"ไต้หวัน" มีอะไร ? เดี่ยวจะพาไปหาคำตอบแล้วจะรู้ว่า"ไต้หวัน"มีดีมากกว่าที่คิด: EP.1


สิ่งแรกที่ทำให้เราอยากไปที่นี่มากๆก็คือ"ของกิน" เพราะเท่าที่รู้มาประเทศไต้หวันถูกจัดว่าเป็นสวรรค์ของนักชิม การเดินทางก็ง่าย ค่าครองชีพก็แทบไม่ต่างจากที่ไทย แถมวีซ่าก็ฟรีอีกต่างหาก แต่พอได้ไปหาข้อมูลมากขึ้นกลับทำให้แปลกใจว่าเกาะเล็กๆแค่นี้แต่กลับมีที่เที่ยวเยอะมาก เป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความเป็นเมืองที่มีเทคโนโลยีทันสมัยและธรรมชาติ มีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์

ทริปนี้จะพาไปสัมผัสทุกแง่มุมของไต้หวันให้รู้ไปเลยว่า "ไต้หวัน"มีดีอะไร?


การเตรียมตัวก่อนเดินทาง
1. โหลด App: taipei metro มาลองใช้ก่อน รถไฟฟ้าของไต้หวันไม่ซับซ้อน แถมที่เที่ยวส่วนใหญ่ในไทเปก็เดินทางได้ด้วยรถไฟฟ้าได้ โหลดมาลองใช้ให้ชินและจะได้ช่วยวางแผนเรื่องการเที่ยวได้ง่ายขึ้น ที่ไหนใกล้กันก็รวมไว้วันเดียวกัน

2. Easy card เป็นบัตรอเนกประสงค์ใช้ได้กับรถไฟฟ้า รถเมล์ เรือข้ามฝากและใช้จ่ายเงินในร้านสะดวกซื้อได้ด้วย


มีตู้เติมเงินอัตโนมัติตามสถานีต่างๆ
3. App: พยากรณ์อากาศ เพราะที่ไต้หวันคาดเดาอะไรไม่ได้เลย ถึงแพลนจะเลิศแค่ไหนแต่ถ้าฝนตกก็จบจ้า

4. อุปกรณ์กันฝน: ถ้าสะดวกสุดคือเสื้อกันฝนใน 7-11 แบบใช้แล้วทิ้งเลย ควรจะมีติดกระเป๋า
5. sim: ครั้งนี้เราลองใช้ sim2fly ก็ราบรื่นดีตลอดทริป อัพโหลดรูปกันจนเพื่อนรำคาญ ขึ้นเขาสัญญาณก็ยังดีนะ แต่ถ้าไม่มั่นใจสามารถหาซิมได้ที่สนามบิน
6. เงิน: ที่ไต้หวันใช้สกุลเงิน NTD เรทใกล้เคียงไทยมาก ถ้าไม่คิดมากก็ถือว่าเท่ากันเลย


หลังหาข้อมูลมาพร้อม ในที่สุดก็ถึงวันเดินทางครั้งนี้บินกับ nok scoot ออกเดินตอนตี 2 ถึงไทเปประมาณ 7 โมงเช้า พร้อมลุยต่อได้เลย

แวะเติมพลังที่เลาจน์ของ king power ก่อน ขึ้นเครื่องปุ๊บ หลับปั๊บ




ใช้เวลาเดินทางแค่ 4 ชั่วโมงก็ถึงที่หมาย แสงแรกยามเช้าของไทเปแวะมาทักทาย 😁



หลังคาที่เป็นสามเหลี่ยมแบบนี้เป็นเอกลักษณ์ของสนามบินเถาหยวนเลย (ควรถ่ายรูปกะมุมนี้ไว้ซะหน่อย)


ด่าน ตม ผ่านง่ายมาก บางคนก็ไม่โดนถามอะไรเลย ส่วนเอกสารเข้าเมืองกรอกเหมือนทั่วไปหรือจะกรอกแบบออนไลน์มาก่อนก็ได้
หลังผ่าน ตม มาแล้วก็ไปรอรับกระเป๋าที่สายพาน ซึ่งบริเวณนี้จะมีห้องอาบน้ำไว้ให้บริการด้วย หลังรับกระเป๋าเสร็จสามารถอาบน้ำให้สดชื่นก่อนออกไปเที่ยวต่อได้
วิธีการเข้าเมืองจากสนามบินมีได้ 3 วิธีคือ
1. airport MRT วิธีนี้ง่ายและสะดวกมีสถานีทั้ง terminal 1,2 บนรถมีชั้นวางกระเป๋าและที่ชารต์แบตมือถือ


เก้าอี้ที่นั่งกว้างดี นั่งสบาย

มีชั้นวางกระเป๋า

ชารต์มือถือได้ด้วย

airport MRT จะมีรถไฟสองแบบคือ express ที่จอดแค่ 5 สถานี กับ commuter ที่จอดทุกสถานี
2. รถบัสของบริษัทกั่วกง (จะมาเล่าอีกทีตอนขากลับนะครับ)
3. taxi สบายสุดแต่ค่าใช้จ่ายก็สูงตามไปด้วย

เราเลือกใช้ airport MRT เพราะไม่อยากลากกระเป๋าขึ้นลงรถบัส ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีก็เดินทางมาถึง taipei main station




taipei main station คือจุดศูนย์รวมของการเดินทางที่ไทเปเลยก็ว่าได้ เพราะภายในมีสถานีรถไฟ (TRA) สถานีรถไฟความเร็วสูง (THSR) สถานีรถใต้ดินสายสีแดงและสีน้ำเงิน
รวมถึงท่ารถบัสของบริษัทกั่วกงด้วย

ที่พักของเราในทริปนี้คือ Nihao hostel เพราะอยู่ใกล้ taipei main station น่าจะเดินทางสะดวก

โรงแรมอยู่ใกล้ทางออก M7 ไม่ไกลจาก taipei main station แถมหน้าโรงแรมมี 7-11อีกด้วย






บรรยากาศภายในตกแต่งน่ารักดี มีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช่ร่วมกัน

สภาพห้องพักก็ดีอยู่ ไม่แคบเกินไปแต่เก่าไปนิดนึง

หลังฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม ก็ออกไปหาอะไรใส่ท้องซะหน่อย (วิวนี้ถ่ายที่สะพานลอยหน้าโรงแรม)


เดินมาไม่ไกลก็เจอร้านขายน้ำเต้าหู้กับซาลาเปาทอดน้ำ ร้านนี้ดีงามนะ ซาลาเปาไส้แน่นมากทั้งหมูและเนื้อ แป้งก็นุ่ม



มีซอสราดใส่ซาลาเปาด้วย แนะนำให้ลองซอสเต้าเจียว
น้ำเต้าหู้ก็มีให้เลือกหลายรส ธรรมดา ใส่ถั่ว ผสมชานมก็มี


ร้านข้างๆขาย "ฟ่านถวน"เป็นข้าวเหนียวห่อไส้ต่างๆ ผักดอง หมูหยอง ปาท่องโก๋




แค่ก้อนเดียวก็ถึงกับจุก

ให้ลายแทงไว้ เผื่ออยากตามไปลองกันครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่