สวัสดีค่ะ ดิฉันมีเรื่องอยากขอคำปรึกษาจากผู้รู้ข้อกฎหมายให้ช่วยชี้แนะข้อสังสัยให้ด้วยค่ะ
เนื่องด้วย คนบางคนขอสมมุติแทนตัวว่า นาย ก คบหากับนางสาว ข แล้วเกิดความเอ็นดูสงสาร กลัวนางสาว ข ลำบากโหนรถเมล์ไปทำงาน
จึงได้เซ่าซื้อรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน สนนราคารวมดอกเบี้ย ประมาณเจ็ดแสนกว่าบาท ให้นางสาว ข ใช้ขับขี่
โดยนางสาว ข เป็นผู้เซ็นคำประกัน และนางสาว ข เป็นผู้ผ่อนชำระค่างวดรถเอง
ต่อมา ทั้งสองได้เลิกรากันไป นาย ก ให้นางสาว ข ใช้รถต่อไปโดยให้เธอผู้นั้นผ่อนต่อเหมือนเดิม
แต่นางสาว ข ไม่สามารถผ่อนชำระต่อได้ จึงปล่อยให้รถโดนยึดไป
รวมผ่อนชำระค่างวดรถไปเจ็ดงวด รวมเป็นเงินหกหมื่นกว่าบาท
ต่อมาไฟแนนซ์ได้นำรถไปประมูลขาย ได้เงินมาประมาณสองแสนปลายๆ
บวกลบแล้วเหลือค่าส่วนต่างอยู่สี่แสนบาท ที่พวกเขาต้องจ่ายให้ไฟแนนซ์ แต่...
ทั้งสองคนไม่มีปัญญาจ่าย และไม่ยอมจ่าย ปล่อยให้เรื่องยืดเยื้อมาถึงจนบัดนี้ก็เป็นเวลาสามปีแล้ว
วันนี้นาย ก ได้รับหมายเรียกจากศาล ให้ไปไกล่เกลี่ยคดีความแพ่ง
โดยในหมายเรียก นาย ก เป็นจำเลยที่ 1 และ นางสาว ข เป็นจำเลยที่ 2
ให้ไปไกลเกลี่ยหนี้ จำนวนสี่แสนสองหมื่นบาท โดยในจำนวนนี้ เป็นค่าส่วนต่าง สี่แสนบาท และค่าเสียประโยชน์ สองหมื่นบาท
ถ้าชักช้า ข้าคิดดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี นับจากวันฟ้อง
และให้จำเลยจ่ายค่าใช้จ่ายในการฟ้องร้องทั้งหมดแทนโจทก์
นางสาว ค ซึ่งเป็นแฟนใหม่ของนาย ก ได้อ่านหมายเรียกจากศาลพร้อมรายละเอียดแล้วเจ็บปวดใจ
แม้จะสมน้ำหน้าที่นาย ก เคยโง่ได้ขนาดนั้น เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง ยังเอากระดูกมาแขวนคอ
แต่ด้วยความรักจึงเป็นเดือดเป็นร้อนไปกับนาย ก
นางสาว ค จึงฝากมาเรียนถามข้อสงสัยจากผู้รู้ดังนี้
1. นาย ก ต้องชดใช้หนี้สี่แสนกว่าบาท ในฐานะจำเลยที่ 1 คนเดียวใช่หรือไม่
นางสาว ข จำเลยที่ 2 ต้องร่วมชดใช้หนี้ด้วยหรือเปล่า
2. ให้การในชั้นศาลอย่างไร ศาลจึงจะเห็นใจ ช่วยไกล่เกลี่ยให้ผ่อนจ่ายหนี้ในจำนวนไม่มากนักต่อเดือน โดยขอผ่อนจ่ายสักเดือนละ 500 จะเป็นไปได้หรือไม่ มากกว่านี้จำเลยที่ 1 ไม่มีปัญญาจ่าย
3. นาย ก สามารถอ้างกับศาลที่เคารพได้หรือไม่ว่า ผมไม่ได้เป็นคนใช้รถคั้นนั้นนะครับ ผมไม่รู้ ผมเป็นผู้บริสุทธิ์
ผมแค่เช่าซื้อให้คนอื่นเอาไปขับด้วยความสนิทเสน่หาเฉยๆ ผมขอไม่รับผิดชอบจ่ายหนี้ได้ไหม เช่นนี้ได้หรือไม่
จึงขอกราบขอบคุณผู้ตอบทุกคนมา ณ ที่นี้
ลงชื่อ คนรู้จักของนางสาว ค
