[CR] Spring Time in Russia : Day 2 สัมผัสเพียงผันผ่าน


จากการเดินทางแบบ "โหดสลัดรัสเซีย" ที่ผ่านมาในตอนที่แล้ว
https://ppantip.com/topic/37803666
เราก็ได้มาถึงประเทศที่กำลังเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกในตอนนี้ในที่สุด การรีวิวนี้มาจากการเดินทางของพี่ใหญ่และหนูเล็กกับผองเพื่อนก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลกจะเริ่มขึ้นค่ะ เพิ่งจะมีเวลาเริ่มเขียนรีวิวบอกเล่าเรื่องราวแบ่งปันประสบการณ์ค่ะ ว่าแล้วก็ไปเที่ยวแบบชิลๆ กับพวกเรากันต่อดีกว่าค่ะ
อัศวินเดินทาง

เช้าแรกในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กของพวกเราเป็นเช้าที่แปลกประหลาดกันสักนิดค่ะ เพราะตอนที่เราไปเยือนที่นั่นย่างเข้าสู่ฤดูร้อนทำให้ท้องฟ้าที่นี่สว่างโร่ปลุกพวกเราให้ตื่นกันตั้งแต่ตีสองครึ่ง เล่นเอางงๆ กันเล็กน้อยเพราะเพิ่งจะนอนหลับกันไปได้เพียงสักครู่ ดีที่ว่าพวกเรางีบหลับกันมาระหว่างการเดินทางอันยาวนานจึงไม่ได้รู้สึกเพลียอะไร จึงตื่นกันแต่เช้า ราวๆ ตีสี่กว่าๆ ก็ตื่นมานั่งพูดคุย จัดการอาหารเช้า นั่งคิดแผนเที่ยวกันว่าวันนี้จะไปไหนกันได้บ้าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คงต้องรอให้ Host เอาพาสปอร์ตของเรากลับมาคืนพร้อมเอกสารลงทะเบียนวีซ่าที่ไปจัดการมาให้เรียบร้อย ไม่งั้นก็คงไม่อาจเบาใจไปเดินเที่ยวหัวหกก้นขวิดกัน ก็จริงอยู่ที่การตรวจนั้นเป็นการสุ่มตรวจ เราอาจจะไม่เจอเจ้าหน้าที่เรียกตรวจก็ได้ แต่การมาต่างถิ่นแบบนี้ก็ไม่มีใครกล้าเสี่ยง หากเกิดอะไรขึ้น จะคุยกับเจ้าหน้าที่รู้เรื่องหรือเปล่ายังไม่รู้เลย

เช้าวันนั้นเราจึงไม่อาจไปไหนได้ไกล จึงได้แค่เดินออกไปสำรวจรอบๆ ที่พักเพราะเมื่อคืนมาค่ำมืดดึกดื่นจนไม่เห็นเลยว่ารอบๆ ที่พักเป็นอย่างไรบ้าง ทำให้เห็นว่าแม้ที่พักเราจะผ่านการรีโนเวทภายในจนใหม่กิ๊ก แต่เมื่อก้าวออกจากห้อง เราก็พบว่า ที่พักของเราอยู่ในตึกโบราณที่น่าจะมีอายุขัยไม่น้อยตึกหนึ่ง น่าจะเป็นกลุ่มที่พักอาศัยซึ่งตรงกลางเป็นเพื้นที่สีเขียวอย่างสวนสาธารณะและสนามเด็กเล่น โดยรอบค่อนข้างเงียบสงบ ไม่วุ่นวายดี นับเป็นที่พักที่ทำเลที่ตั้งใช้ได้แห่งหนึ่งทีเดียว การไปมาก็นับว่าสะดวก เพราะเดินไม่ไกลนักก็จะถึงสถานีรถไฟใต้ดิน และจากการสำรวจรอบๆ มีซุปเปอร์มาร์เก็ตให้เราจับจ่ายได้ 24 ชั่วโมงด้วยแค่นี้ก็สบายที่สุดแล้ว
แค่บันไดทางขึ้นก็เก่ากึ้กแล้ว
ประตูทางเข้าที่เมื่อคืนมืดจนมองไม่รู้เรื่องเลย
ด้านหน้าตึกมีดอกไม้สวยๆ ที่กำลังแข่งกันบานรับฤดูใบไม้ผลิ

