ควรหารค่าตั๋วเครื่องบินกับเพื่อนไหม เราควรสานสัมพันธ์กับเพื่อนต่อไหม

เรื่องมีอยู่ว่าเรากับเพื่อนนัดกันไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกันช่วงปิดเทอมอาทิตย์นึง เราอยู่หอ เพื่อนอยู่บ้าน เพื่อนอยากให้ขึ้นเครื่องบินด้วยกัน ซึ่งเราขึ้นสนามบินที่ใกล้กับหอก็ได้ ๒ชั่วโมงถึง ใกล้กว่าและประหยัดค่ารถไฟกว่า เราก็โอเคก็ได้ เลยให้เพื่อนจัดการเรื่องตั๋วไปกลับ ก่อนวันบินเราต้องไปนอนบ้านเพื่อน 1 คืน เพราะว่าตอนเช้าขึ้นรถไฟไปคงไม่ทันขึ้นเครื่องเเน่ ใช้เวลา 3-4 ชัวโมงกว่าจะถึงสนามบินนั้นจากหอเรา ซึ่งเวลาเครื่องออกคือ 11 โมงเช้า ก่อนวันบินถามเพื่อนว่าจะออกจากบ้านกี่โมง เพื่อนบอก 8:45 โดยหลักความจริงแล้วต้องไปถึงอย่างน้อย 3 ชม เพื่อนบอกว่ายังไงก็ทัน เพราะจากบ้านเพื่อนขับรถไปสนามบินก็แค่ 30 นาที เพื่อนทำหน้าไม่พอใจตอนที่เราถามซ้ำ 3 ครั้ง เราก็ไม่อยากจะทะเลาะ เพราะเพื่อนเป็นคนหัวร้อน สรุปวันนั้นเพื่อนตื่น 8 โมงเช้า ออกจากบ้าน 9 โมงเช้า เพื่อนบอกเราว่าจะเอารถไปจอดบ้านเพื่อนแฟน แล้วนั่งรถไฟไปสนามบินอันนี้เรารู้ เเต่ไม่คิดว่าเพื่อนจะไปแวะหอแฟน ทำอะไรไม่รู้เกือบครึ่งชั่วโมง ปล่อยให้เรานั่งรอในรถไปเถอะ กว่าเอารถไปจอดก็เกือบ 10 โมงเช้าแล้ว ไหนจะต้องรอขึ้นบัสไปสถานีรถไฟอีก จากสนานีรถไฟไปสนามบินก็ 30 นาทีละ ไปถึงสนามบิน ก็ประมาณ 10:36 ละ ลงจากรถไฟไปเทอร์มินอลกิ 10 นาที เหลือเวลาแค่ 15 นาทีเครื่องออก ต้องวิ่งไปเช็คความปลอดภัยผ่านเครื่องแสกนต่างๆ เราต้องวิ่งแบบสุดชีวิต เป็นอะไรที่ไวมาก เราวิ่งตามเพื่อนไม่ทันอีกต่างหาก จนป้าที่ออกมาจากห้องนำ้ต้องมาช่วยยกกระเป๋าขึ้นบันไดพาไปเกทเพราะตอนนั้นขาวิ่งไม่ไปแล้ว หายใจแทบจะไม่ทัน สรุปพอไปถึงเกทได้เวลาเครื่องออกพอดี เหลือแค่เราสองคนสุดท้าย พอเจ้าหน้าที่ถามหาหนังสือเดินทาง เราถึงรู้ตัวว่าเราไม่ได้เอามาตรงที่สแกนความปลอดภัย แต่เราดูแล้วตอนที่เพื่อนเรารอกระเป๋าเป้ที่ติดอยู่ในถาดแสกนว่าไม่มีเลยในแถวที่เราเค้าคิวตรวจ ตอนนั้นเรารีบมากรีบยัดทุกอย่างเข้าเป้เราหมด ในขณะที่เพื่อนเรารอกระเป๋าอยู่ เราไม่เห็นกระเป๋าสะพายข้างเราเลย เราเลยคิดว่าน่าจะยัดไปหมดแล้ว พอเพื่อนเราได้กระเป๋า ก็พากันวิ่งมาที่เกทสุดฝีเท้าจริง ตอนนั้นกลัวตกเครื่องมาก