สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ผมว่า จขกท หลงประเด็น สมองไหลหรือไม่ มันไม่ได้เกี่ยวกับภาษา แต่มันเกี่ยวกับความสุขของประชาชนในการใช้ชีวิตประเทศนั้นๆ เช่น สภาพเศรษฐกิจเอื้ออำนวยในการหางานแค่ไหน สภาพความพึงพอใจของประชาชนที่จะอยู่ในประเทศสูงแค่ไหน หากประเทศนั้นๆมีสวัสดิการต่างๆที่ดี ไม่ว่าจะด้านการทำงาน (working condition) หรือสวัสดิการสังคม (เงินเกษียณ ประกันสังคมต่างๆ) ที่ทำให้ประชาชนพึงพอใจที่จะอยู่ มันจะสมองไหลได้อย่างไร? ประเทศใคร ใครก็รักใคร แต่หากอยู่ไปแล้ว ชีวิตไม่มีความสุข และมีประเทศอื่นที่มีทางเลือกที่ดีกว่าให้ไป ทำไมถึงจะไม่ควรไป? คุณลองไปดูพวกประเทศแสกน หรือประเทศที่ working condition ดีจริงๆ หรือช่องว่างระหว่างคนจนคนรวยต่ำอย่างยุโรปตะวันตกสิครับ ประชาชนที่พึงพอใจจะอยู่ก็มากมาย เพราะคนทุกคนในสังคมค่อนข้างเท่าเทียมกัน ไม่ใช่เพราะต้องมีเงิน ถึงจะเป็นที่ยอมรับในสังคม และคนที่จะไป ทิ้งประเทศ แบบข้อยกเว้นจริงๆ ในกรณีคนที่เค้าอยากจะไปอยู่ประเทศอื่นนั้น คนจะไป เค้าก็หาทางไปได้อยู่ดี ไม่ได้แปลว่า จะต้องไปอยู่ที่พูดภาษาอังกฤษแต่อย่างใด
เพราะฉะนั้นแล้ว หากคนไทยได้ภาษาอังกฤษคล่องแคล่ว มันจะไม่ดีได้อย่างไร? คนเรามักจะประเมินความสำคัญด้านการสื่อสารต่ำกว่าความเป็นจริง มันเป็นเรื่องที่รู้ๆกันอยู่ว่า ภาษาอังกฤษ คือ ภาษาที่ใช้เป็นภาษากลางของทั่วโลก ยิ่งในปัจจุบัน เรื่อง Globalization เป็นอะไรที่ไม่ว่าประเทศไหนก็เลี่ยงไม่ได้ ยิ่งประเทศไทยเองเป็นฐานในการผลิตของอุตสาหกรรมชาติตะวันตก นั่นแปลว่า ยิ่งภาษาคล่องเท่าไหร่ ก็ยิ่งติดต่องานได้ง่ายเท่านั้น ความผิดพลาดในการทำงานก็น้อยลงหากภาษาในการสื่อสารแข็ง ซึ่งนั่นหมายถึวงประสิทธิภาพการทำงานจะสูงหรือต่ำ ขึ้นอยู่กับความสามารถในการใช้ภาษาสื่อสารเป็นอย่างมาก แม้แต่คนจีนเอง ปัจจุบันที่เป็นฐานการผลิตทั้งหลายนั้น ก็ต้องยอมรับว่า สื่อสารด้านภาษาอังกฤษได้ดีขึ้นตามเวลา หรือแม้แต่เกาหลีที่ปัจจุบันเองเรื่องภาษาอังกฤษ ก็กลายๆจะนำหน้าญี่ปุ่นไปแล้วเสียด้วย เรื่องพื้นฐานสังคมที่ต่างกันนั้น มันแตกต่างกันทุกชาติทั่วโลกครับ มาใช้เป็นข้อต่อรองไม่ได้ ถ้าจะใช้ข้อนี้เป็นข้อต่อรอง คือ หมายถึงหาจุดขายของประเทศของตนให้เหมาะกับสิ่งที่ตนมี แต่ไม่ได้เกี่ยวกับภาษาครับ ดูตัวอย่างของ G7 เป็นต้น ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก ประกอบไปด้วยประเทศสมาชิก 7 ประเทศคือ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา โดยเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้นับเป็นกว่า 50% ของเศรษฐกิจโลกเข้าไปแล้ว ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น ต่างมีภาษาประจำชาติของตนทั้งสิ้น แต่ไม่ได้แปลว่า เค้าใช้ภาษาอังกฤษไม่ได้
