหม่นั้น จะเจอกับอาณาเขตของวัดที่ซ่อนตัวอยู่อย่างเงียบ
และที่สำคัญนะครับ มีพระอุโบสถหลังเก่า ผมขอบอกเลยว่า มันเก่ามากจริงๆ นะครับ ตอนผมเดินเข้าไปนั้น เจอป้าใจดีคนหนึ่ง
บอกว่า สามารถเดินเข้าไปดูได้นะ เปิดประตูรั้วเข้าไปได้เลย จะรอช้าทำไมล่ะครับ ผมรีบเดินเข้าไปสำรวจเลยครับ
ผมเดินสำรวจโดยรอบพระอุโบสถหลังเก่า จะเห็นว่าพระอุโบสถหลังเก่านี้ เก่ามากจริงๆ ครับ เลยหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตซะหน่อย
เพราะเกิดอยากรู้ขึ้นมา ได้ความว่า "พระอุโบสถฐานเป็นโบสถ์แอ่นท้องสำเภา มีขนาด ๕ ห้อง ๒ มุข ลักษณะคล้ายโบสถ์มหาอุตม์ ด้านหน้าพระอุโบสถทำเป็นมุขเด็จ มีเสาหารรองรับเครื่องบนหลังคาสี่ต้น หน้าบันทำเป็นฝาปะกนไม่สลักลวดลาย หลังคาเป็นลอนมุงกระเบื้องแล้วฉาบปูนติดเชิงชาย ด้านหน้าโบสถ์มีเจดีย์และใบเสมาเรียงรายกันอยู่ ในพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง เล่าเรื่องทศชาติชาดก เริ่มตั้งแต่ผนังด้านซ้ายของพระประธาน เวียนอุตราวัตรไปจนคบสิบเรื่อง บริเวณผนังสกัดหน้าเหนือช่องประตูเขียนภาพมารผจญ ภาพเขียนที่วัดช่องนนทรีนี้นับเป็น ภาพเขียนสมัยอยุธยาที่ที่ยังหลงเหลือสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งอาจร่วมสมัยกับภาพเขียนที่วัดปราสาท นนทบุรี ฯลฯ"
(ชาวบ้านที่มาไหว้ เล่าให้ฟังว่า มาแล้วต้องมากราบไหว้นะลูก เพราะศักดิ์สิทธิ์มากๆครับ)
เสร็จจากวัดช่องนนทรี แล้ว ผมเดินข้ามสะพานลอย มาฝั่งตรงข้าม ก็เจอกับร้านอาหาร บุหลันดั้นเมฆ
เดินต่อกันเลยดีกว่าครับ ระหว่างทางจะเจอภาพ กราฟฟิตี้ ตลอดกำแพงริมถนนเลยนะครับ ใครที่ชอบถ่ายภาพผมว่าได้ภาพสวยๆเยอะแน่นอน
(จริงๆ ผมก็ถ่ายไปหลายรูปครับ อิอิ แต่คงไม่ได้เอาลงให้ดูนะครับ ใครอยากรู้ ลองตามมาถ่ายรูปดูล่ะกันนะครับ)
ก่อนถึง ธนาคารกรุงเทพ ตรงพระรามสาม เราจะเจอกับท่าเรือ ตรงนี้ สามารถนั่งเรือ ข้ามไปฝั่งบางกระเจ้าได้เลยนะครับ
สภาพจะเป็นสะพานไม้เล็กๆ มีศาลาให้นั่งรอเรือมารับครับ..ผมเดินไปสำรวจมา ก็ทราบว่า เรือจะเป็นเรือลำเล็กๆ นั่งได้ไม่เกิน 7-10 คน ครับ
ใครอยากลองข้ามเรือ ไปฝั่งบางกระเจ้า ก็มาได้เลยนะครับ ผมว่าคงน่าตื่นเต้นน่าดูเลยครับ...
