ขี่แล้วมาเล่า EP-5 กับ Yamaha X-Max 300
เจอกันต่อกับ ขี่แล้วมาเล่า EP-5 กับ Yamaha X-Max 300 ครับเพื่อนๆ กับรถที่ขายดีเทน้ำเทท่าเลยทีเดียวตอนนี้ เป็นเวลานานมากที่ไม่ได้จับรถออโต้ที่มีซีซีเยอะแบบนี้ครับ เรามาดูกันเลยครับว่าเจ้านี่เป็นยังไงบ้าง รูปลักษณ์ภายนอกผมว่ามันสวยนะการออกแบบเน้นเหลี่ยมมุมคมดี มิติตัวรถใหญ่โตดูสง่า ถ้าเลือกสีเหลืองจะดูเด่นแบบซิ่งๆหน่อย ถ้าเอาสีขาวก็ดูหรูหรานะและโดดเด่นดี ถ้าสีอื่นก็ดูหรูหรา VIP หน่อยๆ 555


ในการรับรถมาทดลองขับครั้งนี้ผมได้ขับใช้งานทั้งในเมือง นอกเมือง ใช้ฝึกขับขี่ที่ลานฝึก รวมถึงการขับขี่ในกิจกรรมพิเศษการเป็นมาแชลงานแข่งขันจักรยานอีกด้วยครับ การขับขี่ใช้งานในเมือง สบายๆครับคล่องตัวดีมาก อัตราเร่ง มีมากพอพาไปได้ดั่งใจ จาก 100 ไป 140+ไม่ต้องรอนานครับ ความเร็วสูงสุดที่ลองทำดูคือ 150 กม./ชม อาจจะมี +/- อีกนิดหน่อยครับ แต่ยังไม่หมดนะ ผมยกก่อน และนิ่งมาก แต่ต้องถนนเรียบๆนะไม่งั้นอาจจะโดดได้อันตรายมากครับ
อัตราการกินน้ำมันที่ผมทำได้ตลอดระยะเวลาที่นำรถมาทดลองขี่คือ 38กม./ลิตร จากการขับขี่ครบทุกรูปแบบยกเว้นขี่ในสนามแข่งนะ จริงๆถ้าช่วงเดินทางไกลๆคุมคันเร่งให้เนียนกว่านี้น่าจะแตะ 40กม./ลิตร ได้สบายๆครับ
อ่อทั้งหมดนี่ผมขี่คนเดียวนะครับ


ในรูปแบบพิเศษการขับขี่บทบาทมาแชล ที่ต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยของนักแข่งจักรยานและคอยให้น้ำอีกด้วย การใช้กำลังของเครื่องเร่งแซง หรือชะลอความเร็วต่ำ การทรงตัวที่ดี การรองรับการบรรทุก ซึ่งถ้ามีน้ำหนักบรรทุกเพิ่มขึ้นจะรู้สึกได้ว่ารถมันดีดน้อยลงครับ  รวมถึงการเข้าโค้งในช่วงความเร็วสูง ที่พื้นเรียบๆทำได้ดีมากๆตำแหน่งการวางเท้า สามารถทำได้หลากหลายรูปแบบเพื่อตอบสนองการขับขี่ เพราะพื้นที่วางเท้ามีขนาดใหญ่และมีหลายองศา
แต่ที่ขาดไปผมอยากให้มีคือเบรกมือ หรือเบรกเวลารถจอดครับ เพราะว่าเวลาเราจอดรถเฉยๆถ้าต้องการใช้มือทั้งสองข้างขึ้นมา เราจะไม่สามารถกำเบรกได้ไม่ว่าจะหน้าหรือหลัง รถจะมีโอกาสเคลื่อนที่ไปได้ครับอันตราย
บังลมหน้า ถ้าสามารถปรับระดับได้ จะดีมากครับไม่ต้องปรับไฟฟ้าหรอกปรับมือนี่แหละพอแล้ว แต่ขอให้มีเถอะ ระยะปรับซัก 0-20ซม. จะแจ่มครับ
เห็นมีบางบทความบอกว่าสามารถปรับองศาแฮนด์ได้ด้วยแต่ผมไม่ทราบนะเลยไม่ได้ลองปรับครับ เพราะส่วนตัวจากที่ลองขี่ผมไม่เจอปัญหาเรื่องนี้กับตัวเองครับ


