สวัสดีครับชาวพรหมชาติทุกๆคน รวมถึงกลุ่มคนโสด คนมีคู่ คนอกหักก็ตาม วันนี้ผมจะเอาเหล่าคำถามความรักของนักวิ่งทั้งหลายในห้องพรหมชาติ รวมถึงคนที่ดูส่วนตัวกับผม มาได้แจกแจงกัน รวมถึงแนวทาง วิธีแก้ไขในฉบับของผม ถึงแม้ว่าสิ่งที่ผมแบ่งปันมานี้ จะไม่ใช่สูตรสำเร็จตายตัวเลยทีเดียว แต่อย่างน้อยสิ่งเหล่านี้ก็คือสถิติที่ผมได้รวบรวมมาอย่างมากมาย และกลั่นกรองจนตกผลึกมาบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้ผมเองได้เคยตั้งกระทู้ที่เป็นลักษณะนี้ไปแล้ว (https://ppantip.com/topic/33346671) วันนี้จะขอ Remake กระทู้ใหม่ แต่ไฉไลกว่าเดิม ซึ่งในเมื่อหนัง Remake ได้ เกม Remake ได้ แล้วทำไมผมจะ Remake กระทู้ใหม่ไม่ได้ล่ะครับ

เกริ่นนำไปเยอะแล้ว เข้าหัวข้อกันเลยดีกว่าว่ามีคำถามอะไรบ้าง ที่เหล่าคนดูดวงเรื่องความรักจะเอามาให้เหล่าหมอดูถามมากที่สุด
1.ความรักจะเป็นยังไง จะมีคู่เข้ามาไหม
ข้อนี้เป็นอีกข้อหนึ่งที่มีคนมากมายมาให้หมอดูได้ดูดวงทำนายกัน เอาจริงๆแล้วการที่จะมีคู่หรือไม่มีคู่นั้น มีปัจจัยหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของทัศนคติ มุมมอง ตัวตน และนิสัยของคนนั้นๆว่าเป็นอย่างไร ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่คุณต้องรู้ตัวเองก่อนว่าเป็นคนนิสัยแบบไหน เพื่อที่จะหาคู่ครองที่มีนิสัยตรงตามที่คุณต้องการได้ ต่อไปให้คุณมองตัวเองว่า ตัวคุณมีอะไรดี มีข้อดีอะไรบ้างที่จะให้เค้ามารักคุณ ต่อไปผมจะแจกแจงถึงรายละเอียดของคำตอบของความรักที่ว่า ทำไมถึงยังไม่มีคู่

1.1 กลุ่มคนที่ไม่กล้ามีคู่ หรืออยากมีคู่ แต่มีนิสัยเก็บตัว ขี้อาย มีโลกส่วนตัว ซึ่งตรงส่วนนี้ผมแนะนำเลยว่า คุณจำเป็นที่จะต้องฝึกฝนปรับเปลี่ยนบุคลิคตนเอง เปลี่ยนแปลงตัวเอง ออกจากคอมฟอร์ทโซน ถ้าอยากมีความรัก เข้าสังคม มีเวลาก็ไปเรียนฝึกวิชาชีพเพิ่มเติม หรือทำกิจกรรมอะไรก็ได้ที่ทำให้คุณได้เจอกับสังคม เจอกับผู้คนที่มากมายหลากหลาย ลองเข้าไปคุยกับพวกเค้า แล้วจะทำให้คุณได้มุมมอง ความคิดของคนเหล่านั้นต่อการใช้ชีวิต การทำงาน รวมถึงความรัก หรือคุณจะลองปรับเปลี่ยนตัวเองต่อสิ่งรอบตัวของคุณ อย่างของผม แถวบ้านผมจะมีโรงยิมสาธารณะที่ผมไปออกกำลังกายเป็นประจำ แล้วเจอกับผู้คนมากมายทั้งหน้าตาดีและไม่ดี หุ่นดีและไม่ดี แรกๆผมก็ขี้อาย ไม่กล้าทักทาย พูดคุยกับคนเหล่านั้น แต่หลังๆผมเริ่มที่จะเข้าไปทักทายกับคนเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่หรือรุ่นน้องก็ตาม ถึงแม้ว่าจะไม่มีอะไรคุยก็ตาม แต่การทักทายสวัสดี มันก็ทำให้ผมได้ออกจากคอมฟอร์ทโซนแล้ว ต่อมาจากทักทายกันบ่อยๆ ก็เริ่มพูดคุยกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์การออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพ รวมถึงเรื่องอื่นๆที่ผมอยากรู้ต่อมุมมองคนนั้น ซึ่งมันทำให้ผมสนุกกับการออกกำลังกายมากขึ้น เข้าสังคมมากขึ้น และไม่อายที่จะพูดเรื่องของตัวเองต่อผู้อื่นมากขึ้น ถึงโดยรวมผมจะเป็นคนเงียบๆก็ตาม ส่วนตัวคุณก็เช่นกัน ถ้าคุณวันๆอยู่แต่ในห้อง เก็บตัวอยู่คนเดียว อยู่กับหน้าจอสมาร์ทโฟน แทปเล็ต หรือหน้าจอคอมก็ตาม ขอให้คุณวางสิ่งเหล่านี้ลงบ้าง ออกจากห้อง ลองลงไปพูดคุยกับเจ้าของหอดูบ้าง หรือแม่ค้าขายของบริเวณหอพักที่คุณไปซื้อของกับเค้าอยู่ประจำ หรือออกไปเดินหรือไปวิ่งตามสวนสาธารณะ เผื่อคุณจะเจอคนที่ถูกใจได้ หรือเจอคนวิ่งที่คุณดูแล้วคุณชอบ คุณก็ลองเข้าไปทักเค้า คุยกับเค้าบ้าง แค่นี้คุณก็ได้ออกจากคอมฟอร์ทโซนแล้ว

อีกอันนึง ที่สำคัญและส่งผลต่อมุมมองของความรักและการใช้ชีวิตของคุณเลยคือ พ่อแม่ที่เลี้ยงดูและดูแลคุณมา อะไรก็ตามที่คุณคิดไม่ดีต่อพ่อแม่ คุณจะดึงดูดสิ่งนั้นเข้ามา ถ้าคุณไม่ดึงดูดเข้ามา คุณก็จะเป็นเอง บางคนมองว่าแม่จุกจิก คุณก็จะดึงผู้หญิงที่มีนิสัยจุกจิกเหมือนแม่คุณเข้ามา หรือมองว่าพ่อเจ้าชู้ ดื่มเหล้า คุณก็จะดึงดูดผู้ชายที่มีนิสัยเหมือนพ่อคุณเช่นกัน อันนี้ถ้าใครอยากรู้เพิ่มเติม ผมแนะนำหนังสือเข็มทิศชีวิตของครูอ้อย หรือจะดูตามยูทูปได้เลย ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ครูอ้อยพูดถึงอย่างมาก และเป็นเรื่องที่ผมได้เรียนรู้ พิสูจน์ ปรับปรุงตัวเองจนเข้าใจในเจตนาที่พ่อแม่ปฏิบัติกับผม จนทำให้ผมรักพ่อแม่ด้วยใจจริงๆ แล้วทำให้ผมมีมุมมองต่อการใช้ชีวิตทุกๆด้านที่ดีขึ้น มีความสุขในชีวิตมากขึ้น ไม่ว่าคุณจะโสดไม่มีคู่ มีคู่แล้ว หรืออกหัก ก็ลองย้อนกลับไปเรื่องนี้ดูแล้วทำความเข้าใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีต จากนั้นให้เปลี่ยนความคิดของคุณ หามุมมองของเค้าในด้านดีที่มีต่อคุณ แล้วจะทำให้คุณมีความสุขมากขึ้น

