เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้ค่ะ โดยปกติเราใช้บริการ Grab บ่อยมาก ใช้ทั้ง Taxi และ Win (มอไซต์)
ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือเรียกใช้ Win เราใช้บ่อยตอนที่รถติดมากๆ ไปทำงานไม่ทัน เราจะลงรถเมล์แล้วนั่ง Grab ไป
แล้ววันนี้เราก็เรียกปกติ ในแอพจะดูได้ว่าคนขับอยู๋ไหนแล้ว พอใกล้ถึงเขาก็จะโทรมา พอคุยกันเสร็จ เราก็รอ และคอยดูในแอพ
สักพักมันถึงจุดหมายและขึ้นสถานะว่ารับคนแล้ว และตำแหน่งรถก็เลยไป เรางงมาก เลยโทรไปอีกครั้งถามเขาว่าขับรถเลยไปไหน
เขาบอกว่า อ้าว.. ก็รับคนมาแล้วนี่ครับ แล้วเขาก็ส่งโทรศัพท์มาให้เราคุยกันคนนั้น คือเรางงมากว่า ใคร? แล้วรับคนอื่นไปได้ไง
ผญ คนนั้นก็บอกเราว่า เค้าก็เรียก Grab ปกติ ก็นั่งมาปกติแล้วคุณมีปัญหาอะไร ... และเราก็อึ้ง ...
ในขณะที่เรานิ่งเงียบไม่ตอบเค้า คือเรากำลังคิดว่า คนนั้นเรียก Grab เหมือนกันก็จริง แต่ไม่ได้ดูอะไรในแอพเลยหรอ
สักแต่ว่าเรียกๆ มาถึงก็ไป คนที่ใช้ Grab ส่วนใหญ่จะรู้กันดีอยู่แล้วว่า เวลาคนขับรับงาน เราสามารถเห็นหน้าตาคนขับ
รู้รุ่นของรถ รู้ทะเบียนรถ และแน่นอนว่าเราดูทุกครั้ง และโดยปกติคนขับก็จะรู้ด้วยว่า จุดหมายผู้โดยสารอยู่ตรงไหน
แล้วปลายทางที่จะไปคือที่ไหน เขาจะต้องถามเราทุกครั้งว่า คุณจะไป...ใช่มั้ย?
...
สักพักเขาก็สลับมาให้เราคุยกับคนขับต่อ เราเลยโวยวายไปว่า คุณไม่เห็นในแอพหรอว่าปลายทางจะไปไหน
แล้วคนที่นั่งไปด้วยเขาจะไปไหน เขาก็บอกว่าคนนั้นจะไปอีกที่หนึ่ง ซึ่งแยกไปคนละทางกันเลย แต่ระยะทางน่าจะพอๆกัน
ซึ่งเขาเองก็รู้แล้วว่ารับผิดคน เขาก็เหมือนยังตัดสินใจไม่ได้ และตอนนั้นเสียงรถมันก็ดัง เขาก็บอกว่าขับรถอยู่ครับ ส่งเสร็จจะโทรกลับ
เราก็ใช้สติคิดว่าถ้าเขาไม่โทรกลับ เราจะแจ้งกับทาง Grab ก็เลยตอบตกลงว่ารอ แล้วเราก็กำลังเสียจิตมากๆ
เพราะว่าเราเรียก Grab เพราะต้องการไปทำงานให้ทัน แต่มันไม่ทันแล้ว เลยต้องเรียกวินแถวนั้น ซึ่งบอกเลยว่าแพงมากกกกกกก
ค่า Grab 30 กว่าบาท แต่วินข้างทาง 80 บาท เราต้องยอมเสียไปเพราะเราลงรถเมล์มายืนรอ Grab แล้ว
ช่วงที่ไปถึงที่ทำงาน เขาก็โทรมาค่ะ
...
เรา: ทำไมพี่ไม่ดูปลายทางแล้วถามเค้าว่าใช่มั้ย ไม่คิดบ้างหรอว่ารับคนถูกคนมั้ย แล้วคนที่นั่งไปด้วยเขาไม่พูดอะไรบ้างเลยหรอ?
Grab: ตอนไปถึงจุดหมาย เขาถามผมว่า Grab ใช่มั้ย แล้วกระโดดขึ้นรถเลย แล้วเขาก็บอกว่ารีบมาก แล้วผมก็เลยรีบขับไปเลย
เรา: แล้วเราใช้การชำระผ่านบัตรเครดิต คุณส่งเสร็จมันก็มาหักบัตรเรา เพราะในแอพมันก็ขึ้นสถานะว่ารับคนและคำนวณเงินตามปกติไปแล้ว
Grab: เดี๋ยวผมโอนเงินคืนให้ตามราคาที่หักไปได้มั้ย
เรา: รู้มั้ยว่าเรายังรออยู่ที่เดิม จนเราต้องไปทำงานไม่ทัน และต้องมาเสียค่ามอไซต์วินข้างทาง ซึ่งแพง และปกติเราจะไม่นั่งอยู่แล้ว
เท่ากับเราเสียเงิน เสียเวลา เพราะพี่รับคนผิดคนไป พี่จะโอนค่ารถมอไซต์วินให้ได้มั้ยล่ะ
Grab: โอนให้ 50 ได้มั้ยครับ คนละครึ่งทาง
เรา: (คิด) เราอยากให้โอนมากกว่านี้ แต่เรารู้ว่าเราไม่มีหลักฐานอะไร ที่จะยืนยันค่าวินที่นั่งมาจริงๆ วินตามทางมันฟันราคาอยู่แล้ว
...
เราใช้บริการมาหลายครั้งและเราไม่เคยเจอ เราเลยไม่รู้ว่าจะเรียกร้องยังไงกับเวลาที่มาทำงานสายครึ่งชม.
และเงินค่าวินมอไซต์ข้างทางที่เสียไป เราจึงยอมให้เขาโอนมา 50 และทำใจให้มันจบๆ เพื่อมาทำงานต่อ
แต่สิ่งหนึ่งที่เราไม่มีโอกาสได้รู้ คือเรื่องคนที่นั่งไปเพราะคนขับเองก็ไม่ได้ถาม
เราอยากรู้ว่าคนนั้นเรียก Grab แล้วคนขับอีกคนที่รับงานคนๆนั้นไป เขาขับไปจุดหมายแล้วรอคุณจนเก้อมั้ย?
เราจึงอยากแชร์ และอยากบอกกับผู้ใช้บริการ (User) คนอื่นๆ ว่าแอพ Grab เขาทำออกมาเพื่อให้ผู้โดยสารรู้ว่าคุณนั่งรถไปกับใคร
รถรุ่นอะไร รถทะเบียนอะไร ซึ่งแอพจะมีการลงทะเบียนข้อมูลและรูปภาพคนขับอยู่แล้ว
ทางด้านคนเรียกก็มีการลงทะเบียนชื่อและรูปเช่นกัน เพื่อความปลอดภัยของทั้ง 2 ฝ่าย คุณเรียกรถ แล้วคุณจะรับใครก็ได้
หรือนั่งกับใครไปก็ได้ มันไม่ใช่วิธีการใช้ที่ถูกตามนโยบายของแอพ และมันทำให้เกิดเหตุแบบนี้ หรือเหตุอื่นๆ
ซึ่งจะให้เป็นหน้าที่รับผิดชอบของทางบริษัทอย่างเดียวมันเป็นไปไม่ได้ เพราะความผิดมันเกิดจากผู้ใช้ ที่ใช้แบบไม่มีการตรวจสอบ
มันทำให้คนอื่นเดือดร้อน โดยที่ไม่ได้รับค่าชดเชยอะไรเลย เหมือนคุณมานั่งวินมอไซต์ตัดหน้าเราไป ทั้งๆที่เราไม่ได้ทำอะไรผิด
