ทีแรกไม่คิดว่าจะต้องมาตั้งกระทู้
เพราะคิดว่า เพื่อนบ้านกัน อดทนได้
แต่อยู่มา 2 เดือนแล้วเดาว่า
พฤติกรรมคุณพ่อบ้านใกล้บ้าน
คงไม่เปลี่ยนแปลงและอาจจะแย่ลงได้
ถ้าไม่มีใครทำอะไรบ้างเลย

พฤติกรรมอันน่ารังเกียจ ได้แก่

1) สูบบุหรี่ทุกเช้าและเย็นทั้งที่ถนนหน้าบ้านตนเองอยู่เหนือลมบ้านอื่น

2) แต่งรถยนต์ เร่งเครื่องดัง เปิดเพลงดังลั่น ช่วงเย็นและหัวค่ำ

3) สูบบุหรี่ไป คุยโทรศัพท์ไป เดินไปมาบนถนนส่วนกลาง เสียงดัง ใส่อารมณ์ใส่ปลายสาย แต่เช้าตรู่

4) จอดรถนอกบ้านทุกวัน ทั้งที่ในบ้านก็ยังพอมีที่

5) ก้นบุหรี่ ซองบุหรี่ ปลิวเข้าบ้านชาวบ้านเกือบทุกวัน

6) เป็นตัวอย่างในการเสียงดังและเจ้าอารมณ์ให้ลูกชายเล็กๆ ทั้ง 3 คน ซึ่งเลยวัยกรีดร้องแล้ว แต่ก็ยังกรีดร้องไม่มีปี่มีขลุ่ย กระจองงอแงทุกเช้าค่ำ
โดยเฉพาะวันหยุดและช่วงที่พ่ออยู่บ้าน

7) *ที่ร้ายที่สุดที่ทำให้อดรนทนไม่ได้ คือ สูบบุหรี่โดยที่ยังจับมือลูกเล็กๆ ที่เพิ่งเดินได้กับวัยอนุบาล ทั้งสองคนที่กำลังเล่นกันอยู่ข้างๆ

แม่บ้านเองก็ดูเหมือนจะทำอะไรไม่ได้
เวลาถูกเพื่อนบ้านที่ทักกันบ่อยๆ มอง
ก็มักจะเดินหนีไปโดยทิ้งลูก
ให้อยู่กับสิงห์อมควันกันต่อไป

เพื่อนบ้านบ้านอื่นที่ไม่อยู่บ้านตอนเย็น
และเปิดแอร์ทั้งวันคงไม่เดือดร้อนเท่าไร
แต่บ้านเราโดนเต็มๆ และค่าไฟเพิ่มขึ้น
เพราะต้องปิดบ้านด้านนั้นและเปิดแอร์

ขอคำแนะนำค่ะว่า จะจัดการกับปัญหาเหล่านี้อย่างไร แจ้งทางโครงการ ทางโครงการก็ตอบไปคนละเรื่องว่า จัดคนมาทำความสะอาดถนนส่วนกลางให้อาทิตย์ละครั้งอยู่แล้ว และทางโครงการเองก็ดูเหมือนจะรู้พฤติกรรมคนพาลเช่นนี้อยู่ จึงปล่อยผ่านไปเหมือนเพื่อนบ้านส่วนใหญ่ ซึ่งต่างคนต่างอยู่และเข้าบ้านดึกเนื่องจากทำงานในเมืองหรือทำงานช่วงบ่ายและเย็น

ที่หงุดหงิดและไม่สบายใจ คือ
มันใช่ไหมที่จะต้องมากวาดก้น/ซึ่ง
เปิดหน้าต่าง/ประตูไม่ได้
ที่ร้ายที่สุดเด็กเล็กต้องมาสูดอากาศมลพิษ
ที่เต็มไปด้วยสารก่อมะเร็งทุกวัน!?!