[CR] PENANG, That time:) โมงยามเเห่งการเปลี่ยนแปลงเเละมีสติ

มีคนถามว่าไปทำไรปีนัง มีอะไร เหมือนๆกับไปหาดใหญ่แแหละ!!
..ก็อาจจะจริงอย่างเขาว่าเพราะปีนังอยู่ใกล้ไทยซะเเทบจะเป็นหนึ่งเดียว เอาจริงๆการเดินทางครั้งนี้เกิดจากความไม่ตั้งเเละเอาจริงที่จะออกเดินทางเลยเเม้เเต่นิดเดียว ก็เอาง่ายๆใกล้ๆนี่เเหละ
DAY1:
เราออกจากสนามบินดอนเมืองไปถึงสนามบินปีนัง ประมาณบ่ายโมงกว่าตามเวลาของประเทศมาเลเซียซึ่งเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง(เห็นมีคนบอกว่าจริงๆเรื่องเวลาที่เร็วกว่าเนี่ยเป็นการตั้งเพื่อเหตุผลทางการค้า ก็ไม่รู้เหมือนกันใครใคร่รู้ลองค้นดูเเล้วมาบอกด้วยเนอะ) ยังไม่ทันพ้นน่านฟ้าไทยก็ได้เพื่อนซะเเล้ว

"พี่เปา"เป็นผู้หญิงวัยกลางคนที่นั่งติดกัน จริงๆเห็นกันตั้งเเต่ตอนออกจากเกท รู้จักกันด้วยเหตุว่าแกทำน้ำกระเด็นใส่เรา เเล้วหันมาเซย์ Sorry เเล้วหยิบขนมในกระเป๋ายืนให้คล้ายเป็นการขอโทษเเละเชื่อมมิตร พร้อมกับทำให้รับรู้ได้ว่าแกคงคิดว่าเราไม่ใช่คนไทย555 หลังจากรับขนมเลยหันกลับไปถามว่ามาคนเดียวเหรอคะ ยิ้ม

หลังจบประโยคนั้นก็ได้เพื่อนเดินทางใหม่เเล้ว 1 คน ถึงเเม้จะสั้นๆเเค่ไม่กี่ชั่วโมงเเต่ก็ทำให้รู้สึกอุ่นใจได้กว่าการต้องเหยียบแผ่นดินต่างแดนโดยลำพัง (เว่อร์อย่างกับไปปากีสถาน ทำไมต้องปากีสถาน!!555) หลังจากผ่านการตรวจคนเข้าเมืองต่างๆมาเเล้ว เราขอตัวเเวะซื้อซิมการ์ดไว้ใช้ยามเดินทางหน่อย เเละทำสนธิสัญญากับพี่เปาไว้ตั้งเเต่บนเครื่องว่าเดี๋ยวนั่งบัสไป George town ด้วยกัน เเละตอนเย็นจะไปเดินเล่นหาไรทานด้วยกัน(โดยให้สิทธฺ์พี่เปาเลือกสถานที่ได้ตามชอบใจ) ก่อนที่พรุ่งนี้พี่เปาจะเดินทางต่อไปสิงคโปร์
Tips: BusจากสนามบินไปGeorge town มี2-3 สาย เราเลือกนั่ง 401E ตามคำเเนะนำของนายท่า stationก็อยู่หน้าประตูเลยไม่ต้องไปไหนไกล ก่อนออกอย่าลืมเเวะหยิบแผนที่ติดตัวมาด้วย ตรงนั้นจะมีเเนะนำสายรถที่วิ่งเข้าสนามบินไปที่ต่างๆ