กว่าที่ Host จะนำพาสปอร์ตและเอกสารกลับมาคืนเราก็ราวค่อนวัน ทำให้เรานอนเล่นไปครึ่งวันชดเชยการเดินทางอย่างระห่ำเมื่อวันก่อน และแผนของวันนี้ปรับเหลือเพียงแค่การนั่งรถไฟใต้ดินเข้าไปใจกลางเมืองเพื่อชมบรรยากาศรอบๆ แบบชิลๆ ไม่ต้องไปจริงจังอะไรมาก แต่ถ้าสามารถเข้าชมด้านในของสถานที่แห่งไหนได้ก็ค่อยเ­ข้าชม ตามที่ว่าค่ะ ไม่เน้นเก็บแต้ม เอาที่สบายใจ หักโหมมาแล้วเมื่อตอนเดินทางมา จากนี้เบาๆแล้วค่ะ
ถนนด้านนอกใกล้ๆ ที่พัก

เราพากันออกเดินทางจากสถานีรถไฟใต้ดิน Novocherkasskaya (Новочерка́сская) เพื่อจะเดินทางไปยังถนน Nevsky Prospekt (Не́вский проспе́кт) ไปเปลี่ยนขบวนจากสายสีส้มเป็นสายสีเขียวที่สถานี Ploshchad Alexandra Nevskogo (Плóщадь Алексáндра Нéвского)
กระจกสีสวยๆ ที่ตกแต่งภายในสถานีรถไฟใต้ดิน
ลูกเล่นที่เขาตกแต่งภายในสถานีรถไฟใต้ดิน
แต่ละสถานีมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

เพื่อไปลงยังสถานี Gostiny Divor (гостиный двор) ซึ่งเป็นสถานีที่เชื่อมกับสถานี Nevsky Prospekt ของสายสีฟ้าที่เราต้องการไปถึงซึ่งเราต้องเดินเท้าต่อไปเอง แต่สุดท้ายเดินไปมาก็โผล่ออกมาจากสถานีมาเดินอยู่ริมถนน แต่ไม่เป็นไร เพราะจริงๆ ที่โผล่ออกมานี้ก็ถนน Nevsky Prospekt แล้ว
หลังคาโค้งสวยๆ ของห้าง Gostiny Divor

สถานที่แรกที่เราขอไปชื่นชมความงดงามก็คือ Kazan Cathedral (Каза́нский кафедра́льный собо́р) เป็นมหาวิหารสไตล์ Russian Orthodox ที่ถูกสร้างในช่วงศตวรรษที่18 ด้วยสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิกผสมกับแบบโรมัน
ด้านหลังของ Kazan Cathedral
ด้านนี้จะเห็นภาพสำคัญของชาวคริสต์ชัดเจนเลย

ทำให้มหาวิหารแห่งนี้มีลักษณะเป็นรูปทรงครึ่งวงกลม โดยมีเสาหินโรมันวางเรียงแถวยาวอย่างเป็นระเบียบจำนวน 96 ต้น และมีโดมขนาดใหญ่ที่มียอดสูงถึง 90 เมตร โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากมหาวิหาร St. Peter's Basilica ที่กรุงโรม เพื่อฉลองชัยชนะของรัสเซียภายหลังการสิ้นสุดสงครามกับฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1812 ร่างของจอมพล Mikhail Kutuzov นายทหารที่เก่งที่สุดนายหนึ่งในช่วงราชวงศ์ Romanov และมีบทบาทสำคัญในการสู้รบกับฝรั่งเศสได้ถูกฝังไว้ที่นี่ด้วย
เสาหินขนาดใหญ่ตามแบบโรมัน