เดินต่อกันเลยครับ จะผ่าน เชียงกงพระรามสาม จะมีร้านขายจักรยานมือสอง ในสภาพดีและราคาถูกครับ
ผ่าน ลุมพินีเพลส นราธิวาส-เจ้าพระยา ก็จะถึง สมาคมเตชะสัมพันธ์ ภายในสมาคมกว้างขวางมากครับ และ เงียบมากๆ เลย
เราสามารถเดินเข้าไปถ่ายรูปได้แบบเลือกมุมสวยๆได้อย่างสบายใจ
สมาคมเตชะสัมพันธ์
(เอาจริงๆ นะครับ ผมไม่ทราบประวัติของ สมาคมเตชะสัมพันธ์ เลยครับ เดาเอาว่าคงทำเพื่อเป็นที่เคารพของบรรพบุรุษ ตระกูลใดตระกูลหนึ่ง)
กำลังจะเดินออกมาจากสมาคมเตชะสัมพันธ์ ก็จะเจอตึกสูงๆ ฝั่งตรงข้ามมุมกำลังสวยเลย ถ่ายรูปเก็บไว้ซะหน่อย
ตึกที่เห็นตรงหน้าคือ "ศุภาลัย แกรนด์ ทาวเวอร์" นะครับ ตอนนี้แดดกำลังอยู่กลางกระบาลพอดีเลยครับ เริ่มรุ้สึกถึงความร้อนของแดด
ผมเอาแค่หมวกมาอย่างเดียว พอช่วยได้บ้างครับ ไม่รอช้า รีบเดินสำรวจกันต่อดีกว่าครับ..เดินผ่านร้าน Indy Live House
ไปไม่ไกลเท่าไรจะเจอ วัดคลองภูมิ ครับ
วัดคลองภูมิ สร้างขึ้นสมัยนครเขื่อนขันธ์ ไม่มีหลักฐาน ปรากฏแน่ชัดได้รับการบอกเล่าสืบต่อกันมาจากผู้อาวุโสในท้องถิ่นว่าเป็นวัดโบราณสันนิษฐานว่าสร้างในสมัยรัชกาลที่ ๓ พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือประมาณพุทธศักราช ๒๓๗๐ มีอายุการสร้างประมาณ ๑๗๐ ปีเป็นวัดชั้นราษฎร์ สังกัดมหานิกาย นะครับ (เปิดอินเตอร์เน็ตนั้นเอง เพื่อหาข้อมูลเหมือนเดิมครับ)
เราสามารถไหว้ เจ้าแม่กวนอิม ได้ด้วยนะครับ เพราะภายในวัดมีตำหนักของเจ้าแม่กวนอิมอยู่ด้วยครับ และติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา
อากาศตอนนี้ กำลังร้อนมากๆเลยครับ ระหว่างเดินกลับออกมาเลยแวะซื้อน้ำดื่มหน่อยครับ จะมีร้านอยู่หน้าทางเข้าวัดเลยนะครับ
โดยมีเจ้าแมวตัวนี้ นอนอยู่บนตู้แช่น้ำด้วยนะครับ..
แกๆ น้ำขวดนี้ราคาเท่าไรง่ะ ฮาฮ่าาาา แดดร้อนจนสามารถคุยกับแมวได้แล้วกรู
เดินผ่าน ร้าน Mr. Seafood และ ธนาคารกรุงศรี (แม้มันช่างเหลืองได้ใจจริงๆ) และตลาดครูหวี
ถ้ามาเดินเที่ยวในวันทำงานนะครับ แถวนี้ของกินเยอะแยะเลยครับ แต่ตลอดทางที่ผมเดินมาเนี่ย ไม่ต้องกลัวอดตายเลยนะครับ
เพราะตลอดเส้นถนนพระรามสาม จะเจอร้านริมทางตลอดเลย..ผ่านร้าน ProBike และฝั่งตรงข้ามก็ร้าน Pro Cycle ร้านสำหรับคนรักจักรยาน
และอยากซื้อจักรยาน มาเลือกซื้อได้เลยครับ..แต่ผมเลี้ยวเข้า int-intersect (อินท์-อินเตอร์เซค) ครับ คนแถวพระรามสามจะรู้จักที่นี้ดีครับ
เดินเข้าไปหลบร้อนสักหน่อยแล้วกันครับ..ภายใน int-intersect (อินท์-อินเตอร์เซค) จะมีจุดให้ถ่ายรูปเท่ห์ๆ อยู่หลายจุดนะครับ ถ้าใครตั้งใจหาจะเจอหลายจุดเลยครับ ถ่ายรูปออกมาสวยเลยครับ และมีร้านอาหารให้เลือกทาน ไม่ว่าจะเป็น HOBS, Starbucks, After you ครับ และมีตู้กาชาปองให้เล่นด้วยนะครับ
และร้านที่ผมอยากแนะนำ เพราะอาหารอร่อย มีเครื่องดื่ม พร้อมกับวิวสวยๆ ยามเย็น คือ ร้าน Shakariki นั้นเองครับ ร้านชั้นอยู่บนดาดฟ้าเลยครับ
(ร้านเปิดเวลา หกโมงเย็นนะครับ)
และที่ int-intersect (อินท์-อินเตอร์เซค) ใครจะรู้ครับว่า มีเจ้าพ่อกวนอู ให้เราสามารถกราบไหว้ด้วยนะครับ
เดินขึ้นมาชั้น 2 เลยครับ เจ้าพ่อกวนอู จะอยู่ตรงกลางห้างบนชั้น 2 นั้นเองครับ ผมก็พึ่งทราบจริงๆ ครับ มาทานข้าวตั้งหลายครั้ง
หลังจากนั่งหาอะไรทาน และ เดินหามุมสวยๆ ถ่ายรูป ไปพอสมควร ผมก็เดินทางต่อ เดินผ่านสถานีบีอาทีวัดด่าน และ S.V. Tower
(ตึก S.V. Tower คนอินเดีย และ คนเกาหลี อยู่กันเยอะครับ ภายในอาคารจึงมีร้านอาหารเกาหลีอร่อยๆ อยู่หลายร้านเลยครับ)
เดินต่อไปอีกสักพัก จะเจอทางเข้า วัดด่าน นั้นเองครับ..