คนขับ Grab รับผู้โดยสารผิดคน (เพิ่งเคยเจอครั้งแรก)
ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือเรียกใช้ Win เราใช้บ่อยตอนที่รถติดมากๆ ไปทำงานไม่ทัน เราจะลงรถเมล์แล้วนั่ง Grab ไป
แล้ววันนี้เราก็เรียกปกติ ในแอพจะดูได้ว่าคนขับอยู๋ไหนแล้ว พอใกล้ถึงเขาก็จะโทรมา พอคุยกันเสร็จ เราก็รอ และคอยดูในแอพ
สักพักมันถึงจุดหมายและขึ้นสถานะว่ารับคนแล้ว และตำแหน่งรถก็เลยไป เรางงมาก เลยโทรไปอีกครั้งถามเขาว่าขับรถเลยไปไหน
เขาบอกว่า อ้าว.. ก็รับคนมาแล้วนี่ครับ แล้วเขาก็ส่งโทรศัพท์มาให้เราคุยกันคนนั้น คือเรางงมากว่า ใคร? แล้วรับคนอื่นไปได้ไง
ผญ คนนั้นก็บอกเราว่า เค้าก็เรียก Grab ปกติ ก็นั่งมาปกติแล้วคุณมีปัญหาอะไร ... และเราก็อึ้ง ...
ในขณะที่เรานิ่งเงียบไม่ตอบเค้า คือเรากำลังคิดว่า คนนั้นเรียก Grab เหมือนกันก็จริง แต่ไม่ได้ดูอะไรในแอพเลยหรอ
สักแต่ว่าเรียกๆ มาถึงก็ไป คนที่ใช้ Grab ส่วนใหญ่จะรู้กันดีอยู่แล้วว่า เวลาคนขับรับงาน เราสามารถเห็นหน้าตาคนขับ
รู้รุ่นของรถ รู้ทะเบียนรถ และแน่นอนว่าเราดูทุกครั้ง และโดยปกติคนขับก็จะรู้ด้วยว่า จุดหมายผู้โดยสารอยู่ตรงไหน
แล้วปลายทางที่จะไปคือที่ไหน เขาจะต้องถามเราทุกครั้งว่า คุณจะไป...ใช่มั้ย?
...
สักพักเขาก็สลับมาให้เราคุยกับคนขับต่อ เราเลยโวยวายไปว่า คุณไม่เห็นในแอพหรอว่าปลายทางจะไปไหน
แล้วคนที่นั่งไปด้วยเขาจะไปไหน เขาก็บอกว่าคนนั้นจะไปอีกที่หนึ่ง ซึ่งแยกไปคนละทางกันเลย แต่ระยะทางน่าจะพอๆกัน
ซึ่งเขาเองก็รู้แล้วว่ารับผิดคน เขาก็เหมือนยังตัดสินใจไม่ได้ และตอนนั้นเสียงรถมันก็ดัง เขาก็บอกว่าขับรถอยู่ครับ ส่งเสร็จจะโทรกลับ
เราก็ใช้สติคิดว่าถ้าเขาไม่โทรกลับ เราจะแจ้งกับทาง Grab ก็เลยตอบตกลงว่ารอ แล้วเราก็กำลังเสียจิตมากๆ
เพราะว่าเราเรียก Grab เพราะต้องการไปทำงานให้ทัน แต่มันไม่ทันแล้ว เลยต้องเรียกวินแถวนั้น ซึ่งบอกเลยว่าแพงมากกกกกกก
ค่า Grab 30 กว่าบาท แต่วินข้างทาง 80 บาท เราต้องยอมเสียไปเพราะเราลงรถเมล์มายืนรอ Grab แล้ว
ช่วงที่ไปถึงที่ทำงาน เขาก็โทรมาค่ะ
...