1.2 กลุ่มคนโสดขี้เหงา โหยหาความรัก ผมไม่แนะนำให้รีบหาเรีบมีความรักในอารมณ์เหงาๆ เพราะตามกฎแรงดึงดูดแล้ว อะไรก็ตามที่คุณรู้สึกขาดแคลน คุณก็จะดึงดูดในสิ่งที่ขาดแคลนเข้ามา คุณเหงา คุณจะดึงดูดคนที่เหงาเหมือนคุณเข้ามา และสุดท้ายความสัมพันธ์ก็ไม่ลงรอยกัน มีเหตุต้องเลิกราหรือต่างฝ่ายต่างทิ้งกันไปในที่สุด(จากประสบการณ์ตัวผมเอง และสถิติที่เคยดูดวงความรักหลายๆคนที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นแบบนี้จริงๆ) หรือดึงดูดคนที่มีเจ้าของ คนเหงาแก้คัน คนเจ้าชู้เข้ามา ถ้ารู้สึกเหงา ก็หากิจกรรมหรืออะไรทำ ออกไปข้างนอก ไปเที่ยว ไปออกกำลังกาย เข้าสังคม ทำกิจกรรมอะไรก็ได้ที่ไม่ทำให้รู้สึกเหงาหรือหมกมุ่นกับความรัก ทำให้ตัวคุณเองมีคุณค่า สุดท้ายแล้วพอใจไม่โหยหาหรือหมกมุ่นกับความรักมาก จะทำให้คุณดึงดูดคนที่ใช่เข้าหาคุณเอง

1.3 กลุ่มคนที่ชอบเลือก เลือกเยอะ เพราะกลัวผิดหวัง อกหัก อยากได้สเปคดีๆแบบ ณเดชน์หรือญาญ่า หรือบางคนก็ทำงาน หาเงินเองได้ เลี้ยงตัวเองได้ เลยไม่แคร์ ไม่สนใจเรื่องความรัก ไม่มีความรักก็ไม่เดือดร้อนอะไร แต่อาจจะเพราะเหงา หรืออารมณ์ชั่ววูบ เลยอยากมีความรัก ซึ่งถ้าเกิดคุณอยู่ในเคสนี้ คุณต้องถามตัวเองก่อนว่า คุณมีอะไรดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบุคลิก การยิ้มแย้มแจ่มใส ตลก อื่นๆ ที่จะทำให้คนอื่นมาสนใจคุณได้ ถ้าใครอยู่เคสที่กลัวผิดหวัง อกหัก คุณก็ต้องย้อนดูตอนแรกที่คุณมีความรักเลยว่า คุณมีความรักด้วยความรู้สึกแบบไหน ถ้าคุณเหงา หรือโหยหา นั่นแสดงว่าคุณอยู่ในเคสของกลุ่มคนที่ขาดแคลน เลยได้ในสิ่งที่ขาดแคลนในตอนนั้น ส่วนถ้าใครอยากได้สเปคดีๆแบบ ณเดชน์หรือญาญ่า ก็ต้องหันกลับมาดูตัวเองก่อน ว่าตัวคุณดูแลสุขภาพรูปร่างหน้าตาได้ดีหรือยัง หรือมีทัศนคติในการคู่ควรที่จะมีสเปคความรักแบบ ณเดชน์หรือญาญ่า เข้ามาในชีวิตหรือไม่

2.คนที่แอบชอบ พูดคุยกันอยู่ตอนนี้ เค้าคิดอย่างไร รู้สึกกับเราอย่างไร
