"ขอขอบคุณเพจ GUN in The World อย่างสูงครับ"
https://www.facebook.com/Supakorngimzaa/?hc_ref=ARSVP07Rd-CFgU5_qUtnwLMw_f0KEuzMrtl4JqDBDueoDXYXpdasmnupVxHVRkYvqMQ&fref=nf
ช่วงปี ค.ศ.1960-70 เช็กได้เริ่มที่จะคิดว่าน่าจะมีการนำปืน Vz58 ของตัวเองนำมาปรับฝุ่นปรับใหม่เพื่อให้มันสามารถกระสุนชนิดใหม่ของสหภาพโซเวียตอย่าง 5.45x45mm 7n1 ที่พึ่งจะเป็นกระสุนชนิดใหม่ในสมัยนั้น นาย Miloslav Fisher หัวหน้าศูนย์พัฒนาของสถาบันวิจัยพัฒนาปืนไรเฟิลของเช็ก Vyzkumne vyvojovy ustav zavodu vseobecneho strojirenstvi หรือ VVU-ZVS โดยโปรเจคในการพัฒนาปืนไรเฟิลชนิดนี้คือ Lada s ซึ่งจุดมุ่งหมายนั่นก็คือการพัฒนาปืนไรเฟิลรุ่นใหม่ภายในประเทศด้วยตัวของตัวเอง(รู้ๆกันอยู่ว่าเช็กนั้นชาตินิยมสูง)
โดยปืนไรเฟฟิลรุ่นใหม่นี้มันจะต้องใช้กระสุนขนาด5.45x45mm 7n1 ซึ่งเป็นมาตฐานของโซเวียตในเวลานั้น หลังจากที่เช็กนั้นใช้เวลาร่วมไปถึง 7 ปี ปืนต้นแบบก็ได้ออกมาจากโรงงานในปี ค.ศ. 1984 ตัวปืนชนิดนี้ถูกตั้งชื่อว่า lada ตามโปรเจกที่พัฒนาปืนไรเฟิลกระบอกนี้
ตัวต้นแบบของปืนนั้นถูกผลิตมาทั้งหมด3 กระบอกและต้นแบบ3กระบอกนั้นถูกออกแบบมาตามลักษณะการใช้งานของตัวปืน
รุ่นต่างๆของเจ้า Lada ตัวต้นแบบ
1.Lada รุ่นมารตฐาน มันใช้ลำกล้องขาด 15 นิ้วออกแบบมาสำหรับทหาราบทั่วไป
2. Lada smg (ในช่วงเวลานั้นยังไม่มีคำว่าpdw) มันใช้ลำกล้องขนาด 7 นิ้วคาดว่ารุ่นนี้น่าจะออกแบบมาสำหรับหน่วยรบพิเศษ
3. Lada lmg รุ่นปืนกลเบาและพลแม่นปืนมันใช้ลำกล้องขนาด 23 นิ้วออกแบบมาสำหรับพลปืนกลประจำหมู่กับพลแม่นปืน
(อารมณ์ประมาณ rpk-74 กับ svd dagunov ในร่างเดียว)
ซึ่งดูรวมๆแล้วมันก็แทบไม่ค่อยต่างจากรุ่นพี่ของมันอย่าง vz58 ซักเท่าไหร่นัก
ความแต่งต่างของ Lada กับ Ak74
ถ้ามองภายนอกนั้นลักษณะของเจ้า Lada นั้นดูคล้ายๆAk74 อยู่บางส่วนแต่ภายในตัวปืนนั้นมันมีจุดที่แตกต่างกว่าเจ้า Ak74 อยู่คือ
1.iron sight ศูนย์เล็งของปืน
ตรงบริเวณศูนย์เล็งของปืนนั้นจะเป็นลักษณะของวงแหวนแบบ vz 58 มากกว่าศูนย์เล็งแบบเลื่อนปรับได้ของ Ak74
2. Seft ปืน
ปุ่มปรับโหมดการยิงของ Lada นั้นจะเป็นลักษณะของปุ่มปรับหมดการยิงแบบเล็กๆเหมือนของตระกูลar15 ของอเมริกาแต่ของAk74 จะเป็นลักษณะของปุ่มปรับโหมดแบบทรงเข็มนาฬิกาตรงๆแบบak47
หรือ akm
3.Magazin ของปืน
แม็กกาซีนของ Lada จะเป็นแบบแม็กกาซีนใส สามารถมองเห็นจำนวนกระสุนได้ซึ่งผมคิดว่าน่าจะได้รับแรงบันดาลใจมาจาก แม็กกาซีน ของปืน styer aug ของออสเตรีย แต่แม็กกาซีนของ Ak74
จะเป็นแม็กกาซีนพลาสติกสีส้ม แบบทึบๆมองไม่เห็นจำนวนกระสุน
4. ประกับปืน
