ทำไงดีเมื่อถูกทวงเงินทั้งที่เขาติดเงินเรา

เรื่องนี้เป็นเรื่องของคุณพ่อคะ พ่อทำงานเกี่ยวกับรับเหมาก่อสร้าง มีเครื่องจักรหนักให้เช่า ต่อไปขอเรียกรวม ๆ ว่ารถนะค่ะ

เรื่องแบบสั้น ๆ เผื่อไม่อยากอ่านรายละเอียด เขาเปิดอู่ซ่อมรถ พ่อตกลงจะขายดาวน์รถให้เขา จ่ายดาวน์ไม่ครบพ่อก็ให้รถไป สัญญาก็ไม่มี  ตลอดเวลา 7 เดือนไม่มีจ่ายเพิ่มทั้งเงินดาวน์เงินผ่อน เขาเอารถเราไปทำงานตลอด ๆ ชวนทำสัญญาก็บ่ายเบี่ยง พ่อเอารถไปซ่อมเพื่อหักหนี้ แต่ซ่อมไม่ดี ซ่อมช้า พ่อเลยแอบไปเอารถคืน เขาจึงโทรมาขู่เอาตังค์ค่าซ่อมรถ ไม่งั้นจะทำร้าย ทำลาย ลักรถเรา ทั้ง ๆ ที่ค่ารถเราที่เขาเอาไปนั้น ถ้าคิดเป็นค่าเช่าจะมียอดสูงกว่านั้น

เรื่องแบบละเอียด
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อปีที่แล้วพ่อได้ไปเจอ ”เขา” คนที่เคยร่วมงานเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว  ซึ่งสิบกว่าปีก่อนตอนนั้นเขาจ้างไปทำงานเกี่ยวกับก่อสร้าง แล้วเขาก็เบี้ยวเราหน้าด้านๆ คือบอกว่า เขาไม่จ่าย ตอนนั้นเราก็ไม่กล้าทำอะไรมากเพราะเขามีพี่ชายเป็นนักเลงหัวไม้ (แต่ตอนนี้พี่เขาไม่อยู่แล้ว)

แล้วเมื่อปีที่แล้ว พ่อได้โคจรมาเจอเขา พ่อเห็นว่าเขาเปิดอู่ซ่อมรถและเครื่องจักร ก็คิดว่าเขากลับใจเป็นคนดีทำมาหากิน พ่อก็เลยเอารถไปให้ลองซ่อมหนึ่งคัน ก็ซ่อมปกติดี พ่อจึงคิดอยากเอารถอื่น ๆ มาซ่อมด้วย

เหตุเกิดเมื่อพ่ออยากจะขายรถคันหนึ่ง เนื่องจากเอาเงินไปลงทุนแล้วขาดสภาพคล่อง จึงเอาเรื่องอยากขายรถไปคุยเพื่อจะฝากขายเผื่อมีใครอยากได้ เขาเลยบอกว่าจะซื้อไว้เอง โดยยอดเงินทั้งหมดต่อไปนี้จะเป็นยอดโดยประมาณ  ราคาดาวน์ 250,000 บาท ผ่อนต่อกับไฟแนนซ์อีก19 งวด ๆ ละ 22,000 บาท โดยเขาได้จ่ายเงินเพียง 60,000 และถือเอาค่าซ่อมรถคันแรก 40,000 บาท มารวมเป็นเงินดาวน์ คงค้างดาวน์อีก 150,000 บาท แล้วก็ขอยืมรถไปใช้งานก่อน พ่อก็ใจอ่อนใจดี ให้เขาเอารถไปก่อน สัญญาก็ไม่ได้ทำ ทำให้เกิดเรื่องขึ้น

เขาเอารถไปทำงานหาเงินแล้ว ส่วนเราก็ไม่ได้เงินอะไรจากเขาอีก ด้วยความที่กลัวเขาจะไม่จ่ายเงินด้วย และต้องเอาเครื่องจักรต่าง ๆ ไปซ่อมด้วย จึงเอารถไปซ่อมที่อู่เขาอีกเพื่อหวังให้หักกลบลบหนี้กัน