โดนฟ้องคดี...เนื่องจากปล่อยให้ไฟแนนซ์ยึดรถไปขายทอดตลาดแล้วไม่มีปัญญาจ่ายค่าส่วนต่าง
เนื่องด้วย คนบางคนขอสมมุติแทนตัวว่า นาย ก คบหากับนางสาว ข แล้วเกิดความเอ็นดูสงสาร กลัวนางสาว ข ลำบากโหนรถเมล์ไปทำงาน
จึงได้เซ่าซื้อรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน สนนราคารวมดอกเบี้ย ประมาณเจ็ดแสนกว่าบาท ให้นางสาว ข ใช้ขับขี่
โดยนางสาว ข เป็นผู้เซ็นคำประกัน และนางสาว ข เป็นผู้ผ่อนชำระค่างวดรถเอง
ต่อมา ทั้งสองได้เลิกรากันไป นาย ก ให้นางสาว ข ใช้รถต่อไปโดยให้เธอผู้นั้นผ่อนต่อเหมือนเดิม
แต่นางสาว ข ไม่สามารถผ่อนชำระต่อได้ จึงปล่อยให้รถโดนยึดไป
รวมผ่อนชำระค่างวดรถไปเจ็ดงวด รวมเป็นเงินหกหมื่นกว่าบาท
ต่อมาไฟแนนซ์ได้นำรถไปประมูลขาย ได้เงินมาประมาณสองแสนปลายๆ
บวกลบแล้วเหลือค่าส่วนต่างอยู่สี่แสนบาท ที่พวกเขาต้องจ่ายให้ไฟแนนซ์ แต่...
ทั้งสองคนไม่มีปัญญาจ่าย และไม่ยอมจ่าย ปล่อยให้เรื่องยืดเยื้อมาถึงจนบัดนี้ก็เป็นเวลาสามปีแล้ว
วันนี้นาย ก ได้รับหมายเรียกจากศาล ให้ไปไกล่เกลี่ยคดีความแพ่ง
โดยในหมายเรียก นาย ก เป็นจำเลยที่ 1 และ นางสาว ข เป็นจำเลยที่ 2
ให้ไปไกลเกลี่ยหนี้ จำนวนสี่แสนสองหมื่นบาท โดยในจำนวนนี้ เป็นค่าส่วนต่าง สี่แสนบาท และค่าเสียประโยชน์ สองหมื่นบาท
ถ้าชักช้า ข้าคิดดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี นับจากวันฟ้อง
และให้จำเลยจ่ายค่าใช้จ่ายในการฟ้องร้องทั้งหมดแทนโจทก์
นางสาว ค ซึ่งเป็นแฟนใหม่ของนาย ก ได้อ่านหมายเรียกจากศาลพร้อมรายละเอียดแล้วเจ็บปวดใจ
แม้จะสมน้ำหน้าที่นาย ก เคยโง่ได้ขนาดนั้น เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง ยังเอากระดูกมาแขวนคอ
แต่ด้วยความรักจึงเป็นเดือดเป็นร้อนไปกับนาย ก
นางสาว ค จึงฝากมาเรียนถามข้อสงสัยจากผู้รู้ดังนี้
1. นาย ก ต้องชดใช้หนี้สี่แสนกว่าบาท ในฐานะจำเลยที่ 1 คนเดียวใช่หรือไม่
นางสาว ข จำเลยที่ 2 ต้องร่วมชดใช้หนี้ด้วยหรือเปล่า
2. ให้การในชั้นศาลอย่างไร ศาลจึงจะเห็นใจ ช่วยไกล่เกลี่ยให้ผ่อนจ่ายหนี้ในจำนวนไม่มากนักต่อเดือน โดยขอผ่อนจ่ายสักเดือนละ 500 จะเป็นไปได้หรือไม่ มากกว่านี้จำเลยที่ 1 ไม่มีปัญญาจ่าย
3. นาย ก สามารถอ้างกับศาลที่เคารพได้หรือไม่ว่า ผมไม่ได้เป็นคนใช้รถคั้นนั้นนะครับ ผมไม่รู้ ผมเป็นผู้บริสุทธิ์
ผมแค่เช่าซื้อให้คนอื่นเอาไปขับด้วยความสนิทเสน่หาเฉยๆ ผมขอไม่รับผิดชอบจ่ายหนี้ได้ไหม เช่นนี้ได้หรือไม่
จึงขอกราบขอบคุณผู้ตอบทุกคนมา ณ ที่นี้
ลงชื่อ คนรู้จักของนางสาว ค