ใช้เวลาประมาณชั่วโมงนิดๆก็มาถึงตัวเมืองGeorge town world heritage ด้านภูมิสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรม ระหว่างทางมีคนขึ้น-ลงตลอดจนเเน่นขนัด
เรากับพี่เปามาลงที่ตึก Komta ซึ่งเป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่บัสทุกคันผ่าน จากนั้นเเยกย้ายเดินหาโรงเเรมที่จองไว้ ก่อนจะนัดเจอกันอีกทีเย็นๆ
เราจองที่พักไว้ที่ Armenian Street Heritage Hotel  ซึ่งอยู่ทางเข้า Street Arts เเละอยู่ใกล้กับตึกGeorge townซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ของเมืองนี้ถึงที่พักปุ๊บฝนตกปั๊บ ดีว่าจาก Komta เดินมาไม่ถึง 10 นาที
Tips: เเนะนำ Armenian Streetโลเคชั่นดีเยี่ยมใกล้ทุกสิ่งอย่างที่ต้องไปเเละต้องการ เงียบสงบ สะอาด พนง.น่ารัก เป็นโรงเเรมใหญ่ที่สุดในเขตเมืองที่เป็นมรดกโลกเเล้วนะคิดว่า เพราะในเขตนี้ส่วนมากจะเป็นเกสเฮ้าส์ ราคา1,xxx/คืน (เเเต่ชอบมีลดราคาตามเว็บ) ออเเล้วใครจองที่นี่รถ401Eจากสนามบินผ่านนะ ลงป้ายรถเมล์ฝั่งตรงข้ามเเล้วเดินข้ามถนนมาเจอเลย
เก็บข้าวเก็บของ นอนพักได้แป๊บนึง ลองเสิร์ชหาใกล้ๆโรงเเรมมีอะไรน่าสนใจ ปรากฏว่าเจอร้านลอดช่องชื่อดัง Road Famous Teochew Chendul ที่คงต้องกินเลยแอบดอดไปจัดลอดช่องก่อนไปเจอพี่เปา555
จากหน้าโรงเเรมข้ามถนนมาฝั่งป้ายรถเมล์ เดินไปเข้าซอยKimberly ตรงไปเรื่อยๆจนถึงตัดถนน Jalan Penang เลี้ยวซ้ายเดินตรงไปเเต่มองซ้ายมือไว้เดี๋ยวเจอเอง เอาจริงก็กินลอดช่องบ้านเราก็ได้นะ เเต่ถั่วเเดงอร่อยเชียว โดยรวมก็อร่อยยยยยยย
กินเสร็จเห็นพี่เปาไลน์มาบอกว่าแกออกจากโรงเเรมมาเดินเล่นเเล้ว เจอกันที่ถนน Julia ที่จะหาไรกินเลย จากร้านลอดช่องเปิดเเผนที่ดูสามารถหันหลังเดินย้อนไปตามถนน Jalan Penang ได้ซึ่งในระหว่างทางที่จะไปเจอพี่เปาก็เจอ Street Arts อยู่เป็นระยะ
ระหว่างกำลังเดินถ่ายรูปเพลินๆบนถนน Julia ก็ได้ยินเสียงคนตะโกนเรียกชื่อเรามาจากอีกฝั่งถนน หันไปดูเอ้าพี่เปานั่นเอง นั่งอยู่ในร้านเกี๊ยว555 (ความรู้สึกผิดจากการแอบดอดไปกินลอดช่องลดลงนิดนึง เพราะพี่เอาก็แอบจัดเกี๊ยวไปแล้วเหมือนกัน) ตอนนั้นเวลาประมาณทุ่มนิดๆเเต่ฟ้ายังสว่างอยู่มาก ต่างคนก็ต่างจัดอะไรรองท้องกันมาแล้ว เลยชวนกันเดินเล่นหาStreet Arts ก่อน

จากร้านที่พี่เปานั่งอยู่ อีกฝั่งนึงก็เป็นถนน Love Lane ที่เขาว่าเป็นถนนบันเทิงยามค่ำคืน (เห็นว่าเบียร์ถูกกว่าในซุปเปอร์ท้องถิ่น) กำลังทะยอยเปิดร้านเลยพากันเดินเลาะเข้าไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็ออกมาบรรจบกับหัวถนน Julia อีกทีพร้อมกับฟ้าที่เริ่มมืดในเวลาเกือบๆ 2 ทุ่มเลยว่าหาไรทานกันดีกว่า
บนถนนJulia ขึ้นชื่อว่าเป็นถนนสาย Street Food เราก็มโนภาพกันไปว่าต้องคล้ายๆเยาวราาชบ้านเรา เเต่ไง๋เดินวนเเล้ววนอีกมีร้านเปิดรวมๆไม่น่าเกิน 20 ร้าน กับพี่เปาเลยตัดสินใจว่ากลับไปถนน Kimberly เพราะเมื่อเย็นที่เดินผ่านไปกินลอดช่องดูเหมือนร้านจะเยอะกว่า
สุดท้ายก็มาจบที่ถนน Kimberly โดยเดินผ่านมาทางหน้าโรงเเรมเรา เเต่เอาจริงถนนKimberly ก็ยังเทียบกับเยาวราชบ้านเราไม่ได้อยู่ดี รวมๆกัน2ที่ร้านStreet Food น่าจะน้อยกว่าซอยโชคชัย4บ้านเราอีก เเง๊
LOK LOK ในList List พาพี่เปากินตามเพราะตัวเองอยากกิน พี่เปาบอกไปกินเมืองจีนเถอะเเหล่มกว่าเยอะ(ง่าาา) กินเสร็จก็น่าจะซักสามทุ่มได้พรุ่งนี้เช้าพี่เปาแกว่าจะไปปีนัง ฮิลส์แต่เช้า เลยเเยกย้ายกันกลับโรงเเรม