วัดด่าน พอเดินเข้าไปภายในตัววัด จะเจอจุดให้เราได้ไหว้สักการะอยู่หลายจุดเลยครับ
ทางซ้ายมือ จะมีวิหารหลวงพ่อโต ที่ล้อมรอบด้วยบ่อปลา เราสามารถเดินเข้าไปกราบไหว้ ขอพร
หลังจากไหว้หลวงพ่อโต ผมก็เดินเข้าพระอุโบสถ พอเดินเข้าไปในพระอุโบสถ โอ้โห!! สวยมากครับ
ทั้งภาพจิตรกรรมฝาผนัง การตกแต่งภายในของพระอุโบสถ
ภายในวัดด่านนั้น จะมีร้านก๋วยเตี้ยวเรือโบราณสูตรแม่ทองย้อย ร้านจะตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาภายในวัดเลยนะครับ
เนื่องด้วยผมทานข้าวจาก int-intersect (อินท์-อินเตอร์เซค) มาแล้ว แต่ก็คิดว่าไหนๆ ก็มาถึงแล้ว และยังไม่เคยทาน
ก็เลยขอนั่งกินสักจานล่ะกันครับ..อร่อยไหม ไม่บอกล่ะกันครับ ฮาฮ่า ไว้ให้ทุกคนไปลองทานดูกันเองนะครับ
เดินออกมาจากด้วยอาการอิ่มท้อง และ อิ่มใจ จะได้มีแรงเดินสำรวจกันต่อครับ พอเดินถึงถนนวงแหวนอุตสาหกรรมที่อยู่บนหัวเรา
ก็จะเจอสวนสาธารณะขนาดย่อยๆ ตอนเย็นๆ คนใกล้เคียงจะใช้เป็นพื้นที่วิ่งออกกำลังกาย และ ปั่นจักยาน ครับ
ภายในสวน ยังมีที่จอดจักรยานสำหรับใครที่ใช้ถนนพระรามสามในการปั่นจักรยาน เพื่อเข้าไปพักผ่อนได้ด้วยนะครับ
เราสามารถเดินไปนั่งพักริมน้ำ ภายในสวนได้นะครับ ลมเย็นสบายมากๆ ทั้งยังได้วิวถนนวงแหวนอุตสาหกรรม
นั่งเพลินๆ ลมเย็นๆ ทำผมจะหลับเอาให้ได้เลยครับ
ตรงนี้มีเรือข้ามท่าขนาดใหญ่พอสมควรเลยครับ สามารถเอารถมอเตอร์ไซต์ขึ้นเรือข้ามท่าจากตรงนี้ ไป ฝั่งคลองลัดโพธิ์ ได้ด้วยนะครับ
ไม่รอช้า เดินต่อกันเลยครับ..ผมเดินผ่าน บางกอก สแควร์ ไปเพื่อเดินเข้าไปยัง วัดปริวาส
วัดปริวาส ส่วนทำบุญจะอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยานะครับ เราสามารถให้อาหารปลาได้ด้วยนะครับ
กลางวัดจะเจอกับ อุโบสถที่ตกแต่งอย่างวิจิตรสวยงามมากๆ ทั้งภายใน และ ภายนอก เลยครับ
อีกทั้ง เราสามารถไหว้พระพิฆเนศได้ด้วยนะครับ เพียงเดินไปตรงริมน้ำทางซ้ายมือ เราจะเจอองค์พระพิฆเนศตั้งอยู่นะครับ
โดยองค์พระพิฆเนศทรงยืนอยู่บนพญานาค ด้วยนะครับ โดยจะบอกวิธีไหว้ และของไหว้ ไว้อย่างละเอียดและเข้าใจง่ายครับ
ในวัดมีร้านก๋วยเตี๋ยว และ ผัดไท ตอนกลางวันคนจะเยอะมากๆครับ ใครไปช้าจะต้องยืนรอหน่อยนะครับ
ตอนนี้ก็ผมเดินมาได้ครึ่งทางของถนนพระรามสามแล้วนะครับ...ยังไงรอติดตามในส่วนที่เหลือกันนะครับ
"คุณเองก็ลองไปเดินสำรวจถนนรอบบ้านคุณดูนะครับ อาจจะเจออะไรที่คุณไม่รู้อีกมากเลยที่เดียว"