ปัจจุบันที่นี่ยังคงใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ในการเข้าชมจึงไม่ควรส่งเสียงดังและหากอยากเข้าเมืองตาหลิ่วก็หลิ่วตาตามสาวๆ ก็ควรเอาผ้าคลุมศีรษะเข้าไปค่ะเพราะเป็นธรรมเนียมในการเข้าโบสถ์ของที่รัสเซีย ทริปนี้เราเตรียมไปกันด้วยจึงคลุมกันเข้าไป และเมื่อเปิดเข้าไปด้านในกำลังมีการประกอบพิธีอะไรสักอย่างพอดิบพอดีเลย เราก็เลยได้ดูการทำพิธีของชาวคริสต์ที่ดูจริงจังและศักดิ์สิทธิ์มาก เราอยู่กันเป็นนานเลย น่าจะเป็นพิธีมิสซามั๊งคะ การเข้าชมที่นี่ไม่เสียค่าเข้าค่ะ แต่อย่าลืมว่าควรสงบและสำรวม

สักพักใหญ่ๆ เราก็ออกมาเดินชมความงดงามใหญ่โตด้านนอก และพยายามเก็บภาพมหาวิหารแบบเต็มๆ ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าเป็นเรื่องยากมากสำหรับนักเดินทางธรรมดาๆ อย่างหนูเล็กและมีแค่กล้องแบบบ้านๆ คู่ใจที่พกพาไปไหนมาไหน 1 ตัว ได้มาเป็นที่ระลึกเท่านี้ก็ดีแล้ว
ตึกที่มีลูกโลกกลมบนยอดเห็นคือ อดีตอาคารสำนักงานบริษัทจักรซิงเกอร์ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของร้านกาแฟยอดนิยม

จากนั้นก็เดินข้ามถนน Nevsky เพื่อไปยังโบสถ์สำคัญ Church of the Savior on Spilled Blood (Церковь Спаса на Крови) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อว่า โบสถ์แห่งหยดเลือด ซึ่งดูเวลาแล้ว แม้จะฟ้าสว่างอย่างนี้ก็ตาม แต่เข้าไม่ทันแล้วค่ะ เพราะเขาเปิดให้เข้าชมเวลา 10.30 – 18.00 น. เสียค่าเข้าชม 250 RUB จึงคิดว่าไว้ค่อยหาโอกาสมาใหม่วันหลังก็แล้วกัน

ระหว่างทางเดินสู่โบสถ์แห่งหยดเลือดด้านซ้ายจะเป็นคลอง Griboyedov (кана́л Грибое́дова) ระหว่างทางจะมีรถเข็นขายของที่ระลึกเรียงรายเป็นระยะๆ สินค้าส่วนใหญ่เป็นตุ๊กตา Matryoshka (матрёшка) หรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่า ตุ๊กตาแม่ลูกดก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์และความมีชีวิตยืนยาว สำหรับราคาของตุ๊กตาแม่ลูกดกนั้นจะขึ้นอยู่กับขนาด ความละเอียดในการเพ้นท์ และจำนวนลูกภายในที่ยิ่งมีมากก็ยิ่งราคาสูงขึ้น แต่เดิมจะมีแต่แบบดั้งเดิมคือที่เป็นผู้หญิง หลังๆ มาจะมีแบบประยุกต์คือเป็นรูปร่างหน้าตาแบบต่างๆ ทั้งสัตว์ นักการเมือง ตัวการ์ตุน มีหมดค่ะแล้วแต่ความชอบ นักการเมืองไทยยังมีเลย นอกนั้นก็เป็นงานฝีมือต่างๆ ผ้าพันคอ เครื่องประดับ ไข่อีสเตอร์ และช่วงนี้พิเศษหน่อยคือมีสินค้าเกี่ยวกับฟุตบอลโลก2018 ที่จะมาถึงเพราะปีนี้รัสเซียเป็นเจ้าภาพค่ะ
คลอง Griboyedov ซึ่งมีจุดบริการล่องเรือออกไปแม่น้ำ Neva จนถึง Peter and Paul Fortress

