จากกระทู้เดิม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/37635951 ผมตั้งไว้เพราะกังวลใจเรื่องติดแบล๊คลิสต์เครดิตบูโรยังไม่พ้น 3 ปี ว่าจะขอกู้ซื้อบ้านผ่านหรือเปล่า
จนวันนี้ ผมได้ทำสัญญากู้กับ SCB และได้รับจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์บ้านเรียบร้อยแล้วครับ ขอบคุณคุณส้ม เจ้าหน้าที่สินเชื่อของ SCB ที่ช่วยเหลือและคอยตามเรื่องให้ตลอด และให้ดอกเบี้ยอัตราที่ดี (2.95% สำหรับ 3 ปีแรก)
จากเมื่อเกือบ 3 ปีก่อน (ปลายปี 58) ต้องไปนั่งดูเจ้าหน้าที่บังคับคดีขายทอดตลาดบ้านตัวเอง (ทั้งที่ชำระหนี้ปิดยอดหนี้หมดแล้ว แต่ไม่ทันพอจะยับยั้งเรื่องการขายทอดตลาด) ตอนนั้น รู้สึกว่าเฉยๆ ใจนึงอยากให้ขายทอดตลาดบ้านได้ด้วยซ้ำ เพราะรู้สึกว่าราคาที่เจ้าหน้าที่ตั้งขายขั้นต่ำครั้งแรก สูงมากเลยสำหรับบ้านผม จนใจภาวนาอยากให้ขายได้ เพราะถ้าขายได้ เงินเกือบทั้งหมดก็จะตกเป็นของผม เพราะผมหมดหนี้กับธนาคารแล้ว อาจจะหักค่าธรรมเนียมโน่นนี่นั่น ก็ยังคุ้มอยู่ดี
แต่สุดท้ายก็ขายไม่ได้ ไม่มีใครยกมือประมูลบ้านผมเลย ก็เลยทำเรื่องถอนหลักประกัน รับโฉนดคืนจาก ธอส.
จากนั้น รู้ดีว่าตัวเองติดแบล็คลิสต์แน่นอนภายใน 3 ปีนี้ (ซึ่งในเครดิตบูโรจะโชว์หราว่าผมเคยปรับปรุงโครงสร้างหนี้และค้างชำระหนี้ 180 วันมั่ง 420 วันมั่ง 90 วันมั่ง คือมันดูไม่ดีเลย) เลยไม่พยายามยื่นขอบัตรเครดิตจากที่ไหน แต่เคยลองสมัครของยูเมะ พลัส เพียงเพราะอยากได้กระเป๋าเดินทาง เค้าบอกว่าสมัครปุ๊บก็ได้กระเป๋าเลย ไม่สนใจว่าจะผ่านหรือเปล่า ก็คิดว่าคงไม่ผ่าน แต่ดันผ่านแฮะ จากนั้น ก็ไม่เคยใช้วงเงินในบัตรเลย จนป่านนี้บัตรหายไปไหนก็ไม่รู้
แต่ประมาณ 1 ปีครึ่ง ลองยื่นเอกสารไป 3 ที่เผื่อฟลุ๊ค ก็ได้ของ ธ.กรุงเทพฯ ก่อน แล้วก็ได้ของ SCB ตามมา แต่ของยูโอบี ปรากฏว่าไม่ผ่านเกณฑ์
จากนั้น ผมก็พยายามรักษาเครดิตไว้อย่างดีที่สุด ใช้ของ 2 บัตรนี้ แล้วพยายามชำระเงินให้เร็วที่สุด พอได้รับใบแจ้งหนี้วันไหน ผมจะขำระเงินทันทีเลย ไม่รู้เพราะเหตุนี้หรือเปล่า SCB เลยปรับเพิ่มวงเงินให้ผมจาก 2 แสนเป็น 4 แสนโดยที่ไม่ต้องขอ และก็ไม่อยากได้ด้วย เพราะกลัวถ้าบัตรหาย จะซวยเอา
มาเมื่อประมาณปลายเดือนเมษา ดันเกิดกิเลสขึ้นมา อยากจะมีบ้านให้ได้ จากนั้น เริ่มเกิดความคิดว่า ถ้าเราแค่ทำสัญญาจองแล้วผ่อนดาวน์ไปเรื่อยๆ จนบ้านสร้างเสร็จ ก็คงพ้น 3 ปี ถึงตอนนั้น เครดิตบูโรจะใสสะอาด ค่อยทำเรื่องกู้บ้านได้ราวๆ ปลายปี ก็เลยเริ่มตระเวนดูบ้าน แล้วดันไปถูกใจบ้านในโครงการนึงซึ่งดันสร้างเสร็จแล้ว พร้อมโอนทันที ก็ถามเซลส์ว่าถ้าจะรอไปโอนสักเดือน ก.ย. จะได้มั้ย เซลส์บอกไม่ได้ ถ้าจองก็ต้องโอนเลย ไม่อย่างนั้นก็ต้องให้คนอื่นเอาไปก่อน แล้วเค้าบอกให้ลองยื่นเรื่องดู อาจจะผ่าน