ของLadaประกับจะทำมาจากพลาสติก แต่ของAk74นั้นยังคงใช้ประกับที่ทำมาจากไม้อยู่
ปัญหาของตัวปืน
ตัวปืนนั้นมีปัญหาบ่อยครั้งกับการผลิตที่มันไม่ได้มาตฐานและล้มเหลวอยู่เรื่อยๆจนกระทั่งถึงปี 1989 ตัวปืนกระบอกแรกก็ออกมาจากโรงงานจนได้ แต่ถึงยังไงตัวปืนก็ไม่ได้เข้าประจำการในกองทัพแต่อย่างใด เนื่องจากในช่วงเวลานั้นเช็กได้เกิดปัญหาการปฏิวัติขึ้นเป็นการปฏิวัติของประชาชนในชื่อการปฏิวัติ Velvet Revolution ซึ่งหลังจากการปฏิวัตินั้นได้จบลง ปืนไรเฟิลlada นั้นแทบไม่ได้รับความสนใจจากกองทัพอีกแล้ว เนื่องจากเช็กในเวลานั้นอยู่ในช่วงเวลาที่ย่ำแย่และถังแตกทางโรงงานก็เลยพยายามดัดแปลงให้เจ้า lada นั้นสามารถใช้กระสุนขนาด 5.56x45mm m855 ซึ่งเป็นกระสุนมารตฐานของนาโต้ในเวลานั้นและตอนนั้นกองทั้พในแถบยุโรปก็เริ่มที่จะหันมาใช้กระสุนชนิดนี้มากขึ้นแล้วทางบริษัทก็ได้เสนอไปให้กองทัพเช็กพิจารณาอีกครั้งนึง การทดสอบในครั้งนี่เป็นที่น่าพอใจทางกองทัพเช็กเลยได้สั่งซื้อปืนชนิดนี้ร่วมกันกว่า 300000
แต่เจริญเถอะพ่อคุณเพราะในช่วงนั้นได้เกิดกระแสการแบ่งแยกดินแดนของประเทศโดยนักการเมือง 2 เชื้อชาติระหว่างเช็กกับสโลวาเกีย เหตุการณ์ถูกตั้งชื่อว่า hypen war ปืนlada ทั้งหมดถูกยกเลิกการสั่งซื้อ และเช็กกับสโลวาเกียได้แบ่งแยกประเทศกันหลังจากได้อยู่ร่วมกันมาถึง74ปี หลังจากนั้นเช็กอยู่ในสภาพถังแตก และลิขสิทธ์ของตัวปืนได้ตกไปอยู่ในมือของโรงงาน CZBZ หรือที่ทุกคนรู้จักกันในนามของ CZ ในปัจจุบัน ทางบริษัทCZได้นำเจ้าlada มาปัดฝุ่นอีกครั้ง โดยในช่วงเวลานี้ทางบริษัทได้ซื้อสิทธิบัตรของAR15 มาผลิตเองในประเทศ ในช่วงเวลานั้นทางกองทัพเช็กยังคงใช้เจ้าปืน vz58 เดิมตั้งแต่สมัยเป็นเช็กสโลวาเกีย ในช่วงนั้นหน่วยรบพิเศษของเช็กได้ใช้ของเกรด A อย่าง Colt m16/m4 carbine(อย่างงว่ารพศนิ) ในตอนนั้นเช็กได้ประกาศต้องการปืนไรเฟิลชนิดใหม่เพื่อทดแทนของเดิมอย่าง vz58 อีกครั้งซึ่งในช่วงเวลานั้นทางCZ นั้นไม่มีทางเลือกมีเพียงแค่ทางเลือกเดียวคือพัฒนาปืนไรเฟิลlada ขึ้นมาอีกครั้ง และทางcz ได้ก็ได้นำมาปัดฝุ่นแล้วมองหาลูกค้าในต่างประเทศให้ได้เพื่อให้ทางกองทัพเช็กกลับมาสนใจเจ้าlada อีกครั้ง โดยได้พัฒนาปืนไรเฟิล lada ของตนเองให้ทันสมัยและแสดงกลไกลความเป็นคลาชนิคอฟ เพื่อให้กองทัพต่างประเทศสนใจ และทางCZ ได้เปลี่ยนชื่อปืนให้มีความเป็นสากลมากขึ้น โดยใช้ชื่อว่า cz 2000 ในช่วงต้นปี ค.ศ.2000
ขอบคุณที่รับชมสวัสดีครับ
เครดิต
https://en.wikipedia.org/wiki/%C4%8CZ_2000
http://www.military-today.com/firearms/lada_cz_2000.htm
https://ppantip.com/topic/34451530
สวัสดีครับ