หลังจากถึงโรงเเรม(เพราะของเราใกล้มาก) พี่เปาส่งรูปมาว่าเเถวโรงเเรมแก ฝั่งที่ไม่ใช่เมืองมรดกโลกของกินเยอะมากกกกกสมกับเป็นStreet Food กลางคืนแกเลยลงมาจัดอีกรอบพร้อมส่งรูปมาเยาะเย้ย555
พี่เปาตื่นเเต่เช้าส่งรูปมาว่าแกไปปีนังฮิลส์เเล้วตอนเราเพิ่งตื่น 10 โมงได้ ส่วนเป้แกฝากไว้ที่โรงเเรม..เมื่อคืนไลน์ไปทิ้งไว้ว่าให้แกเอาเป้มาเก็บที่ห้องเราจะได้สะดวก ตอนเย็นก่อนไปสนามบินไปสิงคโปร์จะได้ล้างเนื้อล้างตัว

"บางทีการเดินทางของเราๆไม่ได้คาดหวังว่าปลายทางต้องเป็นที่ไหนเเละต้องให้อะไรกับเราหรือเราต้องได้อะไรจากมัน เเต่สิ่งที่มันเกิดขึ้นระหว่างทางนั่นแหละที่เราต้องการ การได้เห็นคนใหม่ๆ รอยยิ้มใหม่ๆ วิถีชีวิตใหม่ๆที่ไม่ใช่เเค่ในเพจหรือในหนังสือ เหมือนการได้เจอพี่เปาผู้หญิงวัยกลางคนที่ยอมแบกเป้ออกเดินทางคนเดียว แบบข้อมูลไม่เต็ม100 แทนการซื้อทัวร์ไปเที่ยวแบบสบายๆ เรายังแอบคิดเลยว่าตอนอายุเท่าพี่เปา เราจะได้ทำได้เดินทางแบบพี่เปาหรือแบบเราในวันนี้มั้ย??"

Tips: ใครอยากเเสงสีเสียงรื่นเริงใจ เเนะนำให้หาโรงเเรมฝั่งๆKomta โซนนั้นค่อนข้างครึกครื้นกว่าโซนมรดกโลกมาก เเต่จริงๆทุกที่สามารถเดินได้หมด ไม่ก็นั่งรถCAT Free เเต่จะรอนานหน่อย สายเดินๆเถอะอย่ารีรอ

DAY 2:
อยากที่บอกว่าตื่นไม่ทันจะติดสอยหอยตามพี่เปาไปปีนังฮิลส์ แผนเลยเปลี่ยน เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จเดินไปแวะ Chew Jetty ก่อนละกัน เพราะตั้งใจจะไปขึ้นบัสตรงเทอร์มินอลใหญ่ที่เขา เรียก  Jetty เลย ไหนๆก็ทางผ่านเเวะชมบรรยากาศกับกินพัพทุเรียนในตำนานรองท้องซะหน่อย
Tips: การเดินไปChew Jetty จากโรงเเรมก็คือเดินเข้าซอยด้านข้างโรงเเรมไปจนสุดถนนเจอถนนใหญ่ข้ามถนนไปก็จะเจอละ ส่วนเทอร์มินอลก็เดินออกจากChew Jetty ตรงขึ้นไปเรื่อยๆ
เดิน Chew Jetty แป๊บเดียวเพราะไม่ค่อยมีอะไร ได้พัพเเล้วเดินไปขึ้นบัสไปปีนังฮิลส์ดีกว่าก่อนที่คนจะเยอะมาก ตอนนั้นน่าจะประมาณเกือบๆเที่ยงไปถึงบัสเทอร์มินอลต้องรอรถพักใหญ่ บัสที่จะไปปีนังฮิลส์คือสาย 204 JETTY-BUKIT BENDARAหรือปีนังฮิลส์นั่นเอง