ผมก็เลยลองยื่นสมัครดู เค้ายื่นให้ 3 ที่ มีของ SCB ธอส แล้วก็ออมสิน แล้วก็มีเจ้าหน้าที่ของกรุงศรีติดต่อมาทางหลังไมค์จากกระทู้นั้น
ผลปรากฏว่า ผ่านแค่ของออมสินกับ SCB ส่วนของ ธอส. แน่นอนว่าไม่ผ่านเพราะติดแบล็คลิสต์กับที่นี่ ส่วนกรุงศรี เจ้าหน้าที่พยายามช่วย แต่ปัญหาใหญ่คือว่า เรื่องของผมมันถูกฟ้องศาลไปจนถึงยึดทรัพย์ขายทอดตลาด ข้อมูลเลยมีอยู่ที่กรมบังคับคดี แล้วเค้าไม่ยอมล้างข้อมูล มันก็เลยยังโชว์อยู่อย่างนั้น ทำอะไรไม่ได้ และไม่บอกด้วยนะว่าคดีสิ้นสุดแล้ว บอกแต่เพียงว่าเป็นลูกหนี้บังคับคดี รอการขายทอดตลาดทรัพย์ ผลเลยไม่ผ่านของกรุงศรี
ของออมสินให้อัตราดอกเบี้ย 0% ปีแรก ปีต่อไปจำไม่ได้ แต่คุ้มมาก แต่ปัญหาคือ จนท.จะบังคับให้ทำประกันเกือบ 3 แสน จะขอให้ลดวงเงินประกันก็ไม่ยอม ผมรู้ว่าปฏิเสธไม่ทำได้ แต่ทางเลือกผมมีไม่มาก เพราะรู้ปัญหาตัวเองอยู่ว่าติดแบล๊คลิสต์อยู่
ส่วนของ SCB ตอนแรก จนท.จะให้ทำประกัน 3 แสนกว่า และให้ดอกเบี้ย 2.95% 3 ปีแรก แต่คำนวณแล้ว ของออมสินคุ้มกว่า ผมเลยบอกว่าตัดสินใจแล้วจะเอาออมสิน จนท.เลยรีบบอกว่า เรื่องประกัน จะทำก็ได้ ไม่ทำก็ได้ ไม่ได้บังคับ แต่ถ้าทำบ้าง มันก็จะขออนุมัติดอกเบี้ยอัตราพิเศษได้ง่ายขึ้น ผมก็เลยขอให้เค้าลองปรับลดวงเงินประกันลงมา จนเหลือ 1.4 แสนกว่าบาท ซึ่งผมพอรับได้นะ เพราะคิดว่ามีประกันบ้าง อย่างน้อยเผื่อเราเป็นอะไรไป แม่ผมจะได้ยังมีบ้านอยู่ ไม่ต้องมีภาระอะไร ซึ่งประกันก็คุ้มครองวงเงิน 5 ล้าน อายุ 5 ปี ซึ่งพอดีกับที่ผมคาดว่าจะผ่อนหนี้หมด
สรุป ตอนนี้ ผ่านไปนับจากไปดูบ้านประมาณต้นเดือน พ.ค. และตรวจบ้าน 2 ครั้ง จนได้รับโอนบ้าน มีชื่ออยู่ในโฉนดแล้ว รับทะเบียนบ้านเรียบร้อยแล้ว ดีใจมากครับ
และอยากให้ผู้ที่มีปัญหาคล้ายๆ ผมอย่าเพิ่งหมดหวังครับ สิ่งสำคัญ คือ ต้องสร้างเครดิตใหม่และรักษามันไว้ให้ดีที่สุด อย่างน้อยสัก 1 ปีขึ้นไป มันช่วยได้เยอะครับ และก่อนจะยื่นขอสินเชื่อ ให้ลองไปเช็คเครดิตบูโรตัวเองดูก่อนว่ายังติดอีกกี่เดือน และถ้าเคยถึงขนาดถูกฟ้องร้องจนไปถึงส่งเรื่องไปที่กรมบังคับคดี ก็ลองไปเช็คข้อมูลที่กรมบังคับคดีดูครับ
ผมหวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย ไม่ได้หวังว่าจะมีคนอ่านในตอนนี้เยอะแยะ แต่หวังว่าเวลาผ่านไปแล้ว 2 -5 ปี แล้วมีคนเสิร์ชกูเกิ้ลขึ้นมา จะเจอกระทู้นี้ของผม ก็จะได้อ่านไว้เป็นข้อมูลครับ