ตลอดเวลาที่เขาเอารถไป 7 เดือน ชวนทำสัญญาก็บ่ายเบี่ยง และไม่เคยจ่ายเงินอะไรเพิ่มอีกเลย ทั้งเงินดาวน์และเงินผ่อน พ่อเลยเอารถไปซ่อม เขาก็ซ่อมช้าคือรู้ว่าจะต้องซ่อมหักหนี้ และซ่อมไม่ดี จนพ่อต้องเอาคนงานไปช่วยซ่อมในอู่ของเขา เพื่อให้รถออกไปทำงานได้ หรือรถอที่ออกมาไม่กี่วัน ต้องเอาไปซ่อมอู่อื่นในอาการเดิม ซึ่งอู่ใหม่บอกว่าเขาแทบไม่ได้ซ่อมอะไรเลย พ่อจึงทยอยเอารถที่ไปจอดซ่อมหลาย ๆ คันออกจากอู่ เพื่อไม่ให้เขายึดไว้
แล้ววันหนึ่ง ตลอดเวลามีการชวนทำสัญญา ก็บ่ายเบี่ยงตลอด พ่อต้องจ่ายค่าผ่อนเองตลอดระยะเวลาที่เขาเอารถเราไปใช้

ประมาณ 7 เดือนหลังจากเขาเอารถที่บอกว่าจะซื้อของเราไป เราสืบทราบว่าเขาเอารถไปจอดทำงานที่ไหน เราจึงแอบไปเอารถของเราคืนมา

เขาโกรธมากเพราะเหมือนโดนลบเหลี่ยม โทรมาต่อว่าต่าง ๆ นานา แต่ก็หายไปพักหนึ่ง ก่อนที่เดือนสองเดือนก่อนโทรมาข่มขู่อีกหลายครั้ง ว่าจะทำร้าย ว่าจะไปเอารถของเรา ซึ่งพ่อก็ไปลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว ต่อมาสองสามวันก่อน เขาโทรมาข่มขู่จะเอาเงินแสนห้าค่าซ่อมรถอีก เขาโทรมาบอกว่าแจ้งความไว้แล้วจะเอาเงินแสนห้าภายในสิ้นเดือนนี้ และขู่ว่ารู้ว่าเราเอารถของเราไปทำงานที่ไหน ขู่จะทำร้ายพ่อ และขู่ว่าจะไปลักรถ จะเอาเงินลูกเดียว ถามซ้ำ ๆว่า ยิ้มจะจ่ายไหม พ่อก็บอกว่า ผมจะจ่าย ๆ ตอบซ้ำๆ  แต่คุยไม่รู้เรื่องสักที แต่พอเราจะคุยเรื่องที่เขาเอารถเราไป  พ่อเลยบอกว่า รายการค่าซ่อมมีอะไรบ้าง ไม่เคยเอามาให้ดูเลย พ่อชวนไปคุยตกลงกันก็ไม่ยอม

พ่อจึงได้ไปลงบันทึกประจำวันอีกครั้ง ตำรวจถามว่าจะแจ้งความไหม พ่อก็สงสารลูกเมียเขา ทั้ง ๆ ที่เงินที่เขาติดค้างเราเป็นค่ารถนั้น ถ้าคิดค่ารถที่เขาบอกว่าจะซื้อ เป็นค่าเช่าก็แพงกว่าค่าซ่อมรถที่เขาซ่อม 4 – 5 เท่า หรือถ้าคิดเป็นการขายก็จะแพงกว่านั้น