ลองมองในทางกลับกันว่า โรงงานประกอบ โรงงานผลิตต่างๆที่ต่างชาติเข้ามาตั้งในไทยนั้น หากไทยไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษกับเค้าได้ สัญญาต่างๆที่มีขึ้นมา จะเป็นไปได้อย่างไร? การลงทุนต่างๆในไทยจะเกิดขึ้นได้อย่างไร? ในเมื่อสัญญาการค้า ที่ทำข้อตกลงต่างๆ ต้องเป็นภาษากลางที่ทุกชาติเข้าใจตรงกัน ก็คือ ภาษาอังกฤษ ทั้งหมด เป็นไปไม่ได้ที่ไทยจะไปบังคับนายทุนต่างๆให้ใช้ภาษาไทยเท่านั้น เพราะภาษาไทยไม่ใช่ภาษากลางของโลก และไทยเราก็ไม่มีอำนาจในการต่อรองด้านเศรษฐกิจกับชาติอื่นขนาดนั้น
การรักชาติ และภาษาของตนเป็นสิ่งที่ทุกชาติควรจะทำ แต่ก็ต้องหัดยอมรับความจริงว่า ปัจจุบันไม่สามารถมีชาติไหนในโลกทั้งนั้น (ไม่ว่าชาตินั้นจะมีอำนาจทางด้านเศรษฐกิจแค่ไหน) ที่สามารถอยู่ได้ด้วยตนเอง โดยไม่ติดต่อ หรือพึ่งพาในการทำการค้ากับชาติอื่น ถือคติน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่ากันทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นภาษาอังกฤษไม่ใช่ความสามารถพิเศษแล้ว แต่ปัจจุบันมันคือคุณสมบัติพื้นฐานของคนทำงานทุกๆชาติทั่วโลกครับ ภาษาที่ 3 เองก็ควรจะมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนจะเป็นภาษาไหน ก็ขึ้นอยู่กับสายงานที่ทำ แต่ในความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษให้คล่องแคล่ว ไม่ใช่เรื่องที่ควรจะต้องเป็นการถกเถียงมานานแล้วนะครับ
เพราะฉะนั้นแล้ว หากคนไทยได้ภาษาอังกฤษคล่องแคล่ว มันจะไม่ดีได้อย่างไร? คนเรามักจะประเมินความสำคัญด้านการสื่อสารต่ำกว่าความเป็นจริง มันเป็นเรื่องที่รู้ๆกันอยู่ว่า ภาษาอังกฤษ คือ ภาษาที่ใช้เป็นภาษากลางของทั่วโลก ยิ่งในปัจจุบัน เรื่อง Globalization เป็นอะไรที่ไม่ว่าประเทศไหนก็เลี่ยงไม่ได้ ยิ่งประเทศไทยเองเป็นฐานในการผลิตของอุตสาหกรรมชาติตะวันตก นั่นแปลว่า ยิ่งภาษาคล่องเท่าไหร่ ก็ยิ่งติดต่องานได้ง่ายเท่านั้น ความผิดพลาดในการทำงานก็น้อยลงหากภาษาในการสื่อสารแข็ง ซึ่งนั่นหมายถึวงประสิทธิภาพการทำงานจะสูงหรือต่ำ ขึ้นอยู่กับความสามารถในการใช้ภาษาสื่อสารเป็นอย่างมาก แม้แต่คนจีนเอง ปัจจุบันที่เป็นฐานการผลิตทั้งหลายนั้น ก็ต้องยอมรับว่า สื่อสารด้านภาษาอังกฤษได้ดีขึ้นตามเวลา หรือแม้แต่เกาหลีที่ปัจจุบันเองเรื่องภาษาอังกฤษ ก็กลายๆจะนำหน้าญี่ปุ่นไปแล้วเสียด้วย เรื่องพื้นฐานสังคมที่ต่างกันนั้น มันแตกต่างกันทุกชาติทั่วโลกครับ มาใช้เป็นข้อต่อรองไม่ได้ ถ้าจะใช้ข้อนี้เป็นข้อต่อรอง คือ หมายถึงหาจุดขายของประเทศของตนให้เหมาะกับสิ่งที่ตนมี แต่ไม่ได้เกี่ยวกับภาษาครับ ดูตัวอย่างของ G7 เป็นต้น ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก ประกอบไปด้วยประเทศสมาชิก 7 ประเทศคือ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา โดยเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้นับเป็นกว่า 50% ของเศรษฐกิจโลกเข้าไปแล้ว ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น ต่างมีภาษาประจำชาติของตนทั้งสิ้น แต่ไม่ได้แปลว่า เค้าใช้ภาษาอังกฤษไม่ได้