ตั้งกระทู้ไปวันก่อนเรื่องติดแบล็คลิสต์เครดิตบูโร ยังไม่พ้น 3 ปี จะกู้ซื้อบ้านผ่านหรือเปล่า วันนี้มาอัพเดตครับ
จนวันนี้ ผมได้ทำสัญญากู้กับ SCB และได้รับจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์บ้านเรียบร้อยแล้วครับ ขอบคุณคุณส้ม เจ้าหน้าที่สินเชื่อของ SCB ที่ช่วยเหลือและคอยตามเรื่องให้ตลอด และให้ดอกเบี้ยอัตราที่ดี (2.95% สำหรับ 3 ปีแรก)
จากเมื่อเกือบ 3 ปีก่อน (ปลายปี 58) ต้องไปนั่งดูเจ้าหน้าที่บังคับคดีขายทอดตลาดบ้านตัวเอง (ทั้งที่ชำระหนี้ปิดยอดหนี้หมดแล้ว แต่ไม่ทันพอจะยับยั้งเรื่องการขายทอดตลาด) ตอนนั้น รู้สึกว่าเฉยๆ ใจนึงอยากให้ขายทอดตลาดบ้านได้ด้วยซ้ำ เพราะรู้สึกว่าราคาที่เจ้าหน้าที่ตั้งขายขั้นต่ำครั้งแรก สูงมากเลยสำหรับบ้านผม จนใจภาวนาอยากให้ขายได้ เพราะถ้าขายได้ เงินเกือบทั้งหมดก็จะตกเป็นของผม เพราะผมหมดหนี้กับธนาคารแล้ว อาจจะหักค่าธรรมเนียมโน่นนี่นั่น ก็ยังคุ้มอยู่ดี
แต่สุดท้ายก็ขายไม่ได้ ไม่มีใครยกมือประมูลบ้านผมเลย ก็เลยทำเรื่องถอนหลักประกัน รับโฉนดคืนจาก ธอส.
จากนั้น รู้ดีว่าตัวเองติดแบล็คลิสต์แน่นอนภายใน 3 ปีนี้ (ซึ่งในเครดิตบูโรจะโชว์หราว่าผมเคยปรับปรุงโครงสร้างหนี้และค้างชำระหนี้ 180 วันมั่ง 420 วันมั่ง 90 วันมั่ง คือมันดูไม่ดีเลย) เลยไม่พยายามยื่นขอบัตรเครดิตจากที่ไหน แต่เคยลองสมัครของยูเมะ พลัส เพียงเพราะอยากได้กระเป๋าเดินทาง เค้าบอกว่าสมัครปุ๊บก็ได้กระเป๋าเลย ไม่สนใจว่าจะผ่านหรือเปล่า ก็คิดว่าคงไม่ผ่าน แต่ดันผ่านแฮะ จากนั้น ก็ไม่เคยใช้วงเงินในบัตรเลย จนป่านนี้บัตรหายไปไหนก็ไม่รู้
แต่ประมาณ 1 ปีครึ่ง ลองยื่นเอกสารไป 3 ที่เผื่อฟลุ๊ค ก็ได้ของ ธ.กรุงเทพฯ ก่อน แล้วก็ได้ของ SCB ตามมา แต่ของยูโอบี ปรากฏว่าไม่ผ่านเกณฑ์
จากนั้น ผมก็พยายามรักษาเครดิตไว้อย่างดีที่สุด ใช้ของ 2 บัตรนี้ แล้วพยายามชำระเงินให้เร็วที่สุด พอได้รับใบแจ้งหนี้วันไหน ผมจะขำระเงินทันทีเลย ไม่รู้เพราะเหตุนี้หรือเปล่า SCB เลยปรับเพิ่มวงเงินให้ผมจาก 2 แสนเป็น 4 แสนโดยที่ไม่ต้องขอ และก็ไม่อยากได้ด้วย เพราะกลัวถ้าบัตรหาย จะซวยเอา
มาเมื่อประมาณปลายเดือนเมษา ดันเกิดกิเลสขึ้นมา อยากจะมีบ้านให้ได้ จากนั้น เริ่มเกิดความคิดว่า ถ้าเราแค่ทำสัญญาจองแล้วผ่อนดาวน์ไปเรื่อยๆ จนบ้านสร้างเสร็จ ก็คงพ้น 3 ปี ถึงตอนนั้น เครดิตบูโรจะใสสะอาด ค่อยทำเรื่องกู้บ้านได้ราวๆ ปลายปี ก็เลยเริ่มตระเวนดูบ้าน แล้วดันไปถูกใจบ้านในโครงการนึงซึ่งดันสร้างเสร็จแล้ว พร้อมโอนทันที ก็ถามเซลส์ว่าถ้าจะรอไปโอนสักเดือน ก.ย. จะได้มั้ย เซลส์บอกไม่ได้ ถ้าจองก็ต้องโอนเลย ไม่อย่างนั้นก็ต้องให้คนอื่นเอาไปก่อน แล้วเค้าบอกให้ลองยื่นเรื่องดู อาจจะผ่าน