คำถามนี้เป็นคำถามที่หลายๆคนมักจะเอามาให้หมอดูให้ช่วยทำนาย ไม่ว่าจะเป็นการแอบชอบ การเริ่มต้นพูดคุยในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมต้องถามคนที่แอบชอบ หรือเริ่มต้นสร้างความสัมพันธ์ก่อนว่า ใจคุณรู้สึกกับเค้าอย่างไร คุณชอบเค้าไหม เพราะความรักมันเป็นเรื่องของใจ ผมสู้คุณเอาเวลามาถามตัวคุณเองดีกว่าว่า ทำอย่างไรให้คุณมีความสัมพันธ์กับเค้าได้อย่างมีความสุข เคารพซึ่งกันและกัน ต่อให้ถึงเลิกกันยังไง จะได้ไม่ต้องแตกหักกัน ยังสามารถกลับคบกันได้เหมือนเดิมในฐานะเพื่อนด้วยกันได้ ถ้าสังเกตุกระทู้ที่ผมตั้งดูดวงบ่อยๆ คำถามที่ใครถามคำถามนี้ ผมจะไม่ตอบถึงมุมมองความคิดของอีกฝ่าย แต่ผมจะตอบในมุมมองความคิดของฝ่ายคนที่มาถามมากกว่า เพราะคำตอบนั้นเป็นคำตอบที่ต้องตอบอย่างระวังเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นคำตอบประเภท เจ้าชู้ มีเจ้าของ ไม่จริงใจ มีแฟนแล้ว หรือมีมือที่สามเข้ามา ซึ่งคำตอบเหล่านี้เป็นคำตอบแบบนามธรรม ไม่สามารถพิสูจน์ได้ แต่สิ่งที่จะส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้ที่ถาม ที่เป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน เอาจริงๆแล้วผมไม่รู้หรอกว่าเค้าเป็นคนยังไง จึงตัดสินใจเลือกที่จะไม่ทำนายให้ดีกว่า ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี เพราะถ้าผมพูดไปว่า ผู้ชายเจ้าชู้ ต่อให้เจ้าชู้จริง เค้าก็ไม่ยอมรับอยู่ดี(ยกเว้นว่าคุณจะเห็นเค้ากับคนอื่นต่อหน้าคุณ) หรือถ้าไม่เจ้าชู้ก็ตาม คุณก็จะหาเรื่องทะเลาะเค้า ระแวง ไม่ไว้ใจ หนักสุดก็เลิกรากัน หรือต่อให้คุณไม่คิดอะไรเลย แต่คำตอบที่ผมได้ตอบไปมันได้ฝังไปในจิตใต้สำนึกของคุณราวกับถูกสะกดจิตไปแล้ว(จิตใต้สำนึก กินอารมณ์และความรู้สึกเป็นอาหาร ต่างจากความคิดตรงที่มันไม่สามารถแยกแยะได้ว่าอะไรถูก อะไรผิด) ต่อให้คุณคัดค้านคำตอบนี้ หรือไม่เชื่อในสิ่งที่ผมพูดก็ตาม สุดท้ายแล้ว เวลาที่คุณมีปัญหา หรือผิดใจกัน คุณก็จะหาเหตุผลต่างๆมาเป็นข้อสนับสนุนในความคิดคุณว่า สิ่งที่ผมพูดไปนั้น ถูกต้อง แล้วนำมาทะเลาะกัน หนักสุดก็เลิกรากันไปในที่สุด ผมเอง ขอเป็นหมอดูที่ไม่จำเป็นต้องรู้ไปหมดทุกเรื่อง จะดีที่สุด ดีกว่าทำให้คนแตกแยกกัน เลิกรากัน หรือแม้แต่ทายเลิกก็ตาม สิ่งที่ผมทำได้อย่างมากคือ ใช้ไพ่ในการหาทางแก้ไขปัญหาก่อน ซึ่งถ้าดูแล้วแก้ไขปัญหาไม่ได้จริงๆ ก็ต้องพูดแบบอ้อมๆว่า ให้เผื่อใจไว้บ้าง เพราะมันจะไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ หรือให้ถอยออกมาก่อนบ้าง(ยังไม่ได้ให้เลิกเลย) อะไรก็ตามที่มันส่งผลกระทบต่อเจ้าชะตา ผมจะพยายามหลีกเลี่ยง หรือตอบไปแบบอ้อมๆมากกว่าที่จะตอบไปแบบตรงๆ