เรากับเพื่อนสรุปว่าให้เพื่อนบินไปรอที่สนามบินก่อน คราวนี้เจ้าหน้าที่ก็พาเราไปหาหนังสือเดินทางที่จุดตรวจความปลอดภัย กว่าจะเดินจากจุดนั้น ขึ้นลงบันไดปาไป 1 ชั่วโมงกว่าจะเสร็จ สรุปหนังสือเดินทางเราอยู่อีก 3 สายพานถัดไป ก็ไม่แปลกที่เราจะไม่เห็นเเละคิดว่าเรายัดใส่เป้มาแล้ว คราวนี้ปัญหาก็คือ ตั๋วเที่ยวที่ตกเครื่องราคาอยู่ที่ 3600 บาท เราต้องซื้อตั๋วใหม่เพราะไม่ได้ซื้อตั๋วแบบยืดยุ่นเปลี่ยนได้ คราวนี้ตั๋วที่ถูกที่สุดขาเดียวอยู่ที่ 11350 บาท เราไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ ตอนนั้นเพื่อนก็อยู่บนเครื่องเเล้ว จะไม่ไปก็ไม่ได้ทิ้งเพื่อนให้เที่ยวคนเดียวอีก 8 คืนที่นั่น เรามาคิดดูแล้วเราโง่มาก สำหรับราคาตั๋วเเบบนี้เพิ่มอีกนิดเดียวกับไทยได้เลยเสียดายมาก รู้แบบนี้โทรให้แฟนเพื่อนไปแทนจะดีกว่า เพราะค่าตั๋วไปกลับถ้าผชจะมาจริงๆ ก็เท่ากับตั๋วใหม่ขาเดียวของเราเเล้ว ที่พูดแบบนี้เพราะเราจะได้ไม่ต้องเสียความรู้สึกและเงินหมื่นกว่าบาทเพิ่ม เเค่เสียเงินค่าตั๋วไปกลับที่จองไว้อยู่แล้ว 3600 + 1500 บาท ยังดีกว่า พอไปถึงเพื่อนก็ออกอุบายบอกว่าแฟนจะตามมาเพราะเป็นห่วง เรารู้สึกอารมณ์เสียมากลึกๆ เพราะตอนแพลนทริปคุยกันว่าเป็นทริปผญ ก่อนเริ่มทำงานหลังเรียนจบ พอส่งราคาตั๋วตอนนั้นมามันขึ้นราคา 3 คน เลยถามว่าใครคือคนที่3 นางเลยบอกว่าแฟนนางอยากมาด้วย พอผ่านไป 1-2 อาทิตย์ตอนนั้นก่อนทริปจะถึงบอกแฟนไม่มาแล้ว เรารู้สีกโชคดีมาก เพราะถ้าผชมาเราคงอึดอัดน่าดู พอไปถึงตปทปุ๊ปเรารู้เลยว่านางอยากให้แฟนมาด้วยมาก แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มาเพราะหาห้องราคาถูกไม่ได้ ห้องที่เราอยู่เป็นโฮสเทลจองล่วงหน้า พวกเราเลยได้ราคาถูก แล้วตอนเที่ยวกันเราทะเลาะกัน 2 ครั้งภายในอาทิตย์นึง นางเป็นคนหัวร้อน ตัวเองถูกเสมอ ไม่พอใจก็-ดันใส่เรา เราเป็นคนช้า นางจะหงุดหงิดเราบ่อยมาก เเละเราก็สื่อสารไม่ดี บ่อยครั้งคนที่ไม่รู้จักเราจริงๆจะตีความผิด การสื่อสารของพวกเราแย่มาก การไปทริปครั้งนี้ทำให้รู้ว่าเราไปด้วยกันไม่ได้ ชอบไม่เหมือนกัน เที่ยวไม่เหมือนกัน คิดไม่เหมือนกัน ความเป็นเพื่อน 6 ปีมันกลับแย่ลงไปเลย มันไม่ได้ดีเเบบที่คิดไว้ ปัญหาของเราคือเรื่องเงินที่ไม่ลงตัวเนี่ยเเหละ เรารู้สึกว่าเพื่อนควรหารกับเราคนละครึ่งสำหรับค่าตั๋วที่เราต้องซื้อใหม่ เราว่าเพื่อนก็มีส่วนทำให้เราตกเครื่องครั้งนี้ นี่เป็นครั้งเเรกที่เราตกเครื่องเลยในชีวิต ใช่เราไม่ได้หยิบหนังสือเดินทางมาเราผิดเต็มๆ แต่ถ้าเพื่อนไม่ชะล่าใจจนเหลือเวลาแค่ 15-20 นาทีในการทำทุกอย่างให้เสร็จ ถ้ามาถึงสนามบินก่อนเครื่องออก 2-3 ชั่วโมงเราคงไม่ต้องรีบจนตกเครื่องแบบนี้แน่นอน วันนั้นที่เพื่อนเราบินไปถึงสนามบินอื่นแล้ว เราโทรคุยกันบอกว่าเราซื้อตั๋วใหม่ราคาหมื่นกว่า แล้วเพื่อนก็บอกว่างั้นเธอไม่ต้องจ่ายค่าตั๋วขามา 3600 บาท ที่เธอตกเครื่องนะ เพราะเพื่อนออกจากบ้านเลท ทำให้เราตกเครื่อง สรุปพอทริปจบเพื่อนให้เราจ่ายค่าตั๋วที่เพื่อนจองให้เราล่วงหน้า โดยไม่เอ่ยปากเหมือนคราวที่แล้ว และไม่พูดถึงตั๋วใหม่ที่เราจ่ายไปด้วย เราควรทำยังไงดี อะไรคือคำตอบที่ยุติธรรมที่สุดกับพวกเราทั้งสอง ถ้าเราให้เพื่อนหารค่าตั๋วใหม่เราครึ่งนึง (11350/2 = 5675 บาท) แล้วเราก็จ่ายตั๋วที่เพือนจองให้เราที่ตกเครื่องไป (3600 บาท) ไม่พูดถึงตั๋วขากลับนะ มันจะยุติธรรมสำหรับสองฝ่ายไหม ตอนนี้กลืนไม่เข้า คายไม่ออกเลยจริงๆ เพราะเพื่อนกลับสามารถขึ้นเครื่องได้ทันเฉียดฉิว แต่เรากลับเป็นคนตกเครื่อง เราเลยเป็นรองเพื่อนในข้อนี้ เราก็ไม่ได้รวยเพียงแต่เก็บเงินจากพาร์ทไทม์เก่งเท่านั้น เสียดายมากจริงๆ เราควรพูดความเห็นเราให้เพื่อนฟังไหม เราถูกเพื่อนด่าว่าโง่ ใช่เราโง่จริงน่ะเเหละ แต่เราว่าถ้าเราพูดไปบ้างเพื่อนคงโกรธเราน่าดู เพราะที่ผ่านมาเราไม่เคยพูดความรู้สึกเราเลย เรากลัวเพื่อนเสียใจเหมือนเราในบางครั้งกับคำพูดของเพื่อน ถ้าเพื่อนรู้สึกผิด และอยากรับผิดชอบจริงๆควรทำอะไรบางอย่าง ไม่มากก็น้อย เราควรทำไง
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
ตอนขาไป ผมว่าโทษเพื่อนฝ่ายเดียวไม่ถูกนะ น้องเป็นคนเชื่อใจเพื่อนเอง จริงๆน้องมีหน้าที่จัดการเพื่อนเพื่อให้ไปถึงสนามบินก่อนสัก 2-3 ชม. ถ้าทำไม่ได้ก็ควรไปเอง แยกกันไป  แต่นี่ยอมรับความเสี่ยงจากเพื่อน แต่พอผลออกมามาช้า พี่ว่าโทษเพื่อนคนเดียวไม่ถูก

ส่วนเรื่อง Passport เป็นความสัพเพร่าของน้องคนเดียว แนะนำแบบเป็นกลางนะครับ ค่าตั๋วก็ต้องจ่ายเองครับ
ความคิดเห็นที่ 2
ยกค่าตั๋วไปเลยแล้วเลิกคบเพื่อนคนนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่