วันต่อมา หลังจากที่เขาโทรมาแล้วพ่อถามหารายการซ่อม เขาให้ตัวแทนฝ่ายเขาไปส่งใบส่งของรายการซ่อมรถต่าง ๆ ให้ที่หน้างาน ตัวแทนก็พูดคุยดี เขาบอกว่านายฝากมา (แต่นายไม่ใช่เขา) พอบอกเรื่องที่เขาเอารถไปไม่จ่ายตังค์ ตัวแทนดูแปลกใจเหมือนไม่รู้เรื่อง

วันต่อๆ มามีคนงานที่หน้างานบอกว่ามีคนมาดูรถ ตอนค่ำ ๆ อยู่สองวัน มีการถ่ายรูปรถด้วย เหมือนเป็นการสร้างความหวาดระแวงให้กับเรา

เราจึงติดต่อคุยกับตัวแทนต่อรองให้เหลือ 50,000 บาท แต่เขาตอบมาว่าจะเอาแสนห้าสิ้นเดือน พ่อเราช่วงนี้ก็ไม่ค่อยมีเงิน ตัวแทนก็ขอถอนตัว
เรารู้สึกไม่ปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ห่วงพ่อ แม่  และลูกหลาน และไม่รู้ว่าถ้าให้เงินเขาไปแล้วจะมาข่มขู่อะไรเราอีกหรือเปล่า
พ่อเราเป็นคนใจดี พูดง่าย ทำให้ถูกโกงมาหลายงานแล้ว พ่อเราก็ไม่เคยไปใช้วิธีการรุนแรง ปล่อยหนี้สูญไปก็หลายครั้ง ครั้งนี้พ่อโกรธมาก (แต่ก็ยังจะจ่ายเขานะ) เพราะว่ามาขู่กับครอบครัว แต่พ่อจะเอาแบบถูกกฎหมาย ฟ้องร้อง หรือไปสู่กันขั้นศาล  ซึ่งเรากลัวว่าเขาคงไม่ยอมไปขึ้นศาลและอาจมาทำร้ายพ่อหรือขโมยรถ พ่อมารู้ทีหลังว่าเขามีประวัติไม่ดีเกี่ยวกับการลักรถ ลักอะไหล่ เราไม่รู้ว่าเบื้องหลังเขาจะมีประวัติไม่ดีอะไรอีกและไม่รู้ว่าเขาจะมีผู้ใหญ่หรือมาเฟียหนุนหลังรึเปล่า

ขอโทษที่เรื่องยาวและเรื่องเยอะไปหน่อย เราต้องโทษพ่อเราด้วยที่ใจดี เชื่อคนง่าย ไม่ระวัง ไม่เข็ด ไปพบกับคนพาล และยังไม่รอบคอบเรื่องเอกสารเกี่ยวกับการซื้อขาย

ขอคำแนะนำ
ตอนนี้กำลังคิดอยู่ว่าจะเอาไงดี ใกล้สิ้นเดือนแล้ว น้องก็อยากให้จ่ายครบเพราะเชื่อว่าเป็นกรรมของพ่อ  แต่เราก็ใช่ว่าจะมีเงินไปให้เขาแล้วเราไม่เดือดร้อน เพราะเป็นเงินหมุน ที่จะขายรถเพราะก็ต้องการเอาเงินมาหมุน อยากต่อรองกับเขาผ่อนจ่าย ลดราคาค่าซ่อม (บางรายการคิดแพงเกิน คิดค่าแรงซ้ำ) แต่เขาก็ไม่ยอมต่อรอง จะนัดไปคุยก็ไม่ยอม เราเป็นห่วงพ่อ

อยากให้ช่วยแนะนำหน่อยค่ะ ว่าตอนนี้ควรทำไงดี ถ้าจ่ายเงินแบบทั้งหมดหรือจ่ายผ่อน ควรทำอย่างไรหรือควรมีเอกสารอะไรบ้างคะ
และขอถามคนที่มีประสบการณ์ถูกข่มขู่ ทำยังไงถึงได้ออกจากสถานการณ์อย่างนั้นได้คะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่