ระบบไฟส่องสว่างนี่ดีงามตามสมัยครับ เป็น LED มาให้แล้วเรียบร้อย รูปทรงสวยงามดีนะ สว่างเอาเรื่อง  ไฟหน้าจะติดทั้ง2ข้างครับ และไฟสูงคือดวงตรงกลางด้านล่าง เท่าที่ได้ลองใช้งาน ไฟตกลงพื้นกินพื้นที่กว้างขวางดี และไกลใช้ได้เลยครับ แต่ติดตรงไฟสูง ที่พอเปิดใช้งานแล้วมันกลับไม่ขึ้นไปสูงตามที่ควรจะเป็น มันเหมือนมาเพิ่มความสว่างให้พื้นที่ตรงกลางระหว่างไฟหน้าทั้งซ้ายและขวาแทน ซึ่งจุดนี้ผมเองไม่แน่ใจว่ามันสามารถปรับระดับได้มั้ยหรือปรับได้มากน้อยแค่ไหนนะครับ

อลังมากเบาะนั่ง หลายๆคนถึงบอกว่ามันนั่งสบายสุดๆ ไม่แปลกใจครับเพราะเบาะมันกว้างใหญ่เหลือเกิ้น แต่ๆๆๆ...เพราะมันกว้างนี่แหละทำให้ผมวางขาลงพื้นได้ไม่เต็มเลยเรียกว่าบัลเลย์เลยล่ะ ทั้งๆที่เบาะมันไม่สูงนะ ผมต้องใช้การวางเท้าข้างเดียว เพื่อให้เต็มเท้า เทียบแล้วผมแตะเท้าได้น้อยพอๆกับขี่รถขนาด 800ซีซี ค่ายเขียวเลย แต่ดีที่รถเบาต่างกันมากเลยไม่ลำบากเท่าไหร่
สำหรับคนซ้อนก็ไม่ต่างครับ ตอนนั่งอะมันสบายมาก แต่ตอนจะขึ้นนี่ดิ เพราะมันกว้างอีกแล้วไงเลยต้องอ้าขาต้องกวาดขากว้างมากขึ้นอีก บางคนได้ลองถึงกับบ่น เวลานั่งแล้วก็เหมือนกันอ้าซะแบบว่าเมื่อยขา 5555 แต่รวมๆแล้วนั่งอ่ะสบายยยยย


เป็นรถที่มีขนาดตัวดูค่อนข้างใหญ่มากนะครับ แต่ใครจะรู้บ้างว่า เจ้านี้สามารถเลี้ยวกลับรถได้แคบมากๆ แคบใกล้เคียงกับรถ ทรงเปลือย150ซีซี ค่ายปีก ทำได้เลยล่ะ ด้วยการหักเลี้ยวแบบหักสุดจนติดตัวหยุด หรือที่เราเรียกกันว่าฟูลล็อกครับ ระยะน่าจะราว 2.5-3เมตรเท่านั้น ระยะ1บล็อกคอนกรีต ของลานจอดรถที่ถ่ายทำกันวันนี้แหละครับ ดังนั้นในเมืองมันจึงมีความคล่องตัวสูงมาก จะระวังก็แค่เรื่องลำตัวที่ยาวครับ

ช่องเก็บของด้านหน้าฝั่งซ้ายมือนั้นต้องเปิดด้วยสวิตซ์นะครับ และมีช่องจ่ายไฟ 12โวลต์มาให้ด้วย ส่วนทางช่องขวามือนั้นกดเปิดปิดได้เลยครับ ล็อคไม่ได้นะ และมีทำช่องเผื่อต่อสวิตซ์มาให้ด้วย ดังนั้นถ้าจะเก็บของมีค่าให้ไปช่องซ้ายมือ ช่องขวามือเน้นเก็บของจุกจิกไม่มีมูลค่าของใช้งานบ่อยๆดีกว่าครับ