ถึงเวลารถออกขึ้นปุ๊บปรากฎว่าทั้งรถมีอยู่ 3 คนเพราะเป็นสถานีต้นสายเลยได้เพื่อนใหม่อีก 2 คนเป็นหนุ่มปากีฯหนวดเฟิ้ม คุยกันกระจุกกระจิกอยู่พักนึงจนบัสวนไปจอดที่ Komtaคนก็เต็มรถพอดี ต่างคนต่างเลยต้องนั่งสงบอยู่ในที่ตัวเอง ถ่ายรูปที่ทางระหว่างรถเคลื่อนผ่านกันไปแก้เหงา(ใครเหงาเขามากัน2คน) ซักพักจวนใกล้ถึงฮิลส์เต็มทีก็ได้เพื่อนใหม่เพิ่มอีก 1 คนเป็นคุณป้าจีนมาเลฯ ขึ้นมาปุ๊บแกก็นั่งลงเก้าอี้ว่างข้างๆเราพร้อมกับเริ่มบทสนทนาที่ว่าเรานั้นไม่ใช่คนไทยอีกแล้ววว ทำไม!!! จนต้องบอกป้าว่ามาจากไทยแลนด์ พอรู้ว่าจากไทยแลนด์บทสนทนายิ่งเพิ่มมากขึ้นเพราะป้าเคยไปอยู่ไทย555แต่คุณป้าน่ารักมากนะ เเนะนำนู่นนี้เยี่ยงญาติผู้ใหญ่กำชับลูกหลาน ก่อนที่ป้าจะลงตรงตลาดก่อนถึงฮิลส์ไม่กี่ป้าย
มาถึงปีนังฮิลส์ตรงที่ซื้อตั๋วคนเยอะมาก ที่นี่เป็นแหล่งตากอากาศของทั้งนักท่องเที่ยวเเละชาวมาเลเอง ตอนรอซื้อตั๋วแถวพับทบๆกันเป็นผ้าหลายหลา
ระหว่างนั้นก็ส่งยิ้มพริ้มเพรากับพ่อหนุ่มปากีที่เจอบนบัสเเละกำลังต่อคิวซื้อตั๋วอยู่ใกล้ๆกันเป็นระยะเเต่การขายตั๋วค่อนข้างเร็ว เเถวพับๆทบๆที่ว่าก็ถึงคิวเราที่โดนคลี่ออกไม่น่าเกินครึ่งชั่วโมง(มั้ยนะ)เพื่อมาต่อแถวพับๆขึ้นรถรางกันอีกรอบ555 เป็นว่าโดนพับเเละคลี่ด้วยกัน 2 รอบถ้วน

รถรางขึ้นปีนังฮิลส์ทันสมัยใช้ได้เชียว จากที่ดูบนพนังการเปลี่ยนแปลงน่าจะโดนปรับปรุงเปลี่ยนแปลงก่อนจะทันสมัยขนาดนี้ซัก 2-3 รอบ เเต่ละรอบบรรจุคนได้มากอยู่น่าจะราวๆ40-50คนหรืออาจจะมากกว่านั้น คือคันมันค่อนข้างใหญ่ ดูปลอดภัยเเละเร็วพอสมควรในระยะทางชันแบบ45องศา

ซักพักก็ถึงบนยอดปีนังฮิลส์ ระหว่างทางอากาศจะเริ่มเย็นๆหน่อย ผู้คนบนปีนังฮิลส์ค่อนข้างมากเเล้วตอนเราไปถึงด้านบนมีกิจกรรมให้ทำเยอะนะ ทั้งแบบแอดเวนเจอร์ ถ่ายรูปเช็คพ้อย ดื่มกาแฟ ชมธรรมชาติ เเละอื่นๆอีกมากมายเเต่สำหรับเราก็คงได้เเค่ถ่ายรูปวิวเมืองปีนัง 2 ฝั่งทะเลเเละมุมเช็คพ้อยบางมุม ร้านกาแฟก็แดดร้อนเกินจะนั่งชิลชมวิว ถ่ายเสร็จ เดินเล่นวนๆรอบๆก็กินเวลาไปมากโข เกือบๆ2ชั่วโมง รู้สึกหิวยังไงชอบกล(ก็ยังไม่ได้กินข้าวนินะ)ตามคำเเนะนำคุณป้าลงมาหาไรทานข้างล่างน่าจะเหมาะกว่า
ชื่อสินค้า:   ปีนัง ประเทศมาเลเซีย
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่