ถุงน้ำในรังไข่ เนื้องอกในมดลูก ใครๆก็เป็นกัน

แค่อยากแชร์
เมื่อเดือนก่อนไปตรวจมา  ก้อนเนื้อขนาดประมาณ 4 เซนฯ เอง เนอะ และถุงน้ำที่รังไข่  --‘’ เรื่องของเรื่องก็คือ ปกติเราเป็นคนปวดท้องอยู่แล้ว เวลามีประจำเดือน คือตั้งแต่จำความได้เมื่อมีประจำเดือนก็จะปวดท้อง ปวดทุกรอบเดือนที่มา แรกๆก็ไม่เท่าไหร่ ยังอยู่ในระดับที่ทนได้ แต่จำได้ว่าครั้งนึง ตอนนั้นกลับจากซ้อมเชียร์กีฬาสี กลับมาถึงบ้านตอนเที่ยง เรานอนซมคือแบบปวดไปถึงขาแบบไม่ไหว แล้วนอนครวนครางเหมือนคนปวดแทบขาดใจตาย และเมื่อประมาณ 2 ปี เห็นจะได้ เราปวดหนักมาก แบบปวดทะลุไปถึงก้น เราก็ถามแม่นะ แม่ก็บอกว่ามันปวดแหละ เพราะลำไส้(ตรงหรือใหญ่ไม่รู้) มดลูกมันอยู่ใกล้กัน เวลามดลูกบีบตัวก็เลยปวดไปด้วย อ่า! งั้นคงเป็นอาการปกติแหละ เราก็ปวดมาเรื่อยๆ กินยาแก้ปวดมาเรื่อยๆ ยาแก้ปวดแรกๆที่กิน คือยาพารา หลังๆเริ่มไม่อยู่ เพราะกินเท่าไหร่ก็ไม่หาย ก็เปลี่ยนมาเป็น Mefenamic  acid 250  mg ซึ่งได้จากโรงพยาบาล กินก็อาการดีขึ้น เออดีว่ะ ไม่ปวดแระ แต่พอกินไปเรื่อยๆ อาการที่ตามมาคือกระเพาะ เพราะยาแก้ปวดพวกนี้ มันจะระคายเคืองในกระเพาะอาหารเราอยู่แล้ว เลยทำให้เราปวดท้องกระเพาะร่วมด้วย (หลายโรคจังเนอะ) เรากินยาทุกเดือน บางเดือนก็พารา แต่ถ้าไม่อยู่ก็กิน Mefenamic  acid 250  mg แต่พอนานไป เริ่มกินแล้วไม่หาย ก็ต้องเพิ่มความแรงของยา เลยเปลี่ยนมาเป็น  Ibuprofen  400 mg แต่อันนี้มันโคตรกัดกระเพาะเลย ถ้าไม่ปวดมากจริงๆ ก็จะพยายามไม่กิน และก็อีกตัวที่นิยมกินทั่วไปสำหรับสาวๆที่ปวดประจำเดือน คือ Ponstan 500 mg คือส่วนมากแล้วสาวๆที่ปวดประจำเดือน มักจะไปร้านขายยา แล้วบอกว่าซื้อยาแก้ปวดประจำเดือนค่ะ เภสัชก็จะยิบอันนี้ให้แหละ แต่เราเคยอ่านสรรพคุณการแก้ปวดของยาตัวนี้แล้ว แทบจะกราบเลย แก้ปวดได้เกือบทุกชนิด แต่ก็อย่างว่ามันระคายเคืองกระเพาะสุดๆเบย ถ้าให้กินทุกเดือนก็ไม่ไหว เราเลยใช้วิธี มาวันแรก กินตัวแรก คือ ไม่ Ibuprofen  400 mg ก็ Ponstan 500 mg แล้วแต่ว่าจะมีตัวไหนขณะนั้น และพอวันหลัง ก็จะกิน Mefenamic  acid 250  mg หรือไม่ก็พารา แต่พอเราทนกับอาการปวดท้องทั้งกระเพาะและท้องน้อยไม่ไหว เราไปเจอยาตัวนึง เราได้เมื่อตอนเราเป็นไมเกรน ซึ่งมันลดปวดได้ดีมาก แต่อาการมันเบลอๆหน่อย มันเป็นอนุพันธ์ของเมาฟีน ชื่อว่า Tramadol 50 mg เรากินมันหายนะ แต่ถ้าตอนกลางคืนเราเคยฝันร้าย ไม่รู้ว่าหลอนประสาทหรือเปล่า หรือเราคิดไปเอง แต่เราก็กินนะ เวลาปวดเยอะจนทนไม่ไหว  แต่โดยปกติเราจะปวด แค่วันแรก หรือก่อนวันมาแค่ 1 วัน และวันที่ 2 วันที่ 3 ก็จะไม่ปวด หรือปวดก็จะอยู่ในระดับที่ทนได้ ไม่ต้องกินยา ชีวิตเราก็จะวนเวียนอยู่แบบนี้ทุกเดือน  จนเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ที่เราบอกว่าเราปวดมากกว่าปกติ คือปวดก้นร่วมด้วย ตอนแรกคิดว่าตูเป็นริดซี่ป้ะว่ะ แต่ก็แอบคิดว่าแล้วทำไมต้องปวดทุกเดือนเฉพาะตอนที่ประจำเดือนมาด้วย แต่ด้วยเพราะตอนนั้นเราทำงานหนักมาก งานที่ทำตอนนั้น ไม่สามารลางานได้ คือห้ามขาด ห้ามสาย ห้ามตาย ห้ามลา เลยทีเดียว เราก็ได้แต่เก็บความเจ็บปวดเอาไว้ในใจเรื่อยมา ^^  และเมื่อปีก่อน เราย้ายกลับบ้าน อาการปวดแบบนี้ก็มีมาเรื่อยๆ คนรอบข้าง ครอบครัวเราบอกให้ไปตรวจ แต่เรากลัวมาก กลัวว่าจะเป็นไร กลัวการผ่าตัด เลยไม่ทำอะไรกับมัน ปวดยิ้มมันทุกเดือน  จนเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2561 เรามีอาการปวดท้อง ปวดหน่วงๆ ปวดเรื่อยๆ แต่ไม่ได้รุนแรงมากเท่าไหร่ และคิดว่าตัวเองคงเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ หรือติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะอีกแน่ๆ เพราะเรากลั้นฉี่ สาเหตุคือ เราทำงานในส่วนที่ต้องบริการประชาชน บางครั้งมันอยู่ในช่วงที่คนมารออยู่ตรงหน้าเยอะ และไม่สามารถปลีกตัวออกมาได้จริงๆ เราเลยจำเป็นต้องกลั้นฉี่ โดยบางครั้งก็รู้ตัวบ้างไม่รู้ตัวบ้าง ดูเวลาอีกทีก็เลยไปหลายชั่วโมงที่สมควรต้องเข้าห้องน้ำแล้ว แล้วถ้าเราดื่มน้ำน้อยเราก็จะเป็นเช่นกัน  เลยคิดว่าเราต้องเป็นอีกแน่ๆ แต่เราไม่ไปหาหมอ เพราะถ้าหาหมอก็ต้องกินยาฆ่าเชื้ออีก เพราะจริงๆ เราพึ่งพบแพทย์ไปครั้งที่ตรวจสุขภาพ เมื่อในน้ำปัสสาวะที่ตรวจ เรามีเม็ดเลือดขาวอยู่มากเกินไป และพึ่งกินยาหมดไปไม่กี่เดือนก่อน เลยขี้เกียจจะกินยา เราใช้วิธีดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อให้มันขับไอ้ที่คิดว่าติดเชื้อออกมา เราคิดงี้ แต่พอผ่านไปสัปดาห์นึงมันไม่หาย มันก็ปวดๆอยู่แบบนั้นเรื่อยๆ เราเลยตัดสินใจมาหาหมอที่โรงพยาบาลชุมชนใกล้ๆ พยาบาลให้ตรวจปัสสาวะเมื่อเราเล่าอาการให้ฟัง พอเข้าพบหมอ หมอถามว่าเจ็บตรงไหน เราบอกว่าตรงท้องน้อย ต่ำกว่าสะดือลงไป หมดก็เอามือกดๆ และก็เจ็บแบบสะดุ้ง แล้วหมอก็บอกว่า คงจะเกี่ยวกับภายในแล้วละ หมอถามว่าประจำเดือนมาวันไหน เราก็บอกๆไป หมอบอกว่า เราไม่ได้ติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะอย่างที่เข้าใจ หมอจะให้ตรวจภายในนะ ที่นี่มีหมอสูอยู่เป็นผู้หญิงไม่เป็นไร ลองไปตรวจดู อาจจะไม่เป็นอะไรก็ได้ เชี่ย!!! ได้ฟังเท่านั้นละ หน้าชาเลยจ้า ตรวจภายใน ยิ้ม!! – ทำไงว่ะ ไม่อยากตรวจเลย พออกไปหน้าห้องพบพยาบาล ตอนนั้นจำได้ว่า จังหวัดก็จะเข้าตรวจ ผู้ตรวจราชการก็จะเข้า และด้วยความที่ตกใจ เราไปนัดตรงกับวันผู้ตรวจเข้า แล้วเราก็เอาเรื่องนี้ไปปรึกษากับครอบครัว เพื่อน เลยตัดสินใจไปคลินิกหมอสูในตัวเมือง วันที่ 9 มิถุนายน 2561 เราไปหาหมอที่คลินิก แต่ไม่ได้ตรวจภายในนะ แค่อัลตร้าซาวด์หน้าท้อง และก็เจอตามที่ภาพ ข้างซ้ายเจอเนื้องอก 4 เซนนิดๆ และมีถุงน้ำที่รังไข่แต่จำไม่ได้แล้วว่าซ้ายหรือขาว ขนาดก็ประมาณ 3 หรือ 4 เซนฯเนี่ยแหละ และก็ที่มดลูกด้านขวาอีก 3 เซนฯกว่า และหมอก็บอกว่าไม่เป็นไร จะลองไป มอ.