เรือนไมล์นั้นใหญ่มองเห็นได้ชัดเจนมาก เป็นแบบผสม อนาล็อก กับดิจิตอลครับ ซ้ายความเร็ว กม./ชม. ขวาความเร็วรอบเครื่องยนต์ ตรงกลางดิจิตอลนั้นมีบอกครบ ทริป A/Bแบบระยะทาง,ทริปแบบระยะเวลา, แสดงระยะเวลาเข้าเซอร์วิสสายพาน, แสดงระยะเวลาเข้าเซอร์วิสน้ำมันเครื่อง, ระยะทางรวม, อุณหภูมิความร้อนภายนอก, อุณหภูมิความร้อนเครื่องยนต์, ระดับน้ำมัน, แทรคชั่นคอนโทรลที่เปิดปิดได้ แต่ต้องทำตอนรถจอดนะครับ, อัตราการกินน้ำมัน กม./ลิตร , อัตราการกินน้ำมัน ลิตร/100กม.,อัตราการกินน้ำมันเฉลี่ยขณะขับขี่, ระดับกำลังไฟแบตเตอรี่, นาฬิกา
เรียกได้ว่าให้มาเยอะจริงๆครับ

ปุ่มในชุดทางขวามือ เปิด/ปิด ติดเครื่องยนต์ ปุ่มไฟฉุกเฉิน ปุ่มตั้งค่า Trip/info ซึ่งปุ่มนี้แหละครับที่ใช้เปลี่ยนดูและตั้งค่าต่างๆบนเรือนไมล์ โดยกดไปทางซ้ายตรงคำว่า Trip จะเปลี่ยนดูค่าระยะทางระยะเวลาในการเดินทางและระยะทางเพื่อทำการเซอร์วิสต่างๆ ถ้ากดไปทางขวาตรงคำว่า Info ก็จะเปลี่ยนดูค่าต่างๆมากมายที่บอกไว้ข้างต้นแล้วและรวมถึงการรีเซ็ทค่าเป็นศูนย์อีกด้วย

ปุ่มในชุดทางซ้ายมือ มีเปิดปิดไฟต่ำ/สูง, ไฟสูงขอทาง แต่แอบไม่ชอบคือมันมาอยู่ตำแหน่งนี้นี่แหละครับ มันน่าจะอยู่ในตำแหน่งด้านหน้า บริเวณที่นิ้วชี้ใช้งานได้, ไฟเลี้ยว, แตร มาให้ครบครับ

สวิตซ์ที่ให้มาเพื่อควบคุมการเปิดปิด ทั้งเครื่องยนต์ ระบบไฟ ล็อครถ เปิดปิดเบาะ และที่เติมน้ำมัน สะดวกสบายดีครับ ถ้าสามารถจำและทำได้อย่างเคยชิน แรกๆอาจจะงงๆหน่อย แต่อยากจะบอกว่าถ้ามีไฟส่องสว่างมาให้ด้วยจะดีมาก เพราะตอนกลางคืนถ้าคนยังไม่คุ้นชินจะใช้งานลำบากครับเพราะมองอะไรไม่เห็นเลย ว่าคำสั่งมันอยู่ตรงไหนยังไงบ้าง เพราะค่ายคู่แข่งเค้ามีไฟมาให้นะ

ที่เติมอยู่ตรงกลางระหว่างขาเลยครับก็ถือว่าสะดวกดี อ่อแนวเส้นที่เหมือนรอยเย็บหนัง นั่นไม่ใช่ของจริงนะครับ มันเป็นพลาสติกขึ้นรูปร่างมาเลียนแบบเฉยๆครับ แต่ก็ดูสวยดี

อีกจุดที่ชอบและติดใจเลยสำหรับรถแนวนี้คือที่เก็บสัมภาระใต้เบาะ ใหญ่มากครับ ผมลองใส่หมวกเต็มใบ1ใบกับหมวกเปิดหน้าอีก1ใบ ทำได้สบายๆ แต่ลองเปลี่ยนเป็นเต็มใบ2ใบผมลองแล้วมันปิดเบาะไม่ได้ หรือเพราะผมขยับมุมไม่ถูกรึเปล่าก็ไม่แน่ใจครับ หรือมันเป็นที่ขนาดของหมวกด้วยไหมนะเพราะแต่ละยี่ห้อแต่ละรุ่นมีรูปทรงและขนาดที่ไม่เท่ากัน แต่ที่แน่ๆใส่ได้เพียบอยู่ครับ สำหรับสายเดินทางชอบแน่นอน และมีไฟส่องสว่างใต้เบาะให้อีกด้วย เพิ่มความสะดวกเวลาใช้งานตอนกลางคืนไปอีก