สารานุกรมปืนตอนที่ 169 Cz 2000 ความล้มเหลวของ Cz
https://www.facebook.com/Supakorngimzaa/?hc_ref=ARSVP07Rd-CFgU5_qUtnwLMw_f0KEuzMrtl4JqDBDueoDXYXpdasmnupVxHVRkYvqMQ&fref=nf
ช่วงปี ค.ศ.1960-70 เช็กได้เริ่มที่จะคิดว่าน่าจะมีการนำปืน Vz58 ของตัวเองนำมาปรับฝุ่นปรับใหม่เพื่อให้มันสามารถกระสุนชนิดใหม่ของสหภาพโซเวียตอย่าง 5.45x45mm 7n1 ที่พึ่งจะเป็นกระสุนชนิดใหม่ในสมัยนั้น นาย Miloslav Fisher หัวหน้าศูนย์พัฒนาของสถาบันวิจัยพัฒนาปืนไรเฟิลของเช็ก Vyzkumne vyvojovy ustav zavodu vseobecneho strojirenstvi หรือ VVU-ZVS โดยโปรเจคในการพัฒนาปืนไรเฟิลชนิดนี้คือ Lada s ซึ่งจุดมุ่งหมายนั่นก็คือการพัฒนาปืนไรเฟิลรุ่นใหม่ภายในประเทศด้วยตัวของตัวเอง(รู้ๆกันอยู่ว่าเช็กนั้นชาตินิยมสูง)
โดยปืนไรเฟฟิลรุ่นใหม่นี้มันจะต้องใช้กระสุนขนาด5.45x45mm 7n1 ซึ่งเป็นมาตฐานของโซเวียตในเวลานั้น หลังจากที่เช็กนั้นใช้เวลาร่วมไปถึง 7 ปี ปืนต้นแบบก็ได้ออกมาจากโรงงานในปี ค.ศ. 1984 ตัวปืนชนิดนี้ถูกตั้งชื่อว่า lada ตามโปรเจกที่พัฒนาปืนไรเฟิลกระบอกนี้
ตัวต้นแบบของปืนนั้นถูกผลิตมาทั้งหมด3 กระบอกและต้นแบบ3กระบอกนั้นถูกออกแบบมาตามลักษณะการใช้งานของตัวปืน
รุ่นต่างๆของเจ้า Lada ตัวต้นแบบ
1.Lada รุ่นมารตฐาน มันใช้ลำกล้องขาด 15 นิ้วออกแบบมาสำหรับทหาราบทั่วไป
2. Lada smg (ในช่วงเวลานั้นยังไม่มีคำว่าpdw) มันใช้ลำกล้องขนาด 7 นิ้วคาดว่ารุ่นนี้น่าจะออกแบบมาสำหรับหน่วยรบพิเศษ
3. Lada lmg รุ่นปืนกลเบาและพลแม่นปืนมันใช้ลำกล้องขนาด 23 นิ้วออกแบบมาสำหรับพลปืนกลประจำหมู่กับพลแม่นปืน
(อารมณ์ประมาณ rpk-74 กับ svd dagunov ในร่างเดียว)
ซึ่งดูรวมๆแล้วมันก็แทบไม่ค่อยต่างจากรุ่นพี่ของมันอย่าง vz58 ซักเท่าไหร่นัก
ความแต่งต่างของ Lada กับ Ak74
ถ้ามองภายนอกนั้นลักษณะของเจ้า Lada นั้นดูคล้ายๆAk74 อยู่บางส่วนแต่ภายในตัวปืนนั้นมันมีจุดที่แตกต่างกว่าเจ้า Ak74 อยู่คือ
1.iron sight ศูนย์เล็งของปืน
ตรงบริเวณศูนย์เล็งของปืนนั้นจะเป็นลักษณะของวงแหวนแบบ vz 58 มากกว่าศูนย์เล็งแบบเลื่อนปรับได้ของ Ak74
2. Seft ปืน
ปุ่มปรับโหมดการยิงของ Lada นั้นจะเป็นลักษณะของปุ่มปรับหมดการยิงแบบเล็กๆเหมือนของตระกูลar15 ของอเมริกาแต่ของAk74 จะเป็นลักษณะของปุ่มปรับโหมดแบบทรงเข็มนาฬิกาตรงๆแบบak47
หรือ akm
3.Magazin ของปืน
แม็กกาซีนของ Lada จะเป็นแบบแม็กกาซีนใส สามารถมองเห็นจำนวนกระสุนได้ซึ่งผมคิดว่าน่าจะได้รับแรงบันดาลใจมาจาก แม็กกาซีน ของปืน styer aug ของออสเตรีย แต่แม็กกาซีนของ Ak74
จะเป็นแม็กกาซีนพลาสติกสีส้ม แบบทึบๆมองไม่เห็นจำนวนกระสุน
4. ประกับปืน
