ในสมัยครั้งพุทธกาล ไม่มีมหาเถรสมาคม แม้ว่าจะมีพระเถระผู้ทรงคุณวิเศษเป็นจำนวนมากก็ตาม

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ได้ทรงแต่งตั้งใครให้เป็นศาสดาแทนพระองค์ แต่มีพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงไว้ดีแล้วและพระวินัยที่พระองค์ทรงบัญญัติไว้ดีแล้วเป็นศาสดาแทนพระองค์ ที่พุทธบริษัท ทั้งฝ่ายที่เป็นบรรพชิต(พระภิกษุ สามเณร) และคฤหัสถ์(อุบาสก อุบาสิกา) จะได้เห็นคุณค่า ร่วมกันศึกษาด้วยความเคารพ รอบคอบ ไม่ประมาท เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง มั่นคง ไม่ผิดไม่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง


พระพุทธศาสนาจะดำรงอยู่ได้ก็ด้วยความเข้าใจของพุทธบริษัทเท่านั้น ไม่ใช่อย่างอื่น หากพุทธบริษัทไม่ศึกษาพระธรรมวินัยให้เข้าใจ
ไม่มีทางที่พระพุทธศาสนาจะดำรงสืบต่อไปได้ เพราะฉะนั้น จึงเป็นหน้าที่ของพุทธบริษัทที่จะศึกษาพระธรรมวินัยให้เข้าใจอย่างถูกต้อง
เพื่อดำรงรักษาพระธรรมวินัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทานให้แก่พุทธบริษัทให้เจริญมั่นคงสืบต่อไป


นอกจากนั้นแล้ว เพื่อประพฤติเอื้อเฟื้อต่อพระธรรมวินัย อนุเคราะห์เกื้อกูลพระภิกษุทั้งหลายให้ได้อยู่อย่างผาสุกในพระธรรมวินัย วัดทุกวัด
ควรจะมีไวยาวัจกร ซึ่งเป็นคฤหัสถ์ผู้เข้าใจพระธรรมวินัย เป็นผู้เสียสละที่จะทำประโยชน์ต่อพระภิกษุทั้งหลาย โดยมีสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักที่จะดูแลในส่วนนี้โดยเป็นไวยาวัจกรเองด้วย เพื่อสนับสนุนส่งเสริมและจัดหาสิ่งที่เหมาะควรเพื่อเกื้อกูลแก่พระภิกษุทั้งหลายไม่ให้ท่านต้องทำผิดพระวินัย

มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่