เรา: ทำไมพี่ไม่ดูปลายทางแล้วถามเค้าว่าใช่มั้ย ไม่คิดบ้างหรอว่ารับคนถูกคนมั้ย แล้วคนที่นั่งไปด้วยเขาไม่พูดอะไรบ้างเลยหรอ?
Grab: ตอนไปถึงจุดหมาย เขาถามผมว่า Grab ใช่มั้ย แล้วกระโดดขึ้นรถเลย แล้วเขาก็บอกว่ารีบมาก แล้วผมก็เลยรีบขับไปเลย
เรา: แล้วเราใช้การชำระผ่านบัตรเครดิต คุณส่งเสร็จมันก็มาหักบัตรเรา เพราะในแอพมันก็ขึ้นสถานะว่ารับคนและคำนวณเงินตามปกติไปแล้ว
Grab: เดี๋ยวผมโอนเงินคืนให้ตามราคาที่หักไปได้มั้ย
เรา: รู้มั้ยว่าเรายังรออยู่ที่เดิม จนเราต้องไปทำงานไม่ทัน และต้องมาเสียค่ามอไซต์วินข้างทาง ซึ่งแพง และปกติเราจะไม่นั่งอยู่แล้ว
เท่ากับเราเสียเงิน เสียเวลา เพราะพี่รับคนผิดคนไป พี่จะโอนค่ารถมอไซต์วินให้ได้มั้ยล่ะ
Grab: โอนให้ 50 ได้มั้ยครับ คนละครึ่งทาง
เรา: (คิด) เราอยากให้โอนมากกว่านี้ แต่เรารู้ว่าเราไม่มีหลักฐานอะไร ที่จะยืนยันค่าวินที่นั่งมาจริงๆ วินตามทางมันฟันราคาอยู่แล้ว
...
เราใช้บริการมาหลายครั้งและเราไม่เคยเจอ เราเลยไม่รู้ว่าจะเรียกร้องยังไงกับเวลาที่มาทำงานสายครึ่งชม.
และเงินค่าวินมอไซต์ข้างทางที่เสียไป เราจึงยอมให้เขาโอนมา 50 และทำใจให้มันจบๆ เพื่อมาทำงานต่อ
แต่สิ่งหนึ่งที่เราไม่มีโอกาสได้รู้ คือเรื่องคนที่นั่งไปเพราะคนขับเองก็ไม่ได้ถาม
เราอยากรู้ว่าคนนั้นเรียก Grab แล้วคนขับอีกคนที่รับงานคนๆนั้นไป เขาขับไปจุดหมายแล้วรอคุณจนเก้อมั้ย?
เราจึงอยากแชร์ และอยากบอกกับผู้ใช้บริการ (User) คนอื่นๆ ว่าแอพ Grab เขาทำออกมาเพื่อให้ผู้โดยสารรู้ว่าคุณนั่งรถไปกับใคร
รถรุ่นอะไร รถทะเบียนอะไร ซึ่งแอพจะมีการลงทะเบียนข้อมูลและรูปภาพคนขับอยู่แล้ว
ทางด้านคนเรียกก็มีการลงทะเบียนชื่อและรูปเช่นกัน เพื่อความปลอดภัยของทั้ง 2 ฝ่าย คุณเรียกรถ แล้วคุณจะรับใครก็ได้
หรือนั่งกับใครไปก็ได้ มันไม่ใช่วิธีการใช้ที่ถูกตามนโยบายของแอพ และมันทำให้เกิดเหตุแบบนี้ หรือเหตุอื่นๆ
ซึ่งจะให้เป็นหน้าที่รับผิดชอบของทางบริษัทอย่างเดียวมันเป็นไปไม่ได้ เพราะความผิดมันเกิดจากผู้ใช้ ที่ใช้แบบไม่มีการตรวจสอบ
มันทำให้คนอื่นเดือดร้อน โดยที่ไม่ได้รับค่าชดเชยอะไรเลย เหมือนคุณมานั่งวินมอไซต์ตัดหน้าเราไป ทั้งๆที่เราไม่ได้ทำอะไรผิด