ของLadaประกับจะทำมาจากพลาสติก แต่ของAk74นั้นยังคงใช้ประกับที่ทำมาจากไม้อยู่
ปัญหาของตัวปืน
ตัวปืนนั้นมีปัญหาบ่อยครั้งกับการผลิตที่มันไม่ได้มาตฐานและล้มเหลวอยู่เรื่อยๆจนกระทั่งถึงปี 1989 ตัวปืนกระบอกแรกก็ออกมาจากโรงงานจนได้ แต่ถึงยังไงตัวปืนก็ไม่ได้เข้าประจำการในกองทัพแต่อย่างใด เนื่องจากในช่วงเวลานั้นเช็กได้เกิดปัญหาการปฏิวัติขึ้นเป็นการปฏิวัติของประชาชนในชื่อการปฏิวัติ Velvet Revolution ซึ่งหลังจากการปฏิวัตินั้นได้จบลง ปืนไรเฟิลlada นั้นแทบไม่ได้รับความสนใจจากกองทัพอีกแล้ว เนื่องจากเช็กในเวลานั้นอยู่ในช่วงเวลาที่ย่ำแย่และถังแตกทางโรงงานก็เลยพยายามดัดแปลงให้เจ้า lada นั้นสามารถใช้กระสุนขนาด 5.56x45mm m855 ซึ่งเป็นกระสุนมารตฐานของนาโต้ในเวลานั้นและตอนนั้นกองทั้พในแถบยุโรปก็เริ่มที่จะหันมาใช้กระสุนชนิดนี้มากขึ้นแล้วทางบริษัทก็ได้เสนอไปให้กองทัพเช็กพิจารณาอีกครั้งนึง การทดสอบในครั้งนี่เป็นที่น่าพอใจทางกองทัพเช็กเลยได้สั่งซื้อปืนชนิดนี้ร่วมกันกว่า 300000
แต่เจริญเถอะพ่อคุณเพราะในช่วงนั้นได้เกิดกระแสการแบ่งแยกดินแดนของประเทศโดยนักการเมือง 2 เชื้อชาติระหว่างเช็กกับสโลวาเกีย เหตุการณ์ถูกตั้งชื่อว่า hypen war ปืนlada ทั้งหมดถูกยกเลิกการสั่งซื้อ และเช็กกับสโลวาเกียได้แบ่งแยกประเทศกันหลังจากได้อยู่ร่วมกันมาถึง74ปี หลังจากนั้นเช็กอยู่ในสภาพถังแตก และลิขสิทธ์ของตัวปืนได้ตกไปอยู่ในมือของโรงงาน CZBZ หรือที่ทุกคนรู้จักกันในนามของ CZ ในปัจจุบัน ทางบริษัทCZได้นำเจ้าlada มาปัดฝุ่นอีกครั้ง โดยในช่วงเวลานี้ทางบริษัทได้ซื้อสิทธิบัตรของAR15 มาผลิตเองในประเทศ ในช่วงเวลานั้นทางกองทัพเช็กยังคงใช้เจ้าปืน vz58 เดิมตั้งแต่สมัยเป็นเช็กสโลวาเกีย ในช่วงนั้นหน่วยรบพิเศษของเช็กได้ใช้ของเกรด A อย่าง Colt m16/m4 carbine(อย่างงว่ารพศนิ) ในตอนนั้นเช็กได้ประกาศต้องการปืนไรเฟิลชนิดใหม่เพื่อทดแทนของเดิมอย่าง vz58 อีกครั้งซึ่งในช่วงเวลานั้นทางCZ นั้นไม่มีทางเลือกมีเพียงแค่ทางเลือกเดียวคือพัฒนาปืนไรเฟิลlada ขึ้นมาอีกครั้ง และทางcz ได้ก็ได้นำมาปัดฝุ่นแล้วมองหาลูกค้าในต่างประเทศให้ได้เพื่อให้ทางกองทัพเช็กกลับมาสนใจเจ้าlada อีกครั้ง โดยได้พัฒนาปืนไรเฟิล lada ของตนเองให้ทันสมัยและแสดงกลไกลความเป็นคลาชนิคอฟ เพื่อให้กองทัพต่างประเทศสนใจ และทางCZ ได้เปลี่ยนชื่อปืนให้มีความเป็นสากลมากขึ้น โดยใช้ชื่อว่า cz 2000 ในช่วงต้นปี ค.ศ.2000
ขอบคุณที่รับชมสวัสดีครับ
เครดิต
https://en.wikipedia.org/wiki/%C4%8CZ_2000
http://www.military-today.com/firearms/lada_cz_2000.htm
https://ppantip.com/topic/34451530