3.ลักษณะเนื้อคู่ จะเป็นอย่างไร
เป็นคำถามที่หลายๆคนเอามาให้เหล่าหมอดูทั้งหลาย ได้ทำนายกัน ผมเองก็เจอคำถามนี้อยู่บ่อยๆ แต่ผมก็อยากจะตอบไปตรงๆว่า "ผมไม่รู้" เพราะผมไม่ใช่ผู้ลิขิตหรือผู้พิพากษาคุณ หรือแม้แต่พระเจ้าเองท่านก็ไม่ใช่ผู้ลิขิตมนุษย์เช่นเดียวกัน ท่านทรงให้อิสระแก่มนุษย์ทุกคนได้เลือก ได้จัดสรร สร้างสรรค์เอาเอง ท่านเป็นแค่ผู้สังเกตุการณ์แก่มวลมนุษย์ทั้งหลายเท่านั้น คุณเองก็สามารถเลือกหรือกำหนดสเปคคู่รักของคุณตามที่คุณต้องการได้ แต่ความรัก สุดท้ายมันเป็นเรื่องของใจ ต่อให้สเปคของคุณหล่อสวยแบบ ณเดชน์หรือญาญ่า ก็ตาม แต่ถ้าใจทั้งสองคนมันไม่เข้าหากัน นั่นก็ไม่ใช่เนื้อคู่หรือคนที่คุณต้องการอยู่ดี

4.คนที่เลิกกันไป เค้าจะกลับมาไหม
คำถามนี้เป็นคำถามที่เหล่าคนอกหักทั้งหลาย มักจะวิ่งเข้าหาหมอดู ให้เหล่าหมอดูทั้งหลายได้ทำนายกัน เอาจริงๆแล้วสาเหตุที่เลิกกันไป ส่วนมากมักจะเป็นการทะเลาะเบาะแว้งกัน นิสัยที่เข้ากันไม่ได้ทั้งสองฝ่าย ความเบื่อหน่ายของอีกฝ่าย ที่เจอคนใหม่หน้าตาดีกว่า ก็เข้าหาโดยไม่ลังเลอะไร หรือมือที่สามก็ตาม ฯลฯ อะไรก็แล้วแต่ แต่ปัญหาเหล่านี้ส่วนใหญ่ล้วนแล้วเป็นปัญหาที่ปลายเหตุ ปัญหาที่ต้นเหตุจริงๆ คุณต้องรู้ตัวเองก่อนว่า คุณคบคนๆนั้นด้วยอารมณ์แบบไหน ถ้าคุณคบด้วยอารมณ์เหงา อารมณ์โหยหา นั่นหมายถึง คุณกำลังรู้สึกขาดแคลน คุณจึงได้รับในสิ่งที่ขาดแคลนไป สุดท้ายก็สูญเสียในสิ่งที่ขาดแคลนไปในที่สุด (จากสถิติเป็นส่วนมาก เหมือนคนที่ขูดต้นไม้ขอหวย ขอมาเป็น 10 งวด ก็ไม่ถูกทั้ง 10 งวด แต่อีกคนที่ไม่เคยเล่นหวยเลย เห็นคนพิการขายหวย เหลือไม่กี่ใบ จึงสงสาร เลยช่วยซื้อให้หมด แต่กลับถูกหวยรางวัลใหญ่ หรือรางวัลกลางๆ) หรือบางคนรู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควรกับสิ่งดีๆ เลยดึงดูดคนรักที่มีลักษณะนิสัยต้องทำตามอีกฝ่ายฝ่ายเดียว สุดท้ายแล้วเค้าก็ทิ้งคุณไปอยู่ดี