เมื่อเดินไปสุดทางจะพบกับโบสถ์แห่งหยดเลือด เป็นโบสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมแบบรัสเซียในยุคกลาง โดยได้แรงบันดาลใจจาก St.Basil’s Cathedral (Собор Василия Блаженного) ซึ่งเป็นโบสถ์ที่ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ.1883 โดยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 3 สร้างขึ้น เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานให้กับพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 2 ผู้ที่โดนลอบปลงพระชนม์ในปี ค.ศ.1881 โดยได้สร้างทับรอยเลือดของพระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 2 ที่กระเซ็นมาจากแรงระเบิดด้วยสาเหตุจากการยกเลิกระบบทาส ทำให้หลายฝ่ายมีความไม่พอใจเป็นเหตุให้เกิดโศกนาฏกรรมดังกล่าว จึงเป็นที่มาของชื่อโบสถ์แห่งหยดเลือด ในวันนี้ยอดด้านบนมีการปิดซ่อมไปหนึ่งยอด นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีความงดงามมากจริงๆ

ด้านข้างของโบสถ์เป็นทางเข้าสวน Mikhailovsky (Миха́йловский) ซึ่งจะมีพวกศิลปินมาวางขายภาพอยู่ริมรั้วมากมายไปหมด ลานกว้างแถวโบสถ์ก็มีพวกนักดนตรีเปิดหมวกมาเล่นดนตรีขอเงินจากผู้ที่ผ่านไปผ่านมากันหลายคนเหมือนกัน

เราเดินอ้อมโบสถ์กลับมาอีกด้านหนึ่งของคลองกลับไปยังบริเวณริมถนน Nevsky ตรงข้าม Kazan Cathedral เพื่อจะหาที่นั่งเล่นซึมซับบรรยากาศงามๆ ริมถนนสายสำคัญแห่งนี้กัน

เท่าที่ดูแล้วน่าจะไม่มีร้านใดที่บรรยากาศดีมากไปกว่าร้าน Café Singer (кафе Зингеръ) เพราะเห็นวิวของ Kazan Cathedralร้านนี้อยู่บนชั้นสองของร้านหนังสือที่ชื่อว่า House of Books (Дом книги) ซึ่งตึกหลังนี้ในอดีตเคยเป็นตึกของบริษัทจักรซิงเกอร์มาก่อนก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบอาร์ตนูโว
เข้าไปนั่งชิลๆ กันดีกว่าค่ะ
แม้โต๊ะจะว่าง แต่ไม่ว่างค่ะ
สิ่งที่เราสั่งมาสำเร็จโทษบ่ายวันนี้
อาหารตาด้านนอก

ราคาอาหาร เครื่องดื่มและของหวานค่อนข้างสูง อาจเพราะมีเรื่องทำเลที่ตั้ง กิตติศัพท์ชื่อเสียงของร้านเข้ามาเกี่ยว แต่ถ้าคิดว่าเป็นเพราะต้องแลกกับรสชาติอร่อยๆ คุณภาพดี และวิวงามๆ ก็พอยอมรับได้ค่ะ เราใช้เวลาอิ่มอร่อยกับเครื่องดื่ม อาหารหวานและอาหารตาเคล้าบรรยากาศเงียบๆ สงบๆ ของร้านจนเห็นว่าสมควรแก่เวลา ก็พากันออกไปเดินเล่นกันต่อ
พาพันเคลิ้ม
ชื่อสินค้า:   ประเทศรัสเซีย
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่