ลองมองในทางกลับกันว่า โรงงานประกอบ โรงงานผลิตต่างๆที่ต่างชาติเข้ามาตั้งในไทยนั้น หากไทยไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษกับเค้าได้ สัญญาต่างๆที่มีขึ้นมา จะเป็นไปได้อย่างไร? การลงทุนต่างๆในไทยจะเกิดขึ้นได้อย่างไร? ในเมื่อสัญญาการค้า ที่ทำข้อตกลงต่างๆ ต้องเป็นภาษากลางที่ทุกชาติเข้าใจตรงกัน ก็คือ ภาษาอังกฤษ ทั้งหมด เป็นไปไม่ได้ที่ไทยจะไปบังคับนายทุนต่างๆให้ใช้ภาษาไทยเท่านั้น เพราะภาษาไทยไม่ใช่ภาษากลางของโลก และไทยเราก็ไม่มีอำนาจในการต่อรองด้านเศรษฐกิจกับชาติอื่นขนาดนั้น
การรักชาติ และภาษาของตนเป็นสิ่งที่ทุกชาติควรจะทำ แต่ก็ต้องหัดยอมรับความจริงว่า ปัจจุบันไม่สามารถมีชาติไหนในโลกทั้งนั้น (ไม่ว่าชาตินั้นจะมีอำนาจทางด้านเศรษฐกิจแค่ไหน) ที่สามารถอยู่ได้ด้วยตนเอง โดยไม่ติดต่อ หรือพึ่งพาในการทำการค้ากับชาติอื่น ถือคติน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่ากันทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นภาษาอังกฤษไม่ใช่ความสามารถพิเศษแล้ว แต่ปัจจุบันมันคือคุณสมบัติพื้นฐานของคนทำงานทุกๆชาติทั่วโลกครับ ภาษาที่ 3 เองก็ควรจะมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนจะเป็นภาษาไหน ก็ขึ้นอยู่กับสายงานที่ทำ แต่ในความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษให้คล่องแคล่ว ไม่ใช่เรื่องที่ควรจะต้องเป็นการถกเถียงมานานแล้วนะครับ
แสดงความคิดเห็น
ถ้าคนไทยเก่งภาษาอังกฤษจะเป็นผลดีต่อประเทศไทยจริงหรือ?
เพราะภาษาอังกฤษคือต้นเหตุของ ภาวะสมองไหล (Brain Drain)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทีนี้ผมเลยสงสัยว่า การที่คนไทยเก่งภาษาอังกฤษจะเป็นผลดีต่อประเทศไทยรึเปล่า?
ที่ผมคิดแบบนี้เพราะผมเทียบจากประเทศในเอเชียที่เก่งภาษาอังกฤษมากสุด 3 อันดับแรก(ไม่เรียงอันดับ)คือ
1. สิงคโปร์
2. ฟิลิปปินส์
3. อินเดีย
คนสิงคโปร์เก่งอังกฤษมาก แต่ "โครงสร้างประเทศ" ต่างจากไทยโดยสิ้นเชิง ดังนั้นจึงไม่ควรนำมาเปรียบเทียบ
กลับกัน ฟิลิปปินส์และอินเดียมีโครงสร้างประเทศคล้ายไทยมาก โดยเฉพาะฟิลิปปินส์ที่ถูกเรียกว่า"ฝาแฝดของไทย"
ซึ่งหนึ่งในปัญหาระดับชาติของสองประเทศนี้คือภาวะสมองไหล ส่งผลให้ประเทศค่อยๆย่ำแย่ลงไป
- คนฟิลิปปินส์ในทุกชนชั้นใฝ่ฝันที่จะไปทำงานต่างประเทศอย่างถาวร และจะพาครอบครัวไปด้วย
- คนอินเดียในระดับหัวกะทิพยายามที่จะไปทำงานในตะวันตกมาก โดยเฉพาะในอเมริกา
จากตัวอย่างนี้ ผมเลยสงสัยครับว่า ถ้าคนไทยเก่งภาษาอังกฤษจะดีต่อประเทศไทยจริงหรือ?
และผมอยากฟังความเห็นของทุกๆท่านครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้คำผิด