ผมก็เลยลองยื่นสมัครดู เค้ายื่นให้ 3 ที่ มีของ SCB ธอส แล้วก็ออมสิน แล้วก็มีเจ้าหน้าที่ของกรุงศรีติดต่อมาทางหลังไมค์จากกระทู้นั้น
ผลปรากฏว่า ผ่านแค่ของออมสินกับ SCB ส่วนของ ธอส. แน่นอนว่าไม่ผ่านเพราะติดแบล็คลิสต์กับที่นี่ ส่วนกรุงศรี เจ้าหน้าที่พยายามช่วย แต่ปัญหาใหญ่คือว่า เรื่องของผมมันถูกฟ้องศาลไปจนถึงยึดทรัพย์ขายทอดตลาด ข้อมูลเลยมีอยู่ที่กรมบังคับคดี แล้วเค้าไม่ยอมล้างข้อมูล มันก็เลยยังโชว์อยู่อย่างนั้น ทำอะไรไม่ได้ และไม่บอกด้วยนะว่าคดีสิ้นสุดแล้ว บอกแต่เพียงว่าเป็นลูกหนี้บังคับคดี รอการขายทอดตลาดทรัพย์ ผลเลยไม่ผ่านของกรุงศรี
ของออมสินให้อัตราดอกเบี้ย 0% ปีแรก ปีต่อไปจำไม่ได้ แต่คุ้มมาก แต่ปัญหาคือ จนท.จะบังคับให้ทำประกันเกือบ 3 แสน จะขอให้ลดวงเงินประกันก็ไม่ยอม ผมรู้ว่าปฏิเสธไม่ทำได้ แต่ทางเลือกผมมีไม่มาก เพราะรู้ปัญหาตัวเองอยู่ว่าติดแบล๊คลิสต์อยู่
ส่วนของ SCB ตอนแรก จนท.จะให้ทำประกัน 3 แสนกว่า และให้ดอกเบี้ย 2.95% 3 ปีแรก แต่คำนวณแล้ว ของออมสินคุ้มกว่า ผมเลยบอกว่าตัดสินใจแล้วจะเอาออมสิน จนท.เลยรีบบอกว่า เรื่องประกัน จะทำก็ได้ ไม่ทำก็ได้ ไม่ได้บังคับ แต่ถ้าทำบ้าง มันก็จะขออนุมัติดอกเบี้ยอัตราพิเศษได้ง่ายขึ้น ผมก็เลยขอให้เค้าลองปรับลดวงเงินประกันลงมา จนเหลือ 1.4 แสนกว่าบาท ซึ่งผมพอรับได้นะ เพราะคิดว่ามีประกันบ้าง อย่างน้อยเผื่อเราเป็นอะไรไป แม่ผมจะได้ยังมีบ้านอยู่ ไม่ต้องมีภาระอะไร ซึ่งประกันก็คุ้มครองวงเงิน 5 ล้าน อายุ 5 ปี ซึ่งพอดีกับที่ผมคาดว่าจะผ่อนหนี้หมด
สรุป ตอนนี้ ผ่านไปนับจากไปดูบ้านประมาณต้นเดือน พ.ค. และตรวจบ้าน 2 ครั้ง จนได้รับโอนบ้าน มีชื่ออยู่ในโฉนดแล้ว รับทะเบียนบ้านเรียบร้อยแล้ว ดีใจมากครับ
และอยากให้ผู้ที่มีปัญหาคล้ายๆ ผมอย่าเพิ่งหมดหวังครับ สิ่งสำคัญ คือ ต้องสร้างเครดิตใหม่และรักษามันไว้ให้ดีที่สุด อย่างน้อยสัก 1 ปีขึ้นไป มันช่วยได้เยอะครับ และก่อนจะยื่นขอสินเชื่อ ให้ลองไปเช็คเครดิตบูโรตัวเองดูก่อนว่ายังติดอีกกี่เดือน และถ้าเคยถึงขนาดถูกฟ้องร้องจนไปถึงส่งเรื่องไปที่กรมบังคับคดี ก็ลองไปเช็คข้อมูลที่กรมบังคับคดีดูครับ
ผมหวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย ไม่ได้หวังว่าจะมีคนอ่านในตอนนี้เยอะแยะ แต่หวังว่าเวลาผ่านไปแล้ว 2 -5 ปี แล้วมีคนเสิร์ชกูเกิ้ลขึ้นมา จะเจอกระทู้นี้ของผม ก็จะได้อ่านไว้เป็นข้อมูลครับ