ระบบแบรกแบบดิสที่ให้ ABS มาให้ด้วย ซึ่งจากที่ลองใช้งาน ผมกลับรู้สึกว่ามันต้องใช้แรงมากเพื่อที่จะหยุดรถ ผมแน่ใจว่าส่วนหนึ่งเพราะมันเป็นรถออโต้ที่มีแรงฉุดจากเครื่องยนต์น้อย เลยทำให้ใช้แรงเยอะกว่าไปด้วย และถึงจะมี ABS มาให้นะแต่ในบางจังหวะที่ผมลองเบรกกระทันหัน ล้อล็อคได้เหมือนกันครับดังนั้นจงระวังกันด้วยครับอย่าไว้ใจระบบช่วยเหลือมากเกินไป
อ่อในเรื่องระบบ Traction Control System (TCS) ที่มีให้นั้นทำงานไวมากครับ หลายๆครั้งที่เราเปิดคันเร่งแรงจนล้อเกิดอาการหมุนฟรี ระบบจะตัดกำลังทันทีครับ ซึ่งตรงนี้ชอบๆ ยกตัวอย่างตอนเปิดคันเร่งขึ้นทางลาดชันและเป็นพื้นดินมีกรวดลอยมีทรายเยอะๆ เห็นผลทันทีเลยครับ

มาถึงระบบกันสะเทือนที่เลื่องลือกันมากในรุ่นนี้และก็สัมผัสเองแล้ว จริง!!!!! … มันสุดตามที่ได้ยินมา ดีด เด้ง โดด มากๆ เหมือนรถแรงๆเร็วๆที่ต้องปรับแต่งช่วงล่างให้แข็ง ให้หนืด เพื่อการใช้งานความเร็วสูงๆ ที่เหมาะกับพื้นผิวที่เรียบๆ ไม่ขรุขระ เจ้านี่เป็นมากกว่านั้นเหมือนมันไม่หนืดเลย คือเวลาขี่ผ่านถนนที่มีความขรุขระ เป็นคลื่น เราจะสามารถรับรู้ได้ทันทีผ่านตัวรถ ผ่านแฮนด์บาร์ ยิ่งถ้าผ่านเนิน หลังเต่า หลุม ละก็ เด้ง ดีด สะท้านมือ ตัวลอยกันเลยทีเดียวครับ
แต่ถ้าถนนที่มีพื้นผิวเรียบๆละก็ เจ้านี่จะไปได้ดีมากกเลยล่ะ ให้ความมั่นคงในช่วงความเร็วสูงได้สบายๆ ช่วงล่างด้านหลังสามารถปรับระดับค่าความแข็งอ่อนสปริงได้ ยังพอช่วยให้เราขี่สบายขึ้นบนถนนเมืองไทยที่คุณๆก็รู้ว่าดีเหลือเกิ้น แต่ด้านหน้าคงต้องทำกันมากหน่อยครับ  หลายๆคนจึงหันไปพึ่งชุดช่วงล่างแต่งยี่ห้อต่างๆ ที่ทำมาให้เหมาะสมและสามารถปรับค่าได้หลากหลายกว่าของเดิม

ยางที่ให้มาส่วนตัวผมนะมันก็ดีเพียงพอละครับ ทังเนื้อยางหรือองศาของหน้ายาง จากการใช้งานบนถนนและการนำไปทดลองขับขี่ที่สนามฝึกขับขี่ปลอดภัยของชมรมฝึกขับขี่ปลอดภัย RC Club ใช้จนหมดหน้ายางได้สบายๆ ทั้งความเร็วต่ำและความเร็วสูง ส่วนใครที่รู้สึกว่ายางเดิมไม่เกาะถนน ก็คงเพราะคุณใช้มันเกิดขีดจำกัดของยางนั่นเองครับ ก็ต้องเปลี่ยนยางที่มีคุณสมบัติดีพอกับการใช้งานของคุณๆครับผม