ก็ได้ เป็นโรงพยาบาลอีกแห่งนึ ง เพราะเห็นว่าสิทธิ์เราเบิกได้ ไปที่ที่มีการรักษาที่ดีกว่า ก็เลยมานั่งปรึกษากับน้าสาวว่าจะเอาไง เพราะหมอดันบอกว่าอิที่เป็นมันไม่ค่อยสวย คือหมายถึงก้อนเนื้อหรือถุงน้ำก็ไม่รู้ แต่ครอบครัวเรา ย่าเราเป็นมะเร็งรังไข่ด้วย ก็แอบกลัวๆ และกังวลอยู่ น้าเลยปรึกษากับเพื่อนเค้า เพราะเพื่อนเค้าก็เป็นเนื้องอกและรักษากับหมอคนนี้เหมือนกัน อีกอย่างหมอเค้าสามารถผ่าตัดผ่านกล้องได้ ถ้าสุดท้ายต้องผ่ามันออกไป วันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน 2561 ก็ตัดสิ้นใจไปหาหมอที่หาดใหญ่เลย พอเข้าห้องตรวจ เอาผลอัลตร้าซาวด์ให้ดู และก็เล่าให้หมอฟัง หมอเลยบอกว่า อายุยังน้อย ยังไม่ต้องผ่าหรอก ใช้วิธีอื่นรักษาไปก่อน(เราอายุ 28 ปี) เพราะการผ่าตัด ถ้ามันเป็นอีกก็ต้องผ่าอีก และการผ่าตัดหลายๆครั้ง มันจะเพิ่มความยากๆเรื่อยๆ และจะทำให้เราเป็นวัยทองเร็วขึ้น เพราะฉะนั้นไม่ต้องผ่า และที่เรากลัวว่าก้อนเนื้อหรือถุงน้ำพวกนี้จะกลายพันธ์เป็นมะเร็งได้หรือไม่นั้น หมอตอบว่าน้อยมาก ด้วยเราอายุแค่นี้ เพราะมันเป็นเรื่องฮอร์โมนส์ การรักษาคือมองไปที่ต้นเหตุคือเราปวดท้องเวลามีประจำเดือน ฉะนั้นก็อย่าให้มันมา เพราะมาและเจ็บ ถุงน้ำก็โตไปเรื่อยๆ ซึ่งหมอบอกว่าน่าจะเป็น ช็อกโกแลตซีสต์ เพราะเค้าไม่ได้ส่องกล้องเข้าไปดูข้างใน มันเลยไม่ชัดเจน ส่วนก้อนเนื้อนั้นยังไม่ใหญ่เท่าไหร่ หมอให้เลือกวิธีการรักษาคือจะฉีดหรือจะกิน ถ้าฉีดมี 2 แบบคือ 1 ฉีดอันนี้หมอเรียกว่าอะไรแล้วเราจำไม่ได้ เข็มนึงประมาณ 20,000 บาท ประจำเดือนไม่มา 3 เดือน แต่เราจะมีอาการวัยทอง(ไปหาดูว่าอาการวัยทองเป็นไงนะ) หรือ 2 จะฉีดยาคุมกำเนิดปกติ เราเลยคิดว่าฉีดยาเมนไม่มา หน้ายิ้มก็เป็นฝ้า ขึ้นสิวดิ(ยังห่วงความงามอยู่) เลยเลือกวิธีที่ 2 คือกิน กินก็มีหลายแบบอีก ยาที่ดีที่สุด ต้องกินทุกเดือน เดือนละ 2 พันกว่าบาท หรือจะเป็นยาคุมตัวที่ดีที่สุด คิดอยู่พักนึง บวกลบคูณหารแล้ว เราเลือกกินยาคุม หมอบอกว่ามันช่วยเรื่องสิวด้วย เออดีว่ะ คือหมอให้เรากินติดต่อกัน 3 เดือนไม่ให้ประจำเดือน แล้วเว้นให้มา 1 เดือน และนัดพบอีกที 3 เดือนข้างหน้า ซึ่งค่าใช้จ่ายที่เราจ่ายไปทั้ง ที่แรก อัลตร้าซาวด์อย่างเดียว 500 บาท ที่ที่ 2 อัลตร้าซาวด์บวกยา 4 แผง 1,700 บาท เลยอยากให้สาวๆที่อาการเหมือนเรา หรือวัยใกล้ๆเรา ทั้งที่โสดหรือไม่โสด อยากให้ไปตรวจกัน เพราะเดี๋ยวนี้ มันเป็นกันไวมาก โดยที่ยังหาสาเหตุไม่เจอว่าเพราะอะไร แต่หลักๆ แล้วพันธุกรรม จริงๆมันมีข้อมูลเยอะมากกว่านี้ แต่มันจะยาว เลยเล่าแค่นี้ก่อน ถ้ามีเวลาจะมาเล่าต่อถึงสาเหตุ วิธีการรักษาอื่นๆ การเกิดของสิ่งพวกนี้ หรือเราจะทำเพจดี ก็ดีนะ งั้นก็